ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1616 ผลลัพธ์ของการที่ไม่เจียมตัว + ตอนที่ 1617 ความทะเยอทะยาน
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1616 ผลลัพธ์ของการที่ไม่เจียมตัว + ตอนที่ 1617 ความทะเยอทะยาน
ตอนที่ 1616 ผลลัพธ์ของการที่ไม่เจียมตัว
พอเดินออกจากบ้านมาเหมยเหมยก็ถอนหายใจยาว รู้สึกเย็นตรงแผ่นหลังเล็กน้อยเมื่อลมหนาวปะทะเข้ามาทำให้ตัวสะท้านไปหลายที
อย่าเห็นแค่ว่าเมื่อกี้เธอดูใจเย็นขนาดนั้นแต่ความจริงภายในใจกลับประหม่าถึงขีดสุดจนเหงื่อตกไม่หยุด กลัวว่าลุงหมิงจะเป็นหมาจนตรอกทำอะไรที่ไม่คาดคิดขึ้น แต่ตอนนี้ดูท่าทางจะราบรื่นดีเพียงแต่ถือว่าได้ล่วงเกินลุงหมิงเข้าเต็มเปาแล้ว
ไม่รู้ว่าจะเป็นปัญหาให้เหยียนหมิงซุ่นหรือเปล่า?
เหมยเหมยอารมณ์เสียมากกว่าเดิมและยิ่งเบื่อหน่ายหงุดหงิดกับสวีจื่อเซวียนที่ไม่รู้จักระวังตัว ทำร้ายตัวเองไม่พอยังเดือดร้อนมาถึงคนอื่นด้วย!
“สวีจื่อเซวียนเป็น…”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเห็นสวีจื่อเซวียนในอ้อมแขนของเสี่ยวอวิ๋นก็นึกดีใจเป็นอันดับแรกก่อนจะชะงักไป ทำหน้าตกใจกับสภาพโทรมที่เห็น แม้แต่คนโง่ยังดูออกว่าเกิดอะไรขึ้นกับสวีจื่อเซวียน
ถังม่านลี่เองก็ตกตะลึงพลางมองสวีจื่อเซวียนที่เป็นลมหมดสติไปอย่างนึกเห็นใจ
ห้ามเธอไม่ให้ไปตั้งแต่แรกแล้วดันไม่ฟัง ตอนนี้เกิดเรื่องแล้วสินะ!
“มหาลัยน่าจะปิดประตูไปแล้ว พวกเธอไปค้างบ้านฉันก่อนแล้วกัน อาจารย์เจียงล่ะ?” เหมยเหมยถาม
“…ฉัน…ฉันก็ขอรบกวนด้วยแล้วกัน”
เจียงจื้อหรู่พูดเสียงติด ๆขัด ๆ เขายังไม่วางใจสวีจื่อเซวียน คิดว่ารอเธอฟื้นขึ้นมาแล้วจะช่วยแนะแนวความคิดให้เธอ ผู้หญิงที่หยิ่งในศักดิ์ศรีมากขนาดนี้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกลัวว่าเธอจะคิดสั้นเอาได้
เหมยเหมยไม่ปฏิเสธ หากเธอรู้ความคิดของเจียงจื้อหรู่จะต้องด่าว่าโง่แน่ ๆ
คนที่รักศักดิ์ศรีอย่างแท้จริงจะไปทำงานในสถานที่อย่างสโมสรเศรษฐีได้อย่างไร?
ยิ่งไปกว่านั้นสวีจื่อเซวียนไม่ได้ยากจนถึงขั้นไม่มีเงินกินข้าวสักหน่อย ฐานะทางบ้านที่ไม่ถือว่าดีมากแต่ก็ไม่ได้แย่มาก สุดท้ายแล้วก็ไม่ใช่เพราะกิเลสความฟุ้งเฟ้อเหรอ!
