ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1642 ผิดไซส์ + ตอนที่ 1643 อยู่บนเตียง
ตอนที่ 1642 ผิดไซส์
เหยียนหมิงซุ่นเปิดกล่องในมือด้วยความข้องใจ ซึ่งด้านในมีลูกโป่งสีเหลืองอ่อนใสจัดวางเรียงเป็นระเบียบ อยู่เต็มกล่อง สติปัญญาใช้การไม่ได้ไปชั่วขณะ นี่มันอะไรกัน?
คุณย่าหยางอธิบายอย่างใจเย็นว่า “นี่คือถุงยางอนามัย มีความยืดหยุ่นดีมากเลยนะ หมิงซุ่นหลานน่าจะใช้ได้ ตอนนี้เหมยเหมยยังเด็กหลานจะให้นังหนูมีลูกตั้งแต่อายุยังน้อยไม่ได้หรอกนะ”
เหยียนหมิงซุ่นมีสีหน้าระอา…
คุณย่าของเขาก็จริง ๆเลย ตั้งใจเอากล่องถุงยางอนามัยมาให้เขาเลยเหรอนี่!
เขากับเหมยเหมยต้องป้องกันอยู่แล้ว ส่วนใหญ่เขาจะควบคุมเอาออกมาปล่อยข้างนอก บางครั้งก็จะคำนวณวันปลอดภัย น้อยครั้งนักจะใช้ถุงยางอนามัย และเขาก็จะไม่ยอมให้เหมยเหมยกินยาแน่นอน
“ผมคงไม่ต้องใช้หรอกครับ คุณย่าเอากลับไปเถอะครับ” เหยียนหมิงซุ่นคืนกล่องกลับไปโดยไม่ต้องคิด น่าอึดอัดเป็นบ้าเลย
“ทำไมถึงไม่ใช้ล่ะ? หลานอยากทำให้เหมยเหมยท้องหรือไง? หมิงซุ่นย่าจะบอกให้นะอย่าไปเชื่อเรื่องปล่อยข้างนอกกับนับวันปลอดภัยเด็ดขาด พวกนี้ไม่ปลอดภัยเลยสักนิด ไม่ใช่ว่าย่าดูถูกผู้ชายแบบพวกหลาน ๆอะไรหรอกนะ แต่พอถึงเวลานั้นจะมีผู้ชายสักกี่คนกันที่จะไม่ลืมเอามาปล่อยด้านนอกน่ะ?
ผู้ชายสบายตัวชั่วขณะแต่ผู้หญิงลำบากไปชั่วชีวิต หลานอย่าทำตัวเป็นผู้ชายไร้ความรับผิดชอบแบบนั้นสิ วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือใส่ถุงยางอนามัย ทั้งสะอาดและปลอดภัย ดีต่อคุณดีต่อเธอและดีต่อทุกคน…”
คุณย่าหยางพูดยาวเหยียดเป็นพรวนจนเสริมคำพูดรณรงค์ตอนแจกถุงยางให้โรงเรียนและครอบครัวไปโดยไม่รู้ตัว เหยียนหมิงซุ่นสีหน้าบึ้งตึงขึ้นมาทันที
ถกประเด็นเรื่องนี้กับคุณย่าตัวเองมันน่าอึดอัดเสียจริง…
เขายื้อแย่งกล่องมาแล้วดันคุณย่าหยางออกไป แล้วพูดเสียงฮึมฮัมว่า “ผมเข้าใจแล้วครับ ถ้าคุณย่าไม่มีธุระอะไรก็ไม่ต้องมาเคาะประตูนะครับ”
คุณย่าหยางทำหน้าประมาณว่า ‘ฉันรู้หมดทุกอย่างแหละ’ แล้วพยักหน้ารับไม่หยุดพร้อมเอ่ย “เข้าใจแล้ว ๆ หมิงซุ่นหลานวางใจใช้มันได้เลย พรุ่งนี้ย่าจะไปซื้ออัณฑะวัวมาให้จะได้บำรุงร่างกายสักหน่อยนะ!”
