ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1612 ไม่ไว้หน้า + ตอนที่ 1613 เสียความบริสุทธิ์
ตอนที่ 1612 ไม่ไว้หน้า
เจียงจื้อหรู่ไม่รีบร้อนขึ้นรถ พูดว่า “หรือว่าเราจะไปถามที่อยู่ของลุงหมิงจากคนในสโมสรก่อน?”
เมื่อครู่เขาถามแล้วแต่คนในสโมสรไม่ยอมบอก หวังว่าเหมยเหมยจะมีอิทธิพลมากพอ!
“ไม่จำเป็น หนูรู้ว่าเขาพักที่ไหนค่ะ รีบขึ้นรถเถอะ!” เหมยเหมยพูดเสียงเรียบ เธอเริ่มไม่พอใจเจียงจื้อหรู่เพราะเห็นได้ชัดว่าเขามีความรู้สึกพิเศษต่อสวีจื่อเซวียนมากกว่าความห่วงใยที่อาจารย์มีต่อนักศึกษา
ความจริงเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ เรื่องความรักระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจอะไร
แต่เจียงจื้อหรู่กลับโยนปัญหามาให้เธอ เธอไม่อยากตอบแทบบุญคุณด้วยวิธีนี้ หลังจากจบเรื่องนี้ต้องบอกเหยียนซินหย่าสักหน่อยแล้วว่าให้รักษาระยะห่างกับเจียงจื้อหรู่
เจียงจื้อหรู่ไม่ได้สังเกตถึงความไม่พอใจของเหมยเหมยเพราะมัวแต่เป็นห่วงสวีจื่อเซวียน เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงดีอกดีใจ “จ้าวเหมยเธอรู้จักลุงหมิงคนนั้นเหรอ? งั้นก็ดีเลย!”
ถังม่านลี่กับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเองก็เผยสีหน้ายินดี หากเป็นคนสนิทก็ง่ายล่ะ!
“อย่าเพิ่งดีใจไวไป หนูไม่รู้จักกับเฉินหมิงนั่นเป็นการส่วนตัวอะไร แถมช่วงนี้ยังมีเรื่องบาดหมางกันอีกด้วยซ้ำ” เหมยเหมยพูดตัดความหวังทำเอาเจียงจื้อหรู่มุ่ยหน้าทันที
ถังม่านลี่ตกใจจนหน้าซีดพลางถามด้วยความรู้สึกกังวลใจ “หรือว่าเราแจ้งตำรวจดี?”
“ไม่รู้หรือไงว่าสโมสรเศรษฐีเป็นแหล่งที่ตำรวจไม่คิดจะสนใจ? อีกอย่างพวกเธอออกมาขายบริการ ถูกผู้ชายพากลับบ้านไปเป็นเรื่องปกติ คิดว่าตำรวจว่างงานจนไม่มีอะไรทำหรือไง?”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเถียงกลับไปอย่างไม่สบอารมณ์ทำเอาถังม่านลี่หน้าแดงวูบวาบเพราะรู้สึกอับอายแทบแทรกแผ่นดินหนี
โดยเฉพาะยามอยู่ต่อหน้าอาจารย์ประจำชั้นอย่างเจียงจื้อหรู่คนนี้
เจียงจื้อหรู่มองถังม่านลี่อย่างปวดใจ เดิมทีน่าจะเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังที่มีอนาคตไกล แต่กลับยอมลดตัวมาเป็นสาวนั่งดริ้งเพื่อเงินเพียงน้อยนิด ทำตัวเองทั้งนั้น!
แต่สิ่งที่ทำเขาโกรธมากที่สุดคือถังม่านลี่ไม่ได้ออกนอกลู่นอกทางคนเดียว แต่ยังพาสวีจื่อเซวียนเสียคนไปด้วย
“สวีจื่อเซวียนเป็นคนใสซื่อจะไปรู้ความซับซ้อนในสโมสรได้ยังไง หวังว่าครั้งนี้เธอจะจำไว้เป็นบทเรียน” เจียงจื้อหรู่อดพูดแทนสวีจื่อเซวียนไม่ได้
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนแค่นเสียงหัวเราะแต่ไม่ได้เลือกที่จะโต้กลับ เธอเคารพอาจารย์!
