ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1800 คดีนี้มีปัญหา + ตอนที่ 1801 มีคนปลอมตัว
ตอนที่ 1800 คดีนี้มีปัญหา
“จะเป็นไปได้ไง? โอหยางสยงเป็นอาแท้ ๆของเขาเลยนะ!” สยงมู่มู่ไม่ยอมเชื่อ เซียวเซ่อเองก็ทำหน้าเช่นเดียวกันกับเขา
ฆ่าหร่วนหวาไฉ่ยังพอรับได้เพราะไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด อีกอย่างการเป็นอาจารย์ลูกศิษย์ในยุคสมัยนี้ไม่ได้เป็นพิธีรีตองมากเท่าแต่ก่อน โอหยางซานซานเป็นเพียงหนึ่งในบรรดาศิษย์ของหร่วนหวาไฉ่คงไม่ได้ผูกพันกันนักหรอก
แต่โอหยางสยงกลับต่างกันไป นั่นเป็นอาแท้ ๆของเธอเชียวนะ!
หล่อนทำได้ลงคอได้อย่างไรกัน?
อู่เชาแค่นเสียงทีหนึ่งพลางเอ่ย “จะเป็นไปไม่ได้อย่างไรเล่า เมื่อก่อนอู่เยวี่ยยังทำกับแม่แท้ ๆของหล่อนได้ลงคอเลย สิ่งที่ชั่วร้ายที่สุดคงไม่พ้นจิตใจของผู้หญิง เวลาผู้หญิงโหดขึ้นมา…”
ยังไม่ทันพูดจบดีก็ต้องเงียบเสียงลงเพราะแรงอาฆาตที่แผ่ออกมาจากตัวเซียวเซ่อทำเอาร่างเขาแทบพรุนแล้ว
สิ่งชั่วร้ายที่สุดไม่พ้นจิตใจผู้หญิง โดยเฉพาะยัยทอมที่ป่าเถื่อนกว่าผู้ชายนี่แหละ!
จะหาเรื่องด้วยไม่ได้!
เหมยเหมยสีหน้าเปลี่ยนไป ภาพที่ตัดไปเมื่อครู่ฉายเข้ามาในหัวอีกแล้ว
อู่เยวี่ย…
เธอรู้แล้วว่าความรู้สึกผิดปกติบนตัวโอหยางซานซานคืออะไร
เพราะความรู้สึกที่โอหยางซานซานมีแก่เธอเหมือนอู่เยวี่ยไม่มีผิด แต่อู่เยวี่ยตายแล้วไม่ใช่หรือ?
เธอผลักหล่อนตกจากชั้นสี่เองกับมือ อีกอย่างเหยียนหมิงซุ่นเองก็เห็นอู่เยวี่ยถูกเผาเหลือแต่เถ้ากระดูกเองกับตา ต่อให้ได้กลับชาติมาเกิดใหม่หรือยาย้อนวัยของเธอก็ช่วยอู่เยวี่ยไม่ได้
อู่เยวี่ยไม่มีทางฟื้นคืนชีพได้อีก ไม่มีทางเด็ดขาด!
