ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1752 ประจบประแจง + ตอนที่ 1753 เจอโอหยางซานซานอีกแล้ว
ตอนที่ 1752 ประจบประแจง
“รู้ว่าผิดตรงไหนใช่ไหม?” เหยียนหมิงซุ่นถามเสียงนิ่ง น้ำเสียงดุดัน
เจ้าปีศาจน้อยทำตัววุ่นวายเกินไปแล้ว ตามคนแปลกหน้าออกทะเลตามอำเภอใจ ครั้งนี้ยังถือว่ามีไหวพริบดีหรอกจึงไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ต่อไปถ้ายังทำใจกล้าบ้าบิ่นอีก ลูกน้องของเขาในฮ่องกงมีอยู่จำกัดคงได้เกิดเรื่องขึ้นจริง ๆแน่ เขาคงทำได้แค่ทอดถอนหายใจอย่างทำอะไรไม่ได้
เหมยเหมยร่างสั่นเทาพูดอย่างเอาใจว่า “รู้แล้วค่ะ ฉันไม่ควรเชื่อคนแปลกหน้าง่าย ๆ ควรจะฟังคำแนะนำของเสี่ยวอวิ๋น ไม่ควรออกไปทะเลหลวง ไม่ควร…”
พูดเหยียดยาวเป็นพรวน ต้องทำตัวดี ๆไว้เพื่อให้เหยียนหมิงซุ่นลดไฟโทสะลง
เหยีนหมิงซุ่นได้ฟังก็หัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ เป็นแบบนี้ทุกครั้งเลย พอสำนึกผิดก็เหมือนหมาพันธุ์ปั๊กเชื่อฟังเสียไม่มี แต่พอปล่อยกลับทำเป็นแมวไม่อยู่หนูร่าเริงไปได้ ใจกล้าเอามาก
ถึงจะยังโกรธอยู่แต่พอได้ฟังเหมยเหมยพูดออดอ้อนเสียงหวาน ใจเขาก็พลันอ่อนยวบ ทอดถอนใจอย่างเอือมระอา ช่างเป็นปีศาจน้อยที่ทรมานเขาจริง ๆเลย!
“ถ้าต่อไปนี้ยังทำตามอำเภอใจโดยไม่ได้รับอนุญาต…รอกลับมาเธอต้องล้างให้สะอาด…” ประโยคหลังเหยียนหมิงซุ่นไม่ได้พูดให้จบ เหมยเหมยกลับตัวสั่นเทิ้ม จู่ ๆก็คิดอยากจะตั้งรกรากอยู่ที่ฮ่องกง
“พี่คะ…สามีคะ…ฉันสำนึกผิดแล้วนี่ไง…”
เหมยเหมยพูดวกวนไปมาร้อยพันรอบ เหยียนหมิงซุ่นฝืนทำเสียงขรึมไม่เพลาลงเลย ไม่ได้จัดการแค่ไม่กี่วันก็ล่องลอยขึ้นสวรรค์ไปแล้ว กลับมาครั้งนี้จะต้องจัดการให้เด็ดขาดทำให้ปีศาจน้อยจำฝังใจ
“ไม่ต้องมาใช้ไม้นี้ ต่อไปนี้อย่าได้คิดจะบินออกนอกประเทศอีก” เหยียนหมิงซุ่นส่งเสียงฮึดฮัดอย่างเย็นชา ตัดความหวังในการบินเดี่ยวของเหมยเหมยในอนาคตจนสิ้น
เหมยเหมยรู้สึกหมดหวัง ตั้งใจว่ากลับไปจะลองใช้มารยาหญิงดีไหมนะ?
เธอถอนหายใจแล้วเล่าเรื่องของเซี่ยทิงเทา พร้อมเรียกหาคำชม “พี่คะ ฉันสั่งไม่ให้พวกเขากลับมาอีก และอย่าได้ติดต่อกันอีกตลอดไป ฉันทำถูกไหมคะ?”
“อืม” ริมฝีปากของเหยียนหมิงซุ่นยกยิ้ม แม้จะระยะทางห่างไกลกันด้วยภูเขาและแม่น้ำนับพัน แต่เขาก็สามารถจินตนาการถึงปีศาจน้อยในสาย คงต้องสะบัดหางอย่างดีใจแน่ ๆ!
