ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1626 พลังชี่พิฆาตฉันแรง อยู่ให้ห่างฉันหน่อย + ตอนที่ 1627 ดวงข่มทีละอย่างๆ
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1626 พลังชี่พิฆาตฉันแรง อยู่ให้ห่างฉันหน่อย + ตอนที่ 1627 ดวงข่มทีละอย่างๆ
ตอนที่ 1626 พลังชี่พิฆาตฉันแรง อยู่ให้ห่างฉันหน่อย
เกิดเรื่องโกลาหลระลอกหนึ่งบรรยากาศก็อึดอัดขึ้นมา จ้าวอิงหย่งมีผ้าก๊อซขาวพันรอบศีรษะขับให้ดูน่าตลกนักแต่เจ้าตัวกลับยิ่งเห็นยิ่งโมโห
ได้แผลเจ็บตัวตั้งแต่วันส่งท้ายปีแบบนี้เห็นทีคงโชคร้ายตลอดทั้งปีใหม่ แม่เหยียนซินหย่านี่ต้องจงใจแน่ ๆ!
ช่วงนี้จ้าวอิงหย่งค่อนข้างสนิทกับพวกหมอดูดวงฮวงจุ้ยมาก ทั้งที่เดิมทีเขาเป็นคนที่เชื่อในเรื่องวัตถุนิยมแต่พอโดนคนพวกนี้ล้างสมองเข้าเลยกลายเป็นแฟนคลับตัวยงที่งมงายเรื่องโหราศาสตร์อย่างสิ้นเชิง
อันหย่าฟางไปต้มเกี๊ยวในห้องครัว คุณปู่จ้าวออกคำสั่งแล้วเธอไม่กล้าขัดขืน
จ้าวอิงหย่งหงุดหงิดแทบแย่ทนนั่งไม่ไหวเลยเดินวนไปทั่วด้วยใบหน้าบึ้งตึง เมื่อเห็นเหมยเหมยที่กำลังนั่งอยู่ข้างบ่อปลาคาร์ฟที่เขาเลี้ยงใหม่ ๆก็แค่นเสียงอย่างนึกรังเกียจ
หลานสาวคนนี้ต้องเป็นตัวกาลกินีแน่ ประเภทที่ไม่เป็นตัวกาลกินีกับพ่อแม่แต่อัปมงคลต่อคนในครอบครัว!
ตระกูลจ้าวในตอนนี้กลายเป็นสภาพนี้เพราะเธอล้วน ๆ!
จ้าวอิงหย่งจงใจหนีเหมยเหมยเลยเดินอ้อมไปแต่เขาก็อยากดูปลาคาร์ฟที่เขาเพิ่งเลี้ยงใหม่ นี่เป็นปลานำโชคที่เพื่อนเขาแนะนำให้เลี้ยงโดยบอกว่าถ้าเลี้ยงอยู่ตรงลานบ้านจะช่วยนำโชคลาภมาให้เจ้าของบ้านหลังนี้
เขายืดอกเดินเอามือไขว้หลังไป เขาเป็นผู้อาวุโสกว่าทำไมต้องไปกลัวคนที่เด็กกว่า?
เพียงแต่–
จ้าวอิงหย่งเห็นฝูงปลาที่นอนหงายท้องอยู่ในบ่อปลาก็หน้ามืดสับเท้าเข้าไปตักขึ้นมาหนึ่งตัวด้วยมืออันสั่นเทา ตายอย่างสมบูรณ์ชนิดที่น้ำอมฤตของเจ้าแม่กวนอิมก็ช่วยไม่ได้
มือแหวกน้ำในบ่อหลายทีพบว่าไม่มีรอดชีวิตสักตัวเดียว ตายหมดยกบ่อ!
“ฝีมือเธอเหรอ?” จ้าวอิงหย่งจ้องเหมยเหมยเขม็งราวกับจะฆ่าคนเสียอย่างนั้น
ปลานำโชคของเขาตายหมดแล้ว แถมยังตายในวันส่งท้ายปีเก่าแบบนี้ซึ่งบ่งบอกว่าตลอดทั้งปีใหม่นี้เขาต้องโชคร้ายแบบที่พลิกชีวิตไม่ได้อีก!
