ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1706 โชคดีที่พ่อแม่เกิดเธอมาหน้าตาขี้เหร่ + ตอนที่ 1707 หย่าร้างกัน
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1706 โชคดีที่พ่อแม่เกิดเธอมาหน้าตาขี้เหร่ + ตอนที่ 1707 หย่าร้างกัน
ตอนที่ 1706 โชคดีที่พ่อแม่เกิดเธอมาหน้าตาขี้เหร่
ฉีฉีกเก๋อตกใจจนอกสั่นขวัญผวาราวกับวิญญาณหลุดจากร่าง ฉางชิงซงกับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนปลอบใจเธอไม่หยุด แต่ก็ดูไม่ได้ช่วยอะไร เหมยเหมยจึงเทเหล้าบรั่นดีแก้วหนึ่งให้ฉีฉีเก๋อดื่ม ถึงได้ช่วยผ่อนคลายอารมณ์ของเธอให้สงบลงได้
“ตามตัวมีบาดแผลไหม?” เหมยเหมยถามอ้อมๆ
ฉีฉีเก๋อส่ายหน้า “ไม่มี พวกมันแค่มัดฉันไว้ ไม่ได้ทำอะไร แต่สวีจื่อเซวียน…”
ดวงตาเธอพลันฉายแววหวาดกลัว สวีจื่อเซวียนอยู่ตรงหน้าเธอแล้วถูกคนพวกนั้น…
ฉีฉีเก๋อหลับตาลงร่างกายสั่นเทา เหมยเหมยเข้าใจถึงความกลัวของเธอ อย่ามองว่าแม่สาวเจ้าใจกล้าบ้าบิ่น แท้จริงแล้วเธอเป็นคนไร้เดียงสา จู่ ๆมาสัมผัสถึงด้านมืดของสังคมนี้กะทันหันแบบนี้ไม่มีทางรับได้หรอก
“ไม่ต้องคิดแล้ว มักจะมีสถานที่ที่แสงแดดส่องไม่ถึงอยู่ ต่อไปเธอต้องเดินทางไปรอบโลกจะต้องได้เจอกับสิ่งน่าเวทนามากกว่านี้ ถ้าแค่นี้ยังรับไม่ได้เธอก็หลบอยู่แต่ในบ้านแล้วไม่ต้องออกไปไหนอีก!” เหมยเหมยพูดโดยไม่แม้แต่จะเกรงใจ
สวีจื่อเซวียนน่าสงสารก็จริงแต่ในโลกนี้ยังมีผู้คนที่น่าเวทนาอีกมากมาย อย่างพวกเด็กสาวชาวอินโดนีเซีย เด็กอดอยากปากแห้งตายในแอฟริกาและยังมีผู้คนที่ดิ้นรนเอาชีวิตรอดภายใต้ซัลโว[1]…
คนเหล่านี้เป็นผู้บริสุทธิ์แต่กลับต้องใช้ชีวิตลำบากยากเข็ญทุกวัน เหมือนตายทั้งเป็น!
หายนะครั้งนี้ของสวีจื่อเซวียน เหตุผลหลักล้วนเกิดจากตัวเธอเองที่แส่หาเรื่อง
แต่ก็น่าแปลก ทำไมจู่ ๆเฉินหมิงถึงได้ลักพาตัวสวีจื่อเซวียนไปล่ะ?
และความโชคร้ายของสวีจื่อเซวียนก็แย่พอสมควรเพราะต้องมาเจอโอหยางปินกับเฉินหมิงคนชั่วร้ายซ้ำซ้อน เธอจึงกลายเป็นของสังเวยไปโดยธรรมชาติ รักษาชีวิตไว้ได้ก็นับว่าเป็นความโชคดีแล้วล่ะ
เหมยเหมยโทรหาเจียงจื้อหรู่ บอกชื่อโรงพยาบาลและหมายเลขห้องให้เขาทราบ ส่วนที่เหลือให้เขากระวนกระวายไปเองเถอะ!
