ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1780 สถานการณ์ไม่สู้ดีนัก + ตอนที่ 1781 เทปอัดเสียง
ตอนที่ 1780 สถานการณ์ไม่สู้ดีนัก
จินป๋อเหวินเองก็กลับบ้านไปพร้อมกัน แม้เขาไม่ค่อยสนใจคดีนี้เท่าไรแต่มีบางเรื่องต้องย้ำสักหน่อยเพื่อไม่ให้เหมยเหมยพูดผิดหลุดช่องโหว่ให้ตำรวจสบโอกาสจากการขาดความรู้เรื่องกฎของที่นี่
“เอาเป็นว่าคุณอย่าตอบคำถามอะไร ให้พวกเขามาหาผมก็พอ เรื่องอื่นคุณก็ไม่ต้องสนใจแล้ว”
เหมยเหมยพยักหน้ารับ “เข้าใจแล้ว”
“แต่เรื่องนี้ออกจะยุ่งยากสักหน่อย ช่วงนี้คุณคงกลับไปไม่ได้แล้วต้องอยู่ให้ความร่วมมือสอบสวนคดีที่นี่” จินป๋อเหวินกล่าว
“ถ้าคดียืดยาวถึงสองปีฉันก็ต้องอยู่ฮ่องกงสองปีเหรอ?” เหมยเหมยไม่พอใจอย่างมาก ตอนนี้หร่วนหวาไฉ่ตายไปแล้วไอ้คนสารเลวเจียงโส่วเฉิงก็ปล่อยให้เสี่ยวอวิ๋นจัดการ เธอพร้อมจะกลับไปได้ทุกเมื่อแต่กลับมาบอกเธอว่ากลับไม่ได้?
ถ้าดีใจสิแปลก!
จินป๋อเหวินยิ้มกล่าว “ไม่ถึงขนาดสองปีหรอกแต่ก็มีระยะเวลาจำกัดเหมือนกัน สบายใจได้คงไม่กี่วันหรอก”
เสียวหลี่เองก็กลับมาถึงบ้านแล้วเช่นกัน เขาสืบข้อมูลบางส่วนที่จินป๋อเหวินไม่รู้มาด้วย
“ฆาตกรน่าจะเป็นผู้หญิง ส่วนสูงราว 165 อาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุคือมีดผ่าตัด ผมเดาว่าฆาตกรน่าจะหลอกล่อให้หร่วนหวาไฉ่ไปในซอยมืดแล้วถือโอกาสที่เขากำลังพูดกรีดลงบนเส้นชีพจรอย่างรวดเร็วแล้วหนีไป”
จินป๋อเหวินเข้าใจอย่างถ่องแท้ “มิน่าตำรวจถึงตามมาถึงตัวคุณ ลักษณะของฆาตกรคิดว่าตำรวจก็คงคาดเดาได้แล้วและมันสอดคล้องกับตัวคุณทุกประการ อีกอย่างคุณเองก็มีความแค้นกับหร่วนหวาไฉ่ สองวันก่อนยังมีเรื่องบาดหมางกันอีก ถ้าผมเป็นตำรวจก็ต้องสงสัยละ”
เขาขยับหน้ามาถามด้วยท่าทางกวนประสาท “คงไม่ใช่ฝีมือคุณจริง ๆหรอกนะ? คุณบอกผมได้ไม่เป็นไร ผมรับรองว่าคุณจะได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย”
คนเศษเดนอย่างหร่วนหวาไฉ่ตายไปก็ไม่น่าสงสาร ตายแล้วจะได้ช่วยลดภาระให้โลกใบนี้ด้วย
เหมยเหมยกลอกตาใส่เขาแวบหนึ่งแล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “ถ้าเป็นฉันคงไม่มีทางให้เขาตายสบาย ๆแบบนี้หรอก!”
ประโยคสุดท้ายเธอแทบกัดฟันพูดพร้อมสายตาที่ฉายแววแค้นเคือง หร่วนหวาไฉ่ทำให้คุณตาคุณยายต้องทุกข์ทรมานเจียนตาย เธอจะปล่อยให้เขาตายง่าย ๆได้หรือ?