“พลั่ก”
เหยียนหมิงซุ่นปิดประตูลงอย่างหมดความอดทนแล้วยังใส่กลอนประตูด้วย
คุณย่าหยางลูบจมูกปอย ๆพร้อมยิ้มตาหยี หลายชายคนโตเขินเข้าแล้ว
ไม่รู้ว่าตอนนี้หลานชายคนโตไซส์เท่าไร ตอนเด็กขนาดก็ใหญ่นำเด็กผู้ชายรุ่นเดียวกันไปหนึ่งไซส์อย่างน่าประหลาดแล้ว!
เหมยเหมยช่างมีบุญจริง ๆ!
เหยียนหมิงซุ่นปิดประตูด้วยใบหน้าบึ้งตึง หมุนตัวกลับมาก็เห็นเหมยเหมยกุมท้องหัวเราะกรามค้างกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียง เขาจึงวางกล่องลงอย่างไม่ใส่ใจ ขายาวข้างหนึ่งกดลงบนตัวเหมยเหมย กดเสียงต่ำถาม “ตลกนักหรือไง?”
เหมยเหมยปาดน้ำตาที่ขำจนน้ำตาเล็ดออกแล้วใช้แรงพยักหน้า แต่ดวงตากลับเหลือบไปมองกล่องที่วางอยู่ด้านข้าง อยากจะเห็นเหลือเกินว่าถุงยางอนามัยในยุคเก้าศูนย์มันเป็นอย่างไรนะ!
เหยียนหมิงซุ่นฉีกยิ้มที่มุมปากแต่ในดวงตากลับปล่อยไออันตรายออกมา ขาทับท่อนล่างของเหมยเหมยไว้ เพียงครู่เดียวก็ถอดเสื้อผ้าท่อนบนจนเกลี้ยงและตามด้วยท่อนล่าง จากนั้นก็กลายเป็นแพะน้อยที่รอเชือดอย่างรวดเร็ว ถึงแม้จะมุดอยู่ในผ้าห่มก็ยังตัวสั่นสะท้านอยู่ดี
“หนาว…”
“เดี๋ยวขยับตัวหน่อยก็ไม่หนาวแล้ว”
เหยียนหมิงซุ่นเองก็กระชากเสื้อผ้าบนกายออกแล้วมุดเข้าไปในผ้าห่ม ร่างกายที่ร้อนรุ่มทำให้ผ้านวมอุ่นขึ้นและร้อนขึ้นในทันที
“พี่ก็ใช้ถุงยางอนามัยที่คุณย่าเอามาให้สิ ผู้ใหญ่เขาเจตนาดีนะ!” เหมยเหมยหายใจหอบแต่น้ำเสียงออดอ้อน
เหยียนหมิงซุ่นมองค้อนใส่แต่คิด ๆดูแล้วก็หยิบจากกล่องมาชิ้นหนึ่ง เหมยเหมยรับมาด้วยความอัศจรรย์ใจ เป่าปากอย่างยียวนและพูดขึ้นว่า “ฉันใส่แทนพี่เอง…”
บรรยากาศเร้าร้อนมาก เหยียนหมองซุ่นเองก็ใกล้ถึงอารมณ์ขีดสุดเต็มที อีกเพียงนิดเดียวเขาก็พร้อมจะปลอดปล่อยออกมาแล้ว
แต่ทว่า——
สอดใส่ไปได้ครึ่งหนึ่งเหยียนหมิงซุ่นก็ส่งเสียงร้องคำรามเสียงเบาอย่างเจ็บปวด ตนดึงถุงยางออกและกัดฟันพูดว่า “เล็กเกินไป!”
คุณย่าของเขาทำเรื่องบ้าอะไรเนี่ย?
แล้วยังบอกว่ายืดหยุ่นดีอีก นี่แทบรัดน้องชายของเขาขาดอยู่แล้ว!
“พรืด”
เหมยเหมยปล่อยขำก๊ากออกมา อันที่จริงคือกลั้นไม่อยู่แล้ว คุณย่าหยางช่างน่ารักเหลือเกิน!
