ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1618 ไม่รู้กาลเทศะ + ตอนที่ 1619 ปลุกปั่นอีกครั้ง
ตอนที่ 1618 ไม่รู้กาลเทศะ
“แค่ให้เธอระวังตัวหน่อยเท่านั้นเอง ไม่จำเป็นต้องทำให้มันใหญ่โตขนาดนั้น อย่ากลัวไปเลย”
เหมยเหมยตบหลังเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนทีหนึ่ง แม้ยามเจอหญิงสาวคนนี้ครั้งแรกจะไม่ใช่เรื่องที่น่าประทับใจสักเท่าไรแต่พอใช้เวลาร่วมกันนานขึ้นก็จะรู้ว่าความจริงเธอเป็นหญิงสาวที่มีความกระตือรือร้น ข้อเสียอย่างเดียวก็คือปากนั่นเอง
คำที่พูดออกมาไม่มีคำดี ๆสักคำถึงได้สร้างปัญหาแก่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไม่น้อย
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพยักหน้าอย่างตระหนกน้อย ๆ นานทีจะเผยมุมที่อ่อนแอออกมาให้เห็น เหมยเหมยได้แต่รินแชมเปญให้เธอหนึ่งแก้ว เพื่อให้เธอดื่มปัดเป่าความกลัว
“ไม่ได้ เธอต้องเทเอ้อร์กัวโถว[1]ให้ฉันแล้วล่ะ แชมเปญนี่รสชาติอย่างกับน้ำอัดลม ดื่มไปไม่รู้สึกอะไร”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกระดกแชมเปญไปครึ่งขวดแล้วเลียปาก รสชาติไม่แย่แต่ไม่ช่วยอะไรเลย!
ตอนนี้เธอยังขาอ่อนอยู่เลย!
เหมยเหมยร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออกเลยชี้ไปที่ตู้เก็บเหล้าว่า “เธอไปหาเอาเอง อยากดื่มอะไรก็รินเอง”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไปหาเองจริง ๆ ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงได้เอ้อร์กัวโถวที่มีดาวสีแดงเป็นตราประทับมาหนึ่งขวด เสี่ยวอวิ๋นยังเตรียมตุ๋นตีนเป็ดให้เธออีกหนึ่งจานอย่างใส่ใจ นั่นจึงทำเอาเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตาวาวทันที
อย่างเดียวที่จะช่วยปัดเป่าความกลัวไปได้มีเพียงของกินเท่านั้น!
เธอกัดตีนเป็ดตุ๋นไปหนึ่งคำแล้วกระดกเอ้อร์กัวโถวไปหนึ่งอึก ไม่นานก็หน้าแดงก่ำก่อนจะกระดกเอ้อร์กัวโถวไปครึ่งขวดโดยไม่รู้ตัว ตีนเป็ดก็เกือบจะถูกเธอแทะจนหมดจานแล้ว
“อร่อย ตีนเป็ดอันนี้รสชาติดี จ้าวเหมยจัดให้ฉันอีกจานหนึ่งสิ”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเลียนิ้วมือด้วยความรู้สึกอยากกินต่อ สองตาพร่ามัวพวงแก้มแดงก่ำ เริ่มรู้สึกเมาบ้างแล้วจากท่าทางที่ดูไม่ได้สตินั่น
เจียงจื้อหรู่ยกแขนดูนาฬิกาข้อมือเป็นพัก ๆ แล้วมองไปทางห้องอาบน้ำเป็นระยะ ๆ กระทั่งทนไม่ได้ในที่สุด “ทำไมสวีจื่อเซวียนยังไม่ออกมา? นี่ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว”
อาบน้ำคงไม่ต้องใช้เวลานานขนาดนั้นหรอกหรือเปล่า
เหมยเหมยย่นคิ้วเข้าหากันน้อย ๆ เสี่ยวอวิ๋นก้าวขายาวไปทางห้องอาบน้ำที่ไม่นานก็กลับมาแล้วพูดเสียงเรียบว่า “เธอยังอยู่ในสภาวะจิตใจไม่ปกติ หยิบแปรงมาขัดตัวจนเลือดออกแล้ว”
เสี่ยวอวิ๋นนึกดูถูกสวีจื่อเซวียนอย่างถึงที่สุด ดึงตัวเองให้ลงตกต่ำไม่พอยังเป็นพวกเนรคุณที่ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณคนอีก ใครจะอยากสนว่าเธอจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรกันล่ะ!