ไม่รู้ว่าฆาตกรคนนั้นเป็นใครกลับทำให้ตาแก่นี่ได้เปรียบไปเสียได้!
เดิมทีเหมยเหมยคิดว่าเรื่องนี้ถือว่าจบลงสักที หากอีกไม่กี่วันทางตำรวจยังไม่ได้หลักฐานเพิ่มเติมเธอคงกลับบ้านได้ แต่–
ผ่านไปเพียงวันเดียวตำรวจหลินกับลูกศิษย์น่ารำคาญนั่นก็มาถึงบ้านอีกครั้ง คราวนี้กลับมาพร้อมหมายจับ
“คุณจ้าว เรามีหลักฐานใหม่ คุณตกเป็นผู้สงสัยเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมหร่วนหวาไฉ่ รบกวนช่วยไปกับเราด้วย” ตำรวจหลินสีหน้าจริงจังและปล่อยให้ตำรวจหญิงที่ทำหน้าตื่นเต้นพาตัวเธอไปโดยไม่รอให้เธอปริปากกล่าว
“ไป…ฆ่าคนแล้วยังแกล้งทำเป็นบริสุทธิ์อยู่ได้!”
ตำรวจหญิงตะคอกเสียงห้าวยื่นแขนออกมาหมายจะกระชากตัวเหมยเหมย
“ฉันเดินเองได้!”
เหมยเหมยใจหล่นตุบ ดูจากสีหน้าของสองคนนี้คาดว่าหลักฐานชิ้นใหม่คงไม่เป็นผลดีกับเธอแน่ แต่เธอไม่ได้ฆ่าคนจริง ๆและไม่ได้จ้างวานให้ใครฆ่า เรื่องมันเป็นมาอย่างไรกันแน่นะ?
เธอกลับมายังสถานีตำรวจอีกครั้งซึ่งครั้งนี้เธอไม่ได้ถูกปฏิบัติอย่างดีเช่นเดิม แต่ถูกเรียกเข้าห้องสอบสวนทันที แสงไฟสว่างจ้าสาดส่องจนเธอลืมตาไม่ขึ้นและรู้สึกไม่สบายตัวอย่างมาก
เหมยเหมยพยายามข่มตัวเองให้ใจเย็นลง จินป๋อเหวินน่าจะใกล้มาถึงแล้ว เธอแค่เงียบต่อไปก็พอ
เวลานี้ไม่ว่าจะพูดอะไรก็สู้ไม่พูดเสียดีกว่า จินป๋อเหวินเคยสอนเธอไว้
“ชื่อสกุลคือ?” ตำรวจหลินถาม
“พวกคุณรู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?” เหมยเหมยชักจะเริ่มไม่สบอารมณ์ หรี่ตาลงน้อย ๆแต่กลับนั่งหลังตรงเช่นเคย
“ทำตัวดี ๆหน่อย!” ตำรวจหญิงหยิบหนังสือเล่มหนาเดินมาหาเธอด้วยเจตนาร้าย ตำรวจหลินแค่มองแวบเดียวไม่ได้พูดอะไรก็เท่ากับอนุญาตเธอ
เหมยเหมยลอบสบถในใจ เธอไม่อยากโดนตีหรอกนะ เมื่อก่อนเคยดูละครฮ่องกงมาก่อนว่าตำรวจจะใช้หนังสือเล่มหนากดหน้าอกนักโทษที่ไม่เชื่อฟังคำสั่ง ยอดวิชาตีวัวข้ามภูเขา[1] แบบนี้ได้สั่งสอนนักโทษไปด้วยและไม่ทิ้งร่องรอยหลักฐานเอาไว้อีกต่างหาก
[1] ยอดวิชาตีวัวข้ามภูเขา เป็นหนึ่งในวิชากำลังภายในที่ออกหมัดล้มโคถึกที่อยู่ห่างกันระยะหนึ่งโดยอาศัยพลังลมปราณ
……………………..
ตอนที่ 1781 เทปอัดเสียง
เหมยเหมยก่นด่าตำรวจหญิงในใจไปรอบหนึ่ง พอเห็นว่าขยับเข้ามาใกล้ตัวเองเรื่อย ๆเลยจำใจต้องยอมจำนน คนฉลาดต้องรู้จักแยกแยะ
“จ้าวเหมย!”
