ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1848 พ่อบุญธรรมมีเกลื่อนโลก + ตอนที่ 1849 มาหาเรื่องนั่นแหละ
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1848 พ่อบุญธรรมมีเกลื่อนโลก + ตอนที่ 1849 มาหาเรื่องนั่นแหละ
ตอนที่ 1848 พ่อบุญธรรมมีเกลื่อนโลก
อู่เยวี่ยหน้าถอดสีแต่ไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ หากไม่ใช่เพราะแววตาที่ยังดูลนลานอยู่บ้างเหมยเหมยคงคิดว่าเธอไม่ใส่ใจจริง ๆเสียอีก!
“คุณหนูจ้าวพูดล้อเล่นหรือเปล่า คุณพ่อของฉันก็อยู่เมืองจินดี ๆ ทำไมต้องไปรับคนอื่นเป็นพ่อบุญธรรมด้วยล่ะ? สงสัยเธอจะจำผิดคนแล้วละมั้ง?”
อู่เยวี่ยเอ่ยเสียงเรียบเพราะเธอคิดได้อย่างไวว่าใช่ว่าเฮ่อเหลียนเช่อจะไม่รู้เรื่องในอดีตของเธอ ในเมื่อยอมแต่งงานกับเธอก็เท่ากับไม่สนใจอดีตของเธอ
อีกอย่างด้วยอิทธิพลของเฮ่อเหลียนเช่อ ถึงเรื่องที่เคยเป็นชู้รักคนอื่นถูกเปิดโปงแล้วจะอย่างไรล่ะ?
ขอเพียงเธอไม่ยอมรับใครจะกล้าปั่นเรื่องของคุณผู้หญิงเฮ่อเหลียนเช่อได้?
เหมยเหมยเอามือปิดปากหัวเราะเสียงใส “จะจำผิดได้อย่างไร ฉันรู้จักเธอมาตั้งหลายปี เธอหน้าตาเป็นไงคิดว่าฉันจะไม่รู้เหรอ? นอกเสียจากว่าเธอจะไม่ใช่โอหยางซานซาน!”
อู่เยวี่ยใจกระตุกวูบ คำพูดนี้ของจ้าวเหมยหมายความว่าอย่างไร?
หรือว่าเธอจะรู้อะไรเข้า?
“คุณหนูจ้าว อย่าพูดแบบนี้เชียว ฉันกับเธอก็แค่รู้จักกันผิวเผินไม่ได้สนิทด้วยเลย เธอจะจำผิดคนก็เป็นเรื่องปกติ!” อู่เยวี่ยยังคงใจเย็นเหมือนเดิมไม่สะทกสะท้านกับคำพูดของเหมยเหมย
เฮ่อเหลียนเช่อก่นด่าบรรพบุรุษรากเหง้าเหยียนหมิงซุ่นในใจ เขาจงใจมาป่วนงานชัด ๆ
“เหยียนหมิงซุ่น แกมาดื่มเหล้ามงคลหรือมาหาเรื่องกันแน่? ไม่อยากดื่มเหล้าก็เชิญกลับ ที่นี่ไม่ต้อนรับแก!”
เฮ่อเหลียนเช่อพูดเสียงเย็นชาแล้วเอ่ยปากไล่แขก
เหยียนหมิงซุ่นอมยิ้มน้อย ๆ “เจ้าบ่าวอย่าอารมณ์ฉุนเฉียวขนาดนี้สิ ฉันกำลังเป็นห่วงแกไง ไม่ว่าอย่างไรคุณชายเช่อก็หน้าตาดีเป็นถึงราชาแห่งยอดเพชรอันดับที่ห้า ทั่วทั้งเมืองหลวงไม่รู้ว่ามีคุณหนูจากตระกูลสูงส่งเท่าไรที่แย่งกันจะแต่งงานกับแก แต่แกก็นะ เลือกแล้วเลือกอีกก็ยังได้ของแบบนี้มา…”
อู่เยวี่ยทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยกล่าวเสียงเย็นชา “คุณชายหมิง ฉันไม่เคยล่วงเกินอะไรคุณ ทำไมถึงต้องพูดจาเหยียดหยามฉันในงานแต่งงานของฉันด้วย?”
“พี่หมิงซุ่นแค่พูดความจริงเท่านั้นเอง โอหยางซานซานเธอกล้ารับคนมากมายเป็นพ่อบุญธรรมแล้วยังกลัวคนอื่นจะว่าอีกเหรอ?”
เหมยเหมยจงใจปรับเสียงให้ดังขึ้นเพื่อจะให้ทุกคนได้ยินกันหมด และให้ทุกคนได้รู้ว่าคนที่เพิ่งได้เป็นคุณนายเฮ่อเหลียนหมาด ๆ ธาตุแท้เป็นคนแบบไหน!
สามีทำอะไรภรรยาก็ทำตามไง!
