ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1634 ถุงน้อยถุงใหญ่ + ตอนที่ 1635 อั่งเปาซองหนา
ตอนที่ 1634 ถุงน้อยถุงใหญ่
พอถึงช่วงวันหยุดงานเหยียนโฮ่วเต๋อก็กลับมาทันที เขาถูกเหยียนหมิงซุ่นย้ายไปทำงานในเมืองที่อยู่ภายใต้เขตการปกครองของเมืองจิน ชีวิตความเป็นอยู่ไม่นับว่าเดือดร้อนอะไร แต่เพราะไม่มีความสุขเหยียนโฮ่วเต๋อก็เลยดูแก่ลงไปมาก หน้าดูอมทุกข์ขมขื่น
คุณย่าหยางไม่สนใจถานซูฟางแล้วปลีกตัวออกไปทำกับข้าวในครัวเพียงลำพัง หมิงซุ่นและเหมยเหมยจะกลับมากินมื้อค่ำ เธอต้องทำกับข้าวไว้เยอะ ๆถึงจะดี ถานซูฟางถูกเมินใส่แต่เธอก็ไม่ได้โกรธแล้วเดินตามเข้าครัวไป เห็นว่ามีงานอะไรก็ทำ โดยไม่ต้องให้คุณย่าหยางออกคำสั่งเลย
และแน่นอนว่าคนอย่างถานซูฟางไม่ได้เปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่เป็นเพราะหลายปีมานี้เธออาศัยอยู่ในพื้นที่ภูเขาห่างไกลมีชีวิตที่แสนลำเค็ญ จนในที่สุดก็ทำให้เธอรู้ถึงความน่ากลัวของเหยียนหมิงซุ่น หลายปีมานี้ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่ร้องขอคนอื่นให้ช่วยหาเส้นสาย เงินเดือนส่วนใหญ่ก็ใช้หมดไปกับของกำนัล
คนพวกนั้นรับของไว้แต่กลับไม่จัดการอะไรเลย เพื่อนคนอื่น ๆที่ไปด้วยกันก็กลับมาก่อนนานแล้ว ได้เลื่อนขั้นขึ้นเงินเดือน อนาคตสดใส ชีวิตแทบจะไม่มีเรื่องแย่เลย
แต่มีแค่เธอ เขตภูเขาพื้นที่ยากจนที่สุดในประเทศเธอก็เคยอยู่มาแล้วครั้งหนึ่ง หัวหน้าก็เอาแต่พูดว่าต้องการฝึกฝนเธอ ซ้ำยังบอกอีกว่าจะได้รับความไว้วางใจให้ทำการใหญ่ในภายภาคหน้า ในช่วงไม่กี่ปีแรกเธอก็ยังเชื่ออยู่ แต่ในตอนนี้กลับไม่เชื่อสักนิดเดียว
ต่อให้เธอได้เป็นผู้อำนวยการจริง ๆ เธอก็ไม่อยากจองจำอยู่ในสถานที่บ้า ๆแบบนี้อีกแล้ว อาหารการกินเครื่องนุ่งห่มที่อยู่อาศัยล้วนแย่ไปหมด ยุงก็ตัวใหญ่กว่าที่เมืองจิน ถ้าเธอยังอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ช้าไม่นานต้องจบชีวิตลงแน่!
เหยียนโฮ่วเต๋อและคุณปู่เหยียนเล่นหมากรุกด้วยกันแต่เขากลับดูเหม่อลอย จนถึงตอนนี้เขายังคิดไม่ตกทำไมลูกชายคนโตของเขาถึงใจร้ายขนาดนี้?
ไม่สนับสนุนเขาก็ไม่เป็นไร แต่กลับเลือกทำลายเขาอีก!
ทำเอาศักดิ์ศรีของเขาจบสิ้นกันไปหมดแล้ว!