ตำรวจหลินเรียกลูกศิษย์ไว้ก่อนจะถามอายุและสัญชาติต่อ เหมยเหมยตอบกลับอย่างซื่อสัตย์ด้วยความอัดอั้นตันใจ
รอก่อนเถอะ รอเหยียนหมิงซุ่นมาจะต้องให้คนพวกนี้โดนดีแน่!
“คุณสนิทกับโจวจื่อหัวมากงั้นเหรอ?” ผู้กองหลินถามขึ้นกะทันหัน
เหมยเหมยใจหล่นตุบ สัญชาตญาณบอกเธอว่าคนสกุลหลินนี้ไม่ได้ถามด้วยความหวังดี เขาจะต้องขุดหลุมกับดักรอเธออยู่แน่ เธอลังเลเพียงอึดใจก่อนที่ตำรวจหญิงจะหยิบหนังสือเล่มหนาขึ้นมาอีก เหมยเหมยจึงลอบก่นด่าเธออยู่ในใจ
“รู้จัก แต่ไม่ถึงขั้นจะสนิทสนามขนาดนั้น” เธอชั่งใจตอบแบบคลุมเครือ
“ไม่สนิทแล้วโจวจื่อหัวจะเชิญคุณไปทานข้าวที่บ้านเขาเหรอ?” ผู้กองหลินมองเธออย่างนึกขำ
เหมยเหมยแบมือ “ฉันจะไปรู้ได้ไง? บางทีโจวจื่อหัวเห็นว่าฉันมาจากแผ่นดินใหญ่เลยรู้สึกสนิทสนมละมั้ง!”
ผู้กองหลินถามอีกหลายคำถามแต่เหมยเหมยจงใจตอบกลับเลี่ยง ๆ ขณะที่ขมับปวดตุบ ๆและรู้สึกเคืองตาอย่างมาก ความง่วงถาโถมเข้ามาทำให้ตำรวจหญิงเผยใบหน้าดีใจ
เหมยเหมยใจหล่นวูบเพราะรู้ว่าสองคนนี้คิดจะใช้แผนความเหนื่อยหลอกให้ตอบคำถาม พวกเขารอให้เธอเหนื่อยจนทนไม่ไหวก่อนแล้วค่อยขุดหลุมฝังเธอเพื่อให้เธอยอมรับความผิด เธอจึงตัดสินใจปิดปากเงียบไม่ว่าจะคำถามอะไรก็ไม่ยอมตอบอีกเด็ดขาด
จินป๋อเหวินต้องกำลังคิดหาทางประกันตัวเธออยู่แน่ เธอจะต้องอดทนไว้
ตำรวจหญิงโมโหจนรุดเข้ามากระชากคอเสื้อเหมยเหมยยกกำปั้นขึ้นหมายจะชกเธอ เหมยเหมยเองก็โกรธไม่แพ้กันเลยหันหลังขืนตัวออกจากการจับกุมอีกฝ่ายแล้วค่อยใช้หัวเข่ากระทุ้งใส่หน้าท้องน้อยเธอแรง ๆ
“ฉันไม่ใช่พลเมืองชาวฮ่องกงของพวกคุณ อย่าคิดจะใช้วิธีแบบนั้นของพวกคุณมาจัดการฉัน ปากพวกคุณบอกว่ามีหลักฐานงั้นก็เอาหลักฐานออกมา ไม่อย่างนั้นฉันจะยื่นเรื่องให้สถานทูตถามผู้บริหารสูงสุดของพวกคุณว่าพวกคุณจงใจจะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายใช่ไหม?”
เหมยเหมยถามเสียงเย็นชา เกลียดการที่คนอื่นกระชากคอเสื้อเธอที่สุด อย่างไรเสียแกล้งโง่ก็ต้องโดนซ้อมอยู่ดีถ้าอย่างนั้นเธอขอเป็นฝ่ายลงมือก่อนแล้วกัน
เหยียนหมิงซุ่นไม่มีทางปล่อยให้เธอเป็นอะไรไปแน่!
