ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1670 คุณย่าหึง + ตอนที่ 1671 ใจคิดไม่ซื่อ
ตอนที่ 1670 คุณย่าหึง
คุณย่าหยางไม่พอใจอย่างมาก เมืองหลวงไกลขนาดนี้ยังพาผู้หญิงที่ดูเย้ายวนอย่างหยูเหม่ยเจินไปด้วย หรือว่าตาแก่อายุปูนนี้แล้วยังคิดจะผิดศีลเชิงชู้สาวอีก?
“เสี่ยวหยู เธอช่วยออกไปซื้อเกลือให้ฉันสองถุงที”
คุณย่าหยางล้วงเงินห้าสิบสตางค์ออกมาหลอกล่อให้หยูเหม่ยเจินออกไป รอหยูเหม่ยเจินเดินออกไปจากบริเวณลานบ้านคุณย่าหยางก็ตีหน้านิ่งขรึม
“คุณกับเสี่ยวหยูสนิทกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อร? ถึงได้ปกป้องเธอเหมือนของสำคัญขนาดนี้ พอฉันพูดทุกครั้งคุณก็ต้องออกหน้ารับแทนตลอด ตอนนี้จะไปเมืองหลวงยังจะพายัยเด็กนี่ไปด้วย คุณพูดมาสิว่าคุณถูกใจยัยนี่เข้าแล้วใช่ไหม?”
คุณย่าหยางยกสองมือเท้าสะเอวพลางลดเสียงให้เบาลงแต่ท่าทีความน่าเกรงขามกลับไม่ลดน้อยลงแต่อย่างใด พ่นน้ำลายใส่คุณปู่เหยียนเต็มหน้า
เหมยเหมยมุมปากกระตุก ดูไม่ออกเลยว่าคุณย่าหยางจะหึงแรงเหมือนกันนี่นา!
แต่ท่าทีที่คุณปู่เหยียนมีต่อเสี่ยวหยูมันอดชวนให้คิดไปในแง่ลบไม่ได้จริง ๆ!
คุณปู่เหยียนหน้าแดงเป็นสีตับหมูและหนังหน้ากระตุกไม่หยุดเพราะอารมณ์ที่เดือดพล่าน
“เหลวไหล เหลวไหล คุณมันไร้เหตุผลที่สุด เสี่ยวหยูจะเป็นหลานสาวของฉันได้อยู่แล้วทำไมคุณถึงพูดจาแบบนี้ออกมาได้? คุณ…คุณ…คุณ…ความคิดสกปรก!”
คุณปู่เหยียนชี้นิ้วใส่คุณย่าหยางด้วยร่างที่สั่นเทิ้ม สีหน้ากลับแย่ลงเรื่อย ๆ และดูท่าทางอาการไม่ดีสักเท่าไร เหยียนหมิงซุ่นใจหล่นวูบรีบวิ่งกลับไปเอายาทันที
คุณย่าหยางเองก็ตกใจแทบแย่ เธอไม่คิดว่าตาแก่จะมีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนี้เลยนึกเสียใจอย่างมาก รู้สึกว่าตัวเองความคิดสกปรกเกินไปจริง ๆ ไม่ควรสงสัยศีลธรรมความคิดของตาแก่เลย
หลังทานยาลดความดันคุณปู่เหยียนถึงมีสีหน้าดีขึ้นเล็กน้อยแต่กลับดูอ่อนแรงมากอยู่ดี ไม่ได้ดูแข็งแรงสุขภาพดีอย่างเช่นเคย
เหมยเหมยชงน้ำวิเศษให้เขาดื่มไปสักนิดถึงจะมีชีวิตชีวาขึ้นบ้าง
“เสี่ยวหยูออกมารับจ้างเป็นแม่บ้านเพราะหาเงินค่าเทอมให้ลูกสาวที่บ้าน ถ้าเราเลิกจ้างเธอถ้างั้นยายหนูนั่นก็ต้องอดเรียน ตอนนี้เรามีความสามารถที่จะช่วยเหลือคนอื่นได้ทำไมถึงไม่ยอมช่วยสักหน่อยล่ะ?”