พอถึงบ้านก็เป็นเวลาตีสองของอีกวัน สวีจื่อเซวียนรู้สึกตัวแล้ว เหมยเหมยให้เธอไปล้างตัวที่ห้องน้ำก่อนจะเอาเสื้อผ้าสะอาด ๆหนึ่งชุดมาให้เธอเปลี่ยน
“หรือว่ายังไม่ต้องอาบดี? ในเมื่อเป็นหลักฐานการก่อเหตุ เราฟ้องว่าผู้ชายคนนั้นข่มขืนได้!” ถังม่านลี่พูดเสียงเบา เธอยังไม่ล้มเลิกความคิดที่จะให้ตำรวจจับตัวคนร้ายสักที
ตอนนี้เป็นสังคมภายใต้กรอบกฎหมาย ลุงอ้วนคนนั้นจับตัวผู้หญิงไปอย่างโจ่งแจ้งแล้วยังข่ม…ข่มขืนอีก อย่างน้อยก็ต้องโดนตัดสินโทษแปดปีถึงสิบปีสินะ?
สวีจื่อเซวียนตาเป็นประกายวับขึ้นมาแต่ไม่นานก็หมองลงไป
เธอไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว เธอยังต้องใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยอีกตั้งสามปีแหนะ!
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนแค่นหัวเราะแล้วพูดประชด “ข่มขืน? คนหนึ่งก็ลูกค้าคนหนึ่งก็สาวนั่งดริ้ง ใครจะเชื่อเธอว่าข่มขืน?”
“ฉัน…ฉันไม่ใช่สาวนั่งดริ้ง ฉันแค่มาขายซิการ์ ฉันไม่ใช่สาวนั่งดริ้ง!” สวีจื่อเซวียนกระชับผ้าห่มแล้วพูดแย้ง เธอจะเป็นสาวนั่งดริ้งได้อย่างไร?
ก่อนไปที่นั่นเธอก็ได้ข้อมูลมาจากถังม่านลี่แล้วว่าลำพังแค่ขายซิการ์ในสโมสรรายได้ที่ขายได้จะถูกแบ่งจากทางสโมสร เธอใช้แรงในการทำมาหากินเองอย่างบริสุทธิ์ใจ ไม่ใช่สาวนั่งดริ้งที่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนบอกเลย!
“ขายซิการ์? ฉันเตือนเธอไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าไปอยู่ที่แบบนั้นไม่ว่าเธอจะขายอะไรสุดท้ายก็ต้องขายตัว เธอหลงผิดไปเองแล้วโทษใครได้?” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเดือดดาลอย่างมากที่ถูกปฏิเสธความหวังดีไป ตอนนี้ลำบากแล้วใช่ไหมล่ะ?
เห็นสวีจื่อเซวียนร้องไห้น้ำตาอาบแก้มเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก็ยิ่งหงุดหงิดจึงพูดพลางแสยะยิ้มว่า “ถ้าวันนี้ไม่ใช่จ้าวเหมยไปช่วยเธอ โดนข่มขืนยังถือว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่ปัญหาคือจะมีชีวิตรอดออกมาหรือเปล่า!”
ลุงหมิงนั่นแค่เห็นก็รู้ว่าต้องเป็นพวกมาเฟียที่ฆ่าใครได้อย่างไม่สะทกสะท้าน สวีจื่อเซวียนเองก็ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรจะต้องทำให้ลุงหมิงโกรธเข้าแน่ หากไม่ระวังตัวอาจมีศพหญิงสาวนิรนามเพิ่มอีกศพตามแถบชานเมืองก็เป็นได้!
สวีจื่อเซวียนตกใจจนตัวสั่นระริกอย่างน่าสงสาร เจียงจื้อหรู่มองเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนแวบหนึ่งอย่างไม่พอใจ พูดจาไม่รู้จักอ้อมค้อมบ้าง จริง ๆเลย!
……………………..
ตอนที่ 1617 ความทะเยอทะยาน
“ขอบคุณนะจ้าวเหมย!”
