ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1620 ไปตรวจที่โรงพยาบาล + ตอนที่ 1621 ปกปิดความจริง
ตอนที่ 1620 ไปตรวจที่โรงพยาบาล
พวกสวีจื่อเซวียนเองก็ตื่นแล้วกำลังนั่งทานอาหารเช้ากันอยู่ เสี่ยวอวิ๋นไม่ได้มีฝีมือการทำอาหารดีเท่าป้าฟาง ดังนั้นส่วนใหญ่แล้วอาหารสามมื้อจะมาจากร้านอาหาร อาหารเช้าเองก็เช่นกันเป็นเสี่ยวหลงเปากับน้ำเต้าหู้เค็มจากภัตตาคารเฟิ่งหลาย
ชาวเหนือชอบดื่มน้ำเต้าหู้รสหวานแต่เหมยเหมยกลับชอบน้ำเต้าหู้เค็มที่คิดว่ารสชาติสดใหม่เป็นพิเศษ ทั้งเมืองหลวงก็มีเพียงภัตตาคารเฟิ่งหลายที่ขายน้ำเต้าหู้รสเค็มทั้งยังมีรสชาติอร่อยอีกด้วย เกิดมาคู่กับเสี่ยวหลงเปาโดยเฉพาะเลย
เสี่ยวอวิ๋นซื้อน้ำเต้าหู้เค็มมาหนึ่งหม้อใหญ่บวกกับเสี่ยวหลงเปาสิบกว่าเข่ง เธอกับเสี่ยวหลี่ไม่เลือกกิน ไม่ว่าอะไรก็กินได้ทั้งนั้น ฉะนั้นทุกครั้งที่ซื้ออาหารเลยซื้อตามรสชาติที่ถูกปากของเหมยเหมยแต่พวกถังม่านลี่กลับไม่ชิน
“ฉันลืมซื้อน้ำเต้าหู้แบบหวาน” เสี่ยวอวิ๋นอธิบายเพิ่มประโยคหนึ่งแล้วคีบเสี่ยวหลาเปาลูกหนึ่งใส่ปากก่อนกรอกน้ำเต้าหู้เค็มตามไปอีกหนึ่งคำโตก่อนทานอย่างเอร็ดอร่อย
“พวกเธออาจจะไม่ชินกับรสเค็ม ฉันชงนมผงธัญพืชให้พวกเธอแล้วกันนะ!” เหมยเหมยยิ้มกล่าว
“โอเค…”
ถังม่านลี่เพิ่งอ้าปากพูดก็ถูกเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนขัดเสียก่อน “ไม่ต้องหรอก น้ำเต้าหู้เค็มก็อร่อยดี เมื่อก่อนฉันเคยดื่มที่ภัตตาคารเฟิ่งหลาย สดใหม่มาก”
เธอพูดพลางถลึงตาใส่ทำเอาถังม่านลี่รีบปิดปากเงียบไม่กล้าขอนมผงธัญพืชอีก
เธอใช้ชีวิตมายี่สิบปีนี่เป็นครั้งแรกที่เห็นว่ามีน้ำเต้าหู้รสเค็มด้วย ดูสีกับต้นหอมสิ นี่มันน้ำซุปหรือทำกับข้าวกันแน่ อร่อยสิแปลก!
