ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1824 ลุกขึ้นยืนอย่างเข้มแข็ง + ตอนที่ 1825 ความเห็นแก่ตัวของมนุษย์
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1824 ลุกขึ้นยืนอย่างเข้มแข็ง + ตอนที่ 1825 ความเห็นแก่ตัวของมนุษย์
ตอนที่ 1824 ลุกขึ้นยืนอย่างเข้มแข็ง
ภายใต้การดึงดูดอันยิ่งใหญ่ของเจ้าหญิงอัปลักษณ์ จิตใจที่ตายด้านของโจวซิงเอ๋อร์ก็เริ่มฟื้นขึ้นมาจนสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“พี่เหมย ฉันจะเริ่มต้นใหม่ได้จริง ๆเหรอคะ?” โจวซิงเอ๋อร์บ่นพึมพำกับตัวเอง
“ทำได้แน่นอนถ้าเธอเข้มแข็งพอ ต่อให้ตกลงไปในเหวลึกแค่ไหนก็สามารถปีนขึ้นมาได้ ซิงเอ๋อร์ เธอต้องเข้มแข็งให้ได้ เธอจะต้องมีชีวิตที่สดใสมากขึ้น งดงามมากขึ้น นั่นถึงจะทำให้ย่าของเธอนอนตายตาหลับ” เหมยเหมยเอ่ยเสียงหนักแน่น
โจวซิงเอ๋อร์ดวงตาแดงก่ำ พูดขึ้นอย่างปวดใจ “คุณย่าทำทุกอย่างก็เพื่อฉัน ถึงได้…”
ตอนที่โจวจื่อหัวตามหาพวกเธอพบ คุณนายโจวก็พาโจวซิงเอ๋อร์หนีออกมาได้ และยังได้ฆ่าพวกคนที่กักขังพวกเธอไว้ด้วย แต่ไม่นานเฉินกั๋วเปียวก็เจอตัวเข้าและตามมาทัน
เพื่อปกป้องหลานสาวคุณนายโจวยิงจนลูกกระสุนหมดกระบอก ตัวเธอเองก็โดนยิงเข้าหลายนัด ทั้งตัวอาบไปด้วยเลือดสีแดงฉานแต่ก็ยังฝืนเอาไว้เพื่อรอให้โจวจื่อหัวมาถึง
มันเป็นหนึ่งในเรื่องน่าสลดใจจนโจวซิงเอ๋อร์ไม่กล้านึกถึงมันอีก
แต่เธอนึกถึงภาพคุณย่าของเธอช่วงก่อนเสียชีวิต รวมทั้งความทรมานดั่งเหวนรกที่เธอเคยประสบมา…สิ่งเหล่านี้ได้ย้ำเตือนให้เธอมีความกล้าหาญอยู่ตลอดเวลา
“เพราะฉะนั้นเธอก็ยิ่งไม่ควรทำให้คุณย่าของเธอต้องตายเปล่า ซิงเอ๋อร์ เธอจะต้องลุกขึ้นยืนหยัดสู้ต่อไป ไม่ใช่การทำเพื่อใครแต่เพื่อตัวเธอเอง!” เหมยเหมยให้กำลังใจ
แววตาที่ตายด้านของโจวซิงเอ๋อร์ค่อย ๆหายไป “พี่เหมย ฉันจะพยายามค่ะ…แต่ฉัน…”
เหมยเหมยไม่ปล่อยให้เธอได้พูดต่อ เอ่ยขัดขึ้นมาว่า “ตราบใดที่เธอพยายามมันจะเกิดผลสำเร็จแน่นอน ซิงเอ๋อร์ เธอรู้ไหมว่าต้นแบบของเจ้าหญิงอัปลักษณ์เป็นใคร?”
“ใครคะ?”
“คือตัวพี่เอง อันที่จริงเรื่องราวของเจ้าหญิงอัปลักษณ์ก็คือประสบการณ์ของพี่เอง ดังนั้น…ซิงเอ๋อร์ ชีวิตของทุกคนไม่มีอะไรราบรื่นหรอกนะ สิ่งที่เราต้องทำคือการยืนหยัดเผชิญหน้ากับความเป็นจริง!”
