ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1716 แฟนคลับที่บ้าคลั่ง + ตอนที่ 1717 ของขวัญวันแต่งงาน
ตอนที่ 1716 แฟนคลับที่บ้าคลั่ง
พอตื่นขึ้นมาก็ถึงฮ่องกงแล้ว เสียงหวานใสของแอร์โฮสเตสดังขึ้นเรียกให้เหมยเหมยดึงผ้าปิดตาออก บิดขี้เกียจหนึ่งทีก่อนจะปลุกพวกสยงมู่มู่ที่ยังหลับใหลกันอยู่
หลังลงจากเครื่องเหมยเหมยก็ไปรับฉิวฉิวกับฉาฉากลับมา พวกเจ้าตัวเล็กอารมณ์ดีไม่เหมือนสัตว์เลี้ยงตัวอื่นที่ท่าทางเกียจคร้าน เจ้าตัวเหม่ยเหรินของเซียวเซ่อก็อยู่ในกล่องเดียวกับพวกฉิวฉิว พอเห็นเซียวเซ่อก็กระโดดขึ้นมาบนตัวเธออย่างออดอ้อน
ไม่รู้ว่าฉิวฉิวไปรังแกเจ้าตัวเล็กน่าสงสารนี้อย่างไรอีก!
“รีบไปกัน ฉันจะไปกินไอติม” เซียวเซ่อร้อนจนกัดฟันกรอด สถานที่บ้าบออย่างฮ่องกงอากาศร้อนกว่าเมืองหลวงอีก
รู้แบบนี้แต่แรกคงไม่มา!
“เธอกินไอติมน้อย ๆหน่อย เดี๋ยวอนาคตก็ลำบากหรอก!” เหมยเหมยตวัดตาใส่เธอแวบหนึ่ง ชาวต่างชาติไม่เคยให้ความสำคัญเรื่องพวกนี้เลยไม่เคยสนใจว่าเซียวเซ่อจะทานไอติมมากขนาดไหน
เช่นเดียวกับหญิงชาวต่างชาติที่ไม่เคยอยู่เดือน อีกทั้งไม่มีข้อห้ามเรื่องอาหารที่แม้จะร่างกายแข็งแรงราวกับวัวกับควายแต่กลับแก่ตัวเร็วเหลือเกิน บ่งบอกว่าวิถีการบำรุงร่างกายของฮวาเซี่ยยังมีคุณค่าพอจะให้พูดถึงอยู่
เซียวเซ่อแค่นเสียงอย่างไม่ใส่ใจ “ไม่กินไอติมแล้วชีวิตจะมีความหมายอะไรอีก?”
เธอสะพายกระเป๋าไว้ตรงไหล่พลางก้าวขายาวเดินออกไปข้างนอก เซียวเซ่อในวัยยี่สิบปีกลับมีส่วนสูงถึงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าเซนติเมตร เตี้ยกว่าสยงมู่มู่เพียงคืบเดียวเท่านั้น แขนยายขายาวเดินหนึ่งก้าวแต่เหมยเหมยกลับต้องวิ่งตามสองก้าวราวกับเดินอยู่บนสายลม
“ช้า ๆหน่อยสิ ฉันตามไม่ทัน” เหมยเหมยกับอู่เชาวิ่งตามจนเหนื่อยหอบอย่างน่าสงสาร คนหนึ่งก็อ้วนอีกคนก็เตี้ย น่าละเหี่ยใจเหลือเกิน!
เซียวเซ่อหยุดเดินคว้ากระเป๋าของเหมยเหมยไปสะพายไว้บนไหล่ตัวเองก่อนจะจับมือเธอสับเท้าเดินไป
วันที่อากาศร้อนตับแตกแบบนี้เธอไม่อยากอยู่นานกว่านี้แม้แต่วินาทีเดียว รีบไปตากแอร์ที่โรงแรมเอาตัวรอดก่อนดีกว่า!
เจียงจื้อหรู่กับสวีจื่อเซวียนเองก็ลงจากเครื่องแล้วเจอกันตรงปากประตู เหมยเหมยเพียงแค่ผงกศีรษะให้เล็กน้อยพร้อมสีหน้าเย็นชา เจียงจื้อหรู่จึงไม่กล้าเข้าไปตีสนิททั้งยังรู้สึกแย่อย่างบอกไม่ถูก
ทั้งที่เมื่อก่อนจ้าวเหมยให้ความเคารพเขามากแท้ ๆ แต่ตอนนี้กลับถูกปฏิเสธให้อยู่ห่างจากตัวพันลี้ เฮ้อ!