ถังม่านลี่กลับรู้สึกน้อยใจเลยพูดเสียงตะกุกตะกักว่า “หนูบอกเขาชัดเจนแล้ว และยังเคยเกลี้ยกล่อมเธอว่าอย่าไปด้วยซ้ำ แต่เธอไม่ยอมฟังเอาแต่ขอร้องให้ฉันพาเธอไป”
ขอสาบานว่าถ้าไม่ใช่สวีจื่อเซวียนตามตื๊อเธอ เธอไม่มีวันแนะนำคนที่สวยกว่าตัวเองไปสโมสรหรอกนะ!
เจียงจื้อหรู่กลับไม่ยอมเชื่อคำเธอ ตอนนี้เขาผิดหวังในตัวถังม่านลี่อย่างมากและคิดเพียงว่าถังม่านลี่เป็นต้นเหตุให้สวีจื่อเซวียนต้องเจอเรื่องแบบนี้
เหมยเหมยหลับตาแสร้งงีบเพราะคร้านจะฟังเสียงพวกเขา
เฉินหมิงอาศัยอยู่บ้านพักแถวทิศตะวันตกของเมืองและนี่เป็นบ้านของพี่เฉิน ทุกครั้งที่เขากลับเมืองหลวงจะมาพักที่นี้
บ้านพักถูกเปิดไฟสว่าง ทั้งยังมีคนคอยเฝ้าอยู่ตรงประตูนั่นก็คือลูกน้องของพี่เฉิน
“ฉันคือจ้าวเหมย มีธุระกับลุงหมิง” เหมยเหมยลงจากรถแล้วตะโกนเข้าไปในบ้านพักเสียงดัง จากนั้นไม่นานก็มีคนรีบร้อนออกมา พอเห็นเหมยเหมยแล้วชะงักไปกึกหนึ่งก่อนจะรีบวิ่งเหยาะมาเปิดประตูอย่างไม่รอช้า
“คุณหนูจ้าวมาได้อย่างไรครับ?” ชายที่มาเปิดประตูแสดงท่าทีนอบน้อม ความจริงแค่เขาเห็นพวกถังม่านลี่ในรถก็พอจะเดาได้ว่ามาเพราะสาวงามชั้นบนแหง
เจียงจื้อหรู่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างก็เริ่มมีความหวัง
บางทีเมื่อกี้จ้าวเหมยอาจจะกำลังถ่อมตัวอยู่สินะ?
สวีจื่อเซวียนจะต้องถูกช่วยออกมาอย่างราบรื่นแน่นอน!
“ฉันมีธุระกับลุงหมิง ลุงหมิงอยู่ไหม?” จ้าวเหมยเดินตรงไปข้างในโดยไม่ให้กระเป๋าอยู่ห่างตัว เพราะมีฉิวฉิวอยู่ในกระเป๋าไม่อย่างนั้นครั้งนี้เธอคงไม่กล้ามาแน่
“อยู่ครับ แต่พี่หมิงหลับไปแล้ว หรือว่าคุณหนูจ้าวค่อยมาอีกทีพรุ่งนี้ดีครับ?” ชายผู้นั้นทำหน้าลำบากใจ
“ฉันมีธุระด่วนคงรอถึงพรุ่งนี้ไม่ไหว ถ้าลุงหมิงไม่ยอมออกมางั้นฉันคงต้องขึ้นไปหาเองแล้วล่ะ!” เหมยเหมยว่าแล้วทำท่าจะบุกขึ้นไปชั้นบน แต่ถูกชายผู้นั้นขวางเอาไว้พร้อมใบหน้ายิ้มขมขื่น
“คุณหนูจ้าวรอก่อน ผมจะไปเรียกพี่หมิงให้ครับ”
…………………………….
