ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1596 มีหลักฐาน + ตอนที่ 1597 อาจารย์ที่แท้จริง
ตอนที่ 1596 มีหลักฐาน
จ้าวซานเอ๋อร์ก็ชักรู้สึกสังหรณ์ใจแปลก ๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขารอดพ้นจากภัยอันตรายมาได้นับไม่ถ้วนเพราะสัญชาตญาณอันว่องไว เขากลอกตาทีหนึ่งก็ตัดสินใจไม่เอาเงินสองหมื่นแล้วเตรียมจะแอบย่องหนีไป
“ไปไหนล่ะ? อยู่เฉย ๆ!”
เสียงเย็นดังขึ้นและมีของแข็งเย็นเฉียบดันอยู่หลังเอว จ้าวซานเอ๋อร์ขมิบรูตูดไหนเลยจะกล้าขยับจึงนั่งลงอย่างว่าง่าย แต่กลับเห็นสาวงามที่นั่งอยู่ข้างเขาเมื่อสักครู่กำลังแสยะยิ้มให้เขา
ทั้งที่สวยขนาดนั้นแต่เขากลับเหงื่อตกเสียได้
เพราะในแขนเสื้อหญิงสาวมีมีดสั้นเล่มหนึ่งซึ่งก็คือของที่กำลังดันอยู่ด้านหลังเขาพอดี จ้าวซานเอ๋อร์มองปราดเดียวก็รู้ว่าเหมยเหมยมีทักษะการต่อสู้ นั่นยิ่งทำให้ไม่กล้าดื้อดึงแล้วนั่งลงอย่างสงบเสงี่ยม
เหยียนซินหย่าบนเวทีเพิกเฉยต่อคำเตือนของเจิ้งซื่อหลินพลางพูดเสียงดัง “เหตุผลที่พวกเขาสามคนบอกว่ารูปนี้เป็นของลอกเลียนแบบก็เพราะพวกเขาถูกใจรูปนี้ อยากยึดมาเป็นของตัวเอง”
เหล่าผู้ชมส่งเสียงฮือฮาอีกระลอก มองขึ้นไปบนเวทีอย่างเหลือเชื่อ
นั่นเป็นผู้เชี่ยวชาญอันทรงเกียรติเชียวนะ แล้วจะทำเรื่องผิดคุณธรรมผิดจรรยาบรรณแบบนี้ได้อย่างไร?
“ศาสตราจารย์เหยียน ตอนนี้เรามาตรวจสอบรูปกันต่อเถอะ พวกคุณมีอะไรไว้ค่อยคุยกันทีหลังได้ไหม?” พิธีกรฝืนยิ้ม ไม่อยากให้เหยียนซินหย่าก่อเรื่องใหญ่โต
เขาพลิกชีวิตได้เพราะรายการนี้ยังไม่ทันได้เสพสุขด้วยซ้ำ!
เหยียนซินหย่าพูดเสียงเย็นชา “ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับคนขี้หลอกลวงแบบนี้ รายการพวกคุณเชิญพวกหายนะสามคนนี้มาเอาเปรียบประชาชนแล้วล่ะ!”
พิธีกรน้ำตาไหลอาบแก้ม…เขาไม่ได้เป็นคนเชิญแขกรับเชิญมานี่นา!
เหยียนซินหย่าพูดต่อ “พวกเขาสามคนกับมิจฉาชีพที่ชื่อจ้าวซานเอ๋อร์ร่วมหัวกันจงใจบอกว่าของจริงเป็นของลอกเลียนแบบแล้วยังตีราคาออกมาต่ำ อย่างภาพวาดต้นไผ่รูปนี้พวกเขาบอกว่ามีราคาแค่หนึ่งพัน หึ รอจบรายการจ้าวซานเอ๋อร์นั่นก็จะไปหาคุณผู้หญิงคนนี้แล้วใช้เงินหนึ่งพันซื้อภาพวาดรูปนี้ไป”
ขณะนี้ผู้ชมด้านล่างต่างเดือดกันระนาว เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ฟังเรื่องที่เอาของปลอมมาแทนของจริงเช่นนี้ มันน่าโมโหเสียจริง!