เหมยเหมยก็คร้านจะชงนมผงธัญพืชแล้ว พอดื่มน้ำเต้าหู้เค็มอุ่นไปครึ่งถ้วยถึงรู้สึกว่าอาการปวดศีรษะทุเลาลงไปบ้าง
สวีจื่อเซวียนหน้าซีดเซียวสายตาว่างเปล่าและไม่ทานอาหารเช้าเลยแม้แต่คำเดียว เจียงจื้อหรู่พูดเกลี้ยกล่อมเธอเสียงเบาจนเสียงแหบแห้งอย่างชัดเจน คิดว่าเมื่อคืนคงพูดไปไม่น้อยไม่รู้ว่าเกลี้ยกล่อมไปนานแค่ไหน
“อาจารย์เจียง…หนูไม่มีหน้าจะกลับมหาลัยแล้ว คนอื่นต้องดูถูกหนูแน่เลย…” สวีจื่อเซวียนเอามือปิดหน้าร้องไห้อย่างฉับพลันก่อนจะร้องไห้เสียงโฮ
แม้เวลาทานข้าวมีคนนั่งร้องไห้อยู่ข้าง ๆจะส่งผลต่อความอยากอาหาร แต่ในเมื่อเด็กผู้หญิงเจอเรื่องแบบนี้กับตัวก็เป็นเรื่องยากที่จะไม่รู้สึกเสียใจ เหมยเหมยห้ามเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนที่คิดจะด่าคนเอาไว้ อย่าซ้ำเติมสวีจื่อเซวียนเลยดีกว่า
เธอเติมเต็มท้องให้อิ่มพลันก็ฉุกคิดเรื่องหนึ่งได้เลยอดเอามือตบศีรษะอย่างหงุดหงิดไม่ได้ เมื่อคืนลืมไปเลย
“ทางที่ดีเธอไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลหน่อย” เหมยเหมยบอกต่อสวีจื่อเซวียน
สวีจื่อเซวียนส่ายศีรษะแรง ๆ “ฉันไม่ไป…ไปโรงพยาบาลคนอื่นก็ต้องรู้ ฉันไม่ไป!”
เหมยเหมยยักไหล่ไม่คิดจะโน้มน้าวอีก อยากไปหรือไม่ไปก็แล้วแต่ ในเมื่อเธอเคยเตือนเอาไว้แล้ว
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนแม้ปากจะด่าเจ็บที่สุดแต่ความจริงเป็นคนขี้เป็นห่วงที่สุด เธอนึกถึงโฮ่วเซิ่งหนานในทันทีเลยเปลี่ยนสีหน้าพลางตวาดด่า “เธอไม่ไปตรวจแล้วจะสบายใจเหรอ? เจ้าอ้วนนั่นเป็นลูกค้าประจำของสโมสร ใครจะไปรู้ว่าเขามีโรคหรือเปล่า อีกอย่างถ้าเธอเกิดท้องขึ้นมาล่ะ หรือว่าเธอจะปล่อยให้ลูกเกิดมางั้นสิ?”
“ไม่เอา!”
สวีจื่อเซวียนกรีดร้องเสียงสูงด้วยความตกใจ หน้าเธอขาวซีดราวกับหิมะและสายตาที่ฉายแววหวาดผวา
ไม่ว่าจะโรคร้ายหรือตั้งครรภ์ ล้วนไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการจะพบเจอ!
สุดท้ายก็ได้เจียงจื้อหรู่เกลี้ยกล่อมเธอพาเธอไปโรงพยาบาล เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยังคิดจะตามไปดูแต่เหมยเหมยแอบกระชากเธอไว้ทีหนึ่งพร้อมส่ายศีรษะ
ถังม่านลี่ก็ไม่ได้ตามไปเพราะเธอก็ไม่ได้มีสีหน้าที่ดูดีเท่าไร เมื่อครู่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพูดถึงโรคร้ายชนิดนั้นเธอก็หวนนึกถึงตัวเองเลยรู้สึกแย่ลงในพริบตา
เสียตัวให้พอลไปหนึ่งคืนฟรี ๆเพื่อให้ได้นาฬิกาข้อมือของปลอมมา!
เธอขาดทุนแทบแย่คอยสาปแช่งให้เจ้าฝรั่งขี้นกนั่นรีบไปตายเสียตั้งแต่พรุ่งนี้!
เหมยเหมยให้เสี่ยวหลี่ส่งเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกลับบ้าน พร้อมย้ำเตือนอีกครั้งถึงกลับไปนอนเก็บแรง
ส่วนสวีจื่อเซวียนคิดว่ามีความห่วงใยของเจียงจื้อหรู่ก็คงจะผ่านเรื่องนี้ไปได้อยู่หรอกมั้ง!