ลุงเหลาไปส่งฉางชิงซงและอิงจวี้กังกลับมหาวิทยาลัย แม้ฉางชิงซงจะมีท่าทีไม่อยากกลับแต่เหมยเหมยก็ไม่อยากให้เพื่อนผู้ชายนอนค้างอ้างแรมที่นี่
“สวีจื่อเซวียนเป็นไงบ้าง? โดนแบบนั้นไปหรือยัง?” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนอดกลั้นมานานในที่สุดก็ถามขึ้น
ฉีฉีเก๋อร่างกายสั่นเทา จิบเหล้าอึกใหญ่อย่างดุเดือด พูดอย่างขมขื่น “พวกเขาอยู่ต่อหน้าฉัน…ทำเรื่องอย่างว่ากับสวีจื่อเซวียน… สวีจื่อเซวียนเลือดไหลเยอะมาก คนพวกนั้นไม่สนใจใยดีเธอเลย…”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตกใจมากพลันรู้สึกสงสารเห็นใจ ฉับพลันก็รู้สึกว่าโชคดีที่เธอร่างกายอ้วนท้วม
ทุกครั้งที่ถูกลักพาตัวไปสวีจื่อเซวียนไม่อาจรอดพ้นชะตากรรมจากการถูกทารุณกรรมได้เลย นั่นก็เพราะเธอหน้าตาดีเกินไป มันผิดที่ครอบครองหยก[2]ไว้!
“โชคดีที่พ่อแม่เธอเกิดเธอมาหน้าตาขี้เหร่ ไม่งั้นเธอคงไม่โชคดีขนาดนี้หรอก!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนปลอบใจฉีฉีเก๋ออย่างสัตย์จริง ฉีฉีเก๋อก็พยักหน้าไม่หยุด
ก็ไม่ใช่หรือไง พอคนร้ายพวกนั้นเห็นรูปลักษณ์ของเธอก็หมดความสนใจแล้ว แสดงว่าเธอขี้เหร่พอ พระเจ้าถึงได้คุ้มครอง!
เหมยเหมยกระตุกยิ้มที่มุมปาก แม่ตัวตลกทั้งสองเอ๋ย!
อันที่จริงฉีฉีเก๋อไม่ได้ขี้เหร่เลยสักนิดก็แค่ไม่ชอบแต่งตัว อีกอย่างต้องดูด้วยว่าเปรียบเทียบกับใคร ถ้าเทียบกับสวีจื่อเซวียนก็คงไม่นับว่าเป็นคนสวย แต่ถ้าเทียบกับกลุ่มคนทั่วไปเธอก็ถือว่าเป็นคนสวยเตะตาคนหนึ่งเลยล่ะ
“เด็กในท้องของสวีจื่อเซวียนตกเลือด ซ้ำยังเสียเลือดเยอะเกินไปจึงไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้อีก” เหมยเหมยพูดสั้น ๆเกี่ยวกับสถานการณ์ของสวีจื่อเซวียน ฉีฉีเก๋อกับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนต่างหวาดกลัวจนกอดกันตัวกลม ใบหน้าที่กลมใหญ่ของทั้งคู่ต่างซีดเซียว
“อาบน้ำเข้านอนกันเถอะ!”
เหมยเหมยหน่ายที่จะปลอบใจพวกเธอ เธอกำชับไปหลายต่อหลายหนแล้วว่าให้รักษาระยะห่างกับตัวหายนะอย่างสวีจื่อเซวียน แต่ทั้งสองคนก็เหลือเกินทำหูทวนลมกับคำพูดของเธอ รีบรนหาที่ตายให้ตัวเองกันจริง!
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนดูออกว่าเหมยเหมยอารมณ์เสียจึงมุ่ยปากอย่างหงุดหงิด เธอเองที่ไม่ดี ไม่อาจยับยั้งปากกับขาไว้ได้ ทำให้จ้าวเหมยต้องเปลืองแรงไปมาก แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าติดหนี้บุญคุณไปแล้วตั้งเท่าไร!
………………………………………………………..
ตอนที่ 1707 หย่าร้างกัน
วันถัดมาเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนและฉีฉีเก๋อออกเดินทางไปกว่างซีพร้อมกับพวกฉางชิงซง เหมยเหมยรู้สึกโล่งใจจึงอยู่บ้านร่างภาพต้นฉบับอย่างอุ่นใจ ส่วนทางด้านสวีจื่อเซวียน ลุงเหลาได้นำข่าวคราวมารายงานบ้างแล้ว
การที่เฉินหมิงลักพาตัวสวีจื่อเซวียนไปเป็นเพราะคำยุยงของคุณนายเจียงและการล่อลวงเพื่อผลประโยชน์ เพราะงั้นจึงพูดได้ว่า สวีจื่อเซวียนหาเรื่องใส่ตัว
คุณนายเจียงแค่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนจิตใจดี แล้วจะออมมือให้ชู้ได้เหรอ?
