ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1614 รอฉันเบื่อก่อน + ตอนที่ 1615 ยุยงปลุกปั่น
ตอนที่ 1614 รอฉันเบื่อก่อน
เหมยเหมยเลือกพูดอย่างตรงไปตรงมาลุงหมิงเองจึงแสร้งเป็นใบ้ต่อไปไม่ได้ เขาวางถ้วยน้ำชาลงแล้วแกล้งพูดเสียงตกใจ “ฉันพาผู้หญิงคนหนึ่งกลับมาก็จริงแต่ผู้หญิงคนนั้นเป็นสาวนั่งดริ้งของสโมสรเศรษฐีนี่นา หล่อนจะกลายเป็นเพื่อนของเหมยเหมยได้อย่างไร?”
เขายกถ้วยน้ำชาขึ้นมาจิบอีกอึกหนึ่ง ใบหน้าอ้วนกลมเต็มไปด้วยความเย้ยหยันพลางพูดต่อช้า ๆไม่รีบร้อน “ฉันจำได้ว่าเหมยเหมยเธอเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเมืองหลวงไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้มหาวิทยาลัยเมืองหลวงจ้องจะส่งเด็กมีความสามารถไปที่สโมสรงั้นเหรอ?”
ประโยคนี้ที่ด่าเหมารวมเหมยเหมยด้วยเช่นกัน นั่นจึงทำเอาลูกน้องของลุงหมิงที่ได้ยินสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เริ่มไม่พอใจต่อลุงหมิง
หากให้ยมบาลอย่างคุณชายหมิงรู้เข้า ลุงหมิงคงไม่เป็นไรแต่พวกเขาต้องแย่แน่!
รอยยิ้มบนใบหน้าของเหมยเหมยหายไปในพริบตาพลางพูดเสียงเย็นชา “ลุงหมิงพูดอะไรโปรดระวังด้วยค่ะ มหาวิทยาลัยเรามีแต่คนใหญ่คนโตปะปนอยู่มากมาย คุณพูดผิดประโยคเดียวเป็นเรื่องเล็ก แต่ถ้าเอาถึงชีวิตคือเรื่องใหญ่เลยนะคะ!”
บ้านแกสิเด็กนั่งดริ้ง!
ให้ตายเถอะ!
“ตึง”
ลุงหมิงสีหน้าเปลี่ยนไปทันทีพลางกระแทกถ้วยน้ำชาลงอย่างแรง “ยายหนูห้าวดีนี่ ต่อให้เหยียนหมิงซุ่นก็ยังไม่กล้าพูดกับฉันแบบนี้!”
“หึ ต่อให้เป็นลุงเฉินเขาก็ไม่กล้าพูดจาซี้ซั้วต่อหน้าหนูเหมือนกัน หนูขอพูดอีกครั้งช่วยปล่อยตัวเพื่อนฉันออกมาด้วย!” เหมยเหมยไม่มีท่าทีอ่อนข้อสักนิด
ในเมื่อเฉินหมิงไม่อยากคุยดี ๆด้วยถ้าอย่างนั้นเธอก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจอีกต่อไป
เจรจาตามมารยาทก่อนค่อยใช้กำลัง ในเมื่อพูดดี ๆไม่ฟังก็ใช้ไม้แข็งแล้วกัน!
ลุงหมิงสีหน้าเปลี่ยนไปพลางมองเหมยเหมยด้วยใบหน้าเย็นยะเยือกแต่กล้ามเนื้อบนใบหน้ากระตุกเป็นพัก ๆเพราะความโกรธ “เธออย่าลืมล่ะว่าถ้าไม่มีฉันก็ไม่มีเหยียนหมิงซุ่นในวันนี้ เธออยากให้เหยียนหมิงซุ่นกลายเป็นคนเนรคุณ โดนทุกคนหัวเราะเยาะเย้ยงั้นเหรอ?”
เหมยเหมยทำหน้าเยือกเย็น นี่เอาเรื่องบุญคุณมาขู่หรือ?