เหยียนหมิงซุ่นและเธอมาถึงเมืองจินอย่างรวดเร็วและจอดเครื่องไว้ที่สนามบินค่ายทหารเช่นเคย มีลูกน้องขับรถมาจอดรอไว้ที่สนามบินแต่แรกแล้ว สะดวกสบายเป็นอย่างมาก
เดิมทีเหมยเหมยไม่ได้รู้สึกอะไร แต่เป็นเพราะหน้าประตูบ้านคุณย่าหยางไม่มีที่จอดรถ พอจอดรถเสร็จยังต้องเดินต่ออีกสามนาที ตอนนี้เป็นเวลาก่อนมื้อค่ำบนท้องถนนมีคนสัญจรไปมาพลุกพล่าน ส่วนใหญ่ล้วนเป็นคุณครูจากอีจง บางส่วนเพิ่งกลับมาจากการพบปะเยี่ยมญาติ บางส่วนก็หิ้วของฝากเตรียมตัวไปเป็นแขก
คุณครูส่วนใหญ่จะรู้จักพวกเขาทั้งสองคน สามารถพูดได้ว่าเห็นพวกเธอมาตั้งแต่เล็กจนโตเลยล่ะ!
ได้ยินมานานแล้วว่าหลานชายคนโตของตระกูลเหยียนกับลูกสาวคนเล็กของตระกูลอู่ในสมัยก่อนคบหากันอยู่ ตอนนี้ได้เห็นกับตาแล้วว่าคู่หนุ่มสาวเดินเคียงกันอย่างแนบชิดสนิทสนม ฝ่ายชายองอาจกล้าหาญ ฝ่ายหญิงตัวเล็กน่ารัก เป็นคู่ที่ฟ้าเบื้องบนสร้างขึ้นมาให้คู่กันจริง ๆ พวกเขาจึงเผลออดยิ้มตามไม่ได้
“หมิงซุ่นพาเหมยเหมยกลับมาฉลองตรุษจีนหรือ? แหม ๆเหมยเหมยยิ่งโตก็ยิ่งสวยนะเนี่ย” ทุกคนทักทายอย่างสนิทสนม เหยียนหมิงซุ่นและเหมยเหมยล้วนก็… ตอบกลับ
“พวกเธอสองคนจะจัดงานแต่งเมื่อไหร่? พวกเรารอดื่มเหล้ามงคลอยู่นะ!” มีคนถามขึ้นมาอีก
เหมยเหมยหน้าแดงซ่านแต่เหยียนหมิงซุ่นกลับมีสีหน้าปกติ “รอเหมยเหมยจบมหาวิทยาลัยแล้วค่อยจัดครับ ถึงเวลานั้นขอเชิญคุณครูทุกท่านมาร่วมงานด้วยนะครับ”
“แน่นอนอยู่แล้ว ต่อให้ไม่มีการ์ดเชิญเราก็จะหน้าด้านมา!” ทุกคนแสดงความเป็นมิตร
เหยียนหมิงซุ่นในตอนนี้ถือว่ามีอนาคตไกล ได้ยินว่าเป็นข้าราชการชั้นสูงในเมืองหลวง พวกเขาต้องทำตัวดี ๆด้วยหน่อย ใครจะรู้ล่ะว่าในอนาคตอาจต้องขอความช่วยเหลือจากเขาก็ได้!
ตลอดทางเอาแต่ทักทายกับคนรู้จัก จากเดินแค่ไม่กี่นาทีได้ถูกยืดระยะเวลาออกไปเป็นสิบกว่านาทีแล้ว เหมยเหมยยิงยิ้มจนปวดกรามไปหมด ยื่นมือออกมาลูบอยู่สองสามครั้ง
มีคนหวังดีวิ่งเอาเรื่องที่พวกเหยียนหมิงซุ่นมาถึงแล้วมาบอกคุณย่าหยาง จากนั้นก็ได้เห็นคุณย่าหยางที่คาดผ้ากันเปื้อนจากระยะไกลยืนอยู่หน้าประตูเงยหน้าขึ้นทอดสายตามองมา ไม่เจอกันหลายปีผมของหญิงชรามีสีขาวมากขึ้นแต่ก็ดูสดใสมีชีวิตชีวามากเช่นกัน
พอเห็นเหยียนหมิงซุ่นกับเหมยเหมยคุณย่าหยางก็ยิ้มจนตาหยี โดยเฉพาะได้เห็นถุงน้อยถุงใหญ่ในมือของเหยียนหมิงซุ่น ปากแทบหุบยิ้มไม่ได้เลย หางตาพลันเหลือบมองเพื่อนบ้านที่ออกมาสอดส่องเพื่อความบันเทิงใจ เธอจึงจงใจพูดขึ้นเสียงดังว่า “ซื้อของมาทำไมเยอะแยะล่ะ? ย่ากับปู่ของแกกินหมดเสียที่ไหนกัน!”
