ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1676 เกิดเรื่องกับคุณปู่ + ตอนที่ 1677 ขโมยไก่มาไม่ได้ เสียข้าวอีกหนึ่งกำมือ
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1676 เกิดเรื่องกับคุณปู่ + ตอนที่ 1677 ขโมยไก่มาไม่ได้ เสียข้าวอีกหนึ่งกำมือ
ตอนที่ 1676 เกิดเรื่องกับคุณปู่
เหยียนหมิงซุ่นจัดการรวดเร็วปานสายฟ้า ซัดกรามของอวี๋เหม่ยเจินจนค้างจึงเงียบไปกะทันหัน แต่กลับอลหม่านจนทำให้ถานซูฟางและเหมยเหมยตื่น
คุณปู่เหยียนพลันนึกย้อนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ แม้จะขาด ๆหาย ๆไม่ปะติดปะต่อกันแต่เขากลับจำได้ว่าเหมือนตัวเขากำลังอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง…
รวมทั้งเสื้อผ้าบนตัวที่ไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย รวมถึงคำพูดของอวี๋เหม่ยเจิน และยังมียาที่ออกฤทธิ์รุนแรงนั่นด้วย คุณปู่เหยียนเกิดความรู้สึกโกรธและอับอายผสมปนเปตีกัน เส้นเอ็นพลันปูดโปนราวกับจะกระอักเลือดเสียให้ได้
“ตาแก่อย่าโมโหไป ใจเย็น ๆก่อน ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น…หมิงซุ่นรีบไปหยิบยามาเร็ว…เร็วเข้า!”
คุณย่าหยางเร่งเร้าอย่างร้อนรน เธอรู้ว่าอาการของคุณปู่ในตอนนี้อันตรายมาก หากพลาดไปนิดเดียวก็อาจคร่าชีวิตได้เลย
คู่แท้วัยเยาว์อยู่เคียงกันจนแก่เฒ่า เธอไม่อยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เพียงตัวคนเดียวอย่างโดดเดี่ยวนะ!
“ใคร…ทำลาย…เกียรติอันบริสุทธิ์ของฉัน…ฉันคงตาย…ตาไม่หลับ”
คุณปู่กระอักเลือดออกมา สีหน้าของคุณปู่เหยียนก็พลันซีดเซียว หัวทิ่มคะมำลงพื้นแล้วหมดสติไป
“ตาแก่…หมิงซุ่น รีบเรียกรถพยาบาล…”
คุณย่าหยางตะโกนร้องอย่างร้อนรน พร้อมทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับคุณปู่เหยียน แต่ภายใต้ความโกรธและความอับอายของชายชรา เขาจึงเอาแต่ร้องขอความตาย สีหน้าดูย่ำแย่กว่าเดิม
อวี๋เหม่ยเจินตกใจจนหน้าซีด เธอแค่ต้องการหาเงิน ไม่เคยคิดทำร้ายใคร!
ตอนนี้จะทำอย่างไรล่ะ?
เธอจะได้กินลูกปืนหรือเปล่า?
เหยียนหมิงซุ่นต่างก็ตกใจรีบวิ่งแจ้นไปข้างหน้า แค่ดูก็รู้ว่าอาการของคุณปู่เหยียนอันตรายมาก หากไม่รีบช่วยเกรงว่าจะไม่อาจรักษาชีวิตไว้ได้
“คุณย่าอย่าพึ่งร้อนใจไป คุณปู่จะไม่เป็นอะไร!”