โจวซิงเอ๋อร์มองหน้าเหมยเหมยด้วยความตกใจ นึกไม่ถึงว่าพี่เหมยที่สวยฉลาดและมองโลกในแง่ดีในสายตาเธอ ที่จริงตอนเด็ก ๆก็เป็นลูกเป็ดขี้เหร่ที่น่าสงสารตัวหนึ่ง และถูกพ่อแม่ที่เลี้ยงมาทารุณด้วย…
ดูไม่ออกเลยสักนิดว่าพี่เหมยในตอนนี้เคยมีช่วงวัยเด็กที่น่าเวทนาขนาดนี้!
เมื่อเห็นว่าโจวซิงเอ๋อร์มีสภาพจิตใจดีขึ้นเหมยเหมยจึงค่อยวางใจ เสี่ยวอวิ๋นก็เดินเข้ามาหา “คุณหนู คุณชายหมิงมารับแล้วค่ะ”
โจวซิงเอ๋อร์รีบเอ่ยขึ้นว่า “พี่เหมยรีบกลับไปเถอะค่ะ พี่วางใจได้ ฉันจะต้องเข้มแข็งให้ได้แน่นอนค่ะ!”
พี่เหมยยกบทบาทเจ้าหญิงอัปลักษณ์ที่สำคัญขนาดนั้นให้เธอแสดง ไม่ว่าอย่างไรเธอก็จะแสดงมันออกมาให้ดี เพียงเท่านี้ก็จะได้รับความไว้วางใจจากพี่เหมยแล้ว!
เหยียนหมิงซุ่นพูดคุยกับโจวจื่อหัวอยู่ในห้องรับแขก โจวจื่อหัวดูแก่ลงไปมากจนเห็นได้ชัด หลังค่อมเล็กน้อยต่างไปจากเมื่อก่อนที่ดูมีสง่าราศีอย่างสิ้นเชิง
พอเกิดเรื่องขึ้นกับคุณนายโจวและโจวซิงเอ๋อร์ก็ส่งผลกระทบต่อโจวจื่อหัวอย่างมากจนเขาโทษตัวเองหนักยิ่งกว่าเดิม
“ผมได้เบาะแสมาแล้ว โอหยางซานซานเป็นคนของเฮ่อเหลียนเช่อ เธอวนเวียนอยู่ข้างกายคุณเป้าหมายก็เพื่อชักชวนให้คุณสนับสนุนเฮ่อเหลียนเช่อ” เหยียนหมิงซุ่นพูดเสียงนิ่งขรึม
โจวจื่อหัวกำหมัดแน่นด้วยความอาฆาต ขบฟันแน่น “นางชั่ว ฉันไม่ปล่อยมันไว้แน่!”
แต่เขาก็ไม่เข้าใจอยู่ดี “เฮ่อเหลียนเช่อร่วมมือกับเฉินกั๋วเปียว?”
“เปล่า ทางฝั่งเฉินกั๋วเปียวโอหยางซานซานลงมือเป็นการส่วนตัว ถึงผมจะไม่ค่อยชอบคนอย่างเฮ่อเหลียนเช่อ แต่เขาตาสูงเสียดฟ้า คนอย่างเฉินกั๋วเปียวไม่อยู่ในสายตาของเฮ่อเหลียนเช่อเลยด้วยซ้ำ” ถือว่าเหยียนหมิงซุ่นพูดให้ความยุติธรรมต่อเฮ่อเหลียนเช่อ
เขาเอ่ยถึงเรื่องตัวปลอมของโอหยางซานซานขึ้นอีกครั้ง “ตอนนี้ผมยังสืบหาตัวตนที่แท้จริงของผู้หญิงคนนี้ไม่พบ แต่เธอคนนี้อำมหิตเลือดเย็น ความคิดลึกซึ้งและนิสัยใจคอวิปริตเป็นอันตรายมาก เธอน่าจะยังอยู่ในฮ่องกง แต่เธอเก่งเรื่องการปลอมตัวมากจึงหาตัวได้ยาก”
……………………………………………………………………
ตอนที่ 1825 ความเห็นแก่ตัวของมนุษย์
โจวจื่อหัวเข้าใจความหมายของเหยียนหมิงซุ่น ขบเคี้ยวเขี้ยวฟันแล้วพูดว่า “ฉันจะแจ้งให้พวกพ้องด้านล่างช่วยตามหา ต่อให้ต้องหาทุกซอกทุกมุมในฮ่องกง ฉันก็จะหาตัวเธอให้เจอแล้วจัดการบดขยี้ให้แหลกเลย!”