“ลุงหมิงก็อย่าลืมล่ะว่าคนเราสิ่งสำคัญที่สุดเลยคือการรู้จักขอบเขตของตน คนที่ไม่รู้ขอบเขตยากจะมีที่ยืนในเมืองหลวงได้” เหมยเหมยเองก็ลุกยืนไม่มีท่าทีอ่อนข้อให้สักนิด
เหยียนหมิงซุ่นมีวันนี้ได้แน่นอนว่าลุงหมิงต้องมีคุณงามความดีอยู่ด้วย ขอเพียงเขาอยู่อย่างสงบเสงี่ยม เหยียนหมิงซุ่นต้องให้เขาได้ใช้ชีวิตสุขสบายไปตลอดชาติอยู่แล้ว แต่เขาเป็นคนละโมบโลภมากได้คืบจะเอาศอก เกรงว่าหลังจากนี้ต่อให้เขาได้ดำรงตำแหน่งของนายใหญ่เขาก็คิดจะเป็นประธานาธิบดีของคนทั้งโลกด้วยซ้ำ!
กับคนที่ไม่รู้จักพอแบบนี้ เธอไม่จำเป็นต้องเกรงใจเลย!
กลับไปจะบอกเหยียนหมิงซุ่นให้เขาระวังลุงหมิงเอาไว้!
ลุงหมิงพูดแค่นยิ้มแต่แววตาไม่ยิ้ม “ยายหนูฝีปากไม่เบานี่ กล้าสั่งสอนฉันแล้วเหรอ?”
“ไม่กล้าหรอกค่ะ ลุงหมิงคือผู้อาวุโสกว่า ฉันย่อมให้ความเคารพนับถือ แต่ก็แค่พูดคุยเรื่องการใช้ชีวิตกับลุงหมิงเท่านั้นเอง” เหมยเหมยทำหน้าเรียบนิ่งแล้วพูดเร่งเร้าอีก “ลุงหมิงจะไม่ยอมปล่อยตัวจริงใช่ไหมคะ?”
“ฉันเสียเงินซื้อหล่อนมาตั้งเยอะ ยังสนุกไม่พอเลย!” ลุงหมิงเสตามองเหมยเหมยแล้วย้ำว่าจะไม่ยอมปล่อยคน
เจียงจื้อหรู่หน้าซีดใจดิ่งวูบ
เหริ่งเชี่ยนเชี่ยนกลับอดพูดเสียงพึมพำไม่ได้ว่า “สวีจื่อเซวียนไม่ได้เอาเงินของคุณไป และก็ไม่ได้ยอมไปกับคุณสักหน่อย…”
ลุงหมิงเปลี่ยนเป็นสายตาเย็นชาพลางจ้องเขม็งเหมือนดวงตาของปลาที่ตายไปแล้ว เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเสียงเบาลงเรื่อย ๆ ขาสั่นพรึ่บ ๆและนึกเสียใจที่อ้าปากพูด
“พวกเธอไปรอฉันข้างนอก!” เหมยเหมยเอ่ยบอกเหริ่นเชี่ยนเชี่ยน
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกับถังม่านลี่ประคองกันลุกขึ้นแล้วเดินตัวสั่นไปข้างนอก พอขึ้นรถถึงพรูลมหายใจยาวด้วยความรู้สึกที่เหมือนฟื้นคืนชีพใหม่
“ลุงอ้วนคนนั้นน่ากลัวจัง จ้าวเหมยจะไม่เป็นไรใช่ไหม? หรือว่าเราแจ้งตำรวจดี?” ถังม่านลี่ถามเสียงสั่นเครือพลางเอ่ยเสนอให้แจ้งตำรวจอีกครั้ง
เธอรู้สึกว่าใต้หล้านี้ตำรวจใจดีที่สุดแล้ว!
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกลับฟาดมือใส่ทีหนึ่งอย่างหงุดหงิดแล้วตะคอกเสียงเบา “ตำรวจจะมาสนใจเด็กนั่งดริ้งอย่างเธอเหรอ? เธออยากให้ทีมตำรวจบุกเข้าไปกวาดล้างสิ่งอนาจารงั้นเหรอ?”
ถังม่านลี่เบะปากอย่างน้อยเนื้อต่ำใจแล้วพูดแย้งเสียงแผ่ว “เค้าขายความสามารถไม่ได้ขายตัวนะ!”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนแค่นหัวเราะทีอย่างคร้านจะสนใจเธอ ขายความสามารถไม่ขายตัว?
