ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1714 เธอตายไปก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน + ตอนที่ 1715 สัตว์ที่ชอบสัมผัสกลิ่น
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1714 เธอตายไปก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน + ตอนที่ 1715 สัตว์ที่ชอบสัมผัสกลิ่น
ตอนที่ 1714 เธอตายไปก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน
“สวัสดี ไปเที่ยวกันเหรอ?” เจียงจื้อหรู่ยิ้มทักทายและโค้งตัวให้น้อย ๆไม่กล้าสบสายตาเย็นยะเยือกของเหยียนหมิงซุ่นตรง ๆ
สวีจื่อเซวียนวิ่งเหยาะ ๆตามมาด้านหลังและโอบแขนเจียงจื้อหรู่ไว้เหมือนแสดงตัวเป็นเจ้าของ เจียงจื้อหรู่สะบัดหลายทีก็ไม่หลุด รอยยิ้มบนใบหน้าเริ่มฝืดเคืองและสายตาเริ่มฉายแววไม่สบอารมณ์มากกว่าเดิม
สุดท้ายก็อายุน้อยเกินไปเลยไม่รู้จักโตสักนิด งานสังคมแบบนี้อดีตภรรยาของเขาไม่เคยทำให้เขาต้องกังวลใจเลย!
เหมยเหมยยิ้มเป็นมารยาทแล้วเอ่ยเสียงเรียบ “เรื่องงานค่ะ อาจารย์เจียงไปเที่ยวเหรอคะ?”
เธอไม่มองสวีจื่อเซวียนด้วยซ้ำ คนไม่รู้จักสำนึกบุญคุณแบบนี้ต่อให้เจอกันก็แค่คนแปลกหน้าเท่านั้น!
คราวก่อนแม้เธอจะบอกปัดคำขอร้องของเจียงจื้อหรู่แต่สุดท้ายสวีจื่อเซวียนถูกช่วยออกมาได้ก็ล้วนเป็นเพราะเธอไม่มากก็น้อยเลยนะ นังนี่ก็เหลือเกินไม่รู้จักขอบคุณก็ยังพอปล่อยผ่านไปได้แต่ตอนนี้ยังถลึงตาจ้องเธอเขม็งแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?
ทำคุณบูชาโทษหรือ?
เหมยเหมยกล่าวเสียงเย็นชา “สวีจื่อเซวียน เธอไม่สำนึกบุญคุณก็ช่าง แต่เธออย่าใช้สายตาเหมือนฉันฆ่าคนทั้งครอบครัวเธอแบบนั้นมามองฉัน ฉันไม่ใช่อาจารย์เจียงที่จะยอมทนเธอได้อย่างไม่มีขีดจำกัดหรอกนะ!”
เจียงจื้อหรู่รีบหันหน้าไปมองเลยเห็นสวีจื่อเซวียนที่ไม่ทันเก็บสายตาเคียดแค้นนั่น เขาตกใจพลางถลึงตาใส่เป็นการตักเตือนแวบหนึ่ง เอ่ยเสียงต่ำ “ขอบคุณนะจ้าวเหมย!”
เสียงที่ดุดันขึ้นเล็กน้อยไม่เหลือเค้าความเอาใจและอ่อนโยนอย่างที่เคยเป็น สวีจื่อเซวียนมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา แววตาแฝงด้วยความเสียใจทั้งยังคิดเหลวไหลไปเองสารพัด
“ไม่เอา ทั้งหมดเป็นความผิดของเธอ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอจงใจยื้อเวลา ฉันจะโดน…ได้ไงกัน คุณเองก็เปลี่ยนไป เมื่อก่อนคุณไม่เคยตะคอกใส่ฉันเลย…ฮือ…”
สวีจื่อเซวียนที่เศร้าเสียใจอยู่จึงพูดอะไรไม่ทันยั้งคิดจนหลุดความในใจทั้งหมดออกมา เจียงจื้อหรู่ลอบสบถในใจรีบอุดปากเธอไว้โดยอัตโนมัติ
เหมยเหมยสีหน้าดุดันทันทีและก่นด่าสวีจื่อเซวียนกับบรรพบุรุษของหล่อนสิบแปดชั่วโคตรในใจไปด้วย นี่น้ำเข้าสมองหรือไงกัน?