เหยียนหมิงซุ่นไม่อยากพูดให้โจวจื่อหัวเสียกำลังใจ โอหยางซานซานตัวปลอมไม่ใช่สายลับธรรมดา เธอต้องเป็นไพ่ไม้ตายที่เฮ่อเหลียนเช่อฝึกมาอย่างดี คิดเหรอว่าพวกลูกน้องกระจอก ๆของโจวจื่อหัวจะตามหาตัวเจอได้ง่าย ๆ?
โจวซิงเอ๋อร์ไม่กินไม่ดื่มไม่นอนมาหลายวัน เส้นประสาทตึงเปรี๊ยะ ตอนนี้มีเธอเป้าหมายแล้วจึงมีท่าทีผ่อนคลายลงมาก เหมยเหมยให้คนรับใช้อุ่นนมมาให้แก้วหนึ่ง โจวซิงเอ๋อร์ดื่มนมอุ่นเสร็จไม่นานก็เข้าสู่ห้วงนิทรา และนั่นจึงทำให้เธอวางใจ
“ให้ซิงเอ๋อร์ได้พักผ่อนสักหน่อย อย่าให้ใครมาพล่ามอะไรไร้สาระต่อหน้าเธอ ส่วนคุณนายโจวคุณก็เหมือนกัน ถ้ายิ้มไม่ออกก็อย่าร้องไห้!”
แม่ของโจวซิงเอ๋อร์อยากเข้ามาดูลูกสาวแต่ก็ถูกเหมยเหมยขวางเอาไว้ จากนั้นก็พูดกำชับอยู่ไม่กี่ประโยค เธอไม่ค่อยวางใจผู้หญิงขี้ขลาดและไร้ประโยชน์คนนี้เลยจริง ๆ กลับไปต้องรีบคุยกับโจวจื่อหัวให้เขาปล่อยโจวซิงเอ๋อร์ไปแผ่นดินใหญ่โดยเร็ว
หนีห่างจากเมืองแห่งความเจ็บปวดอย่างฮ่องกง โจวซิงเอ๋อร์ถึงจะสามารถหลุดพ้นจากบ่อโคลนนี้ได้ แล้วลุกขึ้นยืนหยัดสู้ต่อไปได้เสียที
แม้ว่าแม่ของโจวซิงเอ๋อร์จะไม่ค่อยชอบน้ำเสียงคำพูดคำจาของเหมยเหมย แต่ถึงอย่างไรก็ต้องขอบคุณเหมยเหมย ซิงเอ๋อร์ไม่ได้นอนมาหลายวันแล้ว ทั้งยังไม่ยอมกินอะไรเลย พอคุณหนูจ้าวมาถึงซิงเอ๋อร์ก็ยอมดื่มนมเข้านอนอย่างว่าง่าย เธอวางใจลงมากแต่ก็รู้สึกน้อยใจอยู่บ้าง
ซิงเอ๋อร์สนิทกับคนอื่นมากกว่าเธอได้อย่างไรกัน?
เฮ้อ!
แม่ของโจวซิงเอ๋อร์ยิ้มไม่ออกเลยจริง ๆ แค่เธอคิดได้ว่าเกิดเรื่องขึ้นกับลูกสาวของเธอก็เหมือนมีมีดมาปักตรงกลางหัวใจ รู้สึกปวดใจเศร้าใจแทนลูกสาว แต่มากกว่านั้นคือความกังวล
กังวลว่าโจวจื่อหัวจะไม่รักใคร่เอ็นดูโจวซิงเอ๋อร์เหมือนอย่างเมื่อก่อน ถ้าเป็นแบบนั้นเธอยังจะใช้ชีวิตอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ได้อีกเหรอ?
