ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1598 เป็นของแท้จริงๆ + ตอนที่ 1599 ทำดีทดแทนความผิด
ตอนที่ 1598 เป็นของแท้จริงๆ
อาจารย์โจวสุดยอดจริง ๆ พอฟังเรื่องราวจากปากของเหยียนซินหย่าก็ตอบตกลงมาร่วมรายการทันที นั่นจึงทำเอาผู้กำกับดีใจแทบแย่พลันเปลี่ยนอารมณ์จากโกรธเป็นดีใจ ยังแอบคิดว่าโชคดีแล้วที่เหยียนซินหย่าก่อความวุ่นวายขึ้นมา
วุ่นวายต่อไปเถอะ วุ่นวายให้มากกว่านี้สิยิ่งดี!
เหมยเหมยโทรหาลุงเหลาอีกครั้งให้เขาไปรับอาจารย์โจวด้วยตัวเอง ท่านอาจารย์อายุไม่น้อยแล้วทางที่ดีอย่าเป็นอะไรไปเลยดีกว่า!
เจิ้งซื่อหลินเริ่มใจเต้นตึกตักเหมือนตีกลอง เขาต้องเคยได้ยินชื่อเสียงอันเลื่องลือของอาจารย์โจวมาอยู่แล้ว เป็นบุคคลสำคัญของวงการของโบราณวัตถุที่สายตาหลักแหลมยิ่งกว่าซุนหงอคงเสียอีก!
ตาแก่นี่รู้จักกับเหยียนซินหย่าได้อย่างไร?
บ้าเอ้ย!
ดูท่าทางรูปในวันนี้คงต้องหลุดมือไปเสียแล้ว!
‘ผู้เชี่ยวชาญ’ อีกสองท่านกลับไม่ใจเย็นเหมือนเจิ้งซื่อหลิน พวกเขาปาดเหงื่อเป็นพัก ๆและรู้สึกเสียใจทีหลังอย่างถึงที่สุด
หากรู้แต่แรกว่าสัปดาห์นี้จะเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดเช่นนี้ขึ้นตีให้ตายพวกเขาก็ไม่มีวันมา เอาล่ะสิทีนี้สงสัยชื่อเสียงที่สั่งสมมาค่อนชีวิตต้องเป็นอันจบสิ้นแล้ว!
เหมยเหมยพูดเย้ยหยัน “ผู้เชี่ยวชาญสองท่านร้อนมากเลยเหรอคะ? ดูสิเหงื่อท่วมเชียว ไม่สบายหรือเปล่า?”
ทีนี้ทุกคนถึงสังเกตถึงความผิดปกติของสองคนนี้ที่เหงื่อไหลโชก หน้าซีด แสดงท่าทีหวาดกลัวเหมือนหัวขโมยอย่างเห็นได้ชัด เลยอดเชื่อถ้อยคำของเหยียนซินหย่ามากกว่าเดิมไม่ได้
ศาสตราจารย์สาวงามสีหน้าเรียบนิ่งออร่าเฉิดฉาย บ่งบอกว่าเขาไม่เคยทำความผิดอะไรที่ต้องหลบ ๆซ่อน ๆ!
เจิ้งซื่อหลินลอบด่าในใจว่าเจ้าโง่แล้วจงใจพูด “อาชีพอย่างเราที่นั่งเก้าอี้เป็นเวลานานต้องไม่ดีต่อสุขภาพแน่ ๆ หรือว่าทั้งสองท่านจะลงไปพักผ่อนก่อน?”
อีกเดี๋ยวจะได้ไม่ต้องเผยไต๋ต่อหน้าอาจารย์โจว!
เหมยเหมยพูดประชด “หนูนึกว่าทำความผิดมาจนใจฝ่อเสียอีก!”