เหยียนหมิงซุ่นยังแลดูสุขุม สยบความกังวลของคุณย่าหยางได้ ยอมปล่อยให้หลายชายเป็นคนช่วยเหลือชายชรา ส่วนตัวเธอนั้นนั่งก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้น แขนขาอ่อนระทวย
ในจังหวะที่ไม่มีใครสังเกต เหยียนหมิงซุ่นหยิบยาวิเศษออกมาแล้วหยดใส่ปากของคุณปู่เหยียน หวังว่าจะช่วยบรรเทาอาการป่วยของชายชราไว้ได้
เขาไม่สนใจต่อความเป็นความตายของเหยียนโฮ่วเต๋อเลยสักนิด แต่คุณปู่คุณย่าเป็นคนที่เขาใส่ใจ เขาจำต้องช่วยชีวิตคุณปู่
เหมยเหมยก็ตกใจมาก เดินเข้ามาช่วยเหยียนหมิงซุ่นดูอาการคุณปู่ แม้จะยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็เอ่ยปลอบใจเสียงเบา “อย่ากังวลเลย คุณปู่จะไม่เป็นอะไร จะต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน”
ใบหน้าของคุณปู่เหยียนมีเลือดฝาดเล็กน้อย เหยียนหมิงซุ่นจึงวางใจลงบ้าง รื้อบานประตูออกแล้วยกชายชราขึ้น กระชับสั่งให้เหมยเหมยและคุณย่ารออยู่ที่บ้าน เขาจะพาคุณปู่ไปส่งโรงพยาบาล
“คุณย่าไม่ต้องกังวล อยู่บ้านคอยจับตาดูผู้หญิงคนนี้กับถานซูฟางไว้ รอผมกลับมาสืบหาอีกทีว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
เหยียนหมิงซุ่นหน้านิ่งราวกับน้ำ เขาเดาว่ายาในร่างของชายชราเป็นไปได้สูงมากว่าถานซูฟางจะเป็นคนวางยา แต่เป้าหมายของผู้หญิงคนนี้คืออะไร?
รอให้ทางฝั่งชายชราปลอดภัยก่อน เขาจะค่อย ๆสืบหาทีละนิดจนกระจ่าง ไม่มีทางปล่อยถานซูฟางไว้แน่นอน
เหมยเหมยช่วยแต่งตัวให้คุณย่าหยาง จังหวะนั้นถึงได้สังเกตเห็นเหยียนโฮ่วเต๋อที่นอนบนพื้นด้วยเสื้อผ้าไม่เป็นระเบียบ เสียงเอะอะโวยวายขนาดนี้ยังไม่ตื่น นอนหลับเป็นตายเสียจริง ๆ
“คุณย่าดูสิ…”
เหมยเหมยหันหน้าหนีพลางชี้ให้คุณย่าหยางดูด้วยใบหน้าแดงก่ำ
ตอนนี้เธอพอจะเดาบางอย่างได้ ชายหญิงต่างก็เสื้อผ้ายับยู่ยี่ หนำซ้ำยังเป็นช่วงกลางดึก ใช้นิ้วเท้าคิดยังเดาได้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่เหยียนกันนะ?
หรือว่าเป็น?
เหมยเหมยเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ ไม่กล้าที่จะคิดต่อ ใจเต้นตุ้ม ๆต่อม ๆไม่เป็นระส่ำ
หากเป็นอย่างที่เธอคิดจริง ๆ ไม่แปลกเลยที่คุณปู่เหยียนจะโมโหจนกระอักเลือด เรื่องอื้อฉาวแบบนี้สำหรับคนที่รักเกียรติและศักดิ์ศรียิ่งกว่าชีวิตอย่างคุณปู่เหยียนถือเป็นสิ่งกระทบกระเทือนที่รุนแรงมากเกินไปจริง ๆ
คุณย่าหยางหยิบไม้ขนไก่ใช้แรงฟาดเหยียนโฮ่วเต๋อไม่ยั้งเพราะความไม่ได้เรื่องของเขาด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง แต่เหยียนโฮ่วเต๋อกลับไม่มีการตอบสนองใด ๆ
เหมยเหมยเห็นท่าไม่ดี “คุณย่า ดูสิว่าเกิดอะไรขึ้น? ตีไปตั้งนานยังไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย หรือว่าจะเกิดเรื่องเข้าแล้ว?”
…………………………………………….