“จ้าวเหมยเธออย่ามาใส่ร้ายคนอื่นสิ!” อู่เยวี่ยตวาดเสียงกร้าว
เหมยเหมยเบิกตากว้างเกินจริงพลางยกมือขึ้นมานับนิ้ว “เป็นไปไม่ได้หรอก โจวจื่อหัวที่ฮ่องกง มอร์ริสันกับโจ๊กเกอร์ที่อเมริกา แล้วก็ฮันส์ที่เยอรมนี คุณยามาโมโตะที่ญี่ปุ่น คุณปาร์คที่เกาหลี…
โอ้โห โอหยางซานซานเธอนี่เก่งจริง ๆ มีพ่อบุญธรรมอยู่ทั่วโลกเลยนะเนี่ย!”
บรรดาแขกต่างก้มหน้าเพื่อปกปิดสีหน้าตกใจปนอึ้งของพวกเขาและความรู้สึกตกตะลึงในใจ
โอ้โห…
คุณหนูจ้าวเปิดเผยรายชื่อและสัญชาติของพ่อบุญธรรมออกมาหมดเปลือก ฟังดูมีเหตุผลมีที่มาที่ไปไม่เหมือนคำโกหกสักนิด เห็นได้ชัดเลยว่าชีวิตส่วนตัวที่ต่างประเทศของโอหยางซานซานแหลกเหลวแค่ไหน!
คุณชายเช่อโดนอะไรยั่วยุมากันเนี่ย?
มีคุณหนูบริสุทธิ์จากตระกูลผู้ดีทั่วทั้งเมืองหลวงไม่แต่ง แต่ดันไปแต่งกับของเหลือเดนแบบนี้?
วันหลังจะต้องจับตาดูลูกสาวที่บ้านให้ดี จะปล่อยให้พวกเธอไปเรียนต่อต่างประเทศไม่ได้เด็ดขาด!
ประเทศทุนนิยมมีอะไรดี แสงสีเสียงเหล้าเกลื่อน ต่อให้เป็นเด็กผู้หญิงดี ๆก็ต้องออกนอกลู่นอกทาง!
เฮ่อเหลียนชิงที่ทนเหงาไม่ไหวจึงให้เสี่ยวเมิ่งเข็นเข้ามาดูเรื่องสนุก ๆ พอได้ยินเหมยเหมยประกาศรายชื่อพ่อบุญธรรมต่อหน้าผู้คนมากมายก็อ้าปากหัวเราะทันที
สะใภ้รู้การรู้งานดี ไม่เลว ๆ!
“ตาแก่หนิงเอ้ย แกว่าไหมเอาหมูตัวเมียมาเป็นลูกสะใภ้ยังดีกว่าเอารองเท้าขาด ๆแบบนี้มาเป็นสะใภ้ร้อยเท่าเลยนะ!”
เฮ่อเหลียนชิงพูดจาไม่อ้อมค้อม อีกอย่างเขากำลังพูดกับหนิงเฉินเซวียนอยู่ เขากลัวก็แต่จะทิ่มแทงไม่พอมากกว่า!
หนิงเฉินเซวียนเองก็ได้ยินคำพูดคล้อยตามกันของเหมยเหมยกับเหยียนหมิงซุ่นจึงปั้นหน้ายักษ์ในทันที
………………………………………………
ตอนที่ 1849 มาหาเรื่องนั่นแหละ
ความจริงหนิงเฉินเซวียนค่อนข้างพอใจต่อลูกสะใภ้อย่าง ‘โอหยางซานซาน’ แม้ตระกูลโอหยางในช่วงหลายปีนี้กำลังถดถอยลงแต่ก็ยังมีฐานอำนาจอยู่ พื้นฐานครอบครัวเลยไม่นับว่าแย่มาก
อีกอย่างโอหยางซานซานเป็นถึงนักศึกษาของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดที่มีหน้ามีตาเวลาคุยโอ้อวดประวัติการศึกษาให้คนนอกฟัง จ้าวเหมยเล่าเรียนที่มหาวิทยาลัยเมืองหลวงก็ดูจะด้อยกว่าหน่อยละนะ
พื้นฐานครอบครัว ประวัติการศึกษา หน้าตา ลักษณะนิสัย…
ไม่ว่าจะเรื่องไหนก็สมบูรณ์แบบ เมื่อหนิงเฉินเซวียนรู้ว่าเฮ่อเหลียนเช่อเตรียมแต่งงานกับโอหยางซานซานก็อารมณ์ดีแทบแย่ คิดว่าในที่สุดลูกชายก็ตาสว่างสักที
แต่ตอนนี้–
เขาได้ยินอะไรมาเนี่ย?
หากโอหยางซานซานเป็นผู้หญิงสำส่อนนอนกับผู้ชายไปทั่วแบบนั้นจริง ๆ เขาจะยอมให้ผู้หญิงแบบนี้เข้าประตูบ้านได้อย่างไร?