……………………
ตอนที่ 1621 ปกปิดความจริง
เหยียนหมิงซุ่นไม่อยู่เมืองหลวงแต่ไม่ส่งผลต่อการถามไถ่ถึงเรื่องของเหมยเหมย เสี่ยวอวิ๋นจะคอยรายงานเขาทุกวันว่าเหมยเหมยทำอะไรบ้าง แน่นอนว่าเรื่องของสวีจื่อเซวียนก็ต้องรายงานด้วยเช่นกัน
“เหมยเหมยไม่เป็นไรใช่ไหม?” เหยียนหมิงซุ่นใบหน้าเย็นชาขึ้นมา เฉินหมิงยิ่งอยู่ก็ยิ่งเหิมเกริมขึ้นเรื่อย ๆ แม้แต่ผู้หญิงของเขายังไม่เห็นในสายตา
“ไม่เป็นไรเลย แค่นอนไม่พอเลยปวดหัวนิดหน่อย ทานข้าวเสร็จก็ไปนอนพักแล้ว” เสี่ยวอวิ๋นพูดเสียงนอบน้อม
เหยียนหมิงซุ่นค่อยสบายใจหน่อยเลยถามเรื่องอื่นไปอีกเล็กน้อยก่อนวางสายไป
เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนโทรสายตรงถึงพี่เฉิน เห็นทีมีความจำเป็นต้องเตือนสักหน่อยแล้ว
พี่เฉินรอมาตั้งแต่เช้า โทรศัพท์เพิ่งแผดเสียงดังเขาก็รีบกดรับสาย เหยียนหมิงซุ่นเองก็ไม่อ้อมค้อมพูดเข้าประเด็นทันที “ช่วงนี้ลุงหมิงเจ้าอารมณ์ขึ้นนะ แม้แต่เหมยเหมยยังไม่อยู่ในสายตาเลย นี่เขาคิดจะแยกตัวออกไปเป็นใหญ่คนเดียวเหรอ?”
“จะเป็นไปได้ไง เขาไม่มีความสามารถนี้หรอกแค่ดื่มมากไปไม่ได้สติ ฉันสั่งสอนมันไปแล้ว” พี่เฉินยิ้มกล่าวและยกระดับความสำคัญของเหมยเหมยขึ้นอีกเท่าตัว
เพิ่งเกิดเรื่องเมื่อคืนก็โทรมาแต่เช้าแบบนี้บ่งบอกว่าเหยียนหมิงซุ่นใส่ใจจ้าวเหมยขนาดไหน!
พี่เฉินค่อนข้างพึงพอใจ กลัวว่าเหยียนหมิงซุ่นจะเป็นคนที่ไม่มีอะไรมีผลต่อจิตใจเขาได้ หากมีคนที่ใส่ใจก็ดีสิ!
เหยียนหมิงซุ่นพูดเสียงเย็นชา “ฉันเพิ่งตามล้างตามเช็ดปัญหาที่ลุงหมิงก่อไว้ที่ฮ่องกงมาหยก ๆก็มาเกิดเรื่องจับตัวผู้หญิงไปขืนใจอีก ลำพังเรื่องเงินทองอำนาจที่ลุงเฉินมีอยู่ในตอนนี้ลุงหมิงขาดแคลนผู้หญิงประเภทไหนบ้างล่ะ? แล้วทำไมถึงต้องลดตัวไปทำสิ่งที่ต่ำช้าอย่างขืนใจผู้หญิงอย่างนั้น? นี่เขาจงใจแข็งข้อกับผมใช่ไหม?”
ลุงเฉินรู้สึกไม่สบายใจหน่อย ๆ ตอนนี้เหยียนหมิงซุ่นปีกกล้าขาแข็งเลยไม่เคารพเขาอย่างเมื่อก่อนอีกแล้ว!
เกรงว่าผ่านไปอีกไม่กี่ปีเหยียนหมิงซุ่นก็จะยิ่งไม่เชื่อฟังขึ้นเรื่อย ๆน่ะสิ?
โชคดีที่เขาปูทางเผื่อไว้แล้ว ไม่กลัวว่าหมอนี่จะไม่เชื่อฟังคำสั่งอีก!
