ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1646 ฝึกฝนภรรยา + ตอนที่ 1647 คุณยายคะ ได้โปรดปล่อยหนูไปเถอะ
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1646 ฝึกฝนภรรยา + ตอนที่ 1647 คุณยายคะ ได้โปรดปล่อยหนูไปเถอะ
ตอนที่ 1646 ฝึกฝนภรรยา
ในจานมีธัญพืชแห้งสองชนิด ชนิดหนึ่งก็คือถั่ววอลนัทสีน้ำตาลทองเป็นของขึ้นชื่อหมู่บ้านตระกูลโม่ อีกอันคือถั่วเซียงเฟ่ย[1]ปากแหลมทรงวงรีเป็นของขึ้นชื่อตำบลเซิ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านตระกูลโม่ ซึ่งราคาสูงกว่าถั่ววอลนัท
ถึงแม้ว่าถั่วเซียงเฟ่ยเป็นธัญพืชแห้งแต่กินแล้วไม่เป็นร้อนใน ในทางตรงกันข้ามมันยังมีผลในการทำให้ปอดชุ่มชื้นและล้างลำไส้ มีคุณค่าทางยาสูงมาก นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ขายดีมากในช่วงสองปีที่ผ่านมาเฉกเช่นเดียวกับถั่ววอลนัท
เมื่อก่อนไม่เคยมีใครสนใจ แต่สองปีมานี้อยู่ดี ๆกลับได้รับความนิยมอย่างกะทันหัน จนส่งออกแทบไม่ทัน
โม่เหวินต้งพูดยิ้ม ๆว่า “เหยียนหมิงซุ่นยังจำต้นถั่ววอลนัทที่นายซื้อเมื่อสองสามปีก่อนได้ไหม? แค่ต้นพวกนี้เพียงอย่างเดียวก็สามารถสร้างรายได้หลายแสนต่อปี หักค่าแรงงานนิดหน่อยที่เหลือก็เป็นกำไรทั้งนั้น คนที่ขายต้นไม้ให้เราตอนนั้นคงเสียดายน่าดู!”
เวลานี้เหมยเหมยถึงนึกขึ้นมาได้ หกปีก่อนในช่วงวันหยุดฤดูร้อนที่หมู่บ้านตระกูลโม่ เด็กอ้วนน้อยและสยงมู่มู่ขัดขวางไม่ให้พวกชาวบ้านตัดต้นถั่ววอลนัท จากนั้นเหยียนหมิงซุ่นจึงซื้อต้นไม้เหล่านี้ไว้ ต้นถั่ววอลนัทแปดถึงเก้าในสิบส่วนของหมู่บ้านตระกูลโม่ตอนนี้เกือบตกอยู่ในมือของเหยียนหมิงซุ่นทั้งหมดแล้ว
เธอหันไปขยิบตาให้เหยียนหมิงซุ่นที่นิ่งตะลึงงันไปแล้วอย่างลำพองใจ ตอนนี้รู้ถึงความเก่งกาจของเธอแล้วใช่ไหมล่ะ?
โม่ซิวหย่วนเดินเข้ามา สวมแว่นตาขอบทอง หน้าตาหล่อเหลา ท่าทางดูเหมือนหนอนหนังสืออมยิ้มและพูดว่า “ พูดก็พูดเถอะคนที่มองการณ์ไกลที่สุดก็คือเหมยเหมย ตอนนั้นถ้าเธอไม่บอกให้ซื้อไว้คงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีผลกำไรมากมายอย่างในตอนนี้”
ปีละหลายแสนไม่ใช่จำนวนเงินน้อย ๆ ไม่รู้ว่ามีคนในหมู่บ้านกี่คนที่กำลังอิจฉาตาร้อนอยู่!
เหมยเหมยหัวเราะ พูดอย่างถ่อมตัวว่า “หนูก็แค่ไม่อยากเห็นพวกเขาตัดต้นไม้ดี ๆก็เท่านั้นเอง ไหนเลยจะรู้ว่าต้นไม้เหล่านั้นยังสามารถทำเงินได้ด้วย!”