เจิ้งซื่อหลินพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เราเป็นคนซื่อสัตย์ ทำไมต้องใจฝ่อด้วยล่ะ? ต่อให้รูปต้นไผ่รูปนี้เราดูพลาดไปจริง ๆก็เป็นเพราะเราเรียนรู้มาไม่ดีพอ”
เหมยเหมยแค่นหัวเราะ “คุณกลับคำเร็วดีนี่ เมื่อกี้ยังพูดเสียงมั่นอกมั่นใจนักหนาว่าเป็นของลอกเลียนแบบไม่ใช่เหรอ? ทำไมพอได้ยินว่าผู้เชี่ยวชาญตัวจริงจะมาก็กลับคำพูดเสียล่ะ กลัวเผยไต๋งั้นสิ?”
เจิ้งซื่อหลินแค่นเสียงทีหนึ่งโดยไม่สนใจเธออีก
ขอแค่จ้าวซานเอ๋อร์ไม่ยอมรับเขาก็ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น อยู่เมืองหลวงต่อไม่ไหวก็ไปเมืองอื่น ประเทศจีนกว้างใหญ่ไพศาลจะไม่มีที่ยืนสำหรับเขาได้อย่างไร!
สองคนที่เหลือกลับไม่ได้มีสภาพจิตใจที่เข้มแข็งเท่านี้พลันขาอ่อนคิดอยากใช้ข้ออ้างว่าป่วยในการหนี แต่เหมยเหมยจับจ้องไม่ละสายตา ต่อให้พวกเขาอยากหนีก็หนีไม่พ้นเลยได้แต่นั่งรอต่อไป
บ้านของอาจารย์โจวอยู่ไม่ไกลนัก ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงลุงเหลาก็รับเขามาถึงที่ เหล่าผู้ชมเห็นชายมีอายุผมหงอกเต็มศีรษะก็ต่างพากันปรบมือดังกระหึ่มพร้อมลุกขึ้นต้อนรับอาจารย์ที่คู่ควรได้รับความเคารพนับถือผู้นี้
เหมยเหมยกับเหยียนซินหย่าวิ่งลงไปประคองอาจารย์โจวที่ล่างเวที ผู้กำกับรีบให้คนยกเก้าอี้ไท่ซือ[1]แสนสบายมาให้อย่างขยันขันแข็ง
‘ผู้เชี่ยวชาญ’ สองท่านพอเห็นสุดยอดอันดับหนึ่งในวงการของพวกเขาก็ดับความหวังอันน้อยนิดสุดท้ายไปจนหมดสิ้น หน้าขาวซีดสายตาพร่ามัว
อาจารย์โจวสวมถุงมือสะอาดถือรูปวาดไว้ในมือแล้วไล่สายตาดูอย่างละเอียด บรรยากาศรอบข้างเงียบสงัด กระทั้งทุกคนเผลอกลั้นหายใจอย่างควบคุมไม่อยู่ จดจ้องอาจารย์โจวตาแทบไม่กะพริบเพื่อรอข้อสรุปของเขา
ผ่านไปครู่ใหญ่…
อาจารย์โจววางรูปวาดลงถอดถุงมือแล้วพูดขึ้นช้า ๆ “เป็นของจริง น่าจะเป็นภาพวาดหลังเจิ้งป่านเฉียวถูกถอดยศตำแหน่ง อีกทั้งยังรักษาไว้สมบูรณ์ดีมีมูลค่าในการเก็บรักษาสูงมาก”
เหยียนซินหย่าพรูลมหายใจยาวและค่อยโล่งอกไปที
เหล่าผู้ชมต่างปรบมือกันสุดชีวิตด้วยความตื่นเต้น รายการสัปดาห์นี้ไม่ได้มาเสียเที่ยวจริง ๆ การได้เห็นความเฉิดฉายของอาจารย์นับว่าเป็นบุญที่สั่งสมมาสามชาติ!
คนที่ตื่นเต้นมากที่สุดในที่นี้คงไม่พ้นเจ้าของภาพวาดเอง หญิงที่แต่งตัวมอซอน้ำตาไหลอาบแก้มร้องไห้อย่างไร้เสียง
ครอบครัวที่มีทั้งคนแก่และเด็กของเธอรอดแล้ว!
