ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1660 กลั่นแกล้งภรรยาแสนซื่อ + ตอนที่ 1661 มีแต่น้ำลายของเธอ น่ารังเกียจจะตายอยู่แล้ว
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1660 กลั่นแกล้งภรรยาแสนซื่อ + ตอนที่ 1661 มีแต่น้ำลายของเธอ น่ารังเกียจจะตายอยู่แล้ว
ตอนที่ 1660 กลั่นแกล้งภรรยาแสนซื่อ
เหยียนหมิงซุ่นปรายตามองโม่ฉิ่วหลิงอย่างเฉยเมยแวบหนึ่ง ด้วยความที่ไม่รู้จักเขาจึงละสายตาออกอย่างไวก่อนกล่าวต่อเหมยเหมยว่า “ถึงบ้านก็ต้องถอดมงกุฎดอกไม้ออกแล้วสินะ?”
เขาไม่เคยคิดเลยว่าเหมยเหมยจะชอบมงกุฎดอกไม้ที่ตัวเองร้อยมากขนาดนี้ ช่างโง่เขลาจริง ๆ!
“อืม ฉันจะตากเป็นดอกไม้แห้งแล้วทำเป็นถุงบุหงาแขวนไว้บนหัวเตียงฉัน” เหมยเหมยพูดเสียงหัวเราะคิกคักแล้วให้เหยียนหมิงซุ่นช่วยหยิบมงกุฎดอกไม้ลงมาให้เธอเพื่อเก็บรักษาไว้อย่างดี
คุณยายโม่เห็นคู่รักรักกันดีก็มีความสุข “เหมยเหมยชอบดอกท้อเหรอ รออีกไม่กี่วันดอกท้อก็จะบานเต็มเขาแล้ว ยายให้คนช่วยเก็บไว้ให้เธอหนึ่งกระสอบนะ ตากแห้งแล้วจะได้เอาไปทำเป็นหมอนดอกท้อ”
“หมอนดอกท้อก็ดีเลยสิคะ ขอบคุณค่ะคุณยาย” เหมยเหมยปากหวานเลยพูดประจบประแจงคนแก่จนหุบยิ้มไม่ลง ตักไข่ลูกเจี๊ยบในหม้อออกมาวางไว้บนโต๊ะ
“รีบมากินไข่ข้าวเร็ว คราวก่อนพวกเธอไม่ได้กิน ครั้งนี้ก็กินเยอะ ๆหน่อย เพิ่งยี่สิบเอ็ดวัน สดมากเลยล่ะ”
คุณป้าฮวากับโม่ฉิ่วหลิงตาวาวเป็นประกายวับเพราะสองแม่ลูกชอบทานไข่ข้าวกันทั้งคู่ โดยเฉพาะไข่ข้าวที่มีอายุยี่สิบเอ็ดวันมีทั้งหัวทั้งแขนและขนครบ รสชาติสดใหม่หาที่เทียบไม่ได้
เป็นครั้งแรกที่เหมยเหมยทาน เมื่อก่อนเธอเคยได้ยินเหยียนซินหย่าเอ่ยถึงแต่เหยียนซินหย่าไม่ทานโดยให้เหตุผลว่าน่าสยดสยองเกินไปเลยทานไม่ลง
เหยียนซินหย่าพูดอ้อมแอ้มเหมยเหมยเลยไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร แค่ไข่ฟองธรรมดาแล้วมันน่าสยดสยองอย่างไรกัน?
ไข่แดงของไข่เยี่ยวม้าหน้าตาคล้ายก้อนอุจจาระเหยียนซินหย่ายังทานอย่างเอร็ดอร่อยได้เลย!