เธอว่ายัยบ้านนอกคนนี้มีแต่จะขายตัวไม่ใช่ขายความสามารถหรอก!
ในบ้านพักลุงหมิงเจรจากับเหมยเหมยไม่สำเร็จ เขาพูดอย่างเย็นชา “รอฉันเบื่อก่อนก็จะปล่อยยายเด็กนั่นกลับไปเอง แต่ตอนนี้ไม่ได้!”
…………………….
ตอนที่ 1615 ยุยงปลุกปั่น
“นี่ลุงหมิงจะไม่ยอมไว้หน้าหนูกับพี่หมิงซุ่นเลยสินะ?” เหมยเหมยถามเสียงเย็นชา
แม้ผลลัพธ์จะอยู่ในความคาดหมายของเธอแต่เธอก็รู้สึกแย่อยู่ดี แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะสวีจื่อเซวียนแต่เพื่อเหยียนหมิงซุ่นต่างหาก ลุงหมิงคนนี้จะต้องเป็นปัญหาในอนาคตอย่างแน่นอน!
ลุงหมิงแสยะยิ้ม “ก็แค่เด็กนิ่งดริ้งคนเดียวเอง เหมยเหมยเธอก็จริงจังไปได้ นี่ก็ดึกแล้วฉันยังต้องเล่นสนุกกับยายหนูนั่นต่อ ถ้าบริการฉันจนพอใจไม่แน่ฉันอาจจะปล่อยตัวหล่อนก่อนเวลาก็ได้!”
แม้ว่ายายหนูคนนั้นจะผอมไปหน่อยแต่กลับเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเมืองหลวง แถมได้ข่าวว่าเป็นสาวผู้มากความสามารถเก่งรอบด้านไม่ว่าจะฉินหมากรุกตำราและศิลปะ ผู้หญิงความสามารถมากล้นเหลือแบบนี้สิถึงจะเล่นสนุก!
ความจริงที่เขาจงใจพูดคำเหยียดหยามน่าอับอายต่อหน้าเหมยเหมยเพราะทำให้เขารู้สึกได้แก้แค้น ตื่นเต้นจนตาแดงไปหมด!
เจียงจื้อหรู่โกรธจนตัวสั่น เขามีความรู้สึกดี ๆต่อสวีจื่อเซวียนอย่างบริสุทธิ์ใจ แต่ตอนนี้กลับถูกผู้ชายตัวอ้วนนี้ทำให้แปดเปื้อน เสมือนภาพวาดที่เป็นดั่งดวงใจถูกทำลาย ช่างปวดใจเหมือนโดนมีดกรีดยังไงอย่างนั้น!
“ในเมื่อลุงหมิงไม่ยอมปล่อย งั้นฉันคงต้องไปหาด้วยตัวเองแล้ว!”
เหมยเหมยก้าวขาขึ้นบันไดไปชั้นบน ลุงหมิงไม่คิดว่าเธอจะใจกล้าขนาดนี้เลยตวาดเสียงขุ่นเคือง “เหิมเกริม!พวกแกยังไม่ห้ามเธอไว้อีก!”
เหล่าลูกน้องเดินเข้าไปหาอย่างลังเลใจ เสี่ยวหลี่กับเสี่ยวอวิ๋นแวบมาขวางหน้าเหมยเหมยพร้อมมีดสั้นวาวในมือ เอ่ยเสียงเย็น “ใครกล้าแตะต้องคุณหนูพวกเรา?”
“ตายกันหมดแล้วหรือไง พวกแกมีหกคนแต่พวกมันมีแค่สองคน รีบไล่พวกมันออกไป!” ลุงหมิงตวาดเสียงดัง
เหมยเหมยแค่นเสียงพูด “พวกแกลองขึ้นมาดูสิ ถ้าฉันเผลอกลิ้งตกบันไดไปอย่างไม่ทันระวังตัวจนขาหักหรือแขนหัก พวกแกจะมีอีกกี่ชีวิตไปรายงานคุณชายหมิง?”
พวกผู้ชายพลันเปลี่ยนสีหน้าทันทีไม่กล้าเดินเข้าไปใกล้กว่านี้อีก
ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าพวกเขาว่าคุณชายหมิงรักคุณหนูจ้าวขนาดไหน หากคุณหนูจ้าวเจ็บตัว สงสัยว่าพวกเขาอยากตายยังตายไม่ได้เลย!