เหมยเหมยที่กำลังเหม่อคิดถึงคนรักสะดุ้งตกใจจนเกือบล้มตกเก้าอี้เพราะเสียงดังสนั่นนี้ กลับเห็นสีหน้าที่เหมือนจะเขมือบคนของจ้าวอิงหย่งเลยอดถอยหลังหลายก้าวไม่ได้
“เธอทำปลาคาร์ฟฉันตายเหรอ? อายุน้อย ๆแค่นี้ทำไมถึงร้ายกาจขนาดนี้ เธอ…”
จ้าวอิงหัวเดินมาขัดเขา “แกเป็นบ้าอะไรอีก? กล้ารังแกลูกสาวฉันต่อหน้าฉันแบบนี้แกอยากโดนดีอีกสินะ?”
“แกดูสิว่าลูกสาวแกทำเรื่องดี ๆอะไรไว้ เบิกตาของแกดูให้ชัด!”
จ้าวอิงหย่งหยิบปลาที่ตายไปแล้วตัวหนึ่งขึ้นมาอย่างปวดใจ ดวงตาเบิกกว้างแทบถลนออกมา จ้าวอิงหัวมองไปที่บ่อปลาแวบหนึ่งก็พบว่าปลาตายหงายท้องสิบกว่าตัว แต่ละตัวน้ำหนักครึ่งกิโลกรัมถึงหนึ่งกิโลกรัมทั้งนั้น
“ก็แค่ปลาตายไม่กี่ตัวมีอะไรให้ตกใจกัน เอามากินได้พอดีเลย คืนส่งท้ายปีเก่าก็ต้องกินปลาจะได้มีเหลือกินเหลือใช้ทุกปี!”
จ้าวอิงหัวทำท่าเตรียมจัดการปลาที่ตายไปแล้วอย่างกระตือรือร้น ยังไม่เคยได้ทานปลาหรูอย่างปลาคาร์ฟมาก่อนเลยไม่รู้ว่ารสชาติเป็นอย่างไรบ้าง
“นี่เป็นปลานำโชคของฉัน แต่ตอนนี้ลูกสาวแกทำให้มันตายหมดแล้ว!” จ้าวอิงหย่งผลักจ้าวอิงหัวที่คิดจะฆ่าปลาออกไป
“ลุงสามเห็นฉันทำปลาของลุงตายเองกับตาเหรอคะ? จะมาพูดซี้ซั้วไม่ได้นะคะ!” เหมยเหมยพูดเสียงเย็นชา
จ้าวอิงหย่งคำรามใส่ “ก่อนพวกเธอมาปลายังดี ๆอยู่เลย ก่อนหน้านี้ก็มีแค่เธอที่นั่งอยู่ข้างบ่อปลา ไม่ใช่เธอแล้วจะเป็นใคร?”
“ก็ไม่แน่หรอกนะคะ เมื่อกี้ลุงสามบอกว่าหนูเป็นตัวกาลกินี ไม่แน่ว่าไอพิฆาตฉันอาจจะรุนแรงเกินไปปลาเลยต้านทานไม่ไหวล่ะมั้ง!” เหมยเหมยพูดด้วยท่าทางจริงจังทำเอาจ้าวอิงหย่งสะอึกจนหาคำพูดโต้แย้งกลับไม่ได้
จ้าวอิงหัวปากกระตุกจงใจพูดตำหนิ “พูดเหลวไหล ลูกเป็นตัวนำโชคของบ้านเรา อย่าไปฟังลุงสามของลูกพูดเหลวไหล!”
เหมยเหมยกะพริบตาปริบ ๆแล้วยิ้มกล่าว “หนูเป็นตัวนำโชคของบ้านเรา แต่ไม่แน่อาจจะเป็นตัวอัปมงคลสำหรับลุงสามก็ได้ค่ะ ลุงสามอยู่ให้ห่างหนูไว้นะคะ ระวังไอพิฆาตของฉันจะทำลายชีวิตลุงแย่เอา!”
จ้าวอิงหย่งตัวสั่นสะท้าน คำของเหมยเหมยไม่ต่างจากที่กลุ่มเพื่อนพวกนั้นของเขาเคยพูดไว้เลยสักนิด หลานสาวคนนี้คือตัวกาลกินีของเขานั่นแหละ!