ตอนที่ 1613 เสียความบริสุทธิ์
เหมยเหมยนั่งรออยู่บนโซฟาด้วยสีหน้าราบเรียบซึ่งต่างจากเจียงจื้อหรู่ที่กำลังกระวนกระวายอยู่
“กลางคืนดึกดื่นขนาดนี้ ฟ้าถล่มลงมาหรือไง?” ครู่ใหญ่ลุงหมิงถึงลงมาในชุดนอนที่สีหน้าไม่เป็นมิตรนัก
เหมยเหมยใจหล่นวูบ เปลี่ยนเป็นชุดนอนแล้ว เห็นทีความบริสุทธิ์ของสวีจื่อเซวียนคง…
เจียงจื้อหรู่เองก็พอจะเดาได้พลันใบหน้าก็พลันขาวซีด ลอบด่าตัวเองว่าไร้ความสามารถที่ขัดขวางลุงหมิงไม่ได้
ลุงหมิงยังคงพุงใหญ่อวบอ้วนเหมือนเดิม เพียงแต่ไม่มีท่าทีเป็นมิตรเหมือนอย่างแต่ก่อน ทว่ากลับมีความป่าเถื่อนเพิ่มมากขึ้น
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกับถังม่านลี่ตกใจจนไม่กล้าปริเสียง ได้แต่นั่งหดตัวอยู่ข้างโซฟาไม่กล้านั่งเต็มก้นเสียด้วยซ้ำ แต่ถ้าให้พวกเธอนั่งรออยู่บนรถพวกเธอยอมติดตามอยู่เคียงข้างเหมยเหมยดีกว่า
อย่างไรเสียยังมีบอดี้การ์ดคอยคุ้มกันจ้าวเหมยตั้งสองคนนะ!
ลุงหมิงทำหน้าขรึมดูท่าทางไม่พอใจมากแต่กลับลอบประเมินเหมยเหมย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอเหมยเหมยหลังขายเหรียญโบราณที่ห้องหนังสือของเขาไปเมื่อแปดปีก่อน นัยน์ตาก็ฉายแววตกตะลึงพาดผ่าน
เมื่อแปดปีก่อนยายเด็กนี่ก็หน้าตาดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วแต่อย่างไรเสียก็ยังเด็กเกินไปเลยมีส่วนที่โตไม่เต็มที่ ต่อให้สวยแค่ไหนก็ไม่ถึงขั้นที่ละสายตาไม่ได้ ทว่าตอนนี้ยายเด็กนี่กลับโตเต็มที่แล้ว งดงามไปเสียทุกอิริยาบถ ท่ามกลางความอ่อนหวานกลับแฝงด้วยความเย้ายวน
เกรงว่าสี่สาวงามในตำนานก็คงเป็นเช่นนี้สินะ?
พอเทียบกันแล้วสาวงามชั้นบนดูห่างชั้นกับจ้าวเหมยมากทีเดียว!
แต่สาวงามคนนั้นก็ไม่แย่อย่างน้อยก็ยังบริสุทธิ์อยู่ ส่วนจ้าวเหมยเขามองเพียงปราดเดียวก็รู้ว่าเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว
เฉินหมิงแตกต่างจากพี่เฉินผู้มีจิตใจสะอาดไร้กิเลศตัณหาโดยสิ้นเชิง โลภทั้งเรื่องเงินและเรื่องผู้หญิง ครอบครองผู้หญิงมานับไม่ถ้วนโดยเฉพาะนักศึกษาสาวหน้าตาสวยอายุน้อยแบบนี้ อย่างแรกคือสะอาด อย่างที่สองเพื่อเติมเต็มความตัณหาโรคจิตของเขา
ฉันไม่มีการศึกษาแล้วอย่างไร?
นักศึกษาสาวที่มีการศึกษาก็โดนฉันขึ้นคร่อมอยู่ดี!
ภรรยาที่เสียชีวิตอย่างน่าอนาถของเขาก็เป็นนักศึกษาสาวที่ได้มาโดยกึ่งชิงกึ่งอ้อนวอน เมื่อนั้นแม้เฉินหมิงจะเลวทรามแต่ทำดีกับภรรยาไม่น้อย นักศึกษาสาวผู้นั้นเป็นคนจิตใจอ่อนโยนเลยตัดสินใจยอมใช้ชีวิตคู่กับเฉินหมิงอย่างสุขสงบแต่กลับเป็นคนที่มีชะตาชีวิตสั้นนัก
นับจากนั้นนิสัยเฉินหมิงก็เปลี่ยนไป หากได้ระบายความอัดอั้นตั้งแต่ตอนนั้นก็คงดีกว่านี้
แต่เขากลับทนมาตั้งสิบปี!
