ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1684 หน้าตาอันอัปลักษณ์ + ตอนที่ 1685 อัมพาตครึ่งตัว
ตอนที่ 1684 หน้าตาอันอัปลักษณ์
เหมยเหมยมองเหยียนโฮ่วเต๋ออย่างหยามเหยียดและเห็นใจแทนโม่เหวินเซียงอย่างสุดซึ้ง เหยียนโฮ่วเต๋อไม่คู่ควรที่จะเป็นพ่อของเหยียนหมิงซุ่น เธอเคยเห็นรูปถ่ายของโม่เหวินเซียงซึ่งเป็นสาวที่งดงามอย่างยิ่ง ถานซูฟางเทียบไม่ได้แม้แต่ปลายนิ้วเท้าของโม่เหวินเซียงเลยด้วยซ้ำ
เหยียนโฮ่วเต๋อทอดทิ้งแตงโมเพื่อไปเก็บเม็ดงา สมองต้องโดนลาถีบเข้าให้อย่างแน่นอน!
คุณย่าหยางหวดไม้นวดแป้งอีกทีแล้วแค่นเสียงกล่าว “เรื่องดี ๆที่แกสร้างไว้อย่างไรล่ะ เอาคนชั่วสองคนนี้เข้ามาในบ้าน ตอนนี้พ่อแกอยู่โรงพยาบาลไม่รู้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง แกกลับเสพสุขเสียได้!”
เหยียนโฮ่วเต๋อใจหล่นวูบพาลนึกถึงภาพแสนเย้ายวนงดงามเมื่อคืนที่พอจะจำได้ลาง ๆว่านางเอกคืออวี๋เหม่ยเจิน หรือว่าจะเป็นเรื่องจริง?
อาการเย็นวาบขึ้นมาที่แผ่นหลัง เขาไม่อยากเจอเรื่องดี ๆแบบนี้เลยนะ!
หากแพร่งพรายออกไปเขาจะอยู่ในตำแหน่งงานต่อไปได้อย่างไร?
เกรงว่าจะเป็นไม่ได้แม้แต่พนักงานธรรมดาเสียด้วยซ้ำ!
คุณย่าหยางได้เล่าแผนชั่วร้ายของถานซูฟางกับอวี๋เหม่ยเจินให้ฟัง เหยียนโฮ่วเต๋อยิ่งฟังก็ยิ่งมีสีหน้าบึ้งตึง แถมยังหันไปเตะใส่ถานซูฟางที่ยังนอนอยู่บนพื้นแรง ๆหลายทีพลางตวาดด่า “คนแพศยา หย่า อยู่ด้วยกันต่อไปไม่ได้แล้ว!”
เขาเบื่อหน่ายถานซูฟางตั้งนานแล้วเพียงแต่ไม่มีข้ออ้างที่ดีเท่านั้น ตอนนี้กำลังประจวบเหมาะ ไม่มีเหตุผลอะไรจะดีไปกว่าข้อหาเกือบฆ่าพ่อสามีอีกแล้ว!
กรามของถานซูฟางยังไม่ทันเข้าที่ดีก็เผยแววตาดูถูกเหยียดหยาม นึกเสียใจที่ตอนนั้นตาบอด ทำไมถึงได้ถูกใจผู้ชายแบบนี้ได้นะ?
ต่อให้เธอแต่งงานกับผู้ชายในแผนกงานเดียวกันสักคนก็ล้วนเก่งกาจกว่าเหยียนโฮ่วเต๋อหลายสิบเท่า!
เหยียนโฮ่วเต๋อถูกสายตาของถานซูฟางกระตุ้นความโกรธก่อนจะกระทืบใส่กลางอกเธออีกครั้ง ถานซูฟางเลือดออกมุมปากมาไม่น้อย คาดว่าน่าจะช้ำใน เหมยเหมยเลยรีบห้ามเหยียนโฮ่วเต๋อไว้
แน่นอนว่าเธอไม่ได้เห็นใจถานซูฟาง เพียงแต่ไม่อยากเห็นสีหน้าเหยียนโฮ่วเต๋ออีก
จะว่าไปเหยียนโฮ่วเต๋อสารเลวกว่าถานซูฟางมากโข!
