ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1674 ความมักใหญ่ใฝ่สูง + ตอนที่ 1675 เข้าใจผิดอย่างหนักหน่วง
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1674 ความมักใหญ่ใฝ่สูง + ตอนที่ 1675 เข้าใจผิดอย่างหนักหน่วง
ตอนที่ 1674 ความมักใหญ่ใฝ่สูง
ยาที่ถานซูฟางวางต้องรุนแรงมากอยู่แล้ว ใช้เวลาเพียงครู่เดียวเหยียนโฮ่วเต๋อก็สติพร่าเบลอ ทั้งยังมีพละกำลังมหาศาลราวกับวัว อึดถึกเสียยิ่งกว่าตอนเขาอายุยี่สิบปีเสียอีก
อวี๋เหม่ยเจินที่ขาดผู้ชายตั้งแต่เข้าเมืองมาดีอกดีใจจนเป็นฝ่ายถอดเสื้อผ้าก่อนเองและตั้งรับการบุกเข้ามาของแรงมหาศาล กดเสียงร้องครวญครางที่อยากเปล่งออกมาเป็นครั้งคราวไว้ สบายตัวจนต้องส่งเสียงฮึมฮัมออกมา
พี่ทหารหน้าตาก็ดี ทำเรื่องพรรค์นี้ช่ำชองเสียอีก!
ดีกว่าพวกผู้ชายแถบชนบทพวกนั้นเยอะเลย!
แสงไฟที่มืดมนทำให้อวี๋เหม่ยเจินมองไม่ชัดนักว่าผู้ชายที่กำลังเคลื่อนตัวไปมาอย่างขันแข็งบนร่างตนนั้นเป็นใคร เธอยังนึกว่าเป็นเหยียนหมิงซุ่น พอคิดถึงเงินที่ถานซูฟางสัญญาว่าจะให้ เธอก็ยิ่งออกแรงบิดตัวจนทำให้เหยียนโฮ่วเต๋อสมอารมณ์หมายเข้าไปอีก ……
เสียงเคลื่อนไหวในห้องรับแขกดังอยู่บ้าง เหยียนหมิงซุ่นสะดุ้งตื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว ฟังแค่ครู่เดียวก็รู้แล้วว่าในห้องรับแขกเกิดเรื่องอะไรขึ้น
เขากระตุกยิ้มอย่างเย้ยหยัน แต่ก็ไม่ได้คิดจะไปขัดขวางแต่อย่างใด แต่ในใจกลับรู้สึกเหยียดหยามเหยียนโฮ่วเต๋อยิ่งกว่าเดิม
มิน่าถึงได้คิดหาสารพัดวิธีเอาผู้หญิงอย่างอวี๋เหม่ยเจินมาทำงานกับคุณปู่ที่นี่ ที่แท้ก็เพื่อความสะดวกในการสนองตัณหาของตนเองนี่เอง!
เหยียนหมิงซุ่นส่งเสียงหัวเราะเสียงเย็นชา ถานซูฟางกับอวี๋เหม่ยเจินรู้จักกัน แต่หล่อนกลับไม่รู้ว่าเหยียนโฮ่วเต๋อมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับอวี๋เหม่ยเจิน
รสชาติของการถูกสามีหักหลัง ในที่สุดถานซูฟางก็ได้ลิ้มรสมันสักที!
เหยียนหมิงซุ่นกลอกตาไปมาแล้วหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาถ่ายภาพเก็บไว้หลายใบ ผ่านไปอีกสักพักค่อยไปล้างแล้วส่งไปให้ถานซูฟางที่อยู่เขตภูเขาแดนไกลได้ชื่นชมดีกว่า
ต่อให้เธอคิดอยากจะมาสั่งสอนเหยียนโฮ่วเต๋อก็ปลีกตัวออกมาไม่ได้ คงทำได้แค่ทุกข์ทรมานใจอยู่ในเขตหมู่บ้านภูเขาที่แสนลำเค็ญนั่น
จะดูสิว่าเธอจะทนได้สักกี่ปี?