ความอัดอั้นตันใจที่สั่งสมมานานนับสิบปีทำให้เฉินหมิงที่มีนิสัยป่าเถื่อนดุร้ายเป็นทุนเดิมยิ่งโหดเหี้ยมเข้าไปใหญ่!
เวลาสิบปีตามสัญญา อีกทั้งเขารู้ว่ามีที่หนุนหลังอย่างเหยียนหมิงซุ่นกับพี่เฉินสองคนแล้วเขาจะต้องกลัวใครอีก?
ฉะนั้นเวลาทำอะไรก็ยิ่งไร้ขอบเขตมากขึ้นเรื่อย ๆ!
อย่างไรเสียย่อมมีคนคอยตามล้างตามเช็ดให้เขาอยู่แล้ว!
“ลุงหมิง เพื่อนหนูถูกคุณเชิญมาเป็นแขก หนูมารับเขากลับค่ะ” เหมยเหมยพูดเข้าประเด็นทันทีเพราะคร้านจะพูดอ้อมค้อมอีก
“เพื่อนของเธออยู่กับฉัน? จะเป็นไปได้ไง?” ลุงหมิงหัวเราะเย้ยหยันแล้วทิ้งตัวนั่ง และไม่ได้ให้ลูกน้องเสิร์ฟน้ำชาแต่ผู้ชายที่เปิดประตูก่อนหน้านี้มาเสิร์ฟน้ำชาเองอย่างรู้หน้าที่
“คุณหมิงครับ คุณพาเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาจากสโมสรเศรษฐี ตอนนั้นผมเองก็อยู่ที่สโมสรด้วย” เจียงจื้อหรู่เรียกความกล้าแล้วเอ่ยขึ้น
ลุงหมิงยกถ้วยน้ำชาเคลือบจิบน้ำชาด้วยท่าทีเฉื่อยชาไม่มองพวกเขาอยู่พักใหญ่ ควันน้ำชาลอยโขมงแต่กลับไม่อาจปกปิดเนื้อหนังบนใบหน้าเขาได้
บรรยากาศเงียบไร้เสียงที่ยิ่งสร้างความประหม่าแก่คนรอ ถังม่านลี่แทบนั่งไม่ติดก้นเลยตัวอ่อนซบอยู่บนตัวเหริ่นเชี่ยนเชี่ยน เจียงจื้อหรู่เริ่มหายใจเร็วขึ้น หัวใจเต้นเร็วเหมือนรัวกลองและเหงื่อที่ชื้นเต็มฝ่ามือ
เหมยเหมยมุ่นคิ้ว ดูท่าทางเฉินหมิงคงจะไม่ยอมปล่อยสินะ
เธอส่งสายตาให้เสี่ยวอวิ๋นกับเสี่ยวหลี่ด้านข้าง ทั้งคู่พยักหน้าน้อย ๆแล้วกดปุ่มเครื่องติดต่อในกระเป๋าเงียบ ๆ หากเจรจาไม่สำเร็จจะมีคนมาช่วยพวกเขา
“ลุงหมิง เรามาพูดตรง ๆเลยแล้วกัน ผู้หญิงที่ลุงพากลับมาจากสโมสรเศรษฐีเป็นเพื่อนของหนู อยากขอให้ลุงหมิงเห็นแก่หน้าของหนูแล้วปล่อยเขาไปเถอะ”
เหมยเหมยไม่พอใจกับท่าทีเย่อหยิ่งของลุงหมิงอย่างมาก เธอเป็นถึงคุณนายเหยียนด้วยซ้ำแต่ยังทำท่าทางได้ใจขนาดนี้
พอจะจินตนาการได้ว่าปกติเจ้าอ้วนนี้ทำตัวเหิมเกริมขนาดไหน!
…………………………….