อย่างน้อยถานซูฟางเป็นคนนอกแต่เขาเป็นถึงสามีของโม่เหวินเซียง เป็นพ่อแท้ ๆของเหยียนหมิงซุ่น เรื่องไร้ศีลธรรมที่ถานซูฟางกระทำลงไปเหยียนโฮ่วเต๋อจะไม่รับรู้ได้อย่างไร?
ทั้งที่เขารู้แต่กลับทำเป็นเพิกเฉย คนที่เห็นแก่ตัวเลือดเย็นแบบนี้ต่อให้ตายร้อยครั้งก็ไม่เกินไปด้วยซ้ำ!
เหยียนโฮ่วเต๋อไม่พอใจอย่างมากอยากด่าเหมยเหมย แต่เหยียนหมิงซุ่นแค่ปลายตามองมาน้อย ๆเขาก็รีบหุบปากอยู่เฉย ๆ มองเหยียนหมิงซุ่นอย่างเอาใจก่อนกล่าว “สองคนนี้ให้แกเป็นคนจัดก่อนหมดเลย ฉันไม่มีความคิดเห็นอะไรทั้งนั้น!”
เขารู้ว่าเหยียนหมิงซุ่นเกลียดถานซูฟางที่ทำให้โม่เหวินเซียงต้องตาย ตอนนี้เขาส่งตัวถานซูฟางให้ลูกชายคนโตแก้แค้น ลูกชายคงไม่เกลียดเขาอีกแล้วสินะ?
ไม่แน่อาจจะหาทางช่วยเลื่อนตำแหน่งให้เขาก็ได้!
เหยียนหมิงซุ่นไม่แม้แต่จะมองเขาแต่พยายามหักห้ามความคิดที่อยากจะบีบคอพ่อตัวเองให้ตายไว้ คุยโทรศัพท์สายหนึ่ง เขาใช้เวลาไม่นานก็มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งมาเยือนบ้านตระกูลเหยียน เหยียนหมิงซุ่นออกคำสั่งเสียงเบาไม่กี่ประโยคชายคนนั้นก็พาตัวถานซูฟางกับอวี๋เหม่ยเจินไปทั้งคู่
คุณย่าหยางถามด้วยความสงสัย “พวกเธอถูกพาตัวไปไหน?”
“คนนั้นคือเพื่อนตำรวจที่ผมรู้จัก สองคนนี้ทำผิดกฎหมายเลยจับพวกเธอไปขัง” เหยียนหมิงซุ่นอธิบาย
คุณย่าหยางพยักหน้า “ต้องให้พวกเธอติดคุกนั่นแหละ น่าโมโหจริง ๆ!”
เหยียนหมิงซุ่นกระตุกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยอย่างเยือกเย็น ถ้อยคำเมื่อครู่ก็เพียงแค่หลอกตบตาคุณย่าไปเท่านั้น ผู้ชายคนนั้นเป็นลูกน้องของเขาที่ไม่มีทางพาตัวถานซูฟางกับอวี๋เหม่ยเจินไปสถานีตำรวจอยู่แล้ว แต่เลือกกักขังโดยส่วนตัว
แม้อวี๋เหม่ยเจินไม่ได้มีโทษถึงขั้นตายแต่ผู้หญิงคนนี้ทำให้คุณปู่เกือบสังเวยชีวิต หักล้างโทษประหารได้แต่หนีไม่พ้นโทษอยู่ดี ก็แค่ส่งเธอไปเป็นเมียบำเรอในเขตภูเขาที่ขาดแคลนผู้หญิงแล้วกัน!
ถือว่าได้สนับสนุนช่วยเหลือชนบทไง!
เชื่อว่าชายโสดในชนบทเหล่านั้นจะช่วยคุมตัวอวี๋เหม่ยเจินไว้อย่างดีไม่ปล่อยเธอออกมาปากพล่อยอย่างแน่นอน
ส่วนถานซูฟาง เขากลับช่วยมอบหน้าที่อันทรงเกียรติอย่างหนึ่งให้เธอได้ อีกไม่กี่วันจะส่งเธอไปเป็นแพทย์ในเขตสงครามระหว่างประเทศ หากมีชีวิตรอดถือว่าเธอมีบุญ หากตายก็เป็นนักรบผู้แกร่งกล้า ถือว่าได้เสียสละเพื่อตระกูลเหยียนเป็นครั้งสุดท้ายแล้วกัน!