โม่เหวินต้งหัวเราะและพูดว่า “ไม่ว่าจะพูดอย่างไรเหมยเหมยก็เป็นดาวนำโชคของครอบครัวเราและหมิงซุ่น พวกนายว่าจริงไหมล่ะ?”
“คุณย่าโม่ก็พยักหน้าระรัว “ใช่ ๆ เป็นดาวนำโชค เหมยเหมยกินเยอะ ๆหน่อย ดูสิว่าเธอผอมจนไม่มีเนื้อไม่มีหนังแล้ว”
คุณย่าบีบแขนเหมยเหมยเบา ๆ ทำสีหน้าสงสาร วางแผนจะให้เหยียนหมิงซุ่นอยู่ที่บ้านต่ออีกสักสองสามวัน เธอจะต้องขุนเหมยเหมยให้ได้ ผอมติดกระดูกมากขนาดนี้วันหลังคลอดลูกจะลำบากเอา!
เหมยเหมยถอนหายใจอย่างระอา วิสัยทัศน์ของคนแก่ยังคงแตกต่างกันมากจริง ๆ เห็นได้ชัดว่าเธอมีรูปร่างมาตรฐาน แต่ไม่ว่าจะเป็นคุณย่าหยางหรือคุณยายโม่ต่างก็บอกว่าเธอผอมเกินไป เอาแต่หวังว่าจะขุนเธอให้ได้มากกว่าห้ากิโลต่อเดือนถึงจะดี
“หนูกินไม่ไหวแล้วค่ะ” เหมยเหมยตบพุงตัวเอง มองไปที่ธัญพืชที่กินอย่างไรก็กินไม่หมดตรงหน้า หากว่าเธอยังไม่ปฏิเสธอีก เกรงว่าคุณยายโม่คงเอาออกมาไม่หยุด
คุณยายโม่กำลังเตรียมตัวไปเอาขนมข้าวพองออกจากตู้ แต่พอได้ยินเช่นนั้นก็ชะงักฝีเท้า เมื่อเห็นว่าเหมยเหมยดูเหมือนกินอิ่มแล้วจริง ๆจึงกล่าวอย่างเสียดายว่า “งั้นค่อยกินทีหลังแล้วกัน ตอนค่ำพวกเรากินเป็ดกัน ยายฆ่าเป็ดแก่สองตัวเอามานึ่งแล้ว เหมยเหมยเดี๋ยวอีกครู่เธอดื่มน้ำมันนะ เป็นของบำรุงร่างกายชั้นดีเลย”
เหมยเหมยได้แต่ร้องในใจว่าท่าไม่ดีแล้ว น้ำซุปเป็ดเป็นอะไรที่เธอไม่ชอบที่สุด ทั้งมันทั้งเลี่ยน ดื่มแค่อึกเดียวเธอก็อิ่มแล้ว
คุณยายมีน้ำใจกระตือรือร้นเกินไปจนเธอรับไม่ไหวแล้ว!
เหยียนหมิงซุ่นมองใบหน้ายุ่งเหยิงของเหมยเหมยก็มีความขบขันอยู่ในดวงตา ไม่นิ่งดูดายอีกต่อไปพูดด้วยใบหน้าเรียบนิ่งว่า “น้ำซุปเป็ดให้สือโถวกิน เหมยเหมยแค่ดูผอมแต่อันที่จริงเนื้อเยอะจะตาย ถ้ากินอีกคงเป็นเจ้าอ้วนแล้วล่ะ”
ยัยปีศาจน้อยส่วนไหนที่ควรผอมก็ผอม ส่วนไหนที่ควรอ้วนก็มีเนื้อหนังไม่น้อย ร่างกายอ่อนนุ่มนิ่มทำให้เขาพอใจเป็นอย่างมาก
คนอื่น ๆไม่ได้มีท่าทีอะไร แต่เหวินต้งและโม่ซิวหย่วนกลับยิ้มอย่างมีเลศนัย โม่เหวินต้งถึงกับกอดคอของเหยียนหมิงซุ่นกระซิบข้างหูว่า “ลูกชายของนายไม่เบาเลยนะ แข็งแกร่งกว่าซิวหย่วนเยอะ!”