คุณปู่เหยียนเล่าเหตุผลที่เขาเลือกให้เสี่ยวหยูอยู่ต่อ เขาไม่เคยคิดเลยจริง ๆว่ายายแก่จะมีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนี้ถึงได้หลงคิดว่าเขา…
เหลวไหลสิ้นดี!
คุณย่าหยางพรูลมหายใจเฮือกหนึ่ง ที่แท้ก็เหตุผลนี้นี่เอง!
“แล้วทำไมเสี่ยวหยูไม่เคยบอกฉันเรื่องนี้?” เธอยังไม่พอใจอยู่ดี
“คุณทำหน้าบึ้งตึงทุกวี่วันเสี่ยวหยูจะกล้าพูดกับคุณได้อย่างไรล่ะ!” คุณปู่เหยียนตอกกลับอย่างไม่สบอารมณ์นัก คุณย่าหยางแค่นเสียงทีและความประทับใจที่มีต่อหยูเหม่ยเจินยิ่งติดลบมากกว่าเดิม
“ถึงอย่างไรก็พาไปเมืองหลวงด้วยไม่ได้เด็ดขาด คุณก็บอกอยู่ว่าหล่อนมีลูกสาว หรือว่าคุณจะให้เสี่ยวหยูต้องพรากจากลูกสาวแท้ ๆ?”
คุณปู่เหยียนสะอึกและเริ่มครุ่นคิด นั่นสิ ยายหนูอายุน้อยขนาดนั้นต้องอยู่ห่างจากแม่ไม่ได้แน่ ๆ เป็นแม่บ้านที่เมืองจินอาจจะพอมีเวลากลับไปหาลูกสาวได้บ่อย ๆ แต่ถ้าไปเมืองหลวงก็คงไม่ได้เจอกัน
เหยียนหมิงซุ่นส่ายศีรษะอย่างระอาหน่อย ๆ ก่อนกล่าว “ไม่ต้องพาไปเมืองหลวงหรอก ในเมื่อหยูเหม่ยเจินคนนี้มาเป็นแม่บ้านเพื่อค่าเล่าเรียนของลูกสาวงั้นเราก็ให้เงินเดือนเธอเพิ่มอีกหนึ่งเดือนค่อยหางานใหม่ให้เธอ แบบนี้คุณปู่คงจะวางใจแล้วสินะ?”
คุณปู่เหยียนยิ้มอย่างพึงพอใจ “ได้ งั้นทำตามที่หมิงซุ่นบอกเลย”
ขอแค่ยายหนูได้เรียนหนังสือก็เป็นพอ
คุณย่าหยางเองก็พึงพอใจอย่างมาก ขอเพียงไม่มีแม่บ้านราวกับนางปีศาจคนนี้วนเวียนอยู่ในสายตาเธอ ต่อให้จ่ายเงินเดือนเพิ่มอีกเดือนเธอก็ไม่ถือสาอะไร
หยูเหม่ยเจินที่อยู่ตรงลานบ้านกลับไม่พอใจเสียได้ เธอกัดฟันเลือกวิ่งออกจากลานบ้านไปแทนที่จะเข้าไปในบ้าน
เหยียนหมิงซุ่นเหลือบมองไปทางลานบ้านแวบหนึ่งด้วยแววตาดุดัน มุมปากเผยความเย็นชาออกมาเล็กน้อย
หยูเหม่ยเจินวิ่งไปยังตู้โทรศัพท์สาธารณะละแวกนี้ก่อนกดโทรออกแล้วเล่าข้อสรุปที่ตระกูลเหยียนเพิ่งตกลงกันไป “คุณอา อาว่าควรทำอย่างไรดีคะ?”
เสียงปลายสายเงียบไปหลายวินาทีก่อนจะดึงขึ้นอีกหน “เลื่อนแผนให้เร็วขึ้น พรุ่งนี้ฉันจะไปหาเธอ”
“ได้ ฉันจะทำตามที่อาบอกค่ะ”
“สบายใจได้ หลังเรื่องนี้จบลงด้วยดีเธอได้เงินแน่!”