ถ้าหากเหมยเหมยได้รู้ความคิดในใจของคุณนายใหญ่โจวที่อยู่ตรงหน้าเธอละก็คงถุยน้ำลายใส่จนทั่วหน้า
นอกจากจะขี้ขลาดไร้ประโยชน์แล้วยังเห็นแก่ตัวอีก ก็ไม่แปลกนักที่โจวซิงเอ๋อร์จะไม่ค่อยพูดถึงแม่ของเธอเลย และดูสนิทสนมกับคุณย่าอย่างคุณนายโจวเสียมากกว่า ผู้หญิงอย่างคุณนายใหญ่โจวไม่เหมาะที่จะเป็นแม่คนเลยจริง ๆ
เหมยเหมยเดินลงบันไดมาก็เห็นความแก่แห้งเหี่ยวของโจวจื่อหัว ในใจพลันรู้สึกไม่ดีนักแต่กลับไม่ได้รู้สึกเห็นใจเลย เพราะคนที่น่าสงสารที่สุดก็คือคุณนายโจวที่เสียชีวิตไปต่างหาก
เหยียนหมิงซุ่นเหลือบมองข้างกาย เหมยเหมยนั่งลงข้าง ๆเขา เหยียนหมิงซุ่นดึงมือเธอมากุมอย่างเป็นธรรมชาติและบีบอย่างเบามือ พอโจวจื่อหัวเห็นก็นึกอิจฉาในใจ แต่ที่มากกว่านั้นคือความหดหู่ใจ
ครั้งหนึ่งเขากับภรรยาก็เคยมีช่วงเวลาที่พลอดรักหวานแหววเช่นนี้มาก่อนเหมือนกัน!
มันเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไรกันนะ?
ตอนนี้เขานึกเสียใจแต่กลับถูกกั้นไว้ด้วยโลกคนเป็นกับโลกคนตายเสียแล้ว
โจวจื่อหัวถอนหายใจลากยาวหันไปถามเหมยเหมย “ซิงเอ๋อร์เป็นยังไงบ้าง? ยังไม่ยอมกินข้าวอีกเหรอ?”
“เพิ่งจะดื่มนมอุ่นเข้าไป ลุงหัวดูเทปม้วนนี้สิคะ มีคนจงใจส่งมาให้ซิงเอ๋อร์จนเกือบเกิดเรื่องขึ้นกับเธอ” เหมยเหมยหยิบเทปวีดิโอกับกล่องพัสดุออกมาด้วย ไอ้คนวิปริตที่แอบซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดจะต้องหาตัวมันออกมาให้ได้
สีหน้าของโจวจื่อหัวเปลี่ยนไปมาก เขาเพิ่งจะมาถึงบ้านเลยไม่รู้เรื่องเทปวีดิโอ คุณนายใหญ่โจวกังวลมากเกินไป โจวซิงเอ๋อร์เจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้มา โจวจื่อหัวมีแต่จะสงสารเห็นใจหลานสาวมากขึ้น เขาจะรังเกียจลงได้อย่างไรกัน?
“นี่พวกมันทุกคนคิดว่าฉันตายไปแล้วหรือไง? เหอะ…เหมือนว่าก่อนหน้านี้ฉันจะใจดีมากไป!” โจวจื่อหัวแสยะยิ้ม แววตาแผ่ไอเย็นออกมาทำเอาทุกคนต่างเสียวสันหลังวาบ
เหยียนหมิงซุ่นยกกล่องพัสดุขึ้นมาดู ที่อยู่ชื่อผู้ส่งด้านบนนั้นว่างเปล่า เขียนเพียงแค่ชื่อและที่อยู่ของผู้รับ ซ้ำยังใช้เครื่องพิมพ์ดีดพิมพ์ตัวหนังสือออกมา ไม่มีจุดไหนที่เขียนด้วยลายมือเลย
เขานิ่งไปพักหนึ่งแล้วพูดกับเสี่ยวอวิ๋นว่า “ไปสืบมาว่าพัสดุกล่องนี้ส่งมาจากที่ไหน? แล้วก็ตามหาคนที่ส่งพัสดุในช่วงสองวันนี้มาตรวจสอบทีละคนอย่างละเอียด ให้ตำรวจเข้ามาช่วยประสานงานกับเธอด้วยแล้วกัน”
……………………………………………………………..