ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1608 โลภไม่เคยพอ + ตอนที่ 1609 สันดานแก้ยาก
ตอนที่ 1608 โลภไม่เคยพอ
เหมยเหมยรู้สึกถึงความผิดปกติ จึงรีบถาม “ลุงเฉินเขาเป็นอะไรเหรอ?”
หลายปีมานี้ธุรกิจของพี่เฉินเจริญรุ่งเริงมาก อาทิบ่อนพนันใต้ดิน มวยใต้ดิน สนามกอล์ฟ สโมสรระดับสูงเป็นต้น เขามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยทั้งนั้น และเขายังได้ร่วมทำการเปิดประมูลในฮ่องกงกับลุงหมิงซึ่งร่ำรวยเป็นเทน้ำเทท่าเช่นกัน
ลุงหมิงก็คือผู้ชี้นำของเหยียนหมิงซุ่นในตอนนั้น เขากับโอหยางปินมีความอาฆาตแค้นต่อกัน สาเหตุหลักในครั้งแรกที่เลือกเหยียนหมิงซุ่นก็แค่ต้องการสนับสนุนเหยียนหมิงซุ่นให้เป็นคู่แข่งกับโอหยางปิน ซึ่งตอนนั้นไม่ได้มีความคิดอะไรที่มากไปกว่านั้น
เหยียนหมิงซุ่นทำได้ดีกว่าที่เขาคิดไว้มาก ไม่ต้องพูดถึงการปะทะกับโอหยางปิน แม้แต่เฮ่อเหลียนเช่อยังต้องหลบให้ ดูเหมือนจะมีแนวโน้มเข้ามาแทนที่เฮ่อเหลียนเช่อได้
ความหวังของคนเราก็เหมือนกับถั่วงอกที่นับวันก็ยิ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ
มีเงินสิบล้านก็อยากจะมียี่สิบล้าน มีอยู่ยี่สิบล้านก็อยากได้ร้อยล้านกระทั่งมากกว่านั้น
ความโลภในใจคนเรานั้นไม่เคยพอเลยจริง ๆ
เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะพลันส่ายหน้าพูดว่า “ไม่มีอะไรหรอก แค่ความคิดเห็นไม่ตรงกันก็เท่านั้น ซดน้ำแกงเยอะ ๆเถอะ”
เรื่องราวไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด หลายวันมานี้เขาก็ไปฮ่องกงเพื่อจัดการปัญหาที่ลุงหมิงก่อไว้ ถึงจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โต และต่อให้ฮ่องกงจะเป็นเมืองขนาดเล็กแต่สถานการณ์กลับซับซ้อนมาก หนำซ้ำคนที่ลุงหมิงมีปัญหาด้วยกลับเป็นมาเฟียใหญ่ประจำถิ่นที่ไม่ควรจะมีปัญหาด้วยที่สุด นับว่าเขาใช้แรงไปมากทีเดียว
เรื่องนี้ช่างมันเถอะ แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่พอใจที่สุดคือลุงหมิงกลับไม่คิดว่าตัวเองทำผิดอะไรเลย ไม่คิดที่จะปรับปรุงตัวเลยสักนิด
หากยังเป็นอย่างนี้ต่อไปเกรงว่าต่อไปอาจจะสร้างเรื่องวุ่นวายมากขึ้นได้
ปีค.ศ. 1997 ใกล้เข้ามาแล้ว ซึ่งก่อนถึงช่วงเวลานั้นเขาเพียงต้องการจะอยู่ร่วมกับฮ่องกงอย่างสันติ ให้เรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องเล็ก เรื่องเล็กก็ให้สลายหายไป ท่าทีของลุงหมิงในตอนนี้ราวกับเป็นระเบิดเวลาที่พร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ
ปัญหาใหญ่นี้จำเป็นต้องจัดการ!
