ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1732 ฆ่าให้หมด + ตอนที่ 1733 การตัดต่อที่ชั่วร้าย
ตอนที่ 1732 ฆ่าให้หมด
ในระยะเวลาสั้น ๆสิบนาที เหมยเหมยแสดงการเต้นรำฉบับดั้งเดิมของฮวาเซี่ย เช่นระบำหูเสวียน ระบำตัวอ่อน ระบำพัดและอื่น ๆติดต่อกัน ถึงแม้ผู้ชมจะเป็นคนนอกวงการแต่พอดูออกว่าทักษะการเต้นของเหมยเหมยลึกซึ้งมาก ไม่ใช่สิ่งที่ระดับมือสมัครเล่นของพวกโอหยางซานซานคนจะเทียบได้
“ระบำโบราณของฮวาเซี่ยมีหลายร้อยชนิดแต่ฉันรู้แค่เพียงผิวเผิน วันนี้จึงแสดงฝีมือให้ได้รับชมเพียงเท่านี้”
เหมยเหมยหอบหายใจเล็กน้อย ท่าทางถ่อมตัวมาก ตรงกันข้ามกับความหยิ่งผยองของพวกโอหยางซานซานทั้งสี่คน แน่นอนว่าใจของผู้ชมด้านล่างเวทีก็ต้องเอนเอียงไปทางพวกเหมยเหมยอยู่แล้ว
พวกโอหยางซานซานทั้งสี่คนยังไม่ยอมแพ้ ยังเสนองานศิลปะ คณิตศาสตร์อีกอย่างต่อเนื่อง มีความคิดที่จะกอบกู้หน้าตาศักดิ์ศรีกลับมา แต่ว่า ——
วาดภาพมีเซียวเซ่อและเหมยเหมยอยู่ คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์มีเซียวเซ่อและสยงมู่มู่ บทกลอนกวีโบราณก็มีอู่เชาอยู่ ทั้งสี่คนต่างก็ส่งเสริมซึ่งกันและกัน แสดงถึงอารยธรรมอันยาวนานห้าพันปีของฮวาเซี่ยได้อย่างสมบูรณ์แบบ
“สามพันกว่าปีก่อนฮวาเซี่ยได้เริ่มใช้การบวกลบคุณหารตัวเลขแล้ว และสองพันห้าร้อยปีก่อนตำราคณิตศาสตร์เก้าบทก็ได้ปรากฏขึ้น ซึ่งก็คือสูตรคูณที่ท่องจำกันในปัจจุบัน และยังมีการคำนวณหาค่าพายของจู่ชงจือที่คำนวณได้เร็วกว่ายุโรปเป็นพันปี…
มาพูดถึงวิทยาศาสตร์ ในเชิงลึกฉันขอไม่พูดแล้วกันพูดไปก็กลัวว่าพวกเธอจะฟังไม่เข้าใจ พูดถึงจตุรประดิษฐ์หรือก็คือสิ่งประดิษฐ์ทั้งสี่ก็แล้วกัน มีใครรู้บ้างครับว่าสิ่งประดิษฐ์ทั้งสี่มีอะไรบ้าง?”
สยงมู่มู่หันไปถามกับผู้ชมด้านล่างเวที ทันใดนั้นก็มีผู้ชมกระตือรือร้นลุกขึ้นยืน เป็นเด็กผู้ชายใส่แว่น น่าจะยังเรียนอยู่ เขาพูดเสียงดังว่า “ดินปืน การผลิตกระดาษ แท่นพิมพ์ เข็มทิศ”
“ใช่ คะแนนการเรียนของคุณจะต้องดีมากแน่เลย สู้ ๆ!”