เพียงแต่เหยียนหมิงซุ่นคิดไม่ถึงว่าเรื่องราวมันจะกลับตาลปัตรไป
สองคนนี้กอดรัดฟัดนัวเนียกันอย่างเร่าร้อนอยู่บนโซฟาจนลืมทุกอย่างรอบกายจนหมดสิ้น พวกเขาทั้งสองไม่รู้เลยว่ามีคนกำลังแอบดูอยู่
เหยียนหมิงซุ่นเองก็ไม่ได้สนใจสองคนนี้อีก เขาหมุนตัวกลับเข้าห้องไปแล้วผล็อยหลับไปในที่สุด
ถึงแม้เหยียนโฮ่วเต๋อจะมียามาเป็นตัวช่วยแต่อายุก็ไม่น้อยแล้ว แถมยังไม่ได้ออกกำลังกายมานานด้วย ภายใต้ประสิทธิภาพของตัวยาทำให้ยืนหยัดได้นานอยู่หลายยกจนเหนื่อยหอบเหมือนสุนัข แม้กระทั่งยืนตรงยังยืนไม่ไหวจึงหมอบนอนลงกับพื้นแล้วหลับไปเลย
อวี๋เหม่ยเจินเองก็เหนื่อยไม่ต่างกัน หล่อนขี้เกียจใส่เสื้อผ้าจึงนอนห่มผ้าหลับด้วยความอิ่มเอมใจ
เธอทำภารกิจที่ได้สำเร็จแล้ว เหยียนหมิงซุ่นนอนเปลือยกายหมอบหลับอยู่ตรงปลายเท้าเธอ พรุ่งนี้เช้าคนตระกูลเหยียนต้องเห็นแน่นอน ไม่แน่เธออาจจะได้แต่งงานกับเหยียนหมิงซุ่นก็ได้!
อวี๋เหม่ยเจินวาดฝันไว้อย่างสวยงาม เธอรู้สึกว่าตนเองก็มีคุณสมบัติที่ไม่เลว ทั้งอ่อนวัยหน้าตาสะสวย ถึงแม้จะเคยผ่านการแต่งงานและมีลูกมาก่อน แต่ขอแค่เหยียนหมิงซุ่นเต็มใจที่จะขอเธอแต่งงาน เธอก็จะถือว่าไม่เคยคลอดเจ้าเด็กบ้านั่นมาก่อน ถึงอย่างไรเสียตอนนี้เจ้าเด็กบ้านั่นก็มีคุณปู่คุณย่าคอยเลี้ยงดูอยู่
ภารกิจสำเร็จอย่างเหนือคาด เดิมทีอวี๋เหม่ยเจินแค่อยากได้เงิน แต่เพราะความหล่อเหลาของเหยียนหมิงซุ่นและคุณสมบัติที่ดีของตระกูลเหยียน จึงทำให้อวี๋เหม่ยเจินมีใจมักใหญ่ใฝ่สูงมากกว่าเดิม
ถ้าเหยียนหมิงซุ่นไม่ขอเธอแต่งงาน เธอก็จะไปร้องโวยวายที่ค่ายทหารบอกว่าเหยียนหมิงซุ่นได้เสียกับเธอแล้วไม่รับผิดชอบ
เหอะ ถ้าเหยียนหมิงซุ่นยังคิดจะอยู่ในค่ายทหารต่อก็จำเป็นต้องขอเธอแต่งงานแล้วล่ะ!
อวี๋เหม่ยเจินยิ้มอย่างลำพองใจแล้วก็หลับไป
ท้องฟ้าใกล้ถึงยามรุ่งสางทุกคนต่างหลับเป็นตาย คุณปู่เหยียนกลับตื่นขึ้นมาเพราะปวดฉี่จึงรีบพุ่งตัวเข้าห้องน้ำด้วยความรีบร้อน หลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จก็เกิดอาการหนักศีรษะขึ้นมา
เขาอายุมากแล้วจึงคออ่อน แรงตอบสนองหนักกว่าเหยียนโฮ่วเต๋อเสียอีก ขนาดทิศออกตกเหนือใต้เขายังแยกแยะไม่ออกเลย
คุณปู่เหยียนทำเหมือนเหยียนโฮ่วเต๋อทุกอย่าง คุณปู่วิ่งไปที่โต๊ะแล้วยกแกงที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งซดจนหมดไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว
และเหม็นคาวจนคุณปู่เหยียนเกิดอาการคลื่นไส้ แล้วก็อยากหาน้ำดื่มเหมือนกับเหยียนโฮ่วเต๋อก่อนหน้านี้ไม่มีผิด แต่ยาดันออกฤทธิ์เสียก่อน
แต่คุณปู่เหยียนกับมีท่าทีสงบกว่าเหยียนโฮ่วเต๋อ เพราะเขาคิดว่าเป็นผลจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เลยคิดจะไปอาบน้ำให้ตนเองสดชื่นสักหน่อย คุณปู่จึงเดินไปทางโซฟาด้วยสายตาพร่าเบลอ
……………………………………………..