เหยียนซินหย่าหยุดพูดไปช่วงหนึ่งก่อนพูดต่อ “คุณผู้หญิงคนนี้รีบร้อนใช้เงินคงต้องขายรูปนี้แน่ ๆ แล้วพวกเจิ้งซื่อหลินก็จะขายรูปนี้ออกไปในราคาสูง ได้กำไรมาหลายแสนอย่างง่ายดาย”
“พวกคุณ…พวกคุณยังมีความเป็นคนอยู่ไหม? นี่เป็นเงินช่วยชีวิตฉันเชียวนะ!”
หญิงผู้นี้ร่ำไห้ปล่อยเสียงโฮที่ทำเอาห้องอัดรายการปั่นป่วนไปหมด ไม่มีใครยอมฟังคำของพิธีกรเลย ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นเพียงของประดับตกแต่งไปโดยปริยาย
เจิ้งซื่อหลินยังใจเย็นเหมือนเดิมพลางพูดเสียงเรียบ “ทั้งหมดนี้ก็เป็นแค่คำพูดของเธอฝ่ายเดียว ไม่มีหลักฐานอะไร เธอรอใบสั่งฟ้องเถอะ!”
เหยียนซินหย่ามองเขาด้วยรอยยิ้มเย็นชา เจิ้งซื่อหลินรู้สึกเสียววาบขึ้นมาและชักรู้สึกสังหรณ์ใจแปลก ๆ หรือว่า….
“ใครว่าฉันไม่มีหลักฐาน? ถ้าฉันไม่มีหลักฐานแล้วจะรู้แผนชั่วช้าของพวกคุณสามคนได้อย่างไร!” เหยียนซินหย่ากวักมือให้เหมยเหมยที่อยู่ล่างเวทีเป็นเชิงให้เธอพาจ้าวซานเอ๋อร์ขึ้นมา
พิธีกรเหงื่อไหลอาบ ทั้ง ๆที่เขาพูดไปหลายประโยคแต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับเพราะผู้ชมกำลังอารมณ์เดือดได้ที่ การถ่ายรายการเสียการควบคุมไปแล้วอย่างสิ้นเชิง
เหมยเหมยเลื่อนมีดสั้นในแขนเสื้อออกมาอีกนิด จ้าวซานเอ๋อร์เดินขึ้นเวทีอย่างเชื่อฟังโดยมีเหมยเหมยตามติดอยู่ด้านหลัง
“คนนี้ก็คือมิจฉาชีพจ้าวซานเอ๋อร์ เขาร่วมมือกับพวกเจิ้งซื่อหลินสามคนนี้มานาน ไม่รู้ว่าหลอกเอาของรักของหวงคนอื่นไปตั้งเท่าไรแล้ว!”
เหมยเหมยแนะนำประวัติของจ้าวซานเอ๋อร์สั้น ๆกระชับ เวลานี้เจิ้งซื่อหลินจึงรู้สึกถึงอันตรายที่จะมาเยือน
จ้าวซานเอ๋อร์กลัวตาย เกรงว่าจะยอมสารภาพหมดเปลือกน่ะสิ!
“คน ๆนี้ก็เป็นแค่พวกสิบแปดมงกุฎ คำพูดของเขาเชื่อถือได้เหรอ?” เจิ้งซื่อหลินแค่นเสียงทีหนึ่งแล้วพูดโยนความผิดให้อีกฝ่าย
………………………
ตอนที่ 1597 อาจารย์ที่แท้จริง
เหมยเหมยเหลือบมองไปทางจ้าวซานเอ๋อร์อย่างเย้ยหยันแวบหนึ่งแล้วพูดเสียงเยาะ “นี่ เพื่อนร่วมงานของคุณบอกว่าคุณเป็นพวกสิบแปดมงกุฎแหนะ คุณว่ามาสิว่าคุณใช่หรือเปล่า?”