…………………………
ตอนที่ 1627 ดวงข่มทีละอย่างๆ
จ้าวอิงหัวแค่นหัวเราะและยิ่งดูถูกดูแคลนในตัวพี่สามของเขา เมื่อก่อนแม้จะไม่ประสบความสำเร็จอะไรเป็นชิ้นเป็นอันแต่อย่างน้อยก็เป็นคนทำอะไรตรงไปตรงมาไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ทว่าตอนนี้กลับกลายเป็นแบบนี้เสียแล้ว
ตัวเองไม่พยายามกลับไปหลงเชื่องมงายเรื่องฮวงจุ้ย โง่เขลาที่สุด!
ฮวงจุ้ยใช่ว่าจะเชื่อไม่ได้แต่ก็ใช่ว่าจะต้องเชื่อทั้งหมด คนที่อาศัยฮวงจุ้ยเป็นเส้นฟางช่วยชีวิตเพียงเส้นเดียวก็กำหนดชะตาไว้แล้วว่าบุคคลนี้ไม่มีวันประสบความสำเร็จตลอดไป!
อันหย่าฟางถลึงตาใส่จ้าวอิงหย่งทีหนึ่งเพราะไม่เห็นด้วยกับการที่เขางมงายเรื่องฮวงจุ้ยเช่นกัน ตอนนี้ปลาตายไปก็ดี คืนนี้จะได้มีกับข้าวเพิ่มมาอีกจาน
“หรือว่าเราทำปลาย่างกินกันเถอะ หนูทำเอง!”
เหมยเหมยกลอกตาทีหนึ่งแล้วจงใจพูดยั่วโมโหจ้าวอิงหย่ง
กล้าบอกว่าเธอเป็นตัวกาลกินีถ้าอย่างนั้นเธอก็จะใช้ดวงพิฆาตข่มทีละอย่าง ๆเลย เหอะ!
เหมยเหมยมองไปที่บอนไซเสริมฮวงจุ้ยหลายถาดอีกฟากก่อนกระตุกยิ้มร้ายกาจ ยิ้มจนจ้าวอิงหย่งปวดศีรษะกว่าเดิม
ณ เวลานี้ยังอยู่ในช่วงบ่ายฟ้ายังไม่ทันมืดอันหย่าฟางก็ต้มเกี๊ยวเสร็จแล้วพลางให้สองพี่น้องจ้าวอิงหย่งเอาไปส่งให้จ้าวอิงสยง ทันใดนั้นคุณปู่จ้าวก็ออกมาพร้อมสวมหมวก เสื้อกันหนาวตัวใหญ่และผ้าพันคอปกปิดมิดชิด
“ฉันก็จะไปเยี่ยมเจ้าสองเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเขาอยู่ในนั้นเป็นยังไงบ้าง” คุณปู่ไอเสียงดังหลายทีราวกับตู้ลมเก่า ทำให้คนฟังรู้สึกแย่เหลือเกิน
จ้าวอิงหย่งถลาเข้าไปช่วยลูบหลังให้คุณปู่แล้วพูดเสียงร้อนใจ “พ่อ พ่อไอหนักขึ้นเรื่อย ๆ หรือว่าพ่อกลับไปที่โรงพยาบาลเถอะ?”