เมื่อก่อนยังรู้สึกว่าแม่นี่มีความสามารถดี ตอนนี้ดูแล้วก็คนโง่ดี ๆนี่เอง!
“ขอบคุณก็ช่างมันเถอะ ฉันคงรับไม่ไหวหรอกนะ” เหมยเหมยแค่นยิ้มกล่าวแล้วพูดเสียงประชดประชัน “สวีจื่อเซวียนเธอต้องทำความเข้าใจหน่อย ฉันกับเธอไม่ได้สนิทกัน เราเป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นธรรมดาเท่านั้น ฉันช่วยเธอไว้สองครั้งก็นับว่าทำหน้าที่เพื่อนได้ดีแล้ว อีกอย่างถ้าไม่ใช่เพราะฉันไปช่วยเธอ เธอคิดว่าเธอจะยังยืนอยู่ตรงหน้าฉันได้อีกเหรอ?”
“ทำไมเธอไม่รีบมา? จนฉันต้อง…” สวีจื่อเซวียนร้องโอดครวญ
“ฉันจะสนเธอทำไมว่าโดนรุมโทรมหรือเปล่า? ถ้าไม่ใช่เพราะฉีฉีเก๋อติดร่างแหไปด้วยเพราะเธอ เธอตายไปก็ไม่เกี่ยวกับฉัน อาจารย์เจียง อาจารย์รีบพาเธอไปเถอะค่ะ อย่ามาอยู่กวนประสาทฉันตรงนี้เลย!”
เหมยเหมยด่าไปไม่กี่ประโยคและสะบัดสีหน้าใส่เจียงจื้อหรู่ แม้คุณนายเจียงหน้าตาไม่ดีนักแต่กลับเก่งกาจกว่าสวีจื่อเซวียนเป็นร้อยเท่า เจียงจื้อหรู่สละของดีทิ้งเพื่อเอาคนที่ไม่มีสมองอย่างสวีจื่อเซวียนไว้นี่โง่เง่าจริง ๆ!
เจียงจื้อหรู่อารมณ์เดือดดาลยิ่งกว่า ทั้งที่ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะได้เจอคุณชายหมิงแต่กลับพังทลายลงเพราะความเอาแต่ใจของสวีจื่อเซวียน หนำซ้ำยังสร้างความไม่ประทับใจให้แก่คุณชายหมิงอีกด้วย
“ถ้าเธอยังงี่เง่าอีกก็รีบกลับไป อย่ามาตามฉัน!” เจียงจื้อหรู่ดึงหน้าบึ้งตึง น้ำเสียงก็เย็นชามากเช่นกัน
สวีจื่อเซวียนหน้าซีดเผือดในทันที ปากสั่นเทาเอามือปิดหน้าวิ่งหนีไป
เจียงจื้อหรู่เองก็ไม่ได้ตามเธอไป ครั้งนี้เขาไปฮ่องกงเพื่อเอาของเก็บสะสมไปประมูลขายเพราะเงินไม่พอใช้แล้ว ที่ฮ่องกงสามารถประมูลขายได้ราคาสูง เขาไม่คิดจะพาสวีจื่อเซวียนไปเพราะอยากให้เธออยู่พักฟื้นร่างกายที่บ้าน
แต่พอสวีจื่อเซวียนรู้เข้าก็โวยวายจะตามไปด้วย เขาที่โดนกวนใจจนนึกรำคาญเลยตอบตกลงไป
“ขอโทษทีนะ จื่อเซวียนเธอดื้อเกินไป จ้าวเหมยเธออย่าถือสาหล่อนเลยนะ!” เจียงจื้อหรู่รีบขอโทษขอโพยไม่กล้าแม้แต่จะมองเหยียนหมิงซุ่นที่แผ่ความเยือกเย็นออกจากตัวอยู่ข้าง ๆ
หวังว่าคุณชายหมิงจะไม่โกรธนะ!
……………………….