“ยัยตัวแสบ ใครให้เธอหัวเราะกันฮะ…”
เหยียนหมิงซุ่นเหยียดตัวเกร็ง เพียงครู่เดียวเขาก็ปลดปล่อยความสุขออกมา ทั้งห้องอบอวลไปด้วยความรัก
……………………………………
ตอนที่ 1643 อยู่บนเตียง
คืนนี้เหยียนหมิงซุ่นมีพละกำลังยิ่งกว่ากินซุปอัณฑะวัวเสียอีก ขยับท่วงท่าบนร่างกายเหมยเหมยอย่างแข็งขันจนถึงดึกดื่น วันรุ่งขึ้นเหมยเหมยจึงยังนอนอยู่บนเตียงตามคาด
“จะเที่ยงอยู่แล้ว ทำไมยังไม่ลุกจากเตียงกันอีก? ไม่มีกฎระเบียบเอาเสียเลย” เหยียนโฮ่วเต๋อกินมื้อเช้าไปบ่นอุบอิบไป
เพราะว่าเหยียนหมิงซุ่นและเหมยเหมยต่างก็ปฏิบัติต่อเขาเหมือนคนไร้ตัวตน เขาจึงต้องสร้างความรู้สึกของการมีอยู่ตลอดเวลา แต่เขากลับไม่รู้ว่ายิ่งทำแบบนี้ก็ยิ่งทำให้น่ารำคาญ
ถานซูฟางกินอยู่เงียบ ๆแต่ในใจกลับคิดวางแผนอย่างรวดเร็ว ครั้งนี้เธอให้ของขวัญชิ้นใหญ่ถึงขอลาหยุดพักได้หนึ่งเดือน แต่ก็พักอยู่เมืองจินได้แค่เพียงเดือนครึ่ง เธอต้องคิดหาทางให้ได้โดยเร็วที่สุด
พูดจาดี ๆกับเหยียนหมิงซุ่นคงไม่มีทางเป็นไปได้ เหยียนหมิงซุ่นเกลียดเธอจะตายไป เธอคงต้องใช้วิธีอื่นเสียแล้ว!
“หมิงซุ่น หลานจะไปหมู่บ้านตระกูลโม่เมื่อไหร่?” คุณย่าหยางถาม
มือของเหยียนโฮ่วเต๋อชะงักอยู่ครู่หนึ่งท่าทางเปลี่ยนไปดูไม่เป็นธรรมชาติ งุดหน้าลงยิ่งกว่าเดิมง่วนอยู่กับการกินโจ๊ก
“พรุ่งนี้ค่อยไปครับ ย่ากับปู่ไม่อยากไปอยู่ที่เมืองหลวงจริง ๆเหรอครับ?” เหยียนหมิงซุ่นถามขึ้นอีกครั้ง
การงานและการใช้ชีวิตของเขาในวันข้างหน้าส่วนใหญ่คงต้องอยู่ที่เมืองหลวงเป็นหลักอย่างไม่ต้องสงสัย คงจะไม่ได้กลับมาบ่อย ๆ คนแก่ทั้งสองคนก็อายุมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ควรมีคนดูแลอยู่ใกล้ ๆ เอามาอยู่ข้างกายน่าจะวางใจได้มากกว่า
สำหรับเหยียนโฮ่วเต๋อลูกชายคนนี้คงหวังอะไรไม่ได้อีกแล้ว
คุณปู่เหยียนและคุณย่าหยางครุ่นคิดเงียบ ๆไม่พูดไม่จา เหยียนหมิงซุ่นพูดอีกครั้งว่า “ไม่อย่างนั้นปู่กับย่าลองไปอยู่ที่เมืองหลวงก่อนสักสามสี่วัน หากรู้สึกว่าไม่ชินจริง ๆค่อยกลับมา ดีไหมครับ?”
คุณย่าหยางตาเป็นประกาย วิธีการนี้ดี ถึงอย่างไรตอนนี้นั่งเครื่องบินก็สะดวกสบายมากจึงตอบกลับไปอย่างสบาย ๆว่า “ได้ หลังปีใหม่ย่ากับตาของแกจะไปพักอยู่ที่นั่นสักสามสี่วัน รอแกกับเหมยเหมยมีลูก ฉันยังช่วยเลี้ยงหลานได้อีกนะ!”
เหยียนหมิงซุ่นมุมปากกระตุก เรื่องเลี้ยงหลานรอไปก่อนดีกว่ามั้งง!