ตอนที่ 1677 ขโมยไก่มาไม่ได้ เสียข้าวอีกหนึ่งกำมือ
คุณย่าหยางตกใจมากพลันโยนไม้ขนไก่ทิ้งไป อยากจะพลิกตัวเหยียนโฮ่วเต๋อกลับมาเพื่อดูอาการ แต่เธออายุมากร่างกายอ่อนแอ เหยียนโฮ่วเต๋อก็อ้วนเหมือนหมูทำอย่างไรก็พลิกไม่ได้
“เธอมัวยืนนิ่งทำอะไรอยู่? ยังไม่รีบเข้ามาช่วยอีก?” คุณย่าหยางด่าทอถานซูฟางอย่างขุ่นเคือง ไม่พอใจเธอมาก
ถานซูฟางยังไม่ทันได้สติ เธออยากจะถามอวี๋เหม่ยเจินว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ สั่งให้เธอไปนอนกับเหยียนหมิงซุ่นแท้ ๆ ทำไมถึงได้ไปนอนกับไอ้แก่ตายยากนั่นได้ล่ะ?
เธอจัดการกับตาแก่นั่นแล้วจะมีประโยชน์อะไร?
ตอนนี้ตาแก่จะเป็นตายอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ ถ้าหากว่าตายขึ้นมาจริง ๆเหยียนหมิงซุ่นจะยอมปล่อยเธอไปเหรอ?
ถานซูฟางจ้องอวี๋เหม่ยเจินที่ยังไม่ได้สติด้วยแววตาอาฆาต พลางเดินเข้าไปช่วยคุณย่าหยางพลิกตัวเหยียนโฮ่วเต๋อ แต่กลับเห็นใบหน้าเขาซีดเขียว ตัวร้อนระอุ สภาพไม่ค่อยดีนัก
“โฮ่วเต๋อตื่นสิ แกรีบฟื้นมาเดี๋ยวนี้นะ!”
คุณย่าหยางตบหน้าเบา ๆหวังให้เหยียนโฮ่วเต๋อได้สติแต่เขาก็ยังไม่รู้สึกตัว ยังคงนอนแน่นิ่งดังเดิม
เหมยเหมยเห็นถึงความผิดปกติ พูดขึ้นว่า “คุณย่าคะ ต้องเรียกรถพยาบาลแล้วล่ะ”
สภาพของเหยียนโฮ่วเต๋อในตอนนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่อาการหลับสนิท แต่เป็นเพราะเหนื่อยเกินแรงจนทำให้สลบไป
เมื่อนึกย้อนไปถึงเรื่องของเขากับอวี๋เหม่ยเจิน เหมยเหมยจึงนึกดูแคลน ภรรยาและพ่อแม่ต่างก็หลับอยู่ในห้อง แต่เขากลับออกมาเล่นจ้ำจี้กับแม่บ้านอยู่ในห้องรับแขก ซ้ำยังก่อเรื่องจนตัวเองเหนื่อยหมดแรงอีก เทียบไม่ได้กับสัตว์เดรัจฉานจริง ๆ เลย
คุณย่าหยางทั้งสงสารทั้งโกรธเคือง ถึงอย่างไรเหยียนโฮ่วเต๋อก็เป็นลูกชายของเธอ โกรธนักที่เธอทำอะไรไม่ได้เลย!
ในขณะนั้นถานซูฟางก็ได้สติขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าคนที่อวี๋เหม่ยเจินหลับนอนด้วยคือผู้ชายของเธอ ฉับพลันความโกรธก็พุ่งทะลุอก เธอจึงเหวี่ยงมือตบหน้าไปฉาดหนึ่งอย่างแรง แต่เหยียนโฮ่วก็ยังคงแน่นิ่งไม่มีการตอบสนอง
“เธอฟาดเขาทำไม? ไม่เห็นหรือว่าเหยียนโฮ่วเต๋อมีสภาพเป็นแบบนี้แล้ว? ยังไม่รีบเข้ามาช่วยยกอีก!”