แน่นอนว่าเหมยเหมยไม่มีทางเชื่อคำพูดของเขาแล้วก็ไม่กินปีกไก่แล้วด้วย พูดพลางยิ้มว่า “ถึงแม้ฉันจะไม่เข้าใจงานที่พวกพี่ทำ แต่พี่พูดเรื่องไม่สบายใจออกมาได้นะเผื่อจะสบายใจขึ้นบ้าง เก็บไว้ในใจอึดอัดจะตาย!”
เหยียนหมิงซุ่นคิด ๆดูแล้วก็เห็นด้วย คนอื่นเขาคงไม่กลุ้มใจหรอก มีแค่ลุงหมิงคนเดียวที่เขาลำบากใจเหลือเกิน
ถึงยังไงลุงหมิงก็เป็นผู้มีพระคุณที่เขารู้จัก
เขาเล่าเรื่องลุงหมิงที่เกิดขึ้นที่ฮ่องกง มันดูออกจะเกินจริงไปหน่อยแต่นั่นก็เป็นเรื่องปกติ ผู้ชายสองคนทะเลาะกันจนเป็นเรื่องเป็นราว นอกเสียจากเงินก็คือผู้หญิง เฉินหมิงล้วนเกี่ยวข้องกับทั้งสองอย่าง
มาเฟียใหญ่ประจำถิ่นนั่นเปิดธุรกิจประมูลซึ่งเป็นคู่แข่งของลุงหมิง คนทั้งคู่ต่างแย่งกันทำธุรกิจอย่างไม่มีใครยอมใครเลย
คนอย่างลุงหมิงอย่าได้มองว่าเหมือนกับพระยิ้ม บำเพ็ญเพียรมานานนับสิบปี แต่สันดานแก้ยากต่อให้บำเพ็ญเพียรต่ออีกยี่สิบปีก็แก้ความมีนิสัยใจร้อนของเขาไม่ได้
อีกทั้งลุงหมิงคิดว่ามีที่พึ่งที่แข็งแกร่งอย่างเหยียนหมิงซุ่นอยู่ต่อให้ต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ ไม่งั้นเขาจะลำบากสนับสนุนเหยียนหมิงซุ่นไปเพื่ออะไร?
และเพราะเหตุนี้ลุงหมิงกับมาเฟียนั่นจึงไม่ยอมอ่อนข้อให้กันเลย ทะเลาะกันจนจับแยกออกจากกันไม่ได้
ซึ่งแน่นอนว่าสุดท้ายสาเหตุหลักมาจากผู้หญิงคนเดียว ซึ่งเป็นดาราสาวสวยวัยสิบแปดปีที่ทั้งคู่ต่างชอบพอด้วย แต่ดาราสาวนั่นชอบพอหัวหน้ามาเฟียประจำถิ่น เฉินหมิงไม่ใช่คนฮ่องกงโดยกำเนิด หนำซ้ำรูปร่างยังอ้วนจนดาราสาวนึกรังเกียจด้วยซ้ำ
เฉินหมิงโกรธมากจึงคิดแผนการบางอย่างขึ้นมา ส่งคนไปลักพาตัวดาราสาวมาและทำการขืนใจ ฉกแย่งกินเนื้อก่อนหัวหน้ามาเฟียนั่น
คราวนี้หัวหน้ามาเฟียมีหรือจะนิ่งดูดาย เห็นชัด ๆว่าถูกสวมเขา!
สงครามจึงได้เริ่มต้นขึ้น!
หัวหน้ามาเฟียคนนี้อิทธิพลกว้างขว้างคนอย่างเฉินหมิงหรือจะเป็นศัตรูของเขา อีกนิดเดียวก็แทบเอาชีวิตไม่รอด เหยียนหมิงซุ่นจำต้องเข้าไปช่วยเหลือใช้กำลังไปมากกว่าจะสงบศึกลงได้
เหมยเหมยได้ฟังจึงนึกโมโห เกลียดที่สุดคือพวกผู้ชายที่ขืนใจผู้หญิง!
นึกไม่ถึงเลยว่าลุงหมิงจะเป็นคนแบบนี้!