แต่เขากลับต้องตกใจกับตัวตนของเซี่ยทิงเทา ที่แท้ก็เป็นลูกเขยของหมิ่นเติงซึ่งผิดกับที่เขาคาดการณ์ไว้เลย ไม่แปลกใจเลยที่เขาใช้แรงคนมากมายขนาดนั้นแต่ก็ยังตามหาเบาะแสของเซี่ยทิงเทาไม่ได้
เหยียนหมิงซุ่นขมวดคิ้วแน่น หมิ่นเติงไม่ลงรอยกับรัฐบาลฮวาเซี่ย แต่ก่อนก็เคยก่อเหตุปะทะกัน แต่ตัวเขาเป็นคนชอบธรรมและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อชาวบ้านในท้องถิ่น ไม่เหมือนพ่อค้ายาเสพติดรายอื่นที่เอารัดเอาเปรียบชาวบ้านในพื้นที่อย่างหนัก ราวกับผีดูเลือด
แม้ว่าสามเหลี่ยมทองคำจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดินฮวาเซี่ย แต่มีระยะทางใกล้กับฮวาเซี่ยมาก หนำซ้ำหนึ่งในพ่อค้ารายใหญ่ที่เป็นศัตรูกับหมิ่นเติงก็คือชาวฮวาเซี่ย
รัฐบาลตามล่าตัวคนคนนี้มาสิบกว่าปี แต่ก็ไม่ได้ร่องรอยอะไร
ทางหมิ่นเติงยังพอใช้ประโยชน์ได้บ้าง!
เรื่องนี้เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้บอกเหมยเหมย เขายิ้มพลางพูดว่า “วันนี้เธอแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ไม่เลวนะ ควรค่าแก่การชื่นชม ไว้กลับมาพี่จะทำของอร่อยให้ทาน”
“ฉันจะกินปีกไก่น้ำผึ้ง” เหมยเหมยที่ได้รับคำชมก็ดีใจจนต้องสั่งของโปรดอย่างปีกไก่น้ำผึ้ง
เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะพลางรับปาก ทั้งคู่คุยกระหนุงกระหนิงได้สักพักโทรศัพท์ก็ร้อนจนลวกมือ เหยียนหมิงซุ่นก็พูดกำชับว่า “พรุ่งนี้โจวจื่อหัวจะชวนเธอไปกินข้าว เธอไม่ต้องกังวลนะ”
“อื้ม!”
เหมยเหมยรู้สึกอุ่นใจ รู้ว่าเหยียนหมิงซุ่นกำลังประจบประแจงเพื่อเธอ!
เหยียนหมิงซุ่นกำชับอีกไม่กี่ประโยค บอกให้เธอกลับแผ่นดินใหญ่เมื่อทำธุระทุกอย่างเสร็จสิ้น ไม่เพียงแค่เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของเธอ แต่สำคัญที่สุดก็คือรสชาติของการอยู่เฝ้าห้องคนเดียวไม่ดีเลยสักนิด
บ่ายวันถัดมา โจวจื่อหัวส่งคนมาถึงที่บ้านจริง ๆ เชิญให้เธอไปร่วมจิบชายามบ่ายที่ภัตตาคารป้าหวัง ด้วยคำแนะนำจากเหยียนหมิงซุ่น เหมยเหมยจึงยินดีที่จะไป
การตกแต่งของภัตตาคารป้าหวังไม่ได้หรูหรานักแต่เป็นถึงร้านอาหารท้องถิ่นชั้นนำ การรับประทานอาหารในที่แห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของตำแหน่งและฐานะทางสังคม
โจวจื่อหัวมีอายุประมาณสี่สิบปี ท่าทางภูมิฐานน่าเกรงขาม ดูก็รู้ว่าเขาไม่ใช้คนที่พูดเก่งแต่แค่นั่งอยู่เฉย ๆก็แผ่ความน่าเกรงขามที่ไร้รูปร่างออกมาได้ ทำให้ไม่กล้าแม้แต่หายใจแรง
แต่ที่ทำให้เหมยเหมยแปลกใจคือไม่นึกว่าข้างกายของโจวจื่อหัวจะมีคนคุ้นเคยนั่งอยู่ นั่นคือโอหยางซานซาน
…………………………………………………………..
