ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1782 มีหนอนบ่อนไส้ + ตอนที่ 1783 เตือน
ตอนที่ 1782 มีหนอนบ่อนไส้
ผู้กองหลินให้ตำรวจผู้หญิงไปหยิบเครื่องเล่นเสียงมา ถึงแม้ตำรวจหญิงจะไม่ยินยอมนักแต่ก็รีบไปหยิบมาอย่างว่องไว เธอถลึงตามองเหมยเหมยอย่างแค้นใจแล้วยัดเทปอัดเสียงเข้าไปก่อนกดปุ่มเล่นเสียง
เสียงดังครืดครืด…
“คนระยำแบบนี้ควรโดนมีดแทงให้ตัวพรุน ให้ฉันช่วยไหม?”
“ขอบคุณลุงหัวมากนะคะ รอวันหลังถ้ามีความจำเป็นแล้วหนูค่อยขอความช่วยเหลือจากลุงหัวดีกว่า ตอนนี้หนูอยากรอดูว่าคนคนนี้จะกระโดดโลดเต้นไปได้อีกกี่วัน!”
……
เสียงที่ดังออกจากเทปอัดเสียงกลับเป็นบทสนทนาระหว่างเธอกับโจวจื่อหัวเมื่อหลายวันก่อน อีกทั้งเสียงยังฟังชัดเจนดีมาก
“นี่เป็นเทปอัดเสียงจากสายโทรศัพท์ของคุณกับโจวจื่อหัวเมื่อหลายวันก่อนซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่หร่วนหวาไฉ่เสียชีวิต พอจะดูออกว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับโจวจื่อหัวไม่ได้เป็นไปอย่างที่คุณจ้าวได้บอกไว้ว่าแค่รู้จักกันแบบผิวเผิน หรือว่าคุณจ้าวกำลังจงใจปิดบังความสัมพันธ์ของตัวเองกับโจวจื่อหัวเพราะใจฝ่อขึ้นมา?”
ท่าทีของผู้กองหลินให้เกียรติมากขึ้นแต่น้ำเสียงคาดคั้นที่มั่นใจว่าเหมยเหมยต้องเป็นผู้ว่าจ้างก่อคดีฆาตกรรม
เหมยเหมยใจดิ่งลง มิน่าตำรวจคู่หูหลินถึงคิดว่าเธอเป็นฆาตกรเบื้องหลัง
พอมีเทปอัดเสียงนี้ ต่อให้เป็นเธอก็คงเริ่มสงสัยตัวเธอเองเหมือนกัน ทำไมถึงได้บังเอิญขนาดนี้?
เพิ่งโทรคุยกันไม่ถึงสองวันดีหร่วนหวาไฉ่ก็ถูกคนฆ่าตายเสียแล้ว!
เธอกลายเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญที่สุด!
แต่สิ่งที่เหมยเหมยแปลกใจมากกว่าคือผู้กองหลินไปได้เทปอัดเสียงนี้มาจากที่ไหน โจวจื่อหัวทำอะไรรอบคอบไม่ประมาทอยู่แล้ว แม้แต่บอดี้การ์ดรอบตัวยังเป็นผู้มีทักษะการต่อสู้ขั้นสูง คนที่อยู่ในวงการนี้มาอย่างโชกโชนจะถูกติดตั้งเครื่องดักฟังได้อย่างไร?
ทางฝั่งเธอมีเสี่ยวอวิ๋นกับเสียวหลีอยู่ซึ่งสองคนนี้เป็นผู้มีทักษะการต่อสู้ขั้นสูง ฉะนั้นบ้านพักของเธอไม่มีทางโดนติดตั้งเครื่องดักฟังได้ เหลือเพียงทางฝั่งโจวจื่อหัวแล้ว
“แค่โทรคุยกันสายเดียว โจวจื่อหัวแค่เห็นแก่ความเป็นเพื่อนของเราถึงได้คิดจะเสนอตัวสั่งสอนหร่วนหวาไฉ่เพื่อให้เขารู้ว่าอะไรคือความละอายใจในคุณธรรม แต่พวกคุณไม่ได้ยินหรือว่าฉันได้ปฏิเสธไปแล้ว? ฉะนั้นเทปอัดเสียงอันนี้บ่งบอกปัญหาอะไรได้ล่ะ?”