เหมยเหมยยิ้มให้ลุงหมิงอย่างได้ใจก่อนจะรีบเดินขึ้นไปชั้นบน ลุงหมิงอยากมาห้ามแต่กลับถูกเสี่ยวหลี่ขวางไว้ เจียงจื้อหรู่ดีใจเลยรีบวิ่งขึ้นไปตาม ๆกัน
ห้องบนชั้นสองมีไม่มากเท่าไร เหมยเหมยคอยเปิดหาที่ละห้อง ๆไม่นานก็เจอตัวสวีจื่อเซวียนในห้องหนึ่งที่อยู่ในสภาพไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ แล้วถูกจับมัดตรึงแขนตรึงขาไว้กลางเตียง บนตัวมีร่องรอยเลือนรางประดับอยู่ รวมถึงรอยฝ่ามือแดงฉานบนพวงแก้มพร้อมเลือดที่ซึมตรงมุมปาก
เจียงจื้อหรู่รีบหันกลับด้วยใบหน้าปวดใจ
สวีจื่อเซวียนที่กำลังร่ำไห้ก็ตกใจเมื่อเห็นเหมยเหมยและไม่นานก็อยากตายเพราะความรู้สึกอับอายขายหน้า
สภาพอันน่าเวทนาของเธอจ้าวเหมยเห็นมันทั้งหมดแล้ว รวมถึงอาจารย์เจียง…
พวกเขาต้องดูถูกเธอมากสินะ?
สวีจื่อเซวียนที่รู้สึกสะเทือนใจฉับพลันทำให้ภาพตรงหน้ามืดจนหมดสติไป จะได้ไม่ต้องรู้สึกอึดอัด
เสี่ยวอวิ๋นมาแก้เชือกแล้วใช้ผ้าห่มผืนบางคลุมตัวสวีชื่อเซวียนอุ้มออกมา
ลุงหมิงยืนอยู่หน้าประตู ใช้ดวงตาเรียวรีจ้องเขม็งเหมือนสายตางูอสรพิษ
“ขอตัวก่อน ฉันขอเตือนลุงหมิงว่าทำอะไรก็คิดถึงอนาคตไว้บ้างก็ดี เพิ่งไปสร้างปัญหาที่ฮ่องกง กลับมาเมืองหลวงก็สงบเสงี่ยมหน่อย พี่หมิงซุ่นคอยวุ่นทุกวันจนนอนไม่พอ เขาไม่ได้มีเวลามาคอยตามล้างตามเช็ดให้คุณมากขนาดนั้นหรอกนะ!”
เหมยเหมยอดเตือนไม่ได้ เพราะลุงหมิงทำให้เหยียนหมิงซุ่นงานยุ่งทั้งวันจนแทบไม่เจอกัน แม้แต่เวลาทานข้าวกับเธอยังไม่มี
“เหอะ…ฝีปากไม่เบานะ ตอนฉันยังอยู่ในวงการเธอยังดื่มนมอยู่เลย กลับกล้ามาสั่งสอนฉันแล้วเหรอ?” ลุงหมิงโกรธจนจุกอก ยายหนูปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมกล้าที่จะไม่เห็นเขาในสายตา
“คนรุ่นใหม่มาแทนที่คนรุ่นเก่า ลูกผู้ชายไม่พูดถึงวีรบุรุษผู้กล้าในอดีต ตอนนี้ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว ลุงหมิงต้องไปเรียนรู้จากลุงเฉินมากกว่านี้นะ คุณดูสิว่าลุงเฉินเงินเยอะกว่าคุณ ตำแหน่งสูงกว่าคุณ เขาได้ก่อปัญหาเหมือนคุณหรือเปล่า?”
เหมยเหมยแอบพูดยุยงปลุกปั่นไปหน่อยและตามคาดลุงหมิงมีสีหน้าเปลี่ยนไป แม้จะกลับมาเหมือนเดิมในเวลาอันรวดเร็วแต่บ่งบอกว่าหนามเส้นนี้ถูกฝังเข้าไปสำเร็จแล้ว!
ถ้าแตกคอกันเองสิจะดีที่สุด!
…………………….