“พี่หมิงซุ่น คนแบบนี้พี่ไม่ควรจะช่วยเลยนะ สมควรแล้วที่ถูกมาเฟียนั่นสั่งสอน!”
เหมยเหมยพูดอย่างโมโห
………………………………………………………….
ตอนที่ 1609 สันดานแก้ยาก
เหมยเหมยพูดออกไปเพราะโมโห เธอรู้ดีว่าต่อให้เหยียนหมิงซุ่นมีสีหน้าเย็นชา แต่ความจริงใส่ใจความรู้สึกมาก หากว่าคน ๆนั้นเป็นคนที่อยู่ในใจเขาแล้ว เขาก็จะปฏิบัติด้วยหัวใจ
ลุงหมิงถือเป็นหนึ่งในนั้น
เหยียนหมิงซุ่นไม่อาจใจร้ายกับลุงหมิงได้
“ลุงหมิงสำนึกผิดหรือเปล่า?” เหมยเหมยถาม
เหยียนหมิงซุ่นยิ้มเจื่อนส่ายหน้า ไม่เพียงแค่ไม่สำนึกแต่ยังโกรธแค้นไม่เลิก คิดแต่ว่าเขาลืมบุญคุณคนไม่ยอมช่วยเขาแก้แค้น
“เขานี่ช่าง…ไม่แปลกเลยที่ตอนนั้นทะเลาะกับโอหยางปินถึงขนาดให้ตายกันไปข้างหนึ่ง แม้ว่าโอหยางปินจะน่ารำคาญ แต่ฉันว่าเฉินหมิงก็ไม่ใช่คนดีอะไร แต่ที่น่าสงสารที่สุดก็คือภรรยาของเขากับลูก”
เมื่อก่อนเหมยเหมยเคยคิดว่าลุงหมิงน่าสงสาร ภรรยาและลูกตายอย่างอนาถ โดดเดี่ยวลำพัง อีกทั้งยังเป็นคนมีน้ำใจโอบอ้อมอารี เพื่อแก้แค้นให้กับภรรยาและลูกถึงยินยอมที่จะปิดบังตัวตนมาหลายสิบปี
เธอช่างตาบอดเสียจริง!
อีกฝ่ายที่เฉินหมิงมีน้ำใจโอบอ้อมอารีด้วยนั้นคงจะเป็นลูกชายที่ยังไม่ทันลืมดูโลกมากกว่า มิเช่นนั้นหลังจากที่ไปถึงฮ่องกงจะรุมล้อมด้วยผู้หญิงกอดซ้ายโอบขวา ดื่มด่ำกับชีวิตกลางคืนได้อย่างไรกัน!
“แล้วจะทำอย่างไรล่ะ? ไม่งั้นพี่เอาตัวเขากลับมาเถอะเลี่ยงไม่ให้เขาก่อเรื่องวุ่นวายอีก!” เหมยเหมยแนะนำ
แผ่นดินใหญ่เป็นพื้นที่ของเหยียนหมิงซุ่น ขอแค่เฉินหมิงไม่ทรยศก็ไม่ต้องกลัวเขาจะสร้างเรื่อง ส่วนทางฝั่งฮ่องกงเหยียนหมิงซุ่นมีอำนาจเพียงน้อยนิดไม่อาจปล่อยให้เฉินหมิงทำลายได้!
เหยียนหมิงซุ่นพยักหน้า “พี่ก็คิดแบบนี้ เอาตัวลุงหมิงกลับมาดูแล พี่ปรึกษากับลุงเฉินแล้ว เขาไปดูลาดเลาที่ฮ่องกง แล้วก็จะพาตัวลุงหมิงกลับมา”
เหมยเหมยวางใจลง “งั้นก็ดี เฉินหมิงน่าจะฟังคำพูดของลุงเฉิน พี่อย่าคิดมากเลย รีบกินข้าวเถอะ!”