……………………….
ตอนที่ 1685 อัมพาตครึ่งตัว
เพื่อนบ้านต่างไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในตระกูลเหยียนเพียงแค่แปลกใจว่าคนรับใช้ตระกูลเหยียนอยู่ดี ๆก็หายตัวไป อีกทั้งคุณปู่เหยียนก็เข้าโรงพยาบาล เห็นทีว่าภายในคืนเดียวคงเกิดเรื่องขึ้นไม่น้อย!
“ตาแก่เขาโรคประจำตัวกำเริบเมื่อคืนแต่โชคดีที่ช่วยชีวิตได้ทันเลยรอดหวุดหวิด” คุณย่าหยางอธิบายให้เพื่อนบ้านฟัง
เหล่าเพื่อนบ้านต่างส่งเสียงฮือฮาและสลับกันพูดปลอบใจ ซึ่งไม่พ้นคำว่าหากรอดชีวิตจากอุปสรรคอันหนักหน่วงได้จะต้องเจอเรื่องดี ๆในวันหน้าแน่นอน
คุณย่าหยางกล่าวอีกครั้ง “ส่วนเสี่ยวอวี๋ เธอแค่มาช่วยงานชั่วคราวแต่แรกอยู่แล้ว เมื่อวานที่บ้านเธอโทรเรียกเธอกลับบ้านพอดีบอกว่ามีธุระด่วน ฉันก็ไม่อยากรั้งไว้เลยจ่ายเงินเดือนหนึ่งเดือนให้เธอกลับบ้านไป”
“นั่นเพราะบ้านเธอใจดีต่างหาก เสี่ยวอวี๋ยังทำงานไม่ถึงครึ่งเดือนด้วยซ้ำ คุณหมอหยางก็ให้เงินทั้งเดือนแล้ว หล่อนโชคดีจริง ๆ!”
คุณย่าหยางอมยิ้มน้อย ๆ ไม่พูดอะไร
เมื่อทุกคนได้รับการไขข้อสงสัยเลยแยกย้ายกันกลับบ้านอย่างพึงพอใจไม่คิดจะใส่ใจเรื่องของตระกูลเหยียนอีก
คุณย่าหยางถอนหายใจเฮือกหนึ่ง จู่ ๆก็รู้สึกชิงชังสถานที่ที่ใช้ชีวิตมาครึ่งค่อนชีวิตนี้กะทันหัน ไม่มีคนเป็นห่วงสามีเธออย่างแท้จริงเลยสักคนเดียว ล้วนแค่อยากดูเรื่องสนุก ๆเท่านั้น
“หมิงซุ่น รอปู่ของหลานฟื้นเราก็ย้ายไปอยู่เมืองหลวงกันเถอะ!” คุณย่าหยางถอนหายใจเอ่ย
ตลอดชีวิตนี้ตาแก่เห็นความสำคัญของเรื่องชื่อเสียงมากที่สุด ต่อให้ระหว่างเขากับอวี๋เหม่ยเจินไม่มีอะไรแต่เขาต้องคิดไม่ตกแน่ ๆ สู้เปลี่ยนสภาพแวดล้อมใหม่ ไม่แน่ตาแก่อาจจะอารมณ์ดีขึ้นได้บ้าง
เหมยเหมยยิ้มพูด “คุณยายไปเมืองหลวงอย่างสบายใจได้เลย พี่หมิงซุ่นได้เตรียมเรือนสี่ประสานไว้นานแล้ว ละแวกนั้นก็คือสวนสาธารณะที่มีคุณปู่คุณย่าอายุรุ่นราวคราวเดียวกับคุณย่าเยอะเลย อีกอย่างหนูกับพี่หมิงซุ่นมีเวลาว่างก็จะไปเยี่ยมคุณย่า คุณย่าไม่มีทางเบื่อแน่นอน”
คุณย่าหยางพยักหน้ารับอย่างปลื้มปริ่มใจและค่อยสบายใจขึ้นเล็กน้อย คิด ๆแล้วก็ถูก มีหลานชายอยู่เธอมีอะไรต้องกังวลใจอีก?