จ้าวซานเอ๋อร์นึกแค้นในใจแต่เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์ที่รู้ว่าเวลานี้จะแตกคอกับเจิ้งซื่อหลินไม่ได้ ยอมเสียเปรียบตอนนี้ก่อนไว้ค่อยไปคิดบัญชีกับเจิ้งซื่อหลินทีหลัง เมื่อตัดสินใจได้จ้าวซานเอ๋อร์ก็ร่ำไห้ขึ้นมา
“ผมบริสุทธิ์นะ ผมดูรายการอยู่ข้างล่างอยู่ดี ๆ ผู้หญิงคนนี้ก็เอามีดข่มขู่ให้ผมขึ้นมา ยังบอกว่าถ้าผมไม่เชื่อฟังเธอก็จะฆ่าผมด้วย…ฮือ…
ผมมีแม่อายุแปดสิบต้องดูแล มีลูกน้อยกินนมต้องดูแล ทุกคนต่างฝากชีวิตไว้ที่ผมคนเดียว…ผมไม่อยากตายนะ!”
ปกติเวลาไม่มีงานจ้าวซานเอ๋อร์ก็จะไปรับงานรับจ้างร้องไห้ตามงานศพ ด้วยเสียงร้องดังกังวานมีจังหวะขึ้นลงจึงทำเอาคนที่ได้ยินน้ำตาไหลด้วยความรู้สึกปวดใจแปลก ๆ
ทุกคนต่างตกตะลึง รวมถึงพิธีกรรายการที่ลอบด่าในใจว่าช่างโชคร้ายนัก มีมีดออกมาแล้วด้วย อัดรายการอยู่ดี ๆ กลับกลายเป็นสถานที่ก่อเหตุฆาตกรรมขึ้นมาเสียดื้อๆ
“คุณผู้หญิงคนนี้รบกวนช่วยลงไปหน่อยได้ไหม? เรากำลังอัดรายการกันอยู่ คุณกำลังรบกวนการทำงานของเรา” พิธีกรรายการพยายามพูดอย่างใจเย็น
เหมยเหมยเตะจ้าวซานเอ๋อร์ที่คิดจะย่องหนีให้ล้มลงพื้นทีเดียวแล้วพูดเสียงดัง “รายการพวกคุณปกป้องมิจฉาชีพ เหอะ คุณมั่นใจนะว่าจะให้มิจฉาชีพสามคนนี้อัดรายการต่อ? อย่าหาว่าฉันไม่เตือนคุณล่ะ ถึงตอนนั้นไม่แน่คุณอาจตกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดไปด้วยก็ได้!”
พิธีกรรายการเหงื่อตกพยายามฝืนยิ้มดูดีเอาไว้แต่กลับสบถคำหยาบอยู่ภายในใจ
“เหอะ เราใช่มิจฉาชีพหรือเปล่าคิดว่าลำพังแค่เด็กหัวกะโปกอย่างเธอจะมาตัดสินได้เหรอ? เหยียนซินหย่า ถ้าเก่งจริงเธอก็เอาหลักฐานออกมาสิ ไม่อย่างนั้นก็อย่ามาก่อความวุ่นวายตรงนี้ มันรบกวนการทำงานของช่อง” เจิ้งซื่อหลินเห็นจ้าวซานเอ๋อร์ยังไม่ยอมแพ้เลยยืดหลังตรงอีกครั้งพร้อมพูดเสียงดุดัน
ผู้ชมด้านล่างก็เริ่มพูดคล้อยตามให้เหยียนซินหย่าเอาหลักฐานออกมาให้เป็นที่ประจักษ์
เหยียนซินหย่าลนลานไปชั่วขณะแต่ไม่นานก็ตั้งสติได้พลางเอ่ยกับพิธีกรคนนั้นว่า “เรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว รูปนี้คือของจริงหรือของลอกเลียนแบบกันแน่ ทางช่องต้องให้ข้อสรุปเขาหน่อยใช่หรือเปล่า?”