สวีจื่อเซวียนเอ่ยคำขอบคุณเสียงเบาต่อให้เธอไม่เต็มใจเลยสักนิด ในเมื่อจ้าวเหมยเป็นคู่แข่งในความคิดของเธอ เธอเอาตัวเองเปรียบเทียบกับจ้าวเหมยตลอด ไม่ว่าจะเรื่องพื้นหลังครอบครัว หน้าตา ความสามารถ คะแนน…
ทุกอย่างที่เธอเห็นล้วนอยากเอามาเปรียบเทียบกันหมด
แต่พอเธอยิ่งเอามาเปรียบเทียบก็ยิ่งท้อใจ เธอยอมรับว่าเรื่องการเรียนไม่แพ้จ้าวเหมยรวมถึงหน้าตาก็ด้วย แต่เธอกลับแพ้เรื่องพื้นหลังครอบครัว ฉะนั้นเธอถึงไม่มีเงินมากมายไว้ซื้อเสื้อผ้าสวย ๆ ซื้อเครื่องประดับราคาแพงและไม่มีคู่หมั้นเก่งกาจไว้หนุนหลัง
สวีจื่อเซวียนไม่อยากยอมแพ้ อีกทั้งเธอยังมีความทะเยอทะยาน
เธออยากเอาชนะจ้าวเหมย อยากมีชื่อเสียงมากกว่าจ้าวเหมย ฉะนั้นเธอต้องหาเงิน ขอแค่มีเงินก็จะมีโอกาสมากมายตามมา
ไม่มีสถานที่ใดหาเงินเร็วกว่าสโมสรเศรษฐีแล้ว ถังม่านลี่บอกแล้วว่าขายซิการ์ไม่ได้เงินเท่าไรหรอกเพราะทางสโมสรจะต้องเอารายได้ไปกว่าครึ่ง รายได้ส่วนมากเป็นเงินพิเศษจากลูกค้ามากกว่าเพราะเงินพวกนั้นจะไม่โดนแบ่ง ซึ่งมันจะเป็นของเธอทั้งหมด
เธอเพิ่งขายได้ไม่ถึงสัปดาห์ดีก็ได้เงินพิเศษมาสี่พันกว่าหยวน ลูกค้าเหล่านั้นจับจ่ายอย่างใจป้ำโดยให้เงินพิเศษเธอเป็นร้อย ๆ เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าการหาเงินจะง่ายขนาดนี้!
เงินที่เธอหาได้ในหนึ่งสัปดาห์เทียบเท่ากับเงินเดือนครึ่งปีของคุณพ่อเลยนะ!
อีกอย่างบทความที่เธอพยายามเค้นความคิดกว่าจะเขียนออกมาได้สักบทก็ขายได้เงินเพียงหกสิบเจ็ดสิบหยวน หนึ่งเดือนเขียนได้ไม่กี่บทความเอง แต่ซิการ์กลับขายได้ทุกวัน โชคดีหน่อยก็ขายได้หนึ่งพันกว่าภายในคืนเดียว!
สวีจื่อเซวียนพึงพอใจต่องานที่สโมสรเศรษฐีมากเลยตัดสินใจจะทำงานตลอดช่วงปิดเทอมฤดูหนาว เช่นนี้ก็จะซื้อเครื่องประดับให้ตัวเอง แล้วยังซื้อนาฬิกาข้อมือให้คุณพ่อได้อีกด้วย แต่คืนนี้กลับเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
ราวกับฝันร้ายที่สวีจื่อเซวียนไม่รู้ว่าควรเผชิญกับพระอาทิตย์ในวันรุ่งขึ้นอย่างไรดี!
เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่ในขุมนรกที่เอาตัวเองออกจากตรงนั้นไม่ได้!