…………………….
ตอนที่ 1671 ใจคิดไม่ซื่อ
วันถัดมาเหยียนหมิงซุ่นออกไปข้างนอก เขาไปทำความเข้าใจกับเรื่องถานซูฟาง ได้ความว่าครั้งนี้เธอลาหยุดไว้ครึ่งเดือน เขาไม่ได้ไปจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองเพียงแค่กำชับลูกน้องไปจัดการ
เชื่อว่าถานซูฟางจะได้รับแจ้งการสิ้นสุดวันหยุดก่อนกำหนดในเร็ว ๆนี้
ต่อไปนี้จะไม่มีใครกล้าให้สิทธิประโยชน์เธออีก เพียงปล่อยให้เธอได้ใช้ชีวิตอยู่ในเขตพื้นที่ภูเขาห่างไกล จะอยู่ได้นานแค่ไหนก็คงต้องดูความสามารถส่วนบุคคลของเธอแล้วล่ะ!
ถานซูฟางได้รับแจ้งข่าวจากโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว หนำซ้ำยังเป็นท่านผู้อำนวยการโทรเข้ามาเองสั่งให้เธอรีบเก็บข้าวของ อีกสามวันต้องกลับถึงเขตภูเขา แม้แต่พื้นที่ในการหารือโต้กลับก็ไม่มีด้วยซ้ำ
ถึงแม้ว่าเธอจะให้ของกำนัลที่มีค่าแค่ไหนก็ไม่มีใครกล้ารับ ทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเธอราวงูพิษ ไหนเล่าที่ถานซูฟางจะไม่เข้าใจ ความชิงชังเครียดแค้นพลันท่วมท้น
ไอ้คนป่าเถื่อนอย่างเหยียนหมิงซุ่น ในเมื่อไม่เหลือทางรอดให้เธอ งั้นก็อย่ามาโทษถ้าเธอจะทำสิบห้า[1]!
ผ่านไปอีกหนึ่งวัน เหมยเหมยกับเหยียนหมิงซุ่นไม่ได้รีบร้อนที่จะไปภาคใต้ แต่กลับไปเยี่ยมอาจารย์ไต้ผิ่นเหลียนที่วัดนิกายเซนเพื่อสวัสดีปีใหม่ หล่อนมีแผนที่จะออกบวชมานานแล้ว เนื่องด้วยความวุ่นวายในหลายปีที่นั้น หล่อนถูกข่มเหงมามากทั้งกายและจิตใจ
หลายปีมานี้อาศัยการศึกษาพระไตรปิฎกถึงทำให้จิตใจสงบได้ เหมยเหมยเตรียมคำพูดปลอบใจเขาไปด้วยมากมาย แต่สุดท้ายก็ไม่อาจทำให้เขาปล่อยวางได้อย่างหมดสิ้น
ดังนั้นหลังจากที่เหมยเหมยสอบติดมหาวิทยาลัย คุณไต้จึงโกนผมและปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดนิกายเซน มีนามว่าอาจารย์ฮุ้ยจิ้ง
การที่เหมยเหมยได้เห็นอาจารย์มีท่าทีดูดีไม่น้อย เธอจึงค่อยวางใจทิ้งยาวิเศษไว้จำนวนหนึ่ง เธออยู่ไม่นานก็ขอกลับ
บุคคลที่ออกบวชล้วนไกลห่างจากโลกมนุษย์ อาจารย์ได้เห็นหน้าเธอสักครั้ง เธอก็พึงพอใจมากแล้ว
“เฮ้อ!” เหมยเหมยถอนหายใจพลันเกิดความรู้สึกหลากหลายขึ้นมา
คุณยายและอาจารย์ของเธอ ชะตากรรมคล้ายคลึงกันเหลือเกิน เพียงแค่คนหนึ่งตายไปแล้ว ส่วนอีกคนยังคงดิ้นรนอยู่บนโลกใบนี้
เหยียนหมิงซุ่นจับไหล่เธอแน่น พลางพูดปลอบใจ “พวกคนในตอนนั้นที่ยังไม่ตาย พี่สั่งให้คนไปลงโทษเพื่อเป็นการตักเตือน ตอนนี้ก็เหมือนกับตายทั้งเป็น”
“คนพวกนั้นต่อให้ตายไปร้อยครั้งก็ไม่พอ สัตว์เดรัจฉานยังเทียบไม่ได้!” เหมยเหมยด่าสาปแช่ง
เหยียนหมิงซุ่นลูบหลังเธอ เหมยเหมยถอนหายใจทันใดนั้นก็พูดขึ้นว่า “แต่โบราณมาหญิงงามมักอาภัพ ประโยคนี้พูดถูก คุณยายและอาจารย์ของฉันเป็นหนึ่งในตัวอย่าง”
“ไร้สาระ เหมยเหมยจะต้องเป็นผู้มีบุญพาวาสนาส่งสิ” เหยียนหมิงซุ่นพูเสียงเบา ๆ
เพราะมีเขาอยู่นี่ไง!