“ไม่ต้องหรอก รอผ่านเทศกาลหยวนเซียวไปก่อนค่อยไปพักที่นั่น ฉันไม่เป็นไร แค่โรคประจำตัว!” คุณปู่โบกมือที่หนังหุ้มกระดูกเหี่ยวย่น มีจุดแก่ขึ้นประปรายรวมถึงรอยแผลเป็นที่หลงเหลือมาจากการทำสงครามในอดีต
จ้าวอิงหัวรู้สึกแสบตาเล็กน้อยและไม่สบายใจเท่าไรเลยหันหน้าหนีไม่อยากเห็นสภาพคุณพ่อที่แก่เฒ่าแบบนี้อีก
สามพ่อลูกออกไปแล้ว เหมยเหมยเลยเริ่มทำปลาย่างอย่างสนุกสนาน ปลาคาร์ฟเหล่านี้ขนาดตัวพอ ๆกันซึ่งเหมาะกับการเอามาทำปลาย่างที่สุด จ้าวเสวียเอ๋อร์เห็นลูกพี่ลูกน้องที่ผิวปากฮัมเพลงไปเลยอ้าปากพะงาบอยู่นานถึงเอ่ย “คุณปู่สุขภาพแย่ลงทุกวัน คุณหมอบอกว่าอีกไม่กี่ปีคง…”
ประโยคสุดท้ายเขาไม่ได้พูดออกมา มือของเหมยเหมยที่กำลังห่อกระดาษฟอยล์ชะงักไปกึกหนึ่งก่อนจะห่อต่อไปแล้วใส่ในตู้อบพร้อมตั้งเวลาเสร็จสรรพ แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินสิ่งที่จ้าวเสวียเอ๋อร์พูด
จ้าวเสวียเอ๋อร์ถอนหายใจเบา ๆและไม่พูดอะไรอีก แต่ช่วยเหมยเหมยย่างปลา
ไม่นานปลาย่างก็ทำเสร็จแล้วแถมประสบความสำเร็จอย่างมาก แม้กลิ่นคาวไปหน่อยแต่เหมยเหมยสาดผงปรุงรสไปเยอะพอควรถึงกลบกลิ่นคาวไว้ได้ กลิ่นหอมฉุยไม่น้อยลำพังตัวเหมยเหมยคนเดียวก็ทานไปกว่าครึ่งตัวแล้ว
พวกเหยียนซินหย่าต่างทนกลิ่นหอมยั่วยวนนี้ไม่ไหวเลยทานไปบ้างบางส่วน ทั้งสี่คนจัดการไปห้าตัวยังเหลืออีกห้าตัวไว้ค่อยย่างอีกทีหลังพวกจ้าวอิงหัวกลับมา
ขณะที่เสียงรายการข่าวดังขึ้นพวกจ้าวอิงหัวก็กลับมาแล้ว จ้าวอิงหย่งประคองคุณปู่ลงจากรถแต่เพิ่งเดินได้ไม่กี่ก้าวคุณปู่ก็หมดสติไปทำเอาทุกคนตกใจกันไม่น้อย
“รีบส่งโรงพยาบาล!” จ้าวอิงหัวอุ้มคุณปู่ขึ้นทันทีแต่ถูกจ้าวอิงหย่งห้ามไว้ “วันส่งท้ายปีแบบนี้จะส่งโรงพยาบาลทำบ้าอะไร แกไม่คิดว่ามันจะอัปมงคลเหรอ? ห้ามส่งเด็ดขาด!”
“สมองแกมีแต่ขี้จริง ๆสินะ? พ่อเป็นแบบนี้แล้วยังไม่รีบส่งโรงพยาบาล? ปล่อยมือเดี๋ยวนี้นะ!” จ้าวอิงหัวโกรธจนปวดศีรษะไปหมด เอะอะก็อัปมงคล นี่มันงมงายขั้นสุดแล้ว
อันหย่าฟางช่วยตรวจเช็คให้คุณปู่คร่าว ๆทีหนึ่งก่อนเอ่ย “ไม่ต้องกังวลไป พ่อแค่ตื่นเต้นมากไปหน่อย พักผ่อนสักเดี๋ยวคงฟื้นเอง ไม่ต้องไปส่งโรงพยาบาลหรอก”
ไม่นานคุณปู่ก็ฟื้นเองจริง ๆแต่สีหน้าขาวซีดท่าทางอ่อนแรงเหมือนใกล้ถึงปลายทางของชีวิต เห็นแล้วรู้สึกแย่จับใจเสียจริง
จ้าวอิงหย่งทำตาลุกวาวไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
งานคืนวันตรุษจีนเพิ่งเริ่มคุณปู่เลยลงจากเตียงมาทานข้าวกับครอบครัว ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาถึงทำให้บรรยากาศคึกคักขึ้นหน่อย
“จ้าวอิงหัว พ่อเป็นถึงขนาดนี้แล้วหรือว่าแกจะไม่ทำอะไรจริง ๆ? ทำไมแกถึงใจเหี้ยมขนาดนี้นะ?” จ้าวอิงหย่งปากว่าจ้าวอิงหัวแต่ตากลับปรายตามองเหมยเหมยพร้อมทำหน้าเจ็บปวด
…………………………