คุณย่าหยางโมโหจนก่นด่า แม้ว่าเขาจะโกรธที่ลูกชายไม่รู้จักระงับอารมณ์ แต่ถานซูฟางตบตีเหยียนโฮ่วเต๋อต่อหน้าเธอ หญิงชราก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี
ถามซูฟางกลับไม่ได้ฟังคำเธอแต่มุ่งหน้าไปหาอวี๋เหม่ยเจิน จิกผมอวี๋เหม่ยเจินไว้แน่น ข่วนใบหน้าของเธอราวกับคนคนบ้าก็ไม่ปาน
“นางชั่วช้าหน้าไม่อาย…ฉันจะฆ่าแกนางปีศาจจิ้งจอก…คิดจะขุดตีนกำแพง[1]แต่กลับขุดขึ้นมาจนถึงหัวฉัน นั่นมันอาเขยของแกเลยนะ!”
ถานซูฟางตบตีพลางด่าทอ อวี๋เหม่ยเจินยังนึกถึงเงินที่ยังไม่ได้รับจึงไม่กล้าตอบโต้ เพียงแค่ใช้สองมือป้องหัวไว้ เพียงครู่เดียวใบหน้าเธอก็ปรากฏรอยแผลลิ่มเลือดมากมาย
เหมยเหมยใจเต้นตึกตัก อาเขย?
อวี๋เหม่ยเจินเป็นหลานสาวของเธอ?
เรื่องที่เกิดในค่ำคืนนี้จะเกี่ยวข้องกับถานซูฟางหรือเปล่า?
คุณย่าหยางก็ได้ยินอย่างชัดเจนจึงตะโกนเสียงดัง “เธอพูดออกมาให้ชัดเจนเลยนะ อาเขยอะไร? นางชั่วนี่เกี่ยวข้องกับแกอย่างไร?”
ถานซูฟางใจหล่นวูบพลางนึกโทษที่ตัวเองหลุดปากไป เธอฝืนยิ้มและพูด “เป็นญาติห่าง ๆของฝั่งแม่ค่ะ เพราะที่บ้านยากจนจึงได้ขอให้ฉันช่วยหางานในเมืองให้เธอทำ ไม่นับว่าเป็นญาติจริง ๆจัง ๆอะไรหรอก ไม่ได้อยู่ในชุดไว้ทุกข์ทั้งห้า[2]ด้วยซ้ำ”
คุณย่าหยางทำหน้าดุดัน ถ้าเธอรู้แต่แรกว่าอวี๋เหม่ยเจินเป็นญาติกับถานซูฟาง ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ไม่มีทางยอมให้นางชั่วช้าอยู่ที่นี่แน่
ในตอนนี้คุณย่าหยางไม่ได้คิดอะไรมาก คิดแค่ว่าภาพลักษณ์ของอวี๋เหม่ยเจินนั้นย่ำแย่ ไม่ได้คิดไปถึงทางฝั่งถานซูฟางเลย
ถานซูฟางเห็นว่าคุณย่าหยางไม่ได้ถามอะไรเพิ่มจึงนึกแอบโล่งใจ ไม่กล้าด่าอวี๋เหม่ยเจินอีก ได้แต่ช่วยคุณย่าหยางยกตัวเหยียนโฮ่วเต๋อขึ้นไปบนเตียง
คุณย่าหยางสำรวจร่างกายของเหยียนโฮ่วเต๋อก็พบว่ามีไข้เล็กน้อย แต่อัตราการเต้นของหัวใจยังปกติ จึงไม่นึกกังวลอะไร ทิ้งเหยียนโฮ่วเต๋อไว้บนเตียงแล้วก็ไม่สนใจอีก
ในช่วงใกล้รุ่งสาง เหยียนหมิงซุ่นก็กลับมาถึง “การผ่าตัดของคุณปู่ลุล่วงด้วยดี คุณย่าอย่าได้กังวล!”
เหยียนหมิงซุ่นปลอบใจหญิงชรา แต่กลับมีท่าทีเคร่งขรึมเอามาก
…………………………………………………………………
[1] เปรียบการโค่นล้มอีกฝ่าย
[2] หมายถึง ลำดับญาติสนิทใน 5 ชั่วคนที่ถือเป็นคนครอบครัวเดียวกันตามระบบครอบครัวใหญ่ของจีน โดยจะได้สวมใส่ชุดไว้ทุกข์ในช่วงที่มีผู้สูงอายุในบ้านเสียชีวิต