เหมยเหมยทำหน้าใสซื่อแต่แววตาแฝงด้วยความเย้ยหยันคล้ายกำลังเยาะเย้ยในความไร้ความสามารถของสองคนนี้
ตำรวจหญิงตวาดเสียงคุกรุ่น “บางทีคุณอาจจะเสียใจทีหลังแล้วโทรให้โจวจื่อหัวช่วยฆ่าคนแทนคุณก็ได้!”
“งั้นคุณก็เอาหลักฐานออกมาสิ ขอแค่คุณมีหลักฐานว่าฉันว่าจ้างให้ฆ่าคนฉันจะยอมรับผิดแน่ แต่ถ้าพวกคุณคิดจะกำหนดโทษให้ฉันเพียงเพราะเทปอัดเสียงอันนี้อันเดียว…
เหอเหอ งั้นก็ขอโทษด้วย ฉันจะให้สำนักงานประสานงานติดต่อเจ้านายพวกคุณ!”
เหมยเหมยตอกกลับอย่างไม่ไว้หน้าและรู้สึกสบายใจขึ้นมาก ต่อให้เธอไม่รู้กฎหมายฮ่องกงดีแต่ก็รู้ว่าลำพังแค่เทปอัดเสียงนี้ไม่มีทางกำหนดโทษเธอได้
ตอนนี้เธอเป็นห่วงโจวจื่อหัวมากกว่า
มั่นใจได้ว่ามีหนอนบ่อนไส้เกิดขึ้นทางฝั่งโจวจื่อหัว เขาไม่ปลอดภัยแล้ว
เรื่องเทปอัดเสียงจะต้องแจ้งให้โจวจื่อหัวทราบเพื่อให้เขารับรู้เรื่องนี้ ในเมื่อตอนนี้เขาร่วมมือกับเหยียนหมิงซุ่นย่อมจะเป็นอะไรไปไม่ได้เด็ดขาด
ไม่นานจินป๋อเหวินก็มาถึงอีกทั้งผู้บังคับบัญชาการสูงสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ได้โทรมาด่านายของผู้กองหลินไปยกหนึ่งก่อนสั่งให้พวกเขารีบปล่อยตัวเธอออกมา
นายของผู้กองหลินโดนด่าไปยกหนึ่งอย่างงุนงง หลังจากทำความเข้าใจแล้วก็ด่าผู้กองหลินไปอีกยกหนึ่งจนเกือบจะสร้างความบาดหมางระหว่างสองฝ่ายขึ้น
“รีบปล่อยตัวจ้าวเหมย พวกแกทำอะไรซี้ซั้ว ฉันเกือบเสียตำแหน่งไปเพราะพวกแกเลย” นายเอ่ยอย่างนึกกลัว
ผู้นำสูงสุดได้โทรถามคดีนี้กับทางสำนักงานประสานงานเพราะไม่ว่าใครเขาก็ไม่อยากมีเรื่องด้วย ลูกน้องเผลอไปจับตัวคนใหญ่คนโตแบบนี้เข้าเขาก็นึกใจหายเสียจริง
ผู้กองหลินแปลกใจเลยสอบถามประวัติของจ้าวเหมย “เธอคงไม่ใช่ลูกสาวของผู้ปกครองสูงสุดจริงๆ หรอกนะ?”
“ผู้ปกครองสูงสุดมีลูกสาวเสียที่ไหนกัน? แต่ก็เกือบแล้วละ อย่างไรเสียก็เป็นคนที่แกกับฉันไม่ควรมีเรื่องด้วย ใกล้จะปีเก้าเจ็ดแล้วพวกแกทำตัวดี ๆหน่อย อย่าสร้างปัญหาให้ฉัน!”