เหมยเหมยสบายใจขึ้นเล็กน้อย บางทีเธออาจจะคิดมากไป โอหยางซานซานอาจจะสะเทือนใจกับการตายของหวงอวี้เหลียนมากไปถึงได้มีความเปลี่ยนแปลงมากขนาดนี้ ไม่มีทางเกี่ยวกับอู่เยวี่ยหรอก
แต่ว่า–
ตอนใกล้ทานมื้อเที่ยงเสี่ยวอวิ๋นก็กลับมาอีกครั้งด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เธอหยิบเอกสารซองหนึ่งยื่นให้เหมยเหมย “ตัวตนของโอหยางซานซานเป็นที่น่าสงสัยมาก”
เหมยเหมยใจดิ่งวูบพลางเทของในซองเอกสารออกมาพบว่าเป็นรูปถ่ายกับข้อมูลบางอย่าง เธอดูเวลาเลยรู้ว่าเป็นรูปถ่ายสมัยมัธยมกับมหาวิทยาลัยของโอหยางซานซาน
“ส่วนสูง 163 เซนติเมตรน้ำหนัก 51 กิโลกรัม” เหมยเหมยพึมพำกับตัวเอง นี่เป็นข้อมูลตอนมัธยมปลายของโอหยางซานซาน เธออดแปลกใจไม่ได้เพราะเธอรู้สึกว่าโอหยางซานซานในตอนนั้นไม่ได้สูงเพียง 163 เซนติเมตร
ตอนนั้นเธอสูง 162 เซนติเมตรแต่ทุกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับโอหยางซานซานมักรู้สึกว่าตนเตี้ยกว่าหน่อย ช่วงวัยเรียนสวมรองเท้าส้นสูงไม่ได้ฉะนั้นโอหยางซานซานในตอนนั้นอย่างน้อยต้องสูงกว่าเธอสามถึงสี่เซนติเมตร
แล้วทำไมถึงห่างกันเพียงหนึ่งเซนติเมตรล่ะ?
อีกอย่างน้ำหนักนี้ก็ไม่ถูก โอหยางซานซานเป็นคนโครงร่างใหญ่หนาและกล้ามเนื้อแน่น แล้วจะหนักเพียง 51 กิโลกรัมได้อย่างไร?
เธอดูข้อมูลตอนอยู่อเมริกาอีกครั้ง เมื่อสามปีก่อนสูง 164 เซนติเมตรน้ำหนัก 50 กิโลกรัม สองปีก่อนสูง 165 เซนติเมตร น้ำหนัก 48 กิโลกรัม จากนั้นขนาดส่วนสูงก็คงที่มาตลอดและน้ำหนักก็อยู่ราว ๆ 48 กิโลกรัมซึ่งไม่มีความคลาดเคลื่อนอะไรมาก
“ข้อมูลพวกนี้มีปัญหาอะไรเหรอ?” เหมยเหมยถาม
เสี่ยวอวิ๋นพยักหน้า “ข้อมูลเคยถูกคนเข้าไปแก้ไข และมั่นใจได้ว่าขนาดส่วนสูงมีปัญหา”
สยงมู่มู่เองก็กำลังหยิบรูปถ่ายรูปหนึ่งขึ้นมาดู หลับตาเหมือนกำลังคำนวณบางอย่างแต่ไม่นานเขาก็ลืมตาขึ้น พูดเสียงแน่วแน่ว่า “ไม่ผิดหรอก ส่วนสูงเป็นของปลอม รูปนี้พอจะกะสัดส่วนที่แท้จริงของโอหยางซานซานได้ แล้วก็รูปนี้ พวกเธอรอแป๊บนะ”
เขาวิ่งกลับไปหยิบโน้ตบุ๊คในห้อง สยงมู่มู่นอกจากจะรักในดนตรีแล้วยังชื่นชอบคอมพิวเตอร์อย่างมาก ขอเพียงออกคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่เขาจะรีบซื้อกลับมาศึกษาตลอด
สยงมู่มู่สแกนรูปถ่ายเข้าเครื่องโน้ตบุ๊คก่อนเริ่มทำการแก้ไขรูปภาพ ภาพแรกเป็นภาพที่ถ่ายตอนโอหยางซานซานเรียนมัธยมปลาย เธอใส่ชุดนักเรียนมัธยมอีจงที่เมืองจินพร้อมรองเท้าผ้าใบยี่ห้อหุยลี่ถูกถ่ายตอนยืนใกล้ขอบประตู ภาพดูเหมือนกำลังซักซ้อมการแสดงอยู่ ด้านหลังเธอมีนักเรียนอีกจำนวนไม่น้อยล้วนยืนต่อแถวเป็นระเบียบ
“พวกเธอดูรูปนี้สิ โอหยางซานซานยืนตรงมากและเป็นระนาบเดียวกับขอบประตู ประตูห้องเรียนสูง 2.2 เมตร ถ้าใช้สัดส่วนเธอเทียบกับสัดส่วนประตูก็พอจะกะส่วนสูงของโอหยางซานซานได้อย่างง่ายดายว่าต้องสูงกว่า 165 เซนติเมตร ไม่มีทางเป็น 163 เซนติเมตรได้อย่างแน่นอน”
…………………….