แต่เจียงจื้อหรู่รักสวีจื่อเซวียนจริง เมื่อได้รู้ความจริงก็ยิ่งเกิดความรู้สึกสงสารเห็นใจสวีจื่อเซวียนกว่าเดิม จึงได้ใจแข็งเพื่อขอหย่ากับคุณนายเจียง ไม่สนใจต่อการคัดค้านและการข่มขู่จากตระกูล
คุณนายเจียงคงจะหมดใจกับเจียงจื้อหรู่แล้วจริง ๆถึงได้ยอมหย่า ทรัพย์สินส่วนใหญ่เธอเป็นคนหามา เจียงจื้อหรู่ไม่มีสิทธิ์หน้าด้านเอาไป เอาไปได้แค่อาร์ต แกลเลอรีและของสะสม แล้วก็รถหนึ่งคัน เท่ากับการออกจากบ้านไปตัวเปล่า
เหมยเหมยส่ายหน้า แท้จริงแล้วคุณนายเจียงยังรักเจียงจื้อหรู่อยู่ แม้นจะถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้หญิงที่โหดเหี้ยมอำมหิตที่สุดในโลก ความเป็นจริงผู้หญิงแบบนี้จะมีอยู่สักกี่คนกัน?
เมื่อเผชิญกับความรัก ผู้หญิงล้วนเป็นฝ่ายที่สูญเสียมากกว่า!
ถ้าเธอเป็นคุณนายเจียงจะไม่ให้เงินเจียงจื้อหรู่แม้แต่แดงเดียว อาร์ต แกลเลอรี ของสะสม และรถก็จะเอาไปให้หมด เพราะเจียงจื้อหรู่เป็นฝ่ายผิด ตระกูลของคุณนายเจียงก็ไม่ธรรมดาเรื่องแค่นี้ขี้ประติ๋วจะตายไป ก็แค่ปล่อยให้เจียงจื้อหรู่ดูแลสวีจื่อเซวียนใช้ชีวิตอย่างยากลำบากจนต้องวางแผนหาฟืน ข้าว น้ำมัน เกลือ[3]
แต่คงต้องขึ้นอยู่กับความรักที่แท้จริงของพวกเขา เมื่อถึงเวลาที่ต้องคอยกังวลว่าวันนี้ต้องกินผักหรือกินเนื้อ[4] ความรักของพวกเขาจะยังสดใหม่ได้อีกนานแค่ไหน?
ความรักที่แสนยิ่งใหญ่ก็ไม่อาจเอาชนะความจริงที่โหดร้ายของการไม่มีเงินได้!
แต่กลับเป็นการเสียเปรียบสวีจื่อเซวียนเพราะของสะสมที่เจียงจื้อหรู่มีอยู่นั้นมีมูลค่าไม่น้อย หนำซ้ำเขายังมีหน้าที่การงานที่มีเกียรติ มีอาร์ต แกลเลอรีที่ทำเงินได้มหาศาล โดยไม่ต้องกังวลต่อชีวิตความเป็นอยู่ สามารถมีชีวิตที่ร่ำรวยได้ท่ามกลางสังคมชนชั้นกลาง
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นสยงมู่มู่ที่โทรเข้ามา “เธอรีบให้คนมารับฉันกับยัยทอมบอยที่สนามบินด้วย แม่เจ้า นี่พึ่งจะเดือนมิถุนายนทำไมอากาศถึงได้ร้อนขนาดนี้ล่ะ!”
เหมยเหมยตาลุกวาว เซียวเซ่อกลับมาแล้ว!