………………………….
ตอนที่ 1599 ทำดีทดแทนความผิด
อาจารย์โจวมองไปทาง ‘ผู้เชี่ยวชาญ’ สองท่านนั้นซึ่งสองคนนี้จะกล้าวางมาดอะไรอีกพากันลุกยืนอย่างนอบน้อมก้มหน้าหลุบมองต่ำเหมือนเด็กนักเรียนประถมที่ทำความผิดมา ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง
“แม้แต่ลายมือเจิ้งป่านเฉียวของจริงยังพิสูจน์ไม่ได้พวกคุณยังกล้าเรียกว่าตัวเองว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญอีกเหรอ? ตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญตกต่ำขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?” อาจารย์โจวไม่ใช่คนว่าง่ายสักเท่าไร การเป็นเพื่อนสนิทกับอาจารย์เซียวมาตลอดชีวิตแค่คิดก็รู้ว่าเขาจะเป็นคนใจดีเสียที่ไหน?
‘ผู้เชี่ยวชาญ’ ทั้งสองคนท่านก้มหน้าเกือบถึงสะดือ รู้สึกอับอายจับใจ
เหมยเหมยฟังแล้วก็แอบรู้สึกสะใจ ไม่ลืมจะพูดประจบประแจงแต่จริงใจว่า “มีแค่อาจารย์อย่างคุณปู่โจวที่จะสมตำแหน่งนี้!”
อาจารย์โจวได้ยินแล้วรู้สึกสบายใจอย่างมากพลางกวาดตามองประเมินเหมยเหมยแวบหนึ่ง ดูดีกว่าหลานสาวของตาแก่เซียวอีก แล้วไหนจะปากหวานเป็นที่รักมากกว่ายายหนูเซียวด้วย
“ยายหนูปากกวานจริง เด็กดี!”
อาจารย์โจวมองไปทางเจิ้งซื่อหลินอีกครั้งด้วยสายตาที่แสดงความดูถูกดูแคลนออกมา กลับมีหน้ามาชุบตัวใหม่ที่โลกของโบราณวัตถุ เหอะ!
“ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนคุณวาดรูปสินะ? วาดรูปไม่มีฝีมือแล้วทำไมยังวิ่งแจ้นปลอมตัวมาเป็นผู้เชี่ยวชาญในแวดวงโบราณวัตถุอีกล่ะ?” อาจายร์โจวไม่เกรงใจแม้แต่น้อยทำเอาเจิ้งซื่อหลินหน้าดำหน้าแดงสลับกันไปและเริ่มนั่งก้นไม่ติดเก้าอี้
เมื่อก่อนไม่เคยได้ยินว่าเหยียนซินหย่ารู้จักกับตาแก่โจวนี่นา ทำไมตาแก่นี่ถึงมาช่วยเหยียนซินหย่าได้?
ไม่เพียงเจิ้งซื่อหลินที่สงสัย เหยียนซินหย่ายังรู้สึกแปลกใจเพราะเธอกับอาจารย์โจวรู้จักกันเพียงผิวเผิน เชิญเขามาช่วยพิสูจน์ของเก่าได้ก็ถือว่าไว้หน้ามากแล้ว
แต่อาจารย์โจวกลับช่วยเหลือชนิดที่เธอยังไม่อยากจะเชื่อ ดูสิว่าพูดแทงใจครั้งแล้วครั้งเล่าได้สะใจขนาดไหน!
หรือว่าเป็นเพราะไว้หน้าอาจารย์เซียว?
เหมยเหมยยิ้มเอ่ย “คุณปู่โจว ผู้เชี่ยวชาญเจิ้งท่านนี้ตรวจสอบของมีค่ามาเยอะแยะเชียวล่ะค่ะ แต่ส่วนมากเขาพิสูจน์ออกมาว่าเป็นของปลอม ไม่รู้ว่าเขาดูไม่แม่นจริง ๆหรือจงใจทำอย่างนั้นกันแน่!”