“มู่มู่ฉันรักเธอ…มู่มู่…”
“มู่มู่ เซ็นลายเซ็นต์ให้ฉันหน่อยเถอะ!”
“พระเจ้า…ฉันเห็นมู่มู่ตัวจริงแล้ว…หล่อจังเลย…ฉันจะเป็นลมแล้ว…”
……
เพิ่งเดินพ้นประตูมา เหมยเหมยก็ถูกกลุ่มแฟนคลับทั้งชายทั้งหญิงที่บ้าคลั่งกลุ่มหนึ่งทำเอาสะดุ้งเฮือก เสียงดังอึกทึกทั้งยังมีป้ายแบนเนอร์ขนาดใหญ่ อย่างน้อยต้องมีสักร้อยคนขึ้นไปต่างรายล้อมเข้ามาจนแน่นขนัดไปหมด
“สยงมู่มู่ไหนนายบอกว่าเป็นตารางลับไง” เหมยเหมยโกรธจนอยากจะบีบคอเจ้าหมอนี่ให้ตาย หากรู้แต่แรกว่าเขาเปิดเผยตารางงานล่ะก็ ต่อให้ตีให้ตายก็ไม่ยอมนั่งเครื่องมาพร้อมกับเขาหรอก
“ฉันไม่ได้เปิดเผยนี่นา!”
สยงมู่มู่ก็งุนงงเช่นกันถลาหยิบผ้าปิดปากจากกระเป๋าคิดจะสวมแต่โดนเซียวเซ่อตบเข้าให้ก่อนจะก่นด่าไปว่า ‘เจ้างั่ง’!
เห็นกันชัดเจนขนาดนี้แล้ว มาสวมตอนนี้จะช่วยปกปิดอะไรได้หรือไง?
“ตอนนี้ทำไงล่ะ?” อู่เชาขนหัวลุกไปหมด
“ไม่รู้จักหมอนี่ แยกย้ายกันไป!” เหมยเหมยตีตัวออกห่างสยงมู่มู่อย่างแน่วแน่ รักษาระยะห่างอย่างน้อยสิบเมตร เซียวเซ่อกับอู่เชาเห็นตัวอย่างเลยเลียนแบบทำให้สยงมู่มู่กลายเป็นคนโดดเดี่ยวไปในพริบตา
“พวกเธอทำกันแบบนี้เลยเหรอ? ไม่มีน้ำใจเอาเสียเลย!”
สยงมู่มู่มองพวกเขาอย่างหมดคำพูด วันเวลาจะช่วยให้เห็นจิตใจของคนจริง ๆ!
สวีจื่อเซวียนมองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง หญิงงามตัวสูงที่อยู่ด้วยกันกับจ้าวเหมยก่อนหน้านี้ถูกคนกลุ่มใหญ่ห้อมล้อมและกำลังยืนแจกลายเซ็นทั้งยังมีนักข่าวคอยสัมภาษณ์ราวกับดาราก็ไม่ปาน
เจียงจื้อหรู่ได้ยินกลุ่มแฟนคลับเรียกมู่มู่ก็สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาพอจะรู้จักสยงมู่มู่อยู่บ้าง คาดว่าน่าจะเป็นนักร้องที่แต่งเพลงเองและกำลังได้รับความนิยมอย่างท้วมท้นตลอดหลายปีที่ผ่านมาอย่างสยงมู่มู่ ได้ข่าวว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกับจ้าวเหมยด้วย
ต่างว่ากันว่าสยงมู่มู่เป็นผู้ชายที่มีหน้าตาคล้ายผู้หญิงและสวยยิ่งกว่าผู้หญิง ไม่ผิดจากคำเล่าลือจริง ๆ!
ไม่ง่ายเลยกว่าพวกเหมยเหมยสามคนจะเบียดเสียดตัวออกจากท่ามกลางฝูงชนขึ้นรถของเสี่ยวอวิ๋นกับเสี่ยวหลี่ได้ พอได้ลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศก็พรูลมหายใจยาวพลางมองไปยังสยงมู่มู่ที่ยังถูกห้อมล้อมอย่างนึกสมน้ำหน้า
………………………….