ไม่แปลกที่จะโทรให้คนไปรับ ยัยเซียวเซ่อกลัวร้อนที่สุด ร้อนนิด ๆหน่อย ๆก็ทนไม่ไหว เดือนเมษาพฤษภาคนอื่น ๆยังใส่เสื้อสองตัวอยู่เลย แต่เซียวเซ่อกลับเปิดเครื่องทำความเย็นเสียแล้ว ทั้งยังเปิดลากยาวไปจนถึงเดือนตุลา สมกับที่เป็นนกแพนกวินมาตั้งแต่เกิด
เหมยเหมยขับรถมุ่งหน้าไปสนามบินทันที ข้างนอกแดดเปรี้ยงเหมือนกับจะถูกแผดเผาเสียให้ได้ เริ่มร้อนแล้วจริง ๆด้วย แต่เธอมีแอร์ธรรมชาติอย่างเจ้าฉาฉาจึงไม่รู้สึกเลยสักนิด
เซียวเซ่อกับสยงมู่มู่หลบอยู่ในล็อบบี้สนามบิน ทั้งสองนั่งหันหลังชนกันต่างไม่มีใครสนใจใคร ในมือเซียวเซ่อถือไอศกรีมกรวยไว้ข้างละอัน กัดไม่กี่คำก็หมดไปแล้วหนึ่งกรวย
สยงมู่มู่ดูจนรู้สึกเสียวฟันไปทั้งแถบแล้ว เขาไม่เคยเห็นใครชอบกินของเย็นมากกว่าเซียวเซ่อเลย ต่อให้เป็นวันที่หนาวจัดยัยทอมบอยนี่ก็ต้องกินของเย็น ไม่ได้กินสักวันจะรู้สึกไม่สบายตัว แต่นิสัยการกินของเธอไม่ได้มีผลกระทบกับฟันเลยสัดนิด ยังแหลมคมเหมือนกับฟันเหล็ก
“เธอกินให้น้อยลงบ้างเถอะ ระวังวันข้างหน้าจะคลอดลูกไม่ได้เอานะ!”
สยงมู่มู่พูดขึ้นอย่างอดไม่ได้ ความจริงคือไม่อยากให้ยัยทอมบอยนี่ทรมานตัวเองอีก
เขาตั้งใจหาหนังสือมาอ่านโดยเฉพาะ ในนั้นบอกว่าผู้หญิงไม่ควรกินของเย็นมากไป คนที่อาการเบาหน่อยก็แค่ปวดประจำเดือน คนที่อาการรุนแรงจะตั้งครรภ์ได้ลำบาก
ถึงแม้ยัยทอมบอยจะไม่เหมือนผู้หญิง แต่ถึงอย่างไรร่างกายก็เป็นผู้หญิง ด้วยความเป็นเพื่อนเขาจึงอยากให้ยัยทอมบอยมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง แต่ว่า…
เซียวเซ่อเลียกินไอศกรีมกรวยที่เหลืออยู่ในมือจนหมดเกลี้ยง เขมือบกลืนลงไปทั้งอันอย่างสบายใจ พลันถอนใจยกสองมือขึ้นมากอดอกราวกับราชินี
“จะมีหรือไม่มีลูกแล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย!”
สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดคือพวกเด็กบ้านั่นแหละ ให้ตายเธอก็ไม่มีทางมีลูกหรอก
อีกอย่างผู้ชายบนโลกนี้ก็น่ารำคาญ เธอจะไม่ยอมนอนกับพวกผู้ชายให้ตัวเธอต้องอึดอัดใจแน่!
……………………………………………………….
[1] มาจากคำว่า salvo ในภาษาอังกฤษ คือการระดมยิงปืนใหญ่ การระดมยิง เสียงสนั่นของการยิงสลุต
[2] สำนวน匹夫无罪、怀璧其罪 หมายถึง เดิมทีราษฎรไม่มีความผิด แต่พอครอบครองหยกไว้กับตัวกลับมีความผิด เพราะแต่โบราณสามัญชนไม่อาจมีหยกไว้ในครอบครองได้ หากมีหยกอยู่กับตัวนั่นหมายถึงการได้มาด้วยการลักขโมย หรือปล้น
[3] ยากจนถึงขั้นต้องวางแผนว่าของที่มีอยู่จะพอใช้ถึงสิ้นเดือนไหม พอเลี้ยงปากท้องได้สักกี่วัน
[4] ผักมีราคาถูก ส่วนเนื้อมีราคาแพง ถ้าไม่มีเงิน วันๆ คงกินได้แต่ผักซื้อเนื้อกินไม่ได้