นายคำรามใส่ยกหนึ่งแล้วไปคุยประจบประแจงเหมยเหมยด้วยตัวเองก่อนจะส่งเธอขึ้นรถด้วยรอยยิ้มเปื้อนหน้า กระทั่งรถยนต์ไปไกลแล้วเขาถึงผ่อนลมหายใจออกมาพลางวิ่งกลับไปรายงานเรื่องนี้ต่อเบื้องบน
……………………
ตอนที่ 1783 เตือน
หลังเหมยเหมยกลับมาบ้านก็ได้ยินเสี่ยวอวิ๋นบอกว่าเซียวเซ่อโทรศัพท์ข้ามน้ำข้ามทะเลติดต่อไปยังคุณย่าท่านเคานต์วิคตอเรียหลังเธอถูกทางตำรวจพาตัวไป เพื่อให้ท่านเคานต์โทรหาผู้นำสูงสุดของฮ่องกง ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกงถึงได้โทรไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
“ขอบคุณนะเซ่อเซ่อ!”
เหมยเหมยกอดเซียวเซ่อไว้แน่น แม้เพื่อนสนิทกันไม่จำเป็นต้องเกรงใจกันแต่เธอก็อยากขอบคุณอยู่ดี
เซียวเซ่อพยักพเยิดปลายคางอย่างไม่ใส่ใจก่อนเอ่ยถามอย่างมาดเท่ “เรื่องเป็นมาอย่างไรกันแน่? ตำรวจได้หลักฐานอะไรมา?”
เหมยเหมยเล่าเรื่องเทปอัดเสียงไป “ฉันสงสัยว่าทางฝั่งโจวจื่อหัวมีหนอนบ่อนไส้ แต่ดีที่ฉันไม่ได้พูดอะไรไป ทางตำรวจแค่สงสัยกำหนดโทษอะไรให้ฉันไม่ได้หรอก”
สยงมู่มู่เอ่ยปากด่า “ลำพังแค่เทปอัดเสียงอันเดียวก็คิดจะกำหนดโทษเหรอ นี่กินขี้เป็นข้าวกันหรือไง?”
เหมยเหมยนวดขมับไปมาเพราะถูกความเหนื่อยล้ากัดกินร่างกายมาเกือบสองชั่วโมงเลยปวดศีรษะแทบแย่แต่ก็นอนไม่หลับ สติของเธอยังมีอยู่เต็มเปี่ยม “ฉันขอโทรหาลุงหัวหน่อย”
เสี่ยวอวิ๋นยกเครื่องโทรศัพท์มาให้เธอก่อนที่เหมยเหมยจะโทรไปยังเบอร์บ้านตระกูลโจวโดยหวังว่าโจวจื่อหัวจะอยู่บ้าน แต่ช่างเสียดายที่โชคไม่ดีนักเพราะน้อยครั้งที่ตอนกลางวันโจวจื่อหัวจะอยู่บ้าน ฉะนั้นคนรับสายคือคุณนายโจว
“คุณป้า ฉันมีเรื่องสำคัญจะถามลุงหัว ถ้าคุณป้าเจอลุงหัวช่วยให้เขาโทรกลับอย่างเร่งด่วนทีนะคะ” เหมยเหมยกล่าว
“ได้ ฉันจะส่งคนไปตามหาเขาเดี๋ยวนี้”
แค่คุณนายโจวได้ฟังน้ำเสียงของเหมยเหมยก็รู้ว่าต้องไม่ใช่เรื่องเล็ก เธอเองก็ไม่กล้าชักช้าก่อนออกไปตามเขาด้วยตัวเอง คนที่รู้ใจสามีคงไม่พ้นคนเป็นภรรยา เวลานี้ส่วนมากโจวจื่อหัวจะพาคู่นอนไปฟังละครเวทีที่หอละคร