เจียงจื้อหรู่ลุกพรวดคิดจะเดินไปห้องอาบน้ำอย่างอัตโนมัติ แต่ไม่นานเขาก็รู้สึกว่าไม่สะดวกเลยยิ้มเก้อ จะยืนก็ไม่ใช่จะนั่งก็ไม่เชิง
“งั้นก็ให้เธอค่อย ๆอาบไปแล้วกัน ฉันจะไปนอนแล้ว พวกเธอก็รีบนอนล่ะ”
เหมยเหมยนวดคลึงขมับไปมา ตอนนี้มันตีสามแล้วยังไม่เคยนอนดึกขนาดนี้มาก่อนเลย เกรงว่าพรุ่งนี้ต้องนอนทั้งวันถึงจะทดแทนส่วนนี้ได้
เสี่ยวอวิ๋นต้มนมวัวให้เธอหนึ่งแก้ว หลังจากเหมยเหมยดื่มมันไปแล้วก็พอจะรู้สึกสบายตัวขึ้นหน่อยถึงได้เดินกลับเข้าห้องนอนไปเพียงลำพัง
เธอได้ตอบแทนบุญคุณของเจียงจื้อหรู่ไปแล้ว สวีจื่อเซวียนจะเป็นอย่างไรไม่เกี่ยวกับเธอ ขอแค่อย่ามาตายอยู่ในบ้านเธอก็พอ
มันไม่เป็นสิริมงคล!
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนล้มตัวนอนบนโซฟาอย่างเมามายแล้วหลับไปทั้งอย่างนั้น เสี่ยวอวิ๋นยกแขนแบกเธอไปที่ห้องรับรองแขกแล้ววางลงบนเตียง จากนั้นถึงดึงผ้าห่มมาคลุมตัวให้ก่อนจะเดินออกมาไม่สนใจเธออีก
สวีจื่อเซวียนยังไม่ยอมออกจากห้องอาบน้ำสักที ในที่สุดเจียงจื้อหรู่ก็ทนไม่ไหวเลยไปยืนเกลี้ยกล่อมอยู่หน้าประตูห้องอาบน้ำอย่างไม่ลดละ ถังม่านลี่ดวงตาเป็นประกาย ตอนนี้เธอไม่ใช่สาวบ้านนอกที่เพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยเหมือนแรก ๆอีกต่อไปเลยดูออกถึงความพิเศษที่เจียงจื้อหรู่มีต่อสวีจื่อเซวียนนานแล้ว
เธอเบะปากก่อนหมุนตัวไปพักผ่อนที่ห้องนอนสำหรับแขก
คนประเภทสวีจื่อเซวียนเธอก็ไม่อยากสนใจหรอก ในเมื่อไปที่แบบนั้นแล้วยังวางท่าถือตัวอะไรอีก?
หากไม่ใช่เพราะสวีจื่อเซวียนพูดจาไม่ดีใส่ลุงหมิง ลุงหมิงคงไม่ต้องจับตัวไปหรอก ในเมื่อเจ้าของสโมสรเศรษฐีก็ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป!
แต่มาดูตอนนี้สิ เสียความบริสุทธิ์ไปไม่พอยังไม่ได้เงินอีก
หากรู้ว่าผลจะเป็นแบบนี้แต่แรกสู้เธอช่วยเป็นแม่สื่อแม่ชักให้ยังดีกว่า เจ้าของธุรกิจที่มาเที่ยวสโมสรอยากซื้อความบริสุทธิ์ของสวีจื่อเซวียนมีถมเถไป หนึ่งคืนก็ได้เงินอย่างน้อยหลักหมื่นแล้ว
ตอนนี้ล่ะขาดทุนยับเลย!
………………………..