ตำรวจหญิงกุมหน้าท้องอย่างเจ็บปวดจนยืดหลังตรงไม่ได้ ผู้กองหลินพยุงเธอให้นั่งลงแล้วเอ่ยอย่างไม่พอใจ “คุณจ้าวนี่คุณกำลังทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่นะ”
“ผิดค่ะ เพราะฉันแค่กำลังป้องกันตัวเอง แน่นอนว่าถ้าคุณคิดว่าใช่ก็ใช่ ตอนนี้นอกจากว่าพวกคุณจะเอาหลักฐานออกมาไม่งั้นฉันก็จะไม่ยอมตอบคำถามแม้แต่คำถามเดียว ฉันต้องการโทรหาสำนักงานประสานงานฮวาเซี่ยประจำฮ่องกง นี่เป็นสิทธิ์ของฉัน พวกคุณจะลิดรอนไม่ได้!”
สำนักงานประสานงานก็คือสำนักงานพิเศษจากสถานทูตประจำฮ่องกง เหยียนหมิงซุ่นเคยบอกไว้ว่าหากเจอปัญหาที่ยากจะแก้ไขให้ไปหาสำนักงานประสานงาน เดิมทีเหมยเหมยไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่มากแต่ตอนนี้มาถึงจุดนี้แล้วเธอจำต้องให้ทางสำนักงานประสานงานออกหน้าจัดการแทน
ผู้กองหลินขมวดคิ้ว เขาต้องรู้จักสำนักงานประสานงานพิเศษประจำฮ่องกงอยู่แล้ว ถ้าหากเรื่องไปถึงหน่วยงานนั้นจริง ๆคดีนี้คงไม่ใช่คดีทั่วไปอีก เพียงแต่…คุณจ้าวที่อยู่ตรงหน้ามีเส้นสายมากขนาดนั้นเชียวหรือ?
ตำรวจหญิงหลุดขำ “จะโทรหาสำนักงานประสานงานงั้นเหรอ? คุณคิดว่าคุณเป็นลูกสาวของผู้ปกครองอำนาจสูงสุดหรือไง?”
เหมยเหมยปรายตามองเธออย่างเย็นชา “ถึงฉันจะไม่ใช่ลูกสาวของผู้ปกครองอำนาจสูงสุดแต่ก็ไม่ใช่คนที่ตำรวจตัวน้อย ๆอย่างคุณจะเหยียดหยามได้ ฉันขอเตือนให้พวกคุณรู้ขอบเขตสักหน่อยแล้วกัน ถึงเวลานั้นก็กอดงานตัวเองไว้ให้ดีเถอะ”
แน่นอนว่าเธอไม่ได้กำลังข่มขู่สองคนนี้ ถ้าให้ทางสถานทูตออกหน้าจริง ๆเรื่องที่เธอถูกตำรวจทางนี้จับกุมตัวโดยไร้เหตุผล ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องจัดการบุคคลที่เกี่ยวข้อง สองคู่หูอาจารย์ลูกศิษย์นี่หนีไม่พ้นแน่
ผู้กองหลินเห็นเธอมั่นอกมั่นใจไม่เหมือนกำลังโกหกเลยเริ่มเชื่อขึ้นมาแต่ยังทำหน้าลังเลใจ
“ในเมื่อพวกคุณไม่เชื่องั้นฉันจะโทรหาสำนักงานประสานเดี๋ยวนี้เลย แต่พวกคุณต้องคิดให้ดีนะว่าถ้าโทรไปพวกคุณจะต้องรับผลที่ตามมาให้ได้ แต่คิดว่าน่าจะไม่สวยงามเท่าไร!”
เหมยเหมยเป็นฝ่ายถืออำนาจเหนือกว่าเลยมีสีหน้าผ่อนคลายลงอย่างมาก พลางมองสองคนอย่างเย้ยหยัน
ผู้กองหลินกัดฟันแน่นจนสุดท้ายก็ไม่กล้าเสี่ยง หยิบเทปอัดเสียงหนึ่งออกมาจากลิ้นชัก
……………………