เป็นไปตามอย่างที่คาดเมื่อคุณนายโจวหาตัวโจวจื่อหัวเจอที่ห้องระดับแขกกิตติมาศักดิ์ซึ่งโอหยางซานซานเองก็อยู่ด้วย ขณะคุณนายโจวเดินเข้าไปโอหยางซานซานก็กำลังซบอยู่บนตัวโจวจื่อหัวพร้อมป้อนองุ่นให้เขาทาน ระหว่างนี้เองก็มีการหยอกเอินตามประสาบ้าง
คุณนายโจวทำหน้าเรียบนิ่งคล้ายไม่เห็นโอหยางซานซานก่อนกล่าวเสียงเรียบ “มีเรื่องสำคัญ คุณช่วยกลับบ้านที”
โจวจื่อหัวสีหน้าอึดอัดเล็กน้อยแล้วรีบผลักโอหยางซานซานที่ตัวติดเนื้อแนบเนื้อกับเขาออก ลุกขึ้นจะตามคุณนายโจวกลับบ้านโดยไม่คิดถามอะไร
โอหยางซานซานแอบนึกแค้นในใจเลยแสร้งทักเสียงออดอ้อน “สวัสดีค่ะคุณแม่บุญธรรม”
คุณนายโจวชะงักฝีเท้าพลางมองโอหยางซานซานอย่างเรียบนิ่ง ได้ข่าวมาว่าโจวจื่อหัวสนใจผู้หญิงคนนี้มากเหลือเกินถึงขั้นสั่งจองยาบำรุงร่างกายจากเป่าจือถังมาไม่น้อย ยัยปีศาจตัวน้อยหน้าตาดีไม่หยอกเสียงก็น่าหลงใหล คิดว่าเรื่องบนเตียงก็คงฝีมือไม่แย่เช่นกัน
แต่แล้วอย่างไรล่ะ?
ตำแหน่งคุณนายโจวก็เป็นของเธอตลอดไปอยู่ดี!
“ฉันไม่กล้ารับไว้หรอก ถ้าจะให้เรียกอย่างคุณโอหยางกันทุกคนถ้างั้นฉันคงมีลูกบุญธรรมมากเกินไปแล้ว”
คุณนายโจวเอ่ยเสียงเรียบแล้วหมุนตัวเดินออกไป หากเป็นอดีตคงจะปวดใจอยู่บ้างแต่ตอนนี้เธอชินชาไปแล้ว สักวันหนึ่งรอโจวจื่อหัวแก่จนเดินไม่ไหวก็จะกลับบ้านแต่โดยดีเอง
โจวจื่อหัวตวัดตาใส่โอหยางซานซานเป็นการตักเตือนแล้วก้าวขึ้นรถตามคุณนายโจวไป
“เกิดอะไรขึ้น?”
“เมื่อกี้เหมยเหมยโทรมาบอกว่ามีเรื่องสำคัญหาคุณ ฉันกลัวเสียเวลาเลยมาหาคุณเอง” คุณนายโจวอธิบาย
“คุณจัดการทุกอย่างให้ผมสบายใจที่สุดเหมือนเดิมเลย”
โจวจื่อหัวลูบหลังมือภรรยาเบา ๆ คู่นอนช่วยให้ร่างกายเขาได้รับการผ่อนคลายแต่มีเพียงภรรยาเท่านั้นที่เขาให้ความเชื่อใจ
คุณนายโจวหลุบตาลงกระตุกยิ้มมุมปากเย้ย สบายใจแค่ไหนก็รั้งหัวใจคุณไว้ไม่ได้อยู่ดี!
“คุณก็อายุไม่น้อยแล้ว บางเรื่องก็เพลาๆ ลงหน่อย คิดว่าตัวเองยังวัยรุ่นอยู่หรือไง?” คุณนายโจวอดเตือนไม่ได้ ต่อให้ผิดหวังแค่ไหนแต่ท้ายที่สุดเธอก็หวังว่าสามีจะมีชีวิตที่ดี
โจวจื่อหัวยิ้มแหย
ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงเหมยเหมยก็ได้รับสายจากโจวจื่อหัวก่อนที่เธอจะเล่าเรื่องเทปอัดเสียงไป “ลุงหัว รอบตัวลุงมีหนอนบ่อนไส้ ลุงต้องระวังตัวด้วยนะคะ”
………………………