ตอนที่ 1801 มีคนปลอมตัว
สยงมู่มู่ใช้เมาส์คลิก ทั้งอัตราเปรียบเทียบทั้งข้อมูลอ้างอิง เหมยเหมยยังคงปวดหัวอยู่ ฟังไม่เข้าใจเลยสักอย่างแต่ประโยคสุดท้ายเธอพอจะฟังเข้าใจ
“นายแน่ใจว่าประตูสูง 2.2 เมตรนะ?” เหมยเหมยถาม
“ตอนนั้นฉันวัดเองกับมือได้ 2.2เมตรเลย อีกอย่างห้องเรียนของโรงเรียนเมืองจินยังมีกฎควบคุมความสูงของประตูและหน้าต่าง ความสูงประตูคือ 2.2 และความสูงของหน้าต่างคือ 0.8 ต่อให้มีความแตกต่างกันก็มีไม่มากหรอก” สยงมู่มู่กล่าวอย่างมั่นใจ
มือเขายังไม่หยุดขยับเลื่อนมือคลิกไปที่รูปอื่น ฉากหลังคือสนามบินในสหรัฐอเมริกา หน้าตาไม่เปลี่ยนแปลงไปมากแถมยังดูมีความสุขมาก แต่งตัวเรียบง่าย น่าจะถ่ายตอนถึงสหรัฐอเมริกา
“ดูรูปนี้สิ เธอยืนอยู่ด้านข้างเก้าอี้ พวกเราสามารถใช้เก้าอี้เป็นตัวอ้างอิงได้ คำนวณออกมาแล้วความสูงที่ได้ก็น่าจะสูงกว่า 165 เซนติเมตรอยู่ดี ดังนั้นความสูง 163 นี้มีปัญหาแน่นอน”
สยงมู่มู่คำนวนอีกครั้ง เสี่ยวอวิ๋นพูดอย่างเห็นด้วยว่า “พวกเราก็ใช้วิธีนี้คำนวณความสูงจอมปลอมได้แล้ว”
“นี่คือรูปของโอหยางซานซานตอนอายุสิบเจ็ดและนี่เป็นรูปเธอในตอนนี้ พวกเธอดูให้ดี ๆสิว่าเหมือนคน ๆเดียวกันไหม?” สยงมู่มู่เอารูปภาพทั้งสองรูปมาวางไว้ด้วยกัน
ทุกคนชะโงกหน้าเข้ามาใกล้แล้วต่างพากันตกใจหน้าซีดยกใหญ่
ถ้าไม่วางไว้ด้วยกันก็มองไม่ออกจริง ๆ เห็นได้อย่างชัดเจนว่าใบหน้าของทั้งคู่ไม่คล้ายคลึงกันเลย แต่ถ้าหากดูเดี่ยว ๆแบบนี้กลับไม่ได้แตกต่างชัดเจนอะไรขนาดนั้น
“นี่คือผลลัพธ์ของการเปรียบเทียบ เพราะว่าพวกเราอุปาทานกันไปว่าเป็นเช่นนั้น ในหัวคิดไปแล้วว่าคน ๆนั้นคือโอหยางซานซาน ดังนั้นพอเห็นหน้าตาของเธอก็ไม่ได้เกิดความสงสัยอะไร สิ่งสำคัญที่สุดคือพวกเราไม่ได้เจอเธอมาสี่ปีแล้ว จิตใต้สำนึกคิดไปว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงบ้างก็เป็นเรื่องปกติ”
สยงมู่มู่พูดเป็นต่อยหอยแปลงร่างเป็นนักสืบโคนันไปแล้ว
ความคิดของเหมยเหมยก็ถูกเปิดกว้างขึ้นแล้วเช่นกัน ถึงอย่างไรเธอก็เป็นนักเขียนหนังสือการ์ตูนยอดนิยมที่อ้างอิงถึงหลักการเหตุผลเลยนะ เมื่อกี้ก็แค่ปวดหัวเท่านั้นแหละ พอถูกสยงมู่มู่จุดประกายเธอก็นึกถึงความเป็นไปได้นับไม่ถ้วนขึ้นมา