“ฉันจะสั่งให้คนจับตาดูเฉินหมิงเอาไว้” พี่เฉินยังไม่อยากใช้วิธีที่เขาคิดเผื่อไว้ เพราะหากใช้เมื่อไรถือว่าเขากับเหยียนหมิงซุ่นแตกหักกันอย่างแท้จริง
“หวังว่าลุงเฉินจะคุมอยู่นะครับ” เหยียนหมิงซุ่นพูดแฝงความนัย
พี่เฉินหัวเราะที “ช่วงนี้เฉินหมิงหงุดหงิดไปบ้างก็มีเหตุผลอยู่ เห็นว่าใกล้ถึงวันครบรอบวันตายของภรรยากับลูกชายเขา เฉินหมิงแค่คิดว่าสิบกว่าปีผ่านไปแล้วแต่ยังแก้แค้นไม่ได้เลยอารมณ์เสียไปหน่อย”
เขาพูดเตือนเหยียนหมิงซุ่นทางอ้อมว่าอย่าลืมเรื่องที่เคยรับปากเขาไว้ตั้งแต่แรก
เหยียนหมิงซุ่นพูดประชด “สองปีนี้ลุงหมิงนอนกับผู้หญิงมานับไม่ถ้วน นี่คือการกระทำที่สื่อว่าเขาคิดถึงภรรยากับลูกชายเหรอครับ?”
ตอนนี้เขาสงสัยอย่างหนักว่าเฉินหมิงมีความรักต่อภรรยากับลูกชายที่ตายไปของเขามากแค่ไหน?
เป็นไปได้ว่าเป็นเพียงข้ออ้างที่พี่เฉินไว้กลบเกลื่อนส่วนจุดประสงค์ที่แท้จริง เกรงว่าจะไว้เติมเต็มความต้องการของพวกเขาเองสินะ?
แต่เสียดายเขาไม่ใช่ท่อนไม้ที่จะทำตามคำสั่งอย่างเดียว!
พี่เฉินสะอึกไปทีเพราะตัวเองก็รู้สึกว่าเหตุผลนี้ฟังดูฝืด ๆไปหน่อย
เหยียนหมิงซุ่นพูดต่อ “สัญญาที่เคยให้ไว้กับพวกลุงผมไม่มีวันลืมอยู่แล้ว ผมกำลังหาทางจัดการโอหยางปินอยู่ ผมจะทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้ แต่ก็หวังว่าพวกคุณลุงจะไม่สร้างปัญหาให้ผม!”
“หมิงซุ่นสบายใจได้ ขอแค่โอหยางปินตายเฉินหมิงจะต้องสงบเสงี่ยมลงแน่” พี่เฉินพูดรับปาก
“ทางที่ดีขอให้เป็นอย่างนั้น แต่ตอนนี้ผมสงสัยอยู่หน่อยว่าความแค้นระหว่างลุงหมิงกับโอหยางปินไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งไปกว่านี้ใช่ไหมครับ?” เหยียนหมิงซุ่นพูดกลั้วหัวเราะทำเอาพี่เฉินใจกระตุกและสีหน้าเปลี่ยนไป
“ไม่มีทางอยู่แล้ว พี่หมิงซุ่นคิดมากไปแล้วล่ะ”
พี่เฉินพูดเสียงแน่วแน่ว่าพวกเขากับโอหยางปินมีความแค้นที่ต้องเอาให้ถึงตายกันไปข้าง จากนั้นพูดต่อไปอีกพักหนึ่งพี่เฉินถึงวางสายไป ถอนหายใจยาวลอบดีใจที่เป็นการคุยทางโทรศัพท์ เหยียนหมิงซุ่นเลยไม่เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเขาในเวลานี้
เขาหันไปมองเฉินหมิงที่ทำหน้าผวาอยู่ตรงโซฟาก็พูดเสียงเย็นชา “แกได้ยินหมดแล้วสินะ? เหยียนหมิงซุ่นไม่ใช่คนนิสัยอ่อนแอ ถ้าแกไปทำเขาโกรธเข้าจริง ๆ ฉันก็ช่วยชีวิตแกไม่ได้หรอกนะ!”
“เจ้าหมอนี่ไร้หัวใจ ถ้าไม่ใช่เพราะเขามันจะมีวันนี้เหรอ?” ลุงหมิงพูดเสียงขุ่นเคือง
“โลกนี้ไม่มียารักษาโรคเสียใจทีหลัง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปแกสงบเสงี่ยมหน่อย ถ้าไปก่อเรื่องอีกฉันจะจัดการแกเป็นคนแรก!”
สายตาของพี่เฉินฉายแววอาฆาตที่ลุงหมิงเห็นแล้วตัวสะท้านเฮือก ได้แต่ยอมรับปาก
…………………………