ตอนที่ 1717 ของขวัญวันแต่งงาน
“ฟู่ว ร้อนจะตายอยู่แล้ว ขอโค้กเย็นกระป๋องหนึ่งสิ”
กว่าสยงมู่มู่จะรับมือกับแฟนคลับเสร็จก็ขึ้นรถในสภาพเหงื่อชุ่มศีรษะ เหมยเหมยเปิดตู้เย็นโยนกระป๋องโค้กให้เขาหนึ่งกระป๋อง ส่วนเซียวเซ่อเพิ่งขึ้นมาได้ครู่เดียวก็กระดกไปแล้วสองกระป๋อง
สวีจื่อเซวียนกับเจียงจื้อหรู่เองก็เบียดตัวออกมาได้สำเร็จเตรียมนั่งแท็กซี่ไปโรงแรม ขณะที่สยงมู่มู่ขึ้นรถนั้นพวกเขาถึงรู้ว่ารถคันนี้ที่จอดรออยู่มารับพวกจ้าวเหมย
รถเป็นรถลีมูซีนลินคอร์นที่ต่อให้สวีจื่อเซวียนผู้ไม่สันทัดเรื่องรถยนต์ก็ดูออกว่ารถประเภทนี้ราคาแพง เธอเคยเห็นมันในโทรทัศน์ แถมยังเล่าลือว่าเป็นรถยนต์ที่ต้องเป็นระดับอภิมหาเศรษฐีถึงจะซื้อไหว
จ้าวเหมยทำไมอยู่ฮ่องกงก็มีอิทธิพลขนาดนี้ล่ะ?
สวีจื่อเซวียนนึกน้อยใจ หลังจากขึ้นรถแท็กซี่คันน้อยก็ยิ่งรู้สึกแย่กว่าเดิม
ทำไมไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหนก็ไล่ตามจ้าวเหมยไม่ได้สักที?
เสี่ยวอวิ๋นไม่ได้ไปส่งพวกเหมยเหมยที่โรงแรมแต่ไปยังบ้านพักตากอากาศแถวอ่าวรีพัลส์เบย์ที่อยู่ใกล้ทะเล ได้ฟังเสียงคลื่นทะเลตอนเข้านอนทุกวัน เหมยเหมยหลงรักมันตั้งแต่แรกเห็นเลยด้วยซ้ำ
“อันนี้คุณชายหมิงฝากผมให้คุณหนูครับ” เสี่ยวอวิ๋นยื่นกล่องเล็กสีชมพูกล่องหนึ่งมาให้โดยมีริบบิ้นผูกไว้อย่างสวยงาม
เหมยเหมยรับกล่องมาถือไว้อย่างแปลกใจก่อนจะเปิดกล่องก่อนจะเห็นกระดาษใบเล็กที่ถูกเขียนด้วยลายมือของเหยียนหมิงซุ่น ‘คุณนายเหยียน สุขสันต์วันแต่งงาน!’
ใต้กระดาษเป็นแหวนเพชรเด่นสะดุดตาที่มีขนาดเท่าไข่นกพิราบทำเอาคนมองละสายตาไม่ได้ เสี่ยวอวิ๋นอธิบาย “นี่เป็นแหวนที่คุณชายหมิงจ้างนักออกแบบเพชรมากฝีมือออกแบบเองเลย ซึ่งมีแค่ชิ้นเดียวในโลก”
เหมยเหมยยิ้มอย่างมีความสุขแล้วสวมแหวนไว้ที่นิ้วนาง ขนาดกำลังดีทั้งไข่นกพิราบนี่ก็ไม่โดดเด่นเกินไป เข้ากับบุคลิกของเธอเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในแหวนที่ยังสลักตัวย่อชื่อภาษาอังกฤษของเธอกับเหยียนหมิงซุ่นไว้ด้วย
เธอไม่คิดเลยว่าเหยียนหมิงซุ่นจะเตรียมของขวัญอย่างเอาใจใส่ขนาดนี้ รู้สึกหวานจับใจจริง ๆ ช่างเป็นคนนิสัยไม่ดีเอาเสียเลย ไม่เคยบอกเธอล่วงหน้าสักคำ!