เหมยเหมยเงยหน้ามองเขา พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย พลางเอ่ยถามขึ้นอีก “เราจะไปทะเลเมื่อไรเหรอ?”
“พรุ่งนี้ วันนี้พักอีกสักคืน” เหยียนหมิงซุ่นตอบ เขาอยากรู้ว่าอวี๋เหม่ยเจินจะทำอะไรกันแน่
ผู้หญิงคนนี้ทำตัวลับ ๆล่อ ๆ ต้องมีใจคิดไม่ซื่อแน่
มื้อค่ำเหยียนโฮ่วเต๋อกับถานซูฟางมาร่วมกินข้าวด้วย คุณย่าหยางและอวี๋เหม่ยเจินยุ่งกับงานในครัว ถานซูฟางก็ตามไปช่วย พร้อมแอบยื่นซองกระดาษเล็ก ๆให้อวี๋เหม่ยเจินโดยไม่มีใครเห็น
“พ่อครับ เหล้าเหมาไถนี่ซูฟางตั้งใจซื้อมาเลยนะ เราสองคนดื่มด่ำกันให้สนุกเถอะ”
เหยียนโฮ่วเต๋อคึกคักเอามาก เทเหล้าให้ตัวเองกับคุณปู่เหยียนเต็มจอก พลัดกันดื่มคนละจิบสองจิบ
ภายใต้คำแนะนำของถานซูฟาง เหยียนโฮ่วเต๋อกับคุณปู่เหยียนก็ดื่มไปมากจนเมามาย เขากับถานซูฟางจึงต้องนอนค้างอ้างแรมที่นี่
จังหวะที่เก็บตะเกียบถ้วยชาม ถานซูฟางได้ส่งสายตาให้อวี๋เหม่ยเจิน อวี๋เหม่ยเจินก็พยักหน้าเล็กน้อย เหยียนหมิงซุ่นเห็นเข้าพลันยกยิ้มที่มุมปาก แววตาแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา
เป็นอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้เลย อวี๋เหม่ยเจินกับถานซูฟางมีความเกี่ยวข้องกัน
จนถึงป่านนี้แล้วผู้หญิงคนนี้ยังคงคิดไม่ซื่อ เหอะ ๆดูท่าคงไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกแล้วสินะ!
เหยียนหมิงซุ่นไม่แสดงท่าทคใด ๆออกมา ชักอยากจะรู้แล้วสิว่าถานซูฟางคิดจะทำอะไร คิดดูแล้วคงจะเริ่มลงมือในคืนนี้
เพราะมีอวี๋เหม่ยเจินมาเพิ่ม ห้องในบ้านตระกูลเหยียนจึงมีไม่เพียงพอ อวี๋เหม่ยเจินกลับรีบออกตัว ‘ฉันนอนที่โซฟาก็ได้ค่ะ’
……………………………………………………………….
[1] มาจากสำนวนโบราณที่ว่า 你做初一我做十五 ที่หมายถึง ‘ในเมื่อคุณทำแบบนั้นได้ ฉันก็จะทำเช่นเดียวกัน’