“แน่นอนอยู่แล้ว!” เหยียนหมิงซุ่นรู้สึกว่าตัวเองไม่มีอะไรให้ต้องอับอาย
โม่ซิวหย่วนตอนนี้ยังเป็นแค่ชายแก่โสด แต่อายุสิบหกเขาก็เริ่มฝึกฝนภรรยาแล้วจะสามารถเอามาเทียบกับเขาได้ไงล่ะ?
…………………………………………..
ตอนที่ 1647 คุณยายคะ ได้โปรดปล่อยหนูไปเถอะ
คนหมู่บ้านตระกูลโม่มีอัธยาศัยดีเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน โดยปกติแล้วตอนไม่ใช่ช่วงเทศกาลหากมีแขกมาบ้านจะดูแลต้อนรับเป็นพิเศษอย่างดี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงวันตรุษจีนเลยอย่างน้อยห้ามื้อต่อวัน ไม่นับขนมจุกจิกอย่างอื่น
อาหารหลักสามมื้อ ขนมช่วงมื้อว่างทั้งตอนเช้าและตอนบ่าย ถวนหยวนกั่ว บะหมี่ไข่ เกี๊ยว เกี๊ยวน้ำหรือไข่ต้มเหล้า…
อีกทั้งตระกูลโม่ในตอนนี้ไม่ได้เหมือนในอดีตแล้ว ยิ่งไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารการกิน คุณยายโม่ก็เปลี่ยนมาทำอาหารอร่อย ๆหลากหลายเต็มไปหมด เหมยเหมยรู้สึกว่าตั้งแต่เธอมาหมู่บ้านตระกูลโม่ ทั้งวันเธอก็เอาแต่ ——
กิน กิน กิน…
“เหมยเหมย หมิงซุ่น มา กินไข่ต้มเหล้าเสียสิ” คุณยายโม่ถือไข่ต้มเหล้าสองถ้วยเข้ามาอย่างมีความสุข
ไข่ต้มสองฟองสีขาววางอยู่ในชามลายลูกไม้สีฟ้า ตรงกลางเป็นสีส้มจาง ๆก็คือไข่แดงยางมะตูม ตอนกัดน้ำไข่แดงจะไหลเยิ้มออกมาเหมือนน้ำผึ้ง
คนที่ชอบจะรู้สึกว่าหวาน คนที่ไม่ชอบกินเช่นเหมยเหมยจะรู้สึกว่าคาว ค่อนข้างจะกลืนได้อย่างยากลำบาก
ในชามของเหยียนหมิงซุ่นมีไข่สามฟอง คุณย่ามีความหยั่งรู้พิเศษจะเป็นห่วงว่าหลานชายจะกินไม่อิ่มอยู่เรื่อย
เหมยเหมยมองไปที่ไข่ในชามอย่างเงียบ ๆ และอยากจะตะโกนดัง ๆว่า ‘คุณย่าคะ ได้โปรดปล่อยหนูไปเถอะ!’
วิธีการเลี้ยงที่เหมือนเลี้ยงหมูแบบนี้ เธอรับไม่ไหวจริง ๆ!
เสียดายที่ฉิวฉิวโดนเฮ่อเหลียนฉกเอาไปเล่นด้วยแล้ว ไม่อย่างนั้นเธอคงให้ฉิวฉิวกำจัดให้สิ้นไปแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไร ฉิวฉิวไม่อยู่ยังมีสามีอยู่!
เหมยเหมยหันไปมองเหยียนหมิงซุ่น พูดออดอ้อนเบา ๆว่า “พี่คะ…”
หวังเฟิ่งเจินภรรยาของโม่เหวินต้งที่อยู่ด้านข้าง กำลังช่วยคุณยายทำความสะอาดเตาอยู่ เมื่อได้ยินเสียงออดอ้อนของเหมยเหมย จึงอดสะดุ้งตัวสั่นสะท้านไม่ได้ เอามือแคะหูโดยไม่รู้ตัว ตัวชาขนลุกซู่ซ่าไปหมด
หวังเฟิ่งเจินเป็นหญิงเก่งที่มากความสามารถ การเลือกชา พวกเรื่องเลี้ยงไก่เลี้ยงเป็ด…เรื่องทั้งในและนอกสามารถจัดการได้หมด หน้าตาไม่เลวแค่ไม่ชอบแต่งตัว ดูเหมือนแก่กว่าโม่เหวินต้งทั้ง ๆที่เธออายุน้อยกว่าสองปี
อันที่จริงเหยียนหมิงซุ่นก็อิ่มจนจุกแล้ว เอาตามความถี่ที่คุณย่าเอาของกินมาให้ ต่อให้เขาจะเป็นทหารหัวแถวก็กินไม่ไหว แต่ถึงอย่างไรก็แข็งแกร่งกว่าเหมยเหมยเยอะ ยังสามารถยัดลงไปได้อีกหน่อย
“ตอนกลางคืนเพิ่มอีกสองรอบ…”
ไข่สองฟองเพิ่มสองรอบ เขาพูดได้ง่ายจริง ๆ
เหมยเหมยมองเขาเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ก็เรียกเขาว่า’พี่’อีกครั้ง ครั้งนี้เต็มไปด้วยความเซ็กซี่มากขึ้น เหยียนหมิงซุ่นกลับไม่สนใจเธอ เอาแต่ชูสองนิ้วแล้วกินไข่ด้วยท่าทีเฉยชา
พอตาเห็นคุณย่าโม่จะเดินเข้ามาอีกแล้ว เหมยเหมยจึงทำได้แค่เพียงกัดฟันตกลง หยิกเอวเขาอย่างโมโห
คนเลว รู้จักแต่เอารัดเอาเปรียบคนอื่น!
เหยียนหมิงซุ่นยกยิ้มมุมปากอย่างลำพองใจ เอาไข่จากชามของเหมยเหมยเทลงในชามของตัวเองอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ กินคำละฟอง บวกกับของเขาสามฟอง เขากินไข่ห้าฟองในเวลาแค่แวบเดียว กระทั่งเรอออกมาเป็นกลิ่นไข่เลยทีเดียว
“เอิ๊ก…”
เหยียนหมิงซุ่นเรอติดกันอยู่หลายครั้ง เกือบจะถึงคอหอยอยู่แล้ว เขามองไปที่คุณยายของเขาที่ยังคงวุ่นอยู่บนเตาอย่างจนใจ น่าจะเตรียมอาหารมื้อต่อไปอยู่พลันนึกลำบากใจ
“คุณย่าครับ ผมพาเหมยเหมยขึ้นเขาไปดูดอกท้อนะครับ”
เหยียนหมิงซุ่นดึงเหมยเหมยลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปข้างนอก ต้องออกไปย่อยอาหารสักหน่อยแล้ว
เสียงของคุณย่าโม่ดังตามหลังมา “เดินสักรอบก็กลับมานะ ย่ากำลังปรุงไข่ลูกเจี๊ยบยี่สิบเอ็ดวัน พวกเธอรีบกลับมากินต่อนะ!”
เหมยเหมยตัวสั่น ยิ่งวิ่งเร็วขึ้นไปอีก
ไข่อีกแล้ว โอ้แม่เจ้า!
คุณยายเอาไข่มาจากไหนมากมายขนาดนั้น?
หวังเฟิ่งเจินหัวเราะพรืดออกมามองคนทั้งสองที่ตื่นตระหนกวิ่งหนีไปอย่างขบขัน ในไม่ช้าเธอก็ทำหน้าขบคิดอีกครั้ง ท่าทางของเหมยเหมยและเหยียนหมิงซุ่นเมื่อกี้ เธอเห็นมันทั้งหมดและล้วนติดตราตรึงใจอยู่ในส่วนลึก
…………………………………………..
[1] เป็นสายพันธุ์เดียวกับต้นสน มักจะพบฝั่งตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ของจีนเป็นส่วนมาก