สยงมู่มู่ตาดีพลางเหลือบเห็นตัวอักษรบนกระดาษชิ้นเล็กได้ในทันที เขาเกร็งหนังศีรษะตะคอกใส่ “จ้าวเหมยเธอขายตัวเองไปตั้งแต่เมื่อไหร่?”
เหมยเหมยถลึงตาใส่อย่างไม่พอใจ “พูดภาษาคนได้ไหม? ฉันกับพี่หมิงซุ่นเพิ่งจดทะเบียนสมรสไป ตอนนี้ฉันคือคุณนายเหยียนแล้วนะ”
“น้ำเข้าสมองเธอหรือไง? ก้าวเข้าสู่ชีวิตแต่งงานขุดหลุมฝังตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย คุณน้ากับคุณน้าสะใภ้เล็กรู้เรื่องนี้หรือยัง?” สยงมู่มู่ลอบด่าเหยียนหมิงซุ่นเจ้าเล่ห์ในใจ หลอกล่อยายนี้ให้หัวหมุนแล้วขายตัวเองทั้งที่อายุเพิ่งยี่สิบแท้ ๆ!
“แน่นอนว่ารู้อยู่แล้ว นายสนแต่ตัวนายให้ดีเถอะ เรื่องฉันไม่ต้องมายุ่งหรอก!”
เหมยเหมยกลอกตาใส่อย่างไม่สบอารมณ์ทำเอาสยงมู่มู่แค่นเสียงใส่อย่างโมโห หมากัดหลี่ว์ต้งปิน ไม่รู้ความหวังดีคนอื่น![1]
สิ่งที่เซียวเซ่อสนใจกลับเป็น–
“เหยียนหมิงซุ่นไม่เสียเงินสักแดงเดียวเลยเหรอ? ให้แค่แหวนธรรมดาวงนี้น่ะนะ? ไม่จัดให้แม้แต่งานแต่งงานเลยเหรอ?”
หากเป็นเช่นนี้จริงล่ะก็เหยียนหมิงซุ่นคนนี้ก็นับว่าขี้เหนียวพอตัว ไม่ใช่คนดีอะไร!
“รอจัดงานแต่งงานหลังเรียนจบ พี่หมิงซุ่นบอกแล้วว่าจะจัดงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ให้ฉันด้วยนะ!” เหมยเหมยทำหน้าเคลิ้มรอคอยให้วันเวลาผ่านไปเร็วกว่านี้อีกนิด
เซียวเซ่อแค่นเสียงทีหนึ่ง ผู้หญิงที่ตกในภวังค์รักล้วนหน้ามืดตามัว ผู้ชายพูดจาหว่านล้อมใส่ไม่กี่ประโยคก็เอาใจจนหลงหัวปักหัวปำ พูดไปก็เปล่าประโยชน์ แต่เจ้าเหยียนหมิงซุ่นคงเชื่อถือได้สินะ อย่างน้อยแหวนวงนั้นก็พอจะให้ครอบครัวฐานะธรรมดาอื่น ๆใช้กินไปหลายชาติแล้วล่ะ!
คืนนั้นเหยียนหมิงซุ่นก็ได้คำรายงานจากเสี่ยวอวิ๋นเช่นกัน พอได้ยินว่าเหมยเหมยรักแหวนวงนั้นมากเพราะกลัวทำหายเลยไม่กล้าใส่ก็อดหัวเราะไม่ได้
ช่างเป็นหญิงที่โง่เขลาเสียจริง ลำพังแค่แหวนวงเดียวหากหายก็ซื้อใหม่ มีอะไรต้องเสียดายกัน?
แต่เขาก็ซาบซึ้งใจกับน้ำใจนี้จากเหมยเหมยอยู่ดี เขารู้ว่าสิ่งที่ยายโง่คนนี้เสียดายไม่ใช่แหวน–
แต่เป็นความรักของเขา!
……………………….
[1] เรื่องราวของชาวบ้านจากการหลี่ว์ต้งปินใจดีปล่อยหมาที่ถูกมัดเอาไว้แต่กลับโดนหมาตัวนั้นกัดเข้า ภายหลังจึงใช้เปรียบกับคนที่ทำคุณบูชาโทษ