ตอนที่ 1753 เจอโอหยางซานซานอีกแล้ว
โอหยางซานซานดัดผมเป็นลอนคลื่นพาดบนไหล่เนือย ๆ ชุดเดรสกระโปรงชาแนลสีดำ เรียบง่ายแต่น่าหลงใหล แม้เหมยเหมยจะไม่ชอบโอหยางซานซานแต่สำหรับการแต่งตัวด้วยชุดนี้เธอให้คะแนนเต็ม
ไม่เจอกันหลายปี การแต่งตัวของโอหยางซานซานพัฒนาขึ้นมาก
แค่เมื่อก่อนเธอมักจะชอบแต่สีชมพู ทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นสีดำได้นะ?
เจอกันในฮ่องกงไม่กี่ครั้ง เหมยเหมยไม่เคยเห็นโอหยางซานซานสวมเสื้อผ้าสีอื่นเลย เธอมองโอหยางซานซานที่กำลังยิ้มหยอกเอินกับโจวจื่อหัวอีกครั้ง ระหว่างสองคนนี้ดูมีอะไรที่ไม่ชัดเจน ไม่เหมือนการพบเจอกันครั้งแรก
หรือว่า…
โจวจื่อหัวไม่ชอบการพนัน และเขาก็ไม่เหมือนคนอย่างเฉินกั๋วเปียว แล้วก็ไม่เหมือนเฉินซานที่เรียบร้อยมีระดับ งานอดิเรกของเขามีเพียงหนึ่งเดียว คือ หญิงงาม
หญิงงามทุก ๆ ประเภท ทุก ๆ รูปแบบ
น่ารัก สวยใส น่าหลงใหล เผ็ดร้อนเซ็กซี่ เป็นผู้ใหญ่และมีความสามารถ…
ขอแค่เข้าตาเขา โจวจื่อหัวก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาเป็นคนรัก และแน่นอนช่วงเวลาการเห่อของใหม่สำหรับเขาก็สั้นเหลือเกิน อย่างมากไม่เกินครึ่งปีก็เบื่อแล้ว
ตามที่เล่ากันมาโจวจื่อหัวมีคนรักที่สามารถสืบหาได้เกือบ ๆ 30 คน คนที่อยู่กับเขาได้นานที่สุดก็คือดาราสาวดังตกยุคคนหนึ่ง หน้าตาสวยจริง ๆ โจวจื่อหัวเลี้ยงดูเธอมาครึ่งปี สื่อฮ่องกงต่างก็คิดว่าดาราดังจะทะลุสถิติได้ แต่พอถึงครึ่งปีโจวจื่อหัวก็สลัดดาราดังทิ้งอย่างไม่ใยดี
แต่ก็ยังมอบคฤหาสน์สองหลังใหญ่ให้กับดาราสาว รวมถึงอัญมณีราคาสูงเสียดฟ้า ขอเพียงแค่ดาราสาวไม่รนหาที่ตาย ก็ไร้กังวลเรื่องเสื้อผ้าอาหารไปตลอดชีวิต
พอเห็นปฏิกิริยาของโจวจื่อหัวกับโอหยางซานซาน เหมยเหมยจึงเดาได้ว่าโอหยางซานซานอาจจะเป็นคนรักคนใหม่ของโจวจื่อหัว ในตอนนี้โอหยางซานซานตรงตามมาตรฐานคนรักของโจวจื่อหัวอย่างสมบูรณ์พร้อม สำคัญที่สุดคือ…
ตั้งแต่ครั้งก่อนหลังจากโจวจื่อหัวถูกเฉินหมิงแย่งดาราแนวที่สิบแปด[1]ไป โจวจื่อหัวก็ไม่พบคนที่ถูกตาต้องใจมาสักระยะหนึ่งแล้ว ประจวบกับที่โอหยางซานซานเข้ามาเติมเต็มช่วงพักหัวใจของเขาพอดี
เหมยเหมยลอบส่ายหน้า โจวจื่อหัวดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ดูเหมือนจะอยู่ในวัยเพียงสี่สิบต้น ๆเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงเขาอายุมากกว่าโอหยางเซี่ยงหมิงด้วยซ้ำ อายุหกสิบกว่าปีแล้ว
โอหยางซานซานเป็นคนรักของคนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับปู่ของเธอ ทำร้ายตัวเองชัดๆ!