ก่อนอื่นตัดเรื่องเกิดใหม่และผีเข้าทิ้งไปได้ นี่จึงทำให้เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ถ้าพูดตามนี้ละก็ งั้นโอหยางซานซานคนนี้ก็ไม่ใช่โอหยางซานซานตัวจริง แสดงว่ามีคนทำศัลยกรรมปลอมตัวเป็นโอหยางซานซาน ถ้างั้นโอหยางซานชานตัวจริงหายไปไหน? คนที่ปลอมตัวคนนี้เป็นใคร?” เหมยเหมยตั้งคำถามที่น่าสงสัยขึ้นมาพลางคลึงขมับบ้างเป็นครั้งคราว
แค่ใช้หัวสมองคิดขมับก็ปวดตุบตับขึ้นมาทันที
ทุกคนต่างก็ถูกกระตุ้นความอยากรู้ เซียวเซ่อคาดเดาว่า “คน ๆนี้น่าจะเป็นคนที่พวกเรารู้จักด้วย อีกทั้งยังมีความแค้นกับเหมยเหมย ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่เปลืองแรงกายแรงใจวางแผนทำร้ายเธอหรอก!”
“ใช่ แบบนี้ขอบเขตของพวกเราก็หดเล็กลงแล้ว” สยงมู่มู่เห็นด้วย
อู่เชาเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ สีหน้าก็ถอดสี ในดวงตาปรากฎความหวาดกลัวขึ้นมา ตัวสั่นพูดว่า “งั้นโอหยางซานซานฆ่าโอหยางสยงแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ไม่แน่บางทีโอหยางสยงอาจจะค้นพบความผิดปกติของโอหยางซานซาน หลังจากนั้นโอหยางซานซานก็กลัวว่าตัวตนที่แท้จริงของเธอจะรั่วไหลก็เลยฆ่าโอหยางสยงทิ้ง…”
เขายิ่งพูดก็ยิ่งกลัว ขยับตัวไปทางเสี่ยวอวิ๋นทีละนิด ๆ
กอดต้นขาของพี่สาวเสี่ยวอวิ๋นไว้แน่นถึงจะทำให้เขารู้สึกสบายใจได้!
“ยังมีคำว่าลูกชิ้นปลาที่โอหยางสยงทิ้งเอาไว้ก่อนตายด้วย ลูกชิ้นปลานี้จะต้องเกี่ยวข้องกับฆาตกรแน่นอน” เหมยเหมยกล่าว
เซียวเซ่อกอดอกพูดว่า “พวกเธอยังจำที่เจ้าของร้านขายลูกชิ้นปลาเคยบอกว่าโอหยางซานซานไปพบโอหยางสยงเป็นครั้งสุดท้าย ตอนกลับก็ยังแวะซื้อลูกชิ้นปลามากิน เจ้าของร้านยังบอกอีกว่าเธอชอบกินลูกชิ้นปลามาก”
“และคุณยายคนนั้นยังบอกอีกว่าโอหยางซานซานกลับเข้าไปอีกครั้ง หลังจากอยู่ในห้องของโอหยางสยงเป็นเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงถึงจะออกมา หลังจากนั้นก็ไม่ได้ไปที่นั่นอีก” สยงมู่มู่กล่าวเสริม
ทุกคนต่างตื่นเต้นกันมาก หมอกทึบกำลังจะคลี่คลายและขยับเข้าใกล้ความจริงขึ้นเรื่อย ๆแล้ว
…………………………………………..