เธอเองก็ตักน้ำแกงให้เหยียนหมิงซุ่นซดตอนร้อน ๆ จะได้ไม่ต้องคิดเรื่องของเฉินหมิงอีก
เฉินหมิงเชื่อฟังคำพูดของพี่เฉินมาก ในเมื่อพี่เฉินเต็มใจที่จะออกหน้า เฉินหมิงจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน
เหยียนหมิงซุ่นกลับไม่ได้คิดในแง่ดีขนาดนั้น คนที่เปลี่ยนไปไม่ใช่เพียงแค่ลุงหมิง แต่ยังมีพี่เฉินด้วย!
การเดินทางไปฮ่องกงครั้งนี้ถือว่าเขาต้องการจะวัดใจพี่เฉิน ถ้าหากพี่เฉินเกลี้ยกล่อมให้ลุงหมิงกลับมาได้มันก็จบ แต่ถ้าหากพี่เฉินทำไม่สำเร็จ นั่นก็เท่ากับว่าความมุทะลุของเฉินหมิงมีพี่เฉินคอยช่วยสนับสนุนอยู่
ถ้าเป็นเช่นนั้นล่ะก็ เมืองหลวงคงต้องได้สับไพ่ใหม่!
เขาไม่มีทางปล่อยให้ใครมาวางแผนลับหลังบงการตัวเองแน่!
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เหมยเหมยตบหลังมือเหยียนหมิงซุ่นประทับรอยน้ำมันไว้ นี่ถึงจะทำให้วิ่งไปรับโทรศัพท์อย่างพึงพอใจ
เป็นคุณยายหยางโทรเข้ามา พอเธอได้ยินเสียงของเหมยเหมยจึงชะงักไปแต่ฉับพลันก็ดีอกดีใจ หรือว่าหลานชายคนโตจะอยู่ร่วมกับเจ้าตัวแสบเหมยเหมยแล้ว?
ถ้างั้นเหลนของเธอใกล้จะมาเกิดแล้วใช่ไหม?
“คุณยายหยาง จะคุยกับพี่หมิงซุ่นหรือเปล่าคะ?” เหมยเหมยดับห้วงความคิดของคุณยายหยาง
“ไม่ใช่เขา แต่เป็นหนูต่างหาก เหมยเหมยกินข้าวหรือยัง?” คุณยายหยางเปลี่ยนคำพูดในทันที แล้วพูดคุยกับหลานสะใภ้เหมือนอย่างเคย ไม่ทันไรก็ถามไถ่ชีวิตประจำวันของเหมยเหมยกับเหยียนหมิงซุ่นจนกระจ่าง ช่างน่ายินดีนัก!
ด้วยประสบการณ์ชีวิตหลายสิบปีของเธอ สามารถมั่นใจได้เลยว่าเหยียนหมิงซุ่นจะต้องคว้าแม่สาวน้อยคนนี้มาอยู่ในมือได้แล้วแน่นอน เหลนของเธอไม่แน่ว่าอาจจะกำลังฟักตัวอยู่ก็ได้!
…
“เหมยเหมย เมื่อไรหนูกับหมิงซุ่นจะกลับมาฉลองตรุษจีนล่ะ? ยายจะให้อั่งเปาหนูเยอะ ๆเลย!”
คุณยายหยางก้าวข้ามขั้นอัตโนมัติ เธอเรียกแค่ชื่อตัดแซ่ออก ดูสนิทสนมเป็นอย่างมาก
เหมยเหมยใบหน้าแดงก่ำตอบกลับอย่างเหนียมอาย “เรื่องนี้ต้องให้พี่หมิงซุ่นจัดการค่ะ หนูแล้วแต่เขา”
ในเมื่อเปิดเผยอย่างเป็นทางการเรียบร้อยคงถึงเวลาที่จะต้องไปพบญาติฝ่ายชายแล้วนี่นา!
คุณยายหยางมีความสุขจนเปี่ยมล้น เธอดูออกตั้งนานแล้วว่าหลานชายรู้สึกกับเหมยเหมยต่างไปจากคนอื่น ที่แท้ก็ไม่เหนือความคาดคิดของเธอเลย สองหนุ่มสาวสมหวังกันแล้ว!
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!
……………………………………………………………….