“หนูเพิ่งได้กินไข่ข้าวครั้งแรกค่ะ อันนี้ต้องกินอย่างไรเหรอคะ?” เหมยเหมยถามด้วยความสนอกสนใจ
เหยียนหมิงซุ่นจุดยิ้มมุมปากแล้วเกิดแผนร้ายในใจเลยหยิบไข่ข้าวฟองหนึ่งมาแสดงเป็นตัวอย่างให้ดู “เคาะทีหนึ่งให้มีรูเล็ก ๆแล้วดูดน้ำซุปจากรูค่อยปอกเปลือกแล้วจิ้มเกลือกิน”
เขาเอาไข่ข้าวที่เคาะเป็นรูมาไว้ข้างปากก่อนดูดเบา ๆให้น้ำซุปหอมหวานไหลเข้าปาก เขาพยักหน้าอย่างพึงพอใจถึงเริ่มปอกเปลือกไข่ เหมยเหมยจ้องตาเป็นมันเลยรีบเคาะรูบนเปลือกไข่ตาม
ดูดคำหนึ่งให้น้ำซุปอุ่นร้อนเข้าปาก รสชาติสดใหม่จริง ๆด้วย เธอยกนิ้วโป้งให้เหยียนหมิงซุ่นพร้อมพูดชม “อร่อยจริง ๆด้วย!”
“ปอกเปลือกกินเนื้อข้างใน” เหยียนหมิงซุ่นตาแพรวพราวและเริ่มรู้สึกผิดในใจเล็กน้อย
หลอกภรรยาตัวเองแบบนี้นิสัยไม่ดีเกินไปหรือเปล่า?
แต่อยากกลั่นแกล้งภรรยามากจริง ๆนี่นา!
เหมยเหมยจะรู้แผนร้ายในใจของเหยียนหมิงซุ่นได้อย่างไร เธอปอกเปลือกไข่อย่างตั้งอกตั้งใจก่อนจะเผยให้เห็นเนื้อสีน้ำตาลอ่อนด้านในเลยนึกแปลกใจคนเดียว สีนี้น่าแปลกดีจังแต่เธอก็ไม่ได้คิดมากอะไร
บางทีอาจจะเป็นสีของไข่ข้าวก็ได้ ไข่เยี่ยวม้ายังเป็นสีดำเลยนี่นา!
ปอกเปลือกไปครึ่งหนึ่งแล้วจิ้มเกลือเล็กน้อยก่อนจะกัดไปคำโต สด นุ่ม หอม…
“อร่อย…รู้สึกเหมือนกำลังกินเนื้ออยู่เลย อร่อยมาก!”
เหมยเหมยค่อย ๆเคี้ยวอย่างละเอียด เหยียนหมิงซุ่นจัดการไข่ข้าวในมือภายในคำสองคำ หลังจากหมดฟองยังไม่หายอยากเลยปอกฟองใหม่ทานต่อโดยไม่กล้าจะมองเหมยเหมย
“อร่อยก็กินเยอะ ๆ ไม่พอค่อยต้มใหม่!” คุณยายโม่พูดอย่างใจป้ำ
เหมยเหมยกลับยิ่งเคี้ยวยิ่งรู้สึกถึงความผิดปกติ ทำไมในไข่มีกระดูกด้วยล่ะ?
เธอก้มมองไข่ที่ยังเหลือครึ่งฟองในมือพลันหน้าเปลี่ยนสี ปีก เล็บ ตัวยังอยู่ครบแต่ศีรษะถูกเธอทานไปแล้ว ความจริงในไข่ก็คือลูกเป็ดตัวน้อย ๆนั่นเองเพียงแค่ไม่มุดออกมาเท่านั้น
เมื่อครู่เธอทานลูกเป็ดไปตัวหนึ่งแถมยังทานลงไปพร้อมลำไส้!
“อุ๊บ…”
เหมยเหมยรีบเอามือปิดปากพุ่งตัวออกไปคายไข่ที่ยังเคี้ยวไม่ละเอียดออกมาก่อนจะอาเจียนไม่หยุดจนน้ำตาเล็ด
มิน่าเหยียนซินหย่าถึงบอกว่าน่าสยดสยองเกินไป ไม่เกินจริงเลยสักนิด!
เหยียนหมิงซุ่นเห็นแล้วปวดใจเลยก่นด่าตัวเองอยู่ภายในใจแล้วส่งน้ำชาให้เหมยเหมยบ้วนปาก
“เพราะพี่นั่นแหละ ทำไมไม่บอกให้ชัดเจน? พี่ต้องจงใจแน่ ๆ…” เหมยเหมยบ้วนปากจนน้ำหมดแก้วถึงรู้สึกสบายขึ้นมาเล็กน้อย แต่ความรู้สึกสะอิดสะเอียนในใจกลับไม่จางหายไปไหน เธอทุบกำปั้นใส่ตัวต้นเหตุด้วยความโมโห
………………………..