พริบตาเดียวก็ผ่านไปอีกสามวัน แม้คุณปู่เหยียนยังไม่ฟื้นแต่กลับย้ายไปอยู่ในห้องพักผู้ป่วยธรรมดาเพราะพ้นขีดอันตรายแล้ว
“คนไข้อาจมีความเป็นไปได้ที่เป็นอัมพาตครึ่งตัว ดูแลตัวเองไม่ได้ พวกคุณต้องทำใจไว้ให้ดี” คุณหมอได้พูดเตือนไว้ล่วงหน้า
ขณะที่คุณปู่เหยียนถูกส่งตัวมานั้นในหัวมีแต่ลิ่มเลือดเต็มไปหมด ตอนนี้ได้ผลลัพธ์แบบนี้ก็นับว่าเป็นปาฏิหาริย์แล้ว สามารถเป็นตัวอย่างให้โรงพยาบาลพวกเขาได้เป็นอย่างดี
แม้คุณย่าหยางจะรู้สึกเสียใจแต่ก็พึงพอใจมากแล้ว “ไม่เป็นไร มีชีวิตอยู่ต่อก็นับว่าโชคดีมากแล้ว ค่อยรอฟื้นตัวไปช้าๆ แล้วกัน!”
หลังจากถูกเปลี่ยนไปอยู่ห้องพักผู้ป่วยธรรมดาคุณปู่เหยียนก็ฟื้นได้สติขึ้นมาในวันถัดไป ปากทื่อเสตาขวางมองและขยับตัวข้างหนึ่งไม่ได้เพราะเป็นอัมพาต
“ฉัน…ฉัน…ฉัน…”
พอคุณปู่เหยียนฟื้นก็มีท่าทีร้อนใจอยากถามคุณย่าหยางจนเส้นเลือดปูนโปนเรียกให้คนเป็นห่วงว่าเขาจะเส้นเลือดในสมองแตกอีกครั้งหรือเปล่า คุณย่าหยางเข้าใจปมในใจของเขาเลยรีบพูดชิดข้างหูเขาเสียเบา “ไม่สำเร็จ วางใจเถอะ!”
“ฟู่ว!”
คุณปู่เหยียนผ่อนคลายตัวในทันทีและสีหน้าเริ่มดีขึ้นเล็กน้อย ทว่ากลับเงยหน้าไม่กล้ามองภรรยากับหลายชายตัวเอง
ต่อให้ไม่สำเร็จแต่เขาก็เสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว อีกฝ่ายยังเป็นคนรับใช้ที่มีอายุคราวหลานสาวเขาได้เลย คุณปู่เหยียนไม่มีหน้าจะไปเจอใครอีกแล้วโดยเฉพาะคนในครอบครัว
เขาเกลียดเหลือเกินที่ครั้งนี้ตายไม่สำเร็จ!
ตายแล้วก็จะได้จบ ๆเสียที ตอนนี้ถึงจะมีชีวิตอยู่ต่อแต่กลับต้องเป็นอันพาตแล้วยังต้องทุกข์ทรมานใจ มีชีวิตอยู่สู้ตายไปให้รู้แล้วรู้รอดยังจะดีกว่า!
คนที่รู้ใจสามีก็คงไม่พ้นภรรยา คุณย่าหยางมองปราดเดียวก็รู้ทันความคิดตาแก่ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ในใจ เธอให้เหยียนหมิงซุ่นกับเหมยเหมยออกไปข้างนอก ตอนนี้คิดว่าคนที่ตาแก่ไม่กล้าเผชิญหน้ามากที่สุดก็คือพวกเขาแล้วล่ะ
เหยียนหมิงซุ่นยิ้มมุมปากเอ่ยเสียงแผ่ว “คุณปู่ คุณปู่พักผ่อนให้สบายเถอะ เรื่องที่บ้านไม่มีใครรู้ วางใจได้!”
คุณปู่เหยียนหนังหน้ากระตุกปล่อยให้น้ำลายไหลออกจากมุมปาก ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าหลานชายกำลังเยาะเย้ยเขาที่แก่แล้วยังทำตัวไม่น่าเคารพกันนะ?
คุณย่าหยางรีบเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดให้เขาพร้อมโบกมือไล่เหยียนหมิงซุ่นออกไปรัว ๆ
………………………