เจิ้งซื่อหลินหน้าถมึงทึงกัดฟันพูด “ม้าพันลี้ยังมีล้ม ดูผิดไปบ้างก็เป็นเรื่องปกติ”
“หนูว่าไม่ใช่ว่าคุณดูผิดหรอกมั้ง แต่มีเจตนาอื่นแอบแฝงมากกว่า!” เหมยเหมยไม่มีทางไว้หน้าตาแก่คนนี้อยู่แล้ว
เจิ้งซื่อหลินไม่ลนลานสักนิด “ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ต้องมีหลักฐาน หากเธอไม่มีหลักฐานแล้วยังพูดจาเหลวไหลต่อไปละก็อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ เจอกันที่ศาล!”
“ได้สิ หนูก็อยากรู้ว่าการฉ้อโกงจะถูกตัดสินโทษกี่ปี? แล้วก็ผู้สมรู้ร่วมคิด ถ้ายอดเงินเกินหมื่นหนูว่าอย่างน้อยก็ต้องห้าปีขึ้นมั้ง!” เหมยเหมยพูดไปก็ลอบสังเกตท่าทีของ ‘ผู้เชี่ยวชาญ’ อีกสองคนที่ว่ารวมถึงจ้าวซานเอ๋อร์ไปด้วย
‘ผู้เชี่ยวชาญ’ หน้าขาวซีดเยี่ยงกระดาษและตัวสั่นเทาเป็นเจ้าเข้า สั่นไปยันขา
แม้พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญของโบราณวัตถุแต่กลับไม่รู้เรื่องกฎหมายนัก ตอนที่เจิ้งซื่อหลินหลอกล่อให้พวกเขาร่วมมือด้วยพูดจาดูสวยหรูเชียว หนำซ้ำยังพูดว่าต่อให้ตามสืบได้เรื่องก็ไม่เป็นไร เพียงอ้างว่าดูไม่แม่นก็แก้ไขทุกอย่างได้
แต่ตอนนี้หญิงสาวแสนสวยคนนี้กลับบอกว่าต้องถูกจับเข้าคุกอย่างน้อยห้าปี!
สถานะอย่างพวกเขาหากเข้าซังเตจริง ๆ อนาคตจะเอาหน้าที่ไหนมาใช้ชีวิตต่อ?
รวมถึงพ่อแม่ภรรยาและลูกของพวกเขาจะต้องตกเป็นขี้ปากชาวบ้านไปจนตาย!
จ้าวซานเอ๋อร์กับเจิ้งซื่อหลินกลับสีหน้าไม่เปลี่ยนยังคงเรียบนิ่งเหมือนเดิม คนหนึ่งเป็นคนชอบหลอกลวงมาตั้งแต่เกิดส่วนอีกคนเป็นคนมีประสบการณ์โชกโชน ลำพังแผนตื้น ๆของเหมยเหมยนี้ไม่มีผลต่อพวกเขาอยู่แล้ว
เหมยเหมยพอจะประเมินสถานการณ์ได้ว่ายังต้องตามหาช่องโหว่จากตัว ‘ผู้เชี่ยวชาญ’ สองคนนั้นต่อไป
“แต่หนูได้ยินมาว่าถ้ายอมรับผิดด้วยตัวเอง ให้หลักฐานต่าง ๆก็เท่ากับทำดีทดแทนความผิด ไม่แน่อาจจะไม่ต้องถูกจับเข้าคุกนะ!” เหมยเหมยพูดเองเออเอง พูดโกหกได้หน้าตาเฉย
‘ผู้เชี่ยวชาญ’ ทั้งสองคนนัยน์ตาลุกวาวและเริ่มเปลี่ยนสีหน้า
ทำดีทดแทนความผิดก็ไม่ต้องถูกจับเข้าคุก พวกเขาก็ทำได้สินะ?
……………………………
[1] เก้าอี้ไท่ซือ เป็นเก้าอี้ไม้แบบโบราณที่ส่วนมากจะเป็นเก้าอี้ประจำผู้อาวุโสที่สุด