“เริ่มงานได้!”
หนิงเฉินเซวียนหน้าบูดบึ้งสั่งให้ลูกน้องเตรียมเปิดงานก่อนเวลา หากให้คนพวกนี้ทะเลาะกันต่อไปครอบครัวเขาคงกลายเป็นเรื่องตลกของคนทั้งเมืองหลวงแน่!
ส่วนเรื่องโอหยางซานซาน รอจบงานเขาค่อยไปตามสืบอีกที หากเป็นอย่างที่จ้าวเหมยบอกเขาจะให้เช่อเอ๋อร์หย่ากับผู้หญิงทันที!
หนิงเฉินเซวียนไม่ยอมรับไม้ต่อ เฮ่อเหลียนชิงเองก็หมดอารมณ์เลยหุบปากแต่โดยดีแล้วให้เสี่ยวเมิ่งเข็นเขากลับที่นั่ง
เหยียนหมิงซุ่นมองเฮ่อเหลียนเช่อที่มีสีหน้าย่ำแย่แวบหนึ่งพลางยื่นมือจัดดอกไม้สีแดงที่ติดอยู่ตรงอกเขา “เจ้าบ่าวยิ้มหน่อย วันนี้เป็นวันมงคลเชียวนะ!”
“ไม่ต้อง!”
เฮ่อเหลียนเช่อกัดฟันพูดเสียงเล็ดลอดไรฟัน
เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะเสียงดังคล้ายไม่สนใจ หันกลับไปขยิบตาให้เหมยเหมย “ไป เราไม่รบกวนคู่บ่าวสาวแล้วดีกว่า!”
“ดีเลย ไม่รู้ว่ากับข้าววันนี้จะเป็นไงบ้าง ถ้ารสชาติไม่ดี เรานั่งแค่แป๊บเดียวก็กลับบ้านเถอะ!”
“ตามใจเธอเลย…”
ทั้งคู่เดินไปคุยกันไปเหมือนไม่มีใครอยู่ข้าง ๆ และเมินคู่บ่าวสาวป้ายแดงอย่างสิ้นเชิง
เฮ่อเหลียนเช่อกัดฟันแน่น เหยียนหมิงซุ่นคอยดูเถอะ!
รอไอ้สารเลวนี่แต่งงานเขาจะต้องมอบของขวัญชิ้นใหญ่ที่ทำให้เหยียนหมิงซุ่นไม่อาจลืมได้ไปชั่วชีวิตเลยล่ะ!
เพราะการหาเรื่องของเหยียนหมิงซุ่นกับเหมยเหมยทำให้งานแต่งงานดำเนินไปอย่างเงียบเหงา บรรดาแขกไม่มีใครกล้าส่งเสียงดังได้แต่ก้มหน้าทานข้าวไป
ดีที่รสชาติอาหารไม่แย่เพราะเหล่าเชฟทำอย่างสุดฝีมือ ทุกเมนูถูกทำด้วยความตั้งใจทุกคนจึงทานอย่างเอร็ดอร่อย
แต่นี่งานแต่งงานไม่ใช่หรือ เดิมทีควรคึกคักแต่ตอนนี้กลับเงียบกริบไม่เหมือนงานแต่งงานเลยสักนิด
ทว่าดันถูกใจเฮ่อเหลียนเช่อ เดิมทีเขาคิดจะรีบทำให้จบไว ๆ รีบกลับไปปลอบใจเหมยซูหาน
แม้เหมยซูหานปากบอกไม่ใส่ใจแต่เขารู้ว่างานแต่งงานจอมปลอมครั้งนี้เหมยซูหานคงหึงไม่มากก็น้อย ตอนนี้ไม่รู้ว่ากำลังหลบไปเสียใจอยู่ที่ไหนคนเดียวอีกต่างหาก!
หนิงเฉินเซวียนกลับอัดอั้นใจแทบแย่ งานแต่งงานดี ๆถูกพวกชั่วเฮ่อเหลียนชิงพังไม่เป็นท่า
ในที่สุดนายใหญ่ก็เดินทางมาถึงโดยเข้ามาจากประตูด้านหลัง ที่นั่งก็มีหนิงเฉินเซวียนคอยจัดให้โดยเฉพาะ แต่บรรยากาศเงียบเหงาจนสร้างความแปลกใจแก่นายใหญ่อย่างมากเลยให้ผู้ช่วยไปสืบดู
ไม่นานผู้ช่วยก็กลับมาพร้อมทำหน้าแปลก ๆ ก่อนจะเล่าเหตุการณ์ที่เหยียนหมิงซุ่นกับเหมยเหมยหาเรื่องเมื่อครู่ไป
นายใหญ่เลิกคิ้วแต่ไม่