ตอนที่ 1675 เข้าใจผิดอย่างหนักหน่วง
คุณปู่เหยียนอยากดูให้แน่ชัดว่าคนที่นอนอยู่บนพื้นเป็นใครแต่ยากลับออกฤทธิ์รุนแรงเสียแล้ว ต่อให้เป็นชายชราที่ไม่หลงเหลือความใคร่อย่างเขาก็ถูกกระตุ้นจนดวงตาแดงก่ำ เขาจึงได้แต่เดินมุ่งหน้าไปยังโซฟาที่มีกลิ่นหอมของผู้หญิงอยู่ตามสัญชาตญาณ
อวี๋เหม่ยเจินไม่ได้หลับสนิท เธอตื่นเต้นมาก เพราะฝันหวานกำลังจะกลายเป็นจริง เธอพบว่ามีชายคนหนึ่งยืนอยู่ข้างโซฟาซึ่งรูปร่างค่อนข้างคล้ายคลึงกับเหยียนโฮ่วเต๋อก่อนหน้านี้ พลางขบคิดว่าเขายังไม่หนำใจจึงดีใจจนเนื้อเต้น ยื่นมือออกไป พร้อมกับลากคุณปู่เหยียนให้ล้มลงมาทับบนตัวเธอ
…
เหยียนหมิงซุ่นได้ยินถึงความเคลื่อนไหวมาจากห้องรับแขกอีกครั้งจึงลืมตาขึ้นมาอย่างหัวเสีย แล้วแผ่ซ่านไออันเยือกเย็นออกมา
ไม่จบไม่สิ้นจริง ๆเลย!
เขาแต่งตัวเสร็จก็ออกมาจากห้องดึงเปิดหลอดไฟนีออนด้วยความโมโห แสงไฟที่สว่างจ้าได้เรียกสติอวี๋เหม่ยเจินที่อยู่บนโซฟา เธอตกลงใจจนถีบคนบนร่างตกพื้น จ้องมองเหยียนหมิงซุ่นภายใต้แสงไฟด้วยความหวาดกลัว
ทำไมพี่ทหารถึงไปยืนอยู่ตรงนั้นล่ะ?
แล้วคนที่ทำกิจกับเธอเมื่อกี้คือใคร?
เสียงสบถพลันดังขึ้น เหยียนหมิงซุ่นขมวดคิ้วมุ่น ทำไมถึงเป็นคุณปู่ไปได้?
เขาไม่ได้คิดลึก คิดเพียงว่าคุณปู่คงจะได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวข้างนอกเหมือนกัน จึงออกมาห้ามเหยียนโฮ่วเต๋อ แล้วล้มลงไปอย่างไม่ระวัง
เขาอยากเข้าไปช่วยพยุงคุณปู่เหยียน แต่ด้วยสภาพของอวี๋เหม่ยเจินในตอนนี้เขาคงไม่เหมาะที่จะเข้าไป ช่วงดึกดื่นแบบนี้หากเขาอยู่กับหญิงสาวที่ไม่สวมใส่เสื้อผ้า กระโดดลงแม่น้ำหวงเหอก็คงล้างมลทินไม่หมด
เหยียนหมิงซุ่นขบคิดครู่หนึ่งจึงตัดสินใจไปเคาะประตูเรียกคุณย่าหยาง “คุณย่าครับ เกิดเรื่องนิดหน่อย คุณปู่น่าจะหกล้มครับ”
“หกล้มเหรอ?”
คุณย่าหยางตกใจจนได้สติ รีบแต่งตัวออกมาพลันจ้องเหยียนหมิงซุ่นอย่างไม่พอใจ “ทำไมหลานไม่ไปช่วยพยุงคุณปู่ก่อน?”
เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะเจื่อน ๆ “คุณย่าไปดูก็จะรู้เองครับ แม่บ้านคนนั้นกับลูกชายของย่าก่อเรื่องบัดสี ผมไม่กล้าเข้าไปใกล้หรอกครับ”
คุณย่าหยางเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ สบถด่าแล้ววิ่งเข้าไปด้วยความโกรธ ขนาดอยู่บ้านเธอยังกล้าสร้างเรื่องบัดสีอีก เธอจะต้องตีนังสารเลวนั่นให้ตาย!