“คุณหนูจ้าวเชิญนั่งลงก่อน มักได้ยินสหายเหยียนน้อยชมว่าภรรยาของตนสวยอย่างนั้นสวยอย่างนี้ วันนี้ได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของหลูซาน[2]อย่างเธอเสียที ช่างสมกับคำร่ำลือจริง ๆ!”
โจวจื่อหัวกลั้วหัวเราะจนตัวงอ แสดงท่าทีสนิทสนมมาก ราวกับเพื่อนที่เจอกันมาหลายปีก็ไม่ปาน
พอเขาเจอเหมยเหมยก็พลันตกตะลึงไปชั่วขณะ ตัวจริงสวยกว่าในทีวีอีก คนสวย ๆแบบนี้คงมีแค่บนสวรรค์เท่านั้น!
แต่น่าเสียดายคนสวยมีเจ้าของแล้ว หนำซ้ำยังเป็นผู้ชายที่เก่งกาจด้วย เขาไม่กล้าตอแยเหยียนหมิงซุ่นหรอก โจวจื่อหัวทอดถอนใจอย่างเสียดาย พลันหางตาเหลือบมองโอหยางซานซานที่แสนเย้ายวน เขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง
คนสวยที่ได้มาใหม่แม้หน้าตาจะสู้จ้าวเหมยไม่ได้ แต่ความเผ็ดร้อนบนเตียงนั้นกลับทำให้เขาไม่อาจห้ามความอยากได้เลย คนสวยอยู่กับเขายังไม่ถึงสามวันเขาก็กินยาบำรุงกำลังไปถึงสองครั้งแล้ว
“ลุงหัวก็ชมเกินไปค่ะ คนสวยข้างกายคุณต่างหากที่สวย!”
เหมยเหมยยิ้มอ่อนนั่งลงบนเก้าอี้ถัดจากหัวโต๊ะ เสียวหลี่เฝ้าอยู่หน้าประตู เสี่ยวอวิ๋นยืนอยู่ภายในห้อง
โจวจื่อหัวเปล่งเสียงหัวเราะร่า รินชาให้เหมยเหมยด้วยตัวเอง “เทียบได้กับคุณหนูจ้าวเสียที่ไหนล่ะ แค่ฝืนพามาด้วยเท่านั้น”
เหมยเหมยลุกขึ้นใช้สองมือรับชาเหลือบมองโอหยางซานซานที่หน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อยแล้วก็นึกตลก นี่เป็นการตบหน้ากลางแจ้งสินะ?
โอหยางซานซานกัดฟันกรอด ยิ้มอย่างน่าหลงใหล “เมื่อวานพ่อบุญธรรมยังชมหนูอยู่เลยนะ หนูจะโกรธแล้วนะ!”
โจวจื่อหัวยิ้มหน้าบาน ลูบใบหน้าของโอหยางซานซานไปครั้งหนึ่ง พูดขึ้นอย่างใจกว้าง “เป็นความผิดของฉันเอง อีกเดี๋ยวไปเลือกเครื่องประดับที่ร้านเลยนะ ลงบัญชีของฉันทั้งหมดเลย”
สำหรับผู้หญิงที่ถูกใจ โจวจื่อหัวมักจะใจกว้างเสมอ!
…………………………………………………….
[1] มาจากคำว่า十八线小明星เป็นคำโบราณที่ใช้ในวงการบันเทิง ซึ่งหมายถึงดาราที่ไม่เป็นที่รู้จักของผู้คน ไม่ค่อยชื่อเสียง เพราะถ้าเป็นดาราดัง มีชื่อเสียงนั้นจะเรียกว่า一线小明星 ซึ่งก็คือดาราแนวหน้า
[2] ภูเขาหลูซานทั้งสามด้านติดกับแม่น้ำ ภูเขาสูงตระหง่าน บนตัวภูเขาห้อมล้อมด้วยหมอก ทำให้ผู้คนมองเห็นลักษณะของตัวภูเขาที่แท้จริงได้ยาก