สยงมู่มู่หันไปยกนิ้วโป้งให้กับเขา เด็กชายตื่นเต้นเป็นอย่างมาก สิวหนุ่มบนใบหน้าแดงซ่านไปหมด
เซียวเซ่อพูดต่อว่า “ไม่ใช่แค่เพียงสิ่งประดิษฐ์ทั้งสี่ จักรพรรดิเจงกิสข่านในราชวงศ์หยวน พระองค์ตะลุยตีเมืองขยายอาณาเขตไกลที่สุดถึงยุโรปเสียด้วยซ้ำ ในเวลานั้นพื้นที่ของประเทศฮวาเซี่ยมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และยังมีเจิ้งเหอแห่งราชวงศ์หมิงได้เดินทางไปทางแถบตะวันตกประเทศต่าง ๆถึงเจ็ดครั้ง เขาไปไกลสุดถึงทวีปอเมริกาและแอฟริกาตะวันออกก่อนโคลัมบัสหนึ่งศตวรรษเสียอีก”
“ฉันขอนอกเรื่องพูดถึงอาหารแล้วกัน แม้แต่พิซซ่าที่เอร็ดอร่อยนั้น อันที่จริงก็ต่อยอดมาจากพายของฮวาเซี่ย พวกคุณเคยได้ยินชื่อมาร์โค โปโลมาตลอดใช่ไหม? ผู้ชายคนนี้เป็นคนนำเอาพายของฮวาเซี่ยไปที่อิตาลี แล้วค่อย ๆพัฒนามาเป็นพิซซ่าในปัจจุบัน”
เหมยเหมยพูดเรื่องขบขันออกมาทำเอาผู้ชมด้านล่างเวทีต่างหัวเราะกันใหญ่ เสียงปรบมือดังกึกก้อง
หากพูดถึงเรื่องอาหาร ฮ่องกงนับว่าเป็นสวรรค์ด้านอาหารที่ไม่เป็นรองใคร เรื่องรักชาติบ้านเมืองพวกเขาอาจไม่เท่าไร แต่มีความภาคภูมิใจเรื่องอาหารอย่างลึกซึ้ง พวกเขารู้สึกว่าไม่ว่าอาหารที่ไหนก็เทียบกับอาหารท้องถิ่นไม่ได้
ดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกประทับใจสิ่งที่เหมยเหมยพูดอย่างมาก
นอกจากนี้ทั้งสี่คนยังให้คำอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับวัฒนธรรมของฮวาเซี่ย คนรุ่นใหม่หลายคนเพิ่งเคยได้ฟังเป็นครั้งแรก หากจะบอกว่าไม่เคยสัมผัสคงจะเป็นไปไม่ได้ ถึงอย่างไรท้ายที่สุดพวกเขาต่างก็เป็นลูกหลานของชาวฮวาเซี่ย!
แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น มุมมองทัศนคติสิ่งเหล่านี้ต้องปลูกฝังตั้งแต่อายุยังน้อย คงเป็นเรื่องยากหากจะให้เปลี่ยนแปลงไปเลยในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ
แขกรับเชิญทั้งสองฝั่งปะทะฝีปากกันเรียบร้อยแล้ว เห็นได้ชัดว่าฝั่งเหมยเหมยจบได้อย่างสวยงามสมบูรณ์ พวกโอหยางซานซานทำสีหน้าบึ้งตึงคอตกอย่างเสียศักดิ์ศรี แต่จะทำอย่างไรได้?
ในเมื่อความสามารถสู้ไม่ได้นี่นา!
ชายคนหนึ่งที่เกือบจะถูกลืมเลือนไปฝืนฉีกยิ้มออกมา เขาคิดอยากจะพูดสักสองสามคำเพื่อแสดงตัวตน เหมยเหมยกลับไม่คิดจะให้โอกาสผู้ชายคนนี้พูด จึงพูดเสียงดังขึ้นมาว่า “ลูกไม่รังเกียจหน้าตาอัปลักษณ์ของแม่ รังทองรังเงินสวรรค์วิมานจากไหนก็ไม่ดีเท่ากระท่อมมุงจากของตัวเอง แม้ว่าตอนนี้ฮวาเซี่ยจะไม่ร่ำรวยและแข็งแกร่งมากนักแต่ก็พยายามก้าวไปข้างหน้าตลอด ปรับเปลี่ยนโฉมใหม่ในทุกวัน”
เธอชะงักลงแล้วก็พูดต่อว่า “สิบปากว่ายังไม่เท่าตาเห็น ฉันขอแนะนำพวกคุณอาศัยช่วงวันหยุดไปดูแม่น้ำภูเขาของแผ่นดินใหญ่ประเทศของตัวเอง ทิวทัศน์ที่สวยงาม มันแตกต่างจากที่คุณเคยได้ยินมาอย่างแน่นอน ใครบางคนก็อย่าได้แฝงเจตนาร้ายจงใจสร้างความเสื่อมเสียให้กับประเทศเลย หึ…เส้นผมสามารถย้อมสีเหลือง ผิวหนังสามารถฟอกสีขาว แต่คุณสามารถเปลี่ยนเลือดที่หลั่งในร่างกายของคุณได้เหรอ?”