ตอนที่ 1661 มีแต่น้ำลายของเธอ น่ารังเกียจจะตายอยู่แล้ว
เหยียนหมิงซุ่นโอ๋ด้วยเสียงอ่อนเสียงหวานอีกไม่กี่ประโยคเหมยเหมยถึงหลุดขำแทนร้องไห้ มองค้อนใส่แรง ๆทีหนึ่งก่อนเอ่ยเสียงเบา “ไว้กลับไปฉันจะซื้อทุเรียนตุนเต็มบ้านเลย หึ!”
เหยียนหมิงซุ่นเป็นคนไม่เลือกทานแต่เขาไม่ชอบทุเรียน ปกติซื้อมาก็ถูกเหมยเหมยจัดการจนเรียบ
เดิมทีคุณยายโม่ยังเป็นห่วงว่าเหมยเหมยจะเป็นอะไรไปแต่เห็นคู่รักหยอกเอินกันอีกแล้วถึงค่อยสบายใจ แล้วเรียกป้าสะใภ้ไปทำกับข้าวพร้อมกับเธอ ในเมื่อไม่ชอบทานไข่ข้าวถ้าอย่างนั้นก็ผัดไข่ห่านให้หลานสะใภ้ทานแล้วกัน
เมื่อวานห่านที่บ้านเพิ่งฟักไข่ได้สองฟอง พอจะผัดได้จานใหญ่เชียวล่ะ!
คุณป้าฮวาที่ทานไข่ข้าวไปสามฟองกำลังปอกฟองที่สี่แล้วทานอย่างเอร็ดอร่อยก็จงใจเอ่ย “เด็กในเมืองก็คุณหนูแบบนี้สินะ กินไข่ข้าวฟองเดียวทำอย่างกับคนท้อง เหอะ ๆ!”
โม่ฉิ่วหลิงเอาศอกกระทุ้งเธอเบา ๆทีหนึ่งเป็นเชิงให้เธอพูดให้น้อย ๆหน่อย คุณป้าฮวามองเหมยเหมยตรงประตูอย่างดูถูกดูแคลนแวบหนึ่ง หน้าตาเหมือนลูกเจี๊ยบไม่มีผิด ไม่มีหน้าอกไม่มีก้น ดีกว่าลูกสาวเธอตรงไหน?
มื้อกลางวันมีแขกเพิ่มมาอีกสองคนคือสองแม่ลูกคุณป้าฮวา โม่ฉิ่วหลิงนั่งทานข้าวเงียบ ๆเลยไม่เป็นที่น่าเกลียดน่าชังเท่าไรแต่คุณป้าฮวากลับไม่เคยหยุดพูดมาตั้งแต่ต้น พูดน้ำไหลไฟดับจนน้ำลายกระเด็นใส่จานกับข้าวตรงหน้าเธอแล้ว
เหมยเหมยขมวดคิ้วแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียนขึ้นมาอีกรอบจนความอยากอาหารหายไปแทบไม่เหลือ เธอวางถ้วยลงพูดเสียงเบา “ฉันอิ่มแล้ว ข้าวพวกนี้ฉันเอาไปเทให้ไก่กินนะ”
เหยียนหมิงซุ่นรู้ว่าเธอกำลังรังเกียจคุณป้าฮวาซึ่งความจริงเขาก็รังเกียจเช่นกัน
“ฉันไปต้มบะหมี่ให้หน่อยแล้วกัน” เหยียนหมิงซุ่นเองก็วางถ้วยลงลุกเดินไปตรงหน้าเตา เหมยเหมยเดินตามหลังเขาไปต้อย ๆ “ฉันจะก่อไฟให้นะ พี่ใส่น้ำพริกเยอะหน่อยล่ะจะได้เพิ่มความอยากอาหาร”
เธอต้องการพริกเพื่อขับไล่ความรู้สึกพะอืดพะอมนี้อย่างเร่งด่วน
คุณยายโม่ก็เข้าใจได้ทันทีเพราะหลานชายรักสะอาดตั้งแต่เด็กเลยรังเกียจคุณป้าฮวาอย่างไม่ต้องสงสัย เธอตะโกนไปทางเหยียนหมิงซุ่น “หมิงซุ่น ในหม้อมีซุปเป็ด หลานตอกไข่ใส่อีกหลาย ๆใบสิ”
คุณป้าฮวากลับไม่รู้ตัวเลยสักนิดเลยอดพูดขึ้นไม่ได้ว่า “กับข้าวเยอะขนาดนี้แล้วยังต้มบะหมี่กินอีก? เด็กสาวในเมืองก็คุณหนูแบบนี้แหละ!”