…………………………………………………….
ตอนที่ 1635 อั่งเปาซองหนา
คุณย่าหยางเห็นของเยอะแยะก็พลันดีใจเป็นอย่างมาก รู้สึกพอใจกับเหมยเหมยมากขึ้น เธอรู้ดีว่าของพวกนี้เหมยเหมยเป็นคนซื้อ ทุกครั้งที่เหยียนหมิงซุ่นกลับมาก็มักจะให้แต่เงิน บอกเธอกับตาแก่ว่าอยากได้อะไรก็ให้ไปซื้อเอง
เงินเธอก็ชอบอยู่หรอก แต่ปัญหาก็คือเธอไม่อาจให้หลานชายคนโตให้เงินกับเธอต่อหน้าเพื่อนบ้านได้?
แบบนั้นก็ดูจะเปิดเผยไปหน่อย!
เพื่อนบ้านพวกนี้ก็ชอบนินทาเอามาก มักพูดลับหลังว่าเหยียนหมิงซุ่นเอาแต่กลับมามือเปล่า อกตัญญู คุณย่าหยางได้ยินก็พลันโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ อยากจะเอาเงินที่เหยียนหมิงซุ่นให้เธอนั้นไปฟาดใส่หน้าคนพวกนั้น!
แต่ตอนนี้ดีเลย ให้พวกเขาได้แหกตาดูกันชัด ๆว่าหลานชายคนโตกับหลานสะใภ้ของเธอนั้นกตัญญูแค่ไหน!
พอคุณย่าหยางพูดแบบนั้นก็มีคนเอ่ยเสริมขึ้นมา “โอ้โฮ นี่ซื้ออะไรดี ๆมาบ้างเนี่ย ขนม เหล้า ยาบำรุง… ของพวกนี้แพงมากเลยสินะ?”
“ต้องแพงสิ ซื้อมาจากเมืองหลวงเลยนะ ไม่แพงได้อย่างไร?”
…
หลายคนพากันพูดเจื้อยแจ้ว ถกเถียงกันอย่างครึกครื้นกับราคาข้าวของในมือที่เหยียนหมิงซุ่นหิ้วอยู่จนพอใจถึงได้กลับเข้าบ้านกัน
เหยียนหมิงซุ่นเห็นสีหน้าพึงพอใจของคุณย่าหยาง ถึงได้เข้าใจว่าทำไมเมื่อก่อนที่เขาให้เงินกับหญิงชราเธอถึงมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนั้น!
ช่างไม่เข้าใจจริง ๆว่าคุณย่าของเขาคิดอะไรอยู่ ทั้ง ๆที่เขาเงินที่เขาให้ไปสามารถซื้อของดี ๆได้มากกว่าของในมือเขาหลายสิบชิ้นเลยทีเดียว!
“เข้าบ้านเร็ว กินขนมกันก่อน เย็นอีกนิดค่อยทานมื้อค่ำ” คุณย่าหยางทักทายอย่างอบอุ่น จูงมือเหมยเหมยแล้วส่งยิ้มด้วยสีหน้าอ่อนโยน
เมื่อเดินมาถึงประตูบ้านเธอจึงนึกขึ้นได้ เอ่ยเตือน “พ่อของหลานกับถานซูฟางก็อยู่ พวกเธอไม่ต้องสนใจเขาหรอก”
เหยียนหมิงซุ่นพลันขมวดคิ้ว ถานซูฟางวิ่งมาถึงนี่ได้อย่างไร?
พูดว่าซวยความซวยก็มาเยือน ถานซูฟางวิ่งออกมาออกมาด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม จังหวะที่เห็นเหมยเหมยเธอก็ตกตะลึง รอยยิ้มก็เจื่อนลงในฉับพลัน
ทำไมจ้าวเหมยถึงกลับมาฉลองปีใหม่พร้อมเหยียนหมิงซุ่นล่ะ?
ยายแก่หนังเหนียวร้ายกาจ เมื่อกี้ไม่คิดจะบอกอะไรสักคำ จนทำให้เธอคิดว่าเหยียนหมิงซุ่นกับจ้าวเหมยเลิกลากันไปแล้ว!