เขาก็ไม่กล้าพูดว่าตอนนี้จะไม่มีลูกกลัวว่าคุณย่าจะร้อนใจจนมาเร่งเขาเอา จึงได้พยักหน้าไม่ปริปากพูด คุณย่าหยางกลับเข้าใจผิดไปว่าทั้งสองคนเรียนจบก็จะมีลูกเลยจึงร่าเริงขึ้นมา คุณปู่เหยียนก็ยิ้มหน้าชื่นตาบานเช่นกัน รู้สึกดีและประทับใจในตัวเหมยเหมยขึ้นมาเยอะ
อย่างน้อยก็ไม่เหมือนหญิงสาวบางคน แต่งงานแต่กลับไม่มีลูกบอกว่ากลัวส่งผลกระทบต่อร่างกาย และยังบอกอีกว่ากลัวว่าจะเสียพื้นที่ความเป็นส่วนตัวไป เหตุผลมีเยอะแยะเต็มไปหมด ก็แค่ไม่ยอมมีลูกแต่ทำเอาเขาโมโหเกือบตาย
คุณไม่คลอดฉันไม่คลอดทุกคนไม่คลอด แล้วสังคมจะดำเนินต่อไปอย่างไร? มนุษย์บนโลกนี้จะสูญพันธุ์ไปหมดใช่ไหมล่ะ?
เหยียนโฮ่วเต๋อแอบกังวลใจ ทุกคนไปเมืองหลวงกันหมดแล้วในเมืองจินก็เหลือเขาเพียงคนเดียวแล้ว เขาจึงวิตกกังวลร้อนใจชั่วขณะ พูดโพล่งออกมาว่า “แม่ แม่ไปไม่ได้ แม่ไปแล้วผมจะไปกินข้าวที่ไหนกันล่ะ?”
คุณย่าหยางหน้าขรึมลง ผ้าขี้ริ้วลอยมาอีกครั้ง ด่ายกใหญ่ว่า “ฉันเป็นแม่บ้านที่แกจ้างมาหรือไง? แกไม่มีมือไม่มีเท้า ทำเองไม่เป็นหรือไง?”
เหยียนโฮ่วเต๋อดึงผ้าขี้ริ้วไว้ไม่กล้าโต้ตอบกลับ มีอาหารให้กินโดยไม่ต้องทำเองใครจะยอมทำกันล่ะ พูดก็พูดเถอะเขาโตจนป่านนี้ยังไม่เคยเข้าครัวเลย แม้กระทั่งต้มบะหมี่ง่าย ๆยังไม่เคยทำเลย คงจะไม่ให้คนอายุมากอย่างเขาไปเรียนทำอาหารหรอกนะ?
ถานซูฟางใจเต้น รีบพูดด้วยดี ๆว่า “แม่อย่าโมโหเลย หากฉันอยู่ที่เมืองจินจะต้องสามารถดูแลคุณเหยียนได้ดีแน่ ๆ”
คุณย่าหยางเหลือบมองเธอ พูดตำหนิว่า “ฝีมือการทำอาหารของเธอก็งั้น ๆจะกลับมาทำไม? หากไม่ได้จริง ๆก็จ้างแม่บ้านเอา ตอนนี้มีเงินยังกลัวว่าจะไม่มีข้าวกินอีกหรือไง?”
ถานซูฟางไปทำงานที่ชายแดนในหลายปีมานี้เป็นช่วงเวลาที่คนแก่อย่างเธอใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจเป็นที่สุด จะไม่ให้ผู้หญิงคนนี้กลับมาเพิ่มความกลัดกลุ้มใจอีกเด็ดขาด
เหยียนหมิงซุ่นเหลือบไปมองถานซูฟางที่มีสีหน้าบึ้งตึงอยู่แวบหนึ่ง คิดจะกลับเมืองจินงั้นเหรอ?
เชอะ ชั่วชีวิตนี้อย่าได้คิดเลย!
ใช้ชีวิตยากจนข้นแค้นอยู่ที่เขตภูเขาอย่างสงบเพื่อเป็นการชดใช้ความผิดและไถ่โทษให้กับแม่ของเขาเสียเถอะ!
สำหรับเหยียนโฮ่วเต๋อ หากไม่ใช่เพราะกลัวคุณปู่คุณย่าจะทุกข์ใจล่ะก็ เขาก็อยากจะส่งไปอยู่ชายแดนด้วยกันเสียจริง ๆ ช่างเถอะ…รอหลังจากพวกเขาตายไปก่อน ค่อยให้หมอนี่ชดใช้ความผิดก็แล้วกัน!
……………………………………………..