ตอนที่ 1619 ปลุกปั่นอีกครั้ง
เหมยเหมยปวดศีรษะแทบตายหลังตื่นมาในเช้าอีกวัน รู้สึกหนักหัวไม่สดชื่นเพราะเธอเป็นคนที่นอนดึกไม่ได้ แต่ตอนนี้เธอยังมีเรื่องต้องจัดการเลยจำใจลุกจากที่นอน
เหมยเหมยเรียงประโยคในหัวก่อนจะโทรหาพี่เฉิน ต้องเล่าเหตุการณ์เมื่อคืนให้พี่เฉินฟังก่อน
“ลุงเฉินทานข้าวเช้าหรือยังคะ? ฉันจ้าวเหมยเองนะคะ” เหมยเหมยยิ้มดูดีและไม่พูดพร่ำทำเพลงอีกรีบเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไปทั้งหมด
“ลุงหมิงรังแกเพื่อนร่วมชั้นของหนู ถึงเพื่อนหนูจะทำงานที่สโมสรเศรษฐีก็จริงแต่เธอแค่ขายซิการ์ อีกอย่างก็ไม่ได้เอาเงินของลุงหมิงไปด้วยแต่ลุงหมิงก็ยังจับตัวเธอไป แม้แต่ผู้จัดการสโมสรออกหน้าก็เปล่าประโยชน์ ตอนนี้ถือว่าได้ล่วงเกินคุณชายถานเข้าแล้วล่ะ”
คุณชายถานคือเจ้าของที่อยู่เบื้องหลังสโมสรเศรษฐีนั่นเองและเป็นครอบครัวที่มีอิทธิพลไม่น้อย ลุงหมิงกล้าจับตัวคนในถิ่นของเขาไป คุณชายถานไม่ถือสาสิแปลก!
พี่เฉินแสดงสีหน้าถมึงทึงแล้วมองไปทางลุงหมิงที่นั่งอยู่บนโซฟาอย่างเย็นชา ทำอะไรยิ่งไม่รู้จักขอบเขตของตนเอง!
ถึงตอนนั้นไม่ต้องรอให้เหยียนหมิงซุ่นจัดการเจ้าตัวคงทรมานตัวเองตายไปก่อน!
เหมยเหมยบอกพฤติกรรมเหิมเกริมของลุงหมิงไปต่ออีกหน่อย สุดท้ายค่อยพูดว่า “เมื่อคืนฉันร้อนใจจะช่วยเพื่อนฉันเลยพูดจาล่วงเกินลุงหมิงไป ไว้ฉันจะไปขอโทษเขาวันหลัง แต่ลุงเฉินก็ต้องเกลี้ยกล่อมลุงหมิงบ้างว่าอย่าทำแต่เรื่องแย่งผู้หญิง มันดูแย่ไปหน่อย ลุงเฉินว่าถูกไหมคะ?”
“เหมยเหมยพูดถูก เรื่องนี้เฉินหมิงผิด ฉันจะสั่งสอนเขาให้ เหมยเหมยไว้ว่าง ๆไปเลือกเครื่องประดับที่ร้านฉันนะ เด็กผู้หญิงต้องแต่งตัวสวย ๆสิ”
“ขอบคุณค่ะลุงเฉิน!”
เหมยเหมยไม่ปฏิเสธแต่เธอจะมีเวลาว่างอีกทีเมื่อไรก็ไม่รู้แล้วล่ะ ลุงเฉินเองก็แค่พูดเป็นมารยาทเท่านั้น
ฟังจากน้ำเสียงลุงเฉินคาดว่าน่าจะไม่พอใจต่อเฉินหมิงอยู่บ้าง ในเมื่อเฉินหมิงคนนี้อาศัยบารมีของเขาในการทำตัวเหินเกริมโอ้อวดไปวัน ๆ!