พิธีกรไม่รู้ควรพูดตอบรับอย่างไรดีเพราะสถานการณ์ในตอนนี้ได้อยู่เหนือการควบคุมของเขาไปแล้วเลยเป็นใบ้ไปชั่วขณะ
ชายร่างอวบอ้วนสวมแว่นตาคนหนึ่งเดินขึ้นมาบนเวที เขาเป็นผู้กำกับของทางรายการที่ยิ้มเอ่ยต่อเหยียนซินหย่าว่า “ศาสตราจารย์เหยียนพูดถูก ต้องให้ข้อสรุปกับเขาหน่อยแต่ข้อสรุปนี้จะให้ยังไง ศาสตราจารย์เหยียนมีข้อเสนอแนะอะไรไหมครับ?”
ผู้กำกับคนนี้ฉลาดไม่เบาแอบผลักปัญหาที่ยุ่งยากนี้ให้เหยียนซินหย่า
เหยียนซินหย่าอมยิ้ม ยังคงท่าทางใจเย็นเหมือนเดิม “ถ้าผู้กำกับไม่หาว่าวุ่นวายไปละก็ ให้ฉันโทรหาอาจารย์โจวได้ไหมคะ?”
ผู้กำกับหน้าเปลี่ยนสีพยายามปกปิดความดีใจเอาไว้ก่อนถามหยั่งเชิง “อาจารย์โจวที่ศาสตราจารย์เหยียนหมายถึงใช่…”
“ใช่ค่ะ ในวงการภาพศิลปะโบราณหากท่านบอกว่าตัวเองอยู่อันดับสองก็คงไม่มีใครกล้าบอกว่าตัวเองเป็นอันดับที่หนึ่งแล้วล่ะ ถ้าท่านบอกว่ารูปนี้คือของจริงฉันคิดว่าทุกท่านก็คงไม่มีข้อโต้แย้งอะไรแล้วสินะ?”
ผู้กำกับพยักหน้ารัว ๆ “สิ่งที่อาจารย์โจวพูดแล้วจะยังปลอมได้อย่างไรอีก ไม่มีข้อโต้แย้งแน่ ๆ เพียงแต่อาจารย์โจวจะยอมมาเหรอ?”
ตอนเริ่มรายการคนที่เขาเชิญเป็นคนแรกก็คืออาจารย์ที่มีความสำคัญระดับประเทศท่านนี้ แต่อีกฝ่ายกลับไม่สนใจเขาด้วยซ้ำ!
ผู้กำกับที่หมดสิ้นหนทางเลยเชิญผู้เชี่ยวชาญที่ไม่สมจริงเท่าไรมาทำรายการ ดีที่ของเก่าวัตถุโบราณพวกนี้เดิมก็อาศัยแค่การโกหกผู้ชมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อีกทั้งคนที่รู้และเข้าใจก็มีน้อยแค่ฉ้อฉลต่อไปก็พอ
หากอาจารย์โจวยอมมาก็จะเป็นจุดเด่นสุดของรายการเชียวล่ะ!
เหยียนซินหย่ายิ้ม “ฉันยังพอจะรู้จักกับอาจารย์โจวบ้าง ฉันจะโทรหาท่านเดี๋ยวนี้เลย!”
การมาเข้าร่วมรายการนี้แน่นอนว่าเหยียนซินหย่าไม่มีวันออกรบโดยที่ไร้การเตรียมพร้อมอย่างแน่นอน จึงได้ติดต่อกับอาจารย์ก่อนล่วงหน้าเพราะอาจาย์โจวเป็นเพื่อนสนิทของอาจารย์เซียวและรู้จักเหยียนตานชิงย่อมต้องให้หน้าเหยียนซินหย่าอยู่แล้ว
……………………..