ตอนที่ 1715 สัตว์ที่ชอบสัมผัสกลิ่น
เหมยเหมยอมยิ้มน้อย ๆไม่พูดอะไร เธอไม่ใช่พ่อแม่สวีจื่อเซวียนสักหน่อยทำไมต้องทนความเอาแต่ใจของหล่อนด้วย?
เจียงจื้อหรู่เองก็รู้สึกว่าฟังไม่ขึ้นเช่นกัน จ้าวเหมยอายุน้อยกว่าสวีจื่อเซวียนตั้งหนึ่งปีแหนะ!
บรรยากาศน่าอึดอัดขึ้นมาทันที เจียงจื้อหรู่ไม่รู้ควรพูดอะไรดีจึงทำหน้าลำบากใจ
“อาจารย์เจียงไม่ไปดูสวีจื่อเซวียนหน่อยเหรอคะ?” เหมยเหมยจงใจพูดขึ้นเพราะนึกรำคาญผู้ชายคนนี้เต็มทน
เจียงจื้อหรู่ก็ยิ่งทำหน้าไม่ถูก ความรักระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์บวกกับเป็นชู้นอกสมรสทำให้เขาไม่กล้าเงยหน้ามองจ้าวเหมยแล้ว เขายิ้มอย่างลำบากใจก่อนขอตัวออกมาวิ่งตามไปยังทิศทางที่สวีจื่อเซวียนจากไป
เหมยเหมยแค่นเสียงทีหนึ่ง ตอนนี้ยังดูรักใคร่กันดี เหลือแค่ว่ารักแท้นี้จะก้าวข้ามบททดสอบของเวลาได้หรือเปล่า?
“นี่อาจารย์ที่ปรึกษาที่คบชู้ของพวกเธอเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยปากถาม
“ใช่ ทอดทิ้งภรรยาเพื่อคนไม่รู้จักสำนึกบุญคุณอย่างยัยจิ้งจอกเมื่อกี้นั่นไง” เหมยเหมยพูดเชิงเหยียด
เหยียนหมิงซุ่นไม่พอใจกว่าเดิม “อาจารย์ที่ปรึกษาของเธอตาบอดใจก็บอดไปด้วยจริง ๆ”
ในเมืองหลวงคุณนายเจียงมีชื่อเสียงมากกว่าเจียงจื้อหรู่ด้วยซ้ำ หล่อนถือว่าเป็นผู้หญิงที่ทำงานเก่งคนหนึ่งเลยทีเดียว บอกได้ว่าการที่เจียงจื้อหรู่ใช้ชีวิตสุขสบายได้ล้วนเป็นคุณงามความดีของภรรยาทั้งสิ้น ตอนนี้กลับเตะภรรยาคนเก่งออกไปเพื่อผู้หญิงโง่แบบนั้น โง่เง่าชะมัด!
เหมยเหมยจงใจกล่าว “ผู้ชายอย่างพวกพี่คือสัตว์ที่ชอบของสวย ๆงาม ๆอย่างเดียวไม่ใช่เหรอ?”
เหยียนหมิงซุ่นอมยิ้มน้อย ๆก้มหน้ากระซิบข้างหูเธอ “ฉันคือสัตว์ที่ชอบสัมผัสกลิ่นต่างหาก สวยไม่สวยไม่ว่ากัน แต่จะต้องอร่อย…”
ไอร้อนรดข้างหูของเธอจนใบหน้าร้อนผ่าว เหมยเหมยจับความหมายแฝงในคำพูดของเขาได้ก็ทั้งได้ใจทั้งเขินอาย หื่นขึ้นทุกวันจริง ๆ!
“กินมือตัวเองไปเถอะ!”
เหมยเหมยเหลือบมองมือของใครบางคนด้วยสายตาเปื้อนยิ้ม ครั้งนี้เธอจะอยู่เที่ยวฮ่องกงหลาย ๆวัน ให้เหยียนหมิงซุ่นจัดการตัวเองไปแล้วกัน!
เหยียนหมิงซุ่นนัยน์ตาเข้มขึ้น หากไม่ได้กำลังอยู่ในสนามบินเขาจะต้องจับยัยตัวแสบนี่แก้ผ้าจนตัวเปลือยแล้วอบรมเธอสักหนึ่งบทเรียน บอกให้เธอตระหนักรู้ในหน้าที่ของคุณนายเหยียน!