…………………………………………..
ตอนที่ 1733 การตัดต่อที่ชั่วร้าย
คำพูดประโยคสุดท้ายเหมยเหมยพูดกับพวกโอหยางซานซาน ทุกคนต่างก็มองออกว่าเธอกำลังถากถางเหน็บแนมพวกเขาสี่คนอยู่ ผู้ชมที่อยู่ด้านล่างแน่นอนว่าก็ไม่ได้นิ่งเฉยไปทั้งหมด แต่ก็ยังมีพวกรักชาติอยู่บ้างอย่างเช่นคู่สามีภรรยาเซี่ยเข่ออิ๋ง พอได้ฟังคำพูดของเหมยเหมยก็ซาบซึ้งใจจนปรบมืออยู่นาน
พวกโอหยางซานซานพ่ายแพ้กลางรายการอย่างยับเยิน ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงแค้นใจเหมยเหมยจึงเกิดความคิดชั่วร้ายขึ้นมา
รายการนี้เป็นรายการที่ถ่ายทำไว้ก่อน แต่ตอนออกอากาศกลับมีปัญหาเล็กน้อย ทางสถานีโทรทัศน์ตัดฉากพวกเหมยเหมยออกเป็นจำนวนมาก รายการเต็มมีหนึ่งชั่วโมง แต่สี่สิบนาทีกลับเป็นการแสดงของพวกโอหยางซานซาน
อีกทั้งคนตัดต่อก็น่ารังเกียจมาก จงใจตัดต่อพวกเหมยเหมยสี่คนให้ดูเป็นคนหยิ่งผยองและหยาบคาย และตัดต่อพวกโอหยางซานซานให้ดูเหมือนไม่ได้รับความไม่เป็นธรรมเป็นฝ่ายยอมพวกเหมยเหมย
เซี่ยเข่ออิ๋งโมโหเป็นอย่างมาก แต่จนปัญญาเพราะเธอไม่ได้มีอิทธิพลในสถานีโทรทัศน์ ทำได้แค่วิ่งแจ้นไปหาเหมยเหมยเพื่อบอกเรื่องนี้
“ตอนนี้จะทำอย่างไรดี? ถ้าหากออกอากาศไปแบบนี้ พวกคนดูจะต้องถูกหลอกลวงแน่นอน” เซี่ยเข่ออิ๋งกังวลเป็นอย่างมาก
ถึงอย่างไรเหมยเหมยและสยงมู่มู่ต่างก็มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก รายการนี้จงใจทำให้พวกเขาเสื่อมเสียชื่อเสียง ชาวฮ่องกงที่ไม่รู้ความจริงคงจะต้องเข้าใจทั้งสามคนผิด ๆแน่ พวกข่าวลือข่าวโคมลอยก็มีที่มาแบบนี้แหละ
“เจ้าของสถานีโทรทัศน์รู้เรื่องนี้ไหมคะ?” เหมยเหมยถาม
“น่าจะไม่รู้ เจ้าของไม่สนใจการดำเนินงานของบริษัท” เซี่ยเข่ออิ๋งตอบ
เซียวเซ่อส่งเสียงหึ “ฉันขอตัวโทรศัพท์ก่อน”
ถึงเวลาอาศัยบารมีของคุณย่าแล้ว!