แต่กลับมาด้วยกันก็ดี แบบนี้หากทำไปตามแผนการที่เธอวางไว้จะได้ผลยิ่งกว่าเดิม !
พอถานซูฟางขบคิดได้อย่างรวดเร็วรอยยิ้มแสนอบอุ่นก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ยื่นมือออกไปหมายจะรับของในมือเหยียนหมิงซุ่น “ฉันถือเอง ดูท่าจะหนักน่าดู!”
เหยียนหมิงซุ่นเหลือบมองเธออย่างเย็นชา ยื่นมือหลบไปด้านข้างพร้อมกับจูงมือเหมยเหมยเข้าบ้าน มองเธอราวกับคนแปลกหน้า
ถานซูฟางยิ้มค้างฉับพลัน ยืนทื่อทำตัวไม่ถูก มือยื่นค้างเติ่งอยู่กลางอากาศอยู่ในท่ารับของ เธอดึงมือกลับอย่างรวดเร็ว กัดฟันแน่นจนแทบหักแล้วฝืนตัวเดินตามเข้าบ้าน
เพียงแค่แผนการของเธอสำเร็จ ดูสิว่าถึงเวลานั้นเหยียนหมิงซุ่นจะแผลงฤทธิ์อย่างไรอีก?
เหยียนโฮ่วเต๋อเห็นเหยียนหมิงซุ่นก็ลุกพรวดอย่างดีใจ แต่พอเห็นท่าทีเย็นชาของเหยียนหมิงซุ่น คำพูดที่ทะลักขึ้นมาที่มุมปากกลับต้องกลืนลงไปใหม่และนั่งลงด้วยความหงุดหงิด
เขาต่างหากที่เป็นพ่อ มีสิทธิ์อะไรต้องอ่อนข้อให้ก่อน?
คุณย่าหยางที่เห็นสถานการณ์เช่นนั้นก็ลอบถอนหายใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เข้าไปยกเกี๊ยวในครัวออกมาสองถ้วย ยิ้มพลางพูดว่า “ไส้หมูผักจี้ไฉ่ รีบกินตอนร้อน ๆเถอะ”
“ขอบคุณค่ะคุณย่าหยาง” เหมยเหมยรับเกี๊ยวมา
“ยังจะเรียกว่าคุณย่าหยางอีก ต้องเรียกตามหมิงซุ่นสิ เรียกว่าคุณย่าสิ” คุณย่าหยางพูดอมยิ้ม
เหมยเหมยหน้าแดงระเรื่อ เอ่ยพูดเสียงเบา “คุณย่า!”
“อื้ม รอก่อนนะย่าจะให้อั่งเปา” คุณย่าหยางจิตใจเบิกบาน หยิบอั่งเปาซองใหญ่ที่เตรียมไว้ก่อนหน้านั้นออกมา ยัดใส่มือเหมยเหมย
ถานซูฟางคิ้วกระตุก อั่งเปาเมื่อกี้ซองหนามาก อย่างน้อย ๆก็ต้องมีหนึ่งพันหยวน ยายแก่ช่างใจกว้างไม่เบา เมื่อก่อนเธอเข้าบ้านครั้งแรกไม่เห็นให้เงินสักแดงเดียว เหอะ!
คุณปู่เหยียนเองก็ให้อั่งเปาด้วย เหยียนโฮ่วเต๋อก็คิดอยากให้แต่เหมยเหมยกลับไม่เรียกเขา ถ้าเขาออกตัวก่อนก็ดูจะเสียหน้าเกิน เหมยเหมยเองก็ลำบากใจ แล้วเธอควรจะเรียกดีหรือเปล่านะ?
เหยียนหมิงซุ่นคีบเกี๊ยวใส่จานเหมยเหมยไปหลายชิ้น พูดเสียงอ่อน “รีบกินเกี๊ยวสิ เดี๋ยวจะเย็นเสียก่อน”
เหมยเหมยโล่งใจในทันที สงบจิตสงบใจกินเกี๊ยวต่อ
เหยียนโฮ่วเต๋อสบถอย่างโมโห ใบหน้าเย็นชาขึ้นทันที!
……………………………………………