เขาแต่งงานมีภรรยาแล้วแท้ ๆกลับคิดจะให้เขาจัดการตัวเองงั้นเหรอ?
“คุณนายเหยียน ไม่ตั้งใจทำงานจะต้องโดนทำโทษนะ!” เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยเตือนเสียงเบา
เหมยเหมยตัวสะท้าน นี่มันข่มขู่กันชัด ๆเลยนี่นา เธอหยิกเอวของเหยียนหมิงซุ่นไปหนึ่งทีอย่างขุ่นเคือง ขณะที่คิดจะกัดอีกหลาย ๆทีก็มีเสียงของสยงมู่มู่ดังแว่วมา
“เหมยเหมยอยู่ตรงนั้น!”
พวกสยงมู่มู่แบกเป้เรียบง่ายเดินมาพร้อมอู่เชาที่ตัวอวบอ้วนขึ้นเรื่อย ๆและเซียวเซ่อที่ร้อยปีก็ใส่แต่เสื้อยืดกางเกงยีน ทั้งสามคนวิ่งมาทางพวกเขา
อีกไม่นานใกล้จะขึ้นเครื่องแล้วเหยียนหมิงซุ่นจึงพูดย้ำไม่กี่ประโยคแล้วออกจากสนามบินไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ส่งเหมยเหมยไปแล้วเขาจะได้เริ่มลงไม้ลงมือจัดการสักที!
ขณะที่ขึ้นเครื่องเหมยเหมยก็เจอพวกเจียงจื้อหรู่อีกครั้งที่ดูเหมือนจะคืนดีกันแล้ว สวีจื่อเซวียนก็ไม่ได้โง่มากนี่นา รู้จักเล่นตัวด้วย!
เจียงจื้อหรู่ชะงักไปกึกแล้วถามเสียงตกใจ “จ้าวเหมยก็ไปฮ่องกงเหรอ?”
“ใช่ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ!” เหมยเหมยไม่อยากคุยมากไปกว่านี้เลยเดินตรงไปยังที่นั่งเฟิร์สคลาส
สยงมู่มู่กับเซียวเซ่อต่างเป็นคนที่ไม่ชอบสนใจคนแปลกหน้าเลยไม่แม้แต่จะมองพวกเจียงจื้อหรู่ คอยเดินตามหลังเหมยเหมยด้วยใบหน้าเย็นชา อู่เชากลับอมยิ้มก้มหน้าให้พวกเขาน้อย ๆ
สวีจื่อเซวียนนึกเกลียดในใจ พอเห็นพวกเหมยเหมยไม่นั่งในห้องผู้โดยสารเดียวกันกับพวกเขาเลยถามอย่างฉงนว่า “พวกจ้าวเหมยไปนั่งตรงไหนเหรอ?”
เจียงจื้อหรู่ย่นคิ้วเล็กน้อยและรู้สึกไม่ดีอย่างบอกไม่ถูก เมื่อก่อนทุกครั้งที่เขาไปฮ่องกงภรรยาจะต้องให้นั่งแต่ชั้นเฟิร์สคลาส โรงแรมก็เป็นโรงแรมระดับห้าดาวทั้งนั้น จัดการจองให้เขาเสร็จสรรพทุกอย่างไม่ต้องให้เขากังวลใจสักนิด
ครั้งนี้เขาอยากจองชั้นเฟิร์สคลาสแต่เงินในกระเป๋ากลับไม่เห็นด้วย ทำได้แค่ประหยัดเงินล่ะนะ
“พวกเขาไปนั่งข้างหน้า ต้องบินอีกหลายชั่วโมงเธอนอนพักสักหน่อยแล้วกัน!” เจียงจื้อหรู่ตอบกลับข้าง ๆคู ๆ โอ๋สวีจื่อเซวียนให้นอนหลับขณะที่ตนกลับไม่รู้สึกง่วงแม้แต่น้อย
ไม่รู้ว่าของสะสมครั้งนี้จะขายได้เท่าไร หากน้อยเกินไปคงไม่พอประคองกิจการพิพิธภัณฑ์ด้วยซ้ำ!
………………………………..