เซียวเซ่อโทรหาผู้ปกครองชั้นสูงสุด เพราะก่อนที่เขาจะเข้ารับการเลื่อนตำแหน่งบารอนจากราชินี เธอและคุณย่าวิกตอเรียก็ได้มาร่วมงานเลี้ยงอำลาด้วย ซึ่งขณะนั้นเขาให้ความเคารพเธอและคุณย่ามาก
ถึงอย่างไรคุณย่าของเธอก็มีบรรดาศักดิ์เป็นเคานท์ อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับราชินี เขายังมีศักดิ์เป็นแค่เพียงบารอนเท่านั้น มีการแบ่งลำดับยศอย่างชัดเจน
มีเพียงแค่ไม่กี่คนที่รู้หมายเลขโทรศัพท์ส่วนตัวของเขาแต่เซียวเซ่อรู้ เธอพูดภาษาอังกฤษเสียงเบา ๆออกมายาวเป็นพรวนซึ่งทุกคนต่างก็ฟังออก ฟังเซียวเซ่อแสดงอิทธิพลของเธอทางโทรศัพท์ มันก็ช่างสะใจเบา ๆ
“เอาเป็นว่า ฉันไม่ต้องการให้เรื่องการตัดต่อที่เป็นภัยเช่นนี้เกิดขึ้นอีก ถ้าหากรายการออกอากาศไปแล้วทำให้ฉันไม่พอใจล่ะก็ ฮึ ฉันจะบอกคุณย่า และส่วนคุณย่าจะกล่าวกับองค์ราชินีว่าอย่างไร ฉันก็ไม่รู้ด้วยแล้ว” เซียวเซ่อใช้อำนาจคุกคามขู่อย่างแข็งกร้าว
สำหรับคนที่มีอำนาจมียศถาบรรดาศักดิ์อย่างเธอ คำพูดอ่อนหวานไม่ใช่วิธีการแสดงออกที่เธอต้องการ มันไม่จำเป็น!
ผู้ปกครองสูงสุดไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขอให้ผู้ช่วยไปแก้ปัญหาเรื่องนี้ ทำเอาสถานีโทรทัศน์ตกใจกันยกใหญ่ แค่เพียงรายการเล็ก ๆเท่านั้นกลับรบกวนไปถึงผู้ปกครองสูงสุด พอเจ้าของสถานีโทรทัศน์รู้เรื่องนี้เข้าก็รีบเข้าสถานีโทรทัศน์ไปหาผู้ควบคุมการผลิตและเจ้าหน้าที่ตัดต่อด้วยตัวเอง
เหมยเหมยคิด ๆแล้วก็ให้เสี่ยวอวิ๋นออกไปหาเจ้าพ่อมาเฟียที่เคยแย่งคนงามกับเฉินหมิงในตอนนั้น เหยียนหมิงซุ่นต่อยตีกับเขาจนได้เป็นเพื่อนกันบวกกับผลประโยชน์ ความสัมพันธ์จึงไม่เลว
เจ้าพ่อมาเฟียคนนี้มีความสัมพันธ์อันดีกับเจ้าของสถานีโทรทัศน์ ขอเพียงแค่เขาออกปาก เจ้าของสถานีโทรทัศน์ก็ต้องกุลีกุจอจัดการให้อยู่แล้ว
คนแรกคือผู้ปกครองสูงสุด ต่อมาคือเจ้าพ่อมาเฟีย เจ้าของสถานีโทรทัศน์ไหนเลยจะกล้าดูแคลนจึงรีบออกคำสั่งพนักงาน เขาตัดต่อเอาพวกโอหยางซานซานสี่คนนั้นออกและใส่ฉากพวกเหมยเหมยเพิ่มเข้าไปไม่น้อย
เขาจะหาเรื่องใครไม่ได้ทั้งนั้น!
รายการออกอากาศสำเร็จ แน่นอนว่าสถานีโทรทัศน์ไม่ได้ตัดฉากของพวกโอหยางซานซานทั้งสี่คนออกจนหมด ยังคงเก็บภาพไว้ประมาณยี่สิบนาที สำหรับภาพของพวกเหมยเหมยทั้งสี่คนส่วนใหญ่จะเก็บเอาไว้
อีพีนี้ได้รับกระแสตอบรับจากคนในท้องถิ่นดีมาก แน่นอนว่าคนฮ่องกงไม่ใช่สมาชิก GD ทั้งหมด มีวัยแก่วัยชราหลายคน โดยเฉพาะผู้อพยพในสมัยแรก ๆที่อยากให้ประเทศรวมเป็นปึกแผ่นเดียวกัน เพราะพวกเขาจะได้กลับบ้านเกิดเมืองนอน
และเพราะรายการนี้ชื่อเสียงของพวกเหมยเหมยก็ยิ่งไปไกลกว่าเดิม ข้อดีก็คือหนังสือของเธอและอู่เชาขายดีมาก เพลงของสยงมู่มู่ทะยานติดอันดับชาร์ตอีกด้วย
แต่ก็มีผลกระทบด้านลบตามมาเช่นกัน
…………………………………………..