หมาไม่อาจเปลี่ยนสิ่งที่มันกินได้[1]!
ไม่แปลกเลยที่พยายามจะเอาอวี๋เหม่ยเจินเข้ามาเป็นแม่บ้านให้ได้ ที่แท้ก็เตรียมไว้เพื่อตัวมันเองสินะ!
พอเหลือบไปเห็นอวี๋เหม่ยเจินบนโซฟา ผมเผ้ากระเซิง เสื้อผ้าไม่เรียบร้อย และเหยียนนโฮ่วเต๋อที่นอนหลับอยู่บนพื้นด้วยสภาพเสื้อผ้าไม่เป็นระเบียบเช่นเดียวกัน ความโกรธของคุณย่าหยางจึงได้ก้าวมาถึงจุดเดือด
“พวกสารเลวหน้าไม่อาย!”
คุณย่าหยางยกไม้ขนไก่ขึ้นฟาดตัวอวี๋เหม่ยเจินอย่างไร้สติ แม้เธอจะโกรธที่ลูกชายไม่รู้จักเก็บอารมณ์ แต่ก็โกรธมากกว่าที่อวี๋เหม่ยเจินยั่วยวนลูกชายตน ฟาดลงไปโดยไม่มีความนุ่นนวล
จนถึงตอนนี้อวี๋เหม่ยเจินยังคงช็อกไม่เลิก คว้าผ้าห่มมาพันตัวไว้พร้อมหลบไม้ขนไก่ คิดอย่างไรก็คิดไม่ตก
ทำไมถึงไม่ใช่เหยียนหมิงซุ่นล่ะ?
เหยียนหมิงซุ่นจ้องเหยียนโฮ่วเต๋อที่นอนหลับบนพื้นด้วยสายตารังเกียจ อยากเข้าไปพยุงคุณปู่เหยียนที่นอนบนพื้น แต่พอเดินเข้าไปใกล้ ๆกลับพบว่า คุณปู่เหยียนมีท่าทีที่ผิดปกติไป
ตัวร้อนไปทั้งร่างราวกับกุ้งที่ต้มสุกแล้วก็ไม่ปาน ที่ร้ายแรงไปกว่านั้นคือ เสื้อผ้าบนร่างของคุณปู่เหยียนก็ยับยู่ยี่ไปด้วย
เหยียนหมิงซุ่นนิ่งเงียบ หรือคนที่อยู่กับอวี๋เหม่ยเจินเมื่อกี้จะเป็นคุณปู่?
คุณย่าหยางก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติของคุณปู่เหยียน เธอเป็นหมอ มองแค่ปราดเดียวก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตาแก่ ครั้นหน้านิ่งไปทันที
“ใครวางยาคุณปู่ของหลาน?”
คุณย่าหยางไม่สนใจที่จะสั่งสอนอวี๋เหม่ยเจินอีก เพียงตักน้ำเย็นขึ้นมาแล้วราดลงบนใบหน้าคุณปู่เล็กน้อย คุณปู่ถึงค่อย ๆได้สติและร้องครวญครางไม่หยุด
“ใครถีบเอวข้า? หักแล้วเนี่ย!”
อวี๋เหม่ยเจินไม่ทันสังเกตเห็นเหยียนโฮ่วเต๋อ เข้าใจผิดคิดว่าคนที่ร่วมกิจกับเธอในยามค่ำคืนก็คือคุณปู่เหยียน อดไม่ได้ที่จะก่นด่าสาปแช่งในใจ เธอคงแต่งงานกับพี่ทหารไม่ได้แล้วแน่นอน แต่เธอจะยอมให้ไอ้แก่นี่นอนด้วยฟรี ๆไม่ได้แน่
ความคิดบังเกิดหญิงสาวผู้นี้กลับมีแผนการในใจ เธอปลดผ้าห่มออกฉับพลันแล้วร้องเสียงดัง “ฉันไม่อยากอยู่แล้ว …ถูกตาแก่ย่ำยี ฉันจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร…ฉันมาเพื่อทำงานที่บ้านคุณ…ไม่ได้มาให้ตาแก่นี่ลักหลับนะ…”
………………………………………………………..
[1] สันดานคนแก้ยาก