ลุงเฉินวางสายไปก็ทำหน้าเรียบนิ่งแต่สายตากลับแฝงไปด้วยความเยือกเย็น
ลุงหมิงกลับนั่งสบายอยู่บนโซฟาอีกทั้งยังพาดขาไว้บนโต๊ะเตี้ย ความอันธพาลที่แผ่ออกมาจากตัวนั้นคิดว่าเป็นนิสัยที่แท้จริงอย่างไม่ต้องสงสัย
“จ้าวเหมยโทรมาสินะ? พี่หกอย่าไปฟังเธอพูดจาเหลวไหล ให้ตาย เมื่อคืนยัยนี่ไม่เห็นฉันในสายตาเลย ฉันทนไม่ได้”
ลุงหมิงสบถด่าคำหยาบทำหน้าบิดเบี้ยวแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น “พี่หก พี่ส่งคนเพิ่มให้ฉันที ฉันจะสั่งสอนนางแพศยานี่ให้ได้ เธอดูถูกฉันก็เท่ากับดูถูกพี่หก เหอะ นางแพศยาเนรคุณ ถ้าไม่ได้พวกเราเธอจะได้ดิบได้ดีแบบนี้เหรอ?”
“แกคิดจะสั่งสอนจ้าวเหมยยังไง?” พี่เฉินถามอย่างใจเย็นแต่หัวคิ้วกระตุกตุบ ๆ
ลุงหมิงยิ้มขึ้นมากะทันหันแล้วเผยแววตาหื่นกระหาย แลบลิ้นเลียริมฝีปากเอ่ย “ฆ่าไปก็เสียดาย เอาจริง ๆนะพี่หกนางแพศนานี่ยิ่งโตยิ่งน่าเย้ายวนใจ ฉันเห็นแล้วยัง…”
“เพี้ยะ”
พี่เฉินตวัดฝ่ามือตบหน้าฉาดใหญ่ด้วยใบหน้าบึ้งตึง ลุงหมิงที่โดนเขาตบหน้าใส่ก็นิ่งค้างไปพักใหญ่ก่อนจะรู้สึกคุกรุ่นอีกครั้ง
“พี่หกตบฉันทำไม?”
“ถ้าฉันไม่ตบแกให้ได้สติ เกรงว่าหลังจากนี้แกตายแล้วยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ แกกล้าคิดหยามจ้าวเหมยเหรอ? ถ้าแกอยากตายก็อย่าเอาฉันไปเกี่ยว!” พี่เฉินโกรธไม่น้อย เมื่อก่อนเจ้าหมอนี่โง่ก็ส่วนโง่แต่ดีที่ยังเชื่อฟังคำสั่ง แต่ตอนนี้แม้แต่ข้อดีเพียงข้อเดียวก็ไม่มีอีกต่อไป
แล้วจะมีพี่น้องแบบนี้ไว้ทำไมกัน?
อิทธิพลของเหยียนหมิงซุ่นในเวลานี้แม้แต่เฮ่อเหลียนเช่อยังไม่กล้าปะทะกันซึ่ง ๆหน้า เฉินหมิงไปแตะต้องคนสุดรักสุดหวงของเหยียนหมิงซุ่นเข้าก็เท่ากับรนหาที่ตาย!
พี่เฉินจ้องลุงหมิงด้วยสายตาเย็นชาทำเอาลุงหมิงสะดุ้งวาบไปทั้งใจ เขากลัวพี่เฉินมาตั้งแต่เด็กรวมถึงตอนนี้ด้วย แต่เขาก็ยังไม่พอใจอยู่ดีพาลรู้สึกว่าพี่เฉินขี้ขลาดเกินไป มิน่าจนถึงตอนนี้แล้วยังมีอำนาจแค่ในเมืองหลวง
หากเปลี่ยนเป็นเขาที่มีคนคอยหนุนหลังดี ๆอย่างเหยียนหมิงซุ่นอยู่จะต้องเปิดบ่อนพนันไปถึงมาเก๊าแหง!
เทียบกับการเก็บสะสมเหรียญโบราณแล้วเขาชอบบ่อนพนันสุดเร้าใจกับคลับสโมสรบันเทิงมากกว่า!
………………………
[1] เอ้อร์กัวโถว เป็นเหล้าชนิดหนึ่งของจีนที่มีตราสัญลักษณ์เป็นดาวสีแดง