เหมยเหมยมองด้วยสายตาเย็นชา จะดูไม่ออกได้อย่างไรว่าผู้หญิงคนนี้มีความจริงใจมากเท่าไรเลยขมวดคิ้วน้อย ๆ ก่อนเอ่ย “เธอจะขอบคุณก็ขอบคุณอาจารย์เจียง ถ้าไม่ใช่เพราะเขาขอร้องฉัน ฉันไม่มีทางเสี่ยงไปช่วยเธอทั้งที่รู้ว่าต้องล่วงเกินลุงหมิงแน่ ๆ!”
สวีจื่อเซวียนมองไปทางเจียงจื้อหรู่อย่างนึกขอบคุณแวบหนึ่ง เธอรู้อยู่แล้วเชียวว่าจ้าวเหมยต้องไม่ใจดีขนาดนี้
เจียงจื้อหรู่สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาฟังความหมายที่เหมยเหมยไม่ได้สื่อออกมาตรง ๆออกพลันอดรู้สึกเสียดายไม่ได้ เกรงว่าหลังจากนี้หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นจ้าวเหมยคงไม่ยอมช่วยอีกแล้ว!
สวีจื่อเซวียนไปอาบน้ำที่ห้องอาบน้ำแล้วแต่คนในห้องนั่งเล่นกลับไม่รู้สึกง่วงสักนิด เหมยเหมยปวดศีรษะเหลือเกินเลยนวดคลึงที่ขมับ แล้วถามเหริ่นเชี่ยนเชี่ยน “ทำไมเธอถึงอยู่ด้วย?”
หากเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนปะทะกับลุงหมิงกันซึ่ง ๆหน้า เธอคงต้องคอยปกป้องยายคนนี้ด้วย กลัวก็แต่ลุงหมิงจะใช้วิธีสกปรก
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเองก็ไม่พอใจกับท่าทีของสวีจื่อเซวียนมากเหมือนใครติดหนี้เธออย่างนั้นแหละ ให้ตายสิ ไม่ใช่เธอกับจ้าวเหมยที่บีบบังคับให้เธอไปขายที่สโมสรเศรษฐีสักหน่อย!
“เพื่อนคนหนึ่งของฉันจัดงานวันเกิดเลยเชิญพวกเราไปเที่ยวที่สโมสรเศรษฐี แล้วก็เจอกันโดยบังเอิญ ฉันเป็นคนให้ถังม่านลี่โทรเรียกอาจารย์เจียงมาเอง” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเล่าเหตุการณ์ให้ฟังคร่าว ๆ
“เธอไม่ได้ปะทะกับลุงหมิงซึ่ง ๆหน้าใช่ไหม?” เหมยเหมยถามอีก
“ไม่หรอก ฉันจะกล้าได้ไง!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนโบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน เธอไม่ได้รีบตายนะ
หากไม่ได้เจอกันโดยบังเอิญ เธอก็ไม่อยากสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องนี้ด้วยซ้ำ!
ตอนนี้รู้สึกเสียใจทีหลังแทบแย่อยู่แล้ว!
เหมยเหมยค่อยเบาใจขึ้นมาบ้างแต่ก็ไม่ลืมพูดเตือน “ช่วงนี้เธอก็อย่าออกไปไหนในเวลากลางคืนเลย รอเรื่องนี้ซาลงก่อนค่อยว่าอีกที”
ลุงหมิงเป็นคนใจแคบแล้วยังแค้นฝังใจ วันนี้โดนเธอหักหน้าย่อมนึกแค้นในใจอยู่แล้ว ไม่แน่อาจไปลงกับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก็ได้ ระวังตัวไว้ก่อนดีกว่า
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนหน้าซีดตัวสั่นไม่หยุดพลางถามเสียงสั่นเครือ “หรือว่าฉันจ้างบอดี้การ์ดมาสักคนดี?”
อำนาจการเงินที่บ้านในเวลานี้อยู่ในกำมือแม่ของเธอทั้งหมด จะจ้างบอดี้การ์ดสิบคนก็ไม่ใช่ปัญหา
…………………………..