เหมยเหมยชะงักฝีเท้า บ้าเอ้ย…ด่าว่าเธอเป็นคุณหนูครั้งที่สองแล้วนะ!
ครั้งแรกเธออยู่ข้างนอกเลยแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินแต่ครั้งนี้พูดต่อหน้าเธอ คนในเมืองมีความแค้นอะไรกับหล่อนอย่างนั้นหรือ?
เหมยเหมยกัดปากพยายามอดทนไม่เถียงกลับ มาเป็นแขกบ้านคนอื่นต้องสงบเสงี่ยมไว้…ฟู่…อย่าโกรธนะ
อดทนไว้!
เหยียนหมิงซุ่นเองก็ชักไม่พอใจแล้ว เขาพอจะดูออกว่าคุณป้าฮวากำลังเจาะจงมาที่เหมยเหมยอยู่ ไม่ว่าเรื่องอะไรจะเกิดขึ้นเกินสามครั้งไม่ได้ ถ้าหากมีครั้งที่สามเขาจะไม่เห็นแก่คุณตาคุณยายอีกแล้ว
ผู้หญิงของเขาไม่ได้มีไว้ให้คนอื่นมาสั่งสอนสักหน่อย!
หวังเฟิ่งเจินถลึงตาจ้องคุณป้าฮวาอย่างรังเกียจ เธอเองก็ทานไม่ลงแต่นึกเสียดายกับข้าวทั้งโต๊ะนี้
“พี่สะใภ้ฮวากินกับข้าวเยอะ ๆหน่อย อย่ามัวแต่พูดมาก” หวังเฟิ่งเจินคีบขาหมูชิ้นใหญ่ให้คุณป้าฮวา อ้วนให้ตายไปเลย
โม่ฉิ่วหลิงรู้ว่าแม่ของตนกลายเป็นที่รังเกียจของคนอื่นไปแล้วเลยแอบเตะไปทีหนึ่ง คุณป้าฮวาจำต้องหุบปากแล้วเริ่มลงมือทานขาหมูอย่างมีความสุข ของโปรดของเธอเชียวนะ
แต่ปากเธอกลับไม่ยอมสงบสักที ทีนี้ยิ่งแล้วใหญ่ทานไปด้วยพูดไปด้วย เศษเนื้อกระเด็นออกจากปากพร้อมน้ำลาย ช่างเป็นภาพอุจาดตาสิ้นดี และไม่มีกับข้าวจานไหนรอดพ้นเลยแม้แต่จานเดียว
โม่เหวินต้งวางถ้วยลงด้วยความโมโหก่อนตะโกนไปในครัว “หมิงซุ่นต้มบะหมี่เยอะ ๆหน่อยนะ”
ถ้าไม่เห็นแก่โม่มู่เกิน ป่านนี้เขาใช้ไม้กวาดไล่กลับไปแล้ว
“กินบะหมี่อะไรกัน? กับข้าวเยอะขนาดนี้ไม่กินเสียดายแย่เลย” คุณป้าฮวาไม่เข้าใจอย่างมาก คนมีเงินไม่รู้จักการใช้ชีวิตเลยจริง ๆ มีปลามีเนื้ออยู่ตรงหน้าไม่ทานดันไปทานบะหมี่เสียอย่างนั้น
สือโถ้วทนไม่ไหวอีกต่อไปจึงตะโกนออกไปว่า “บนกับข้าวมีแต่น้ำลายของคุณป้า น่ารังเกียจจะตายชัก แล้วจะให้กินอย่างไรล่ะ?”
โม่ฉิ่วหลิงหน้าแดงก่ำราวกับสีเลือดและยิ่งรู้สึกรำคาญแม่ของเธอมากกว่าเดิม
น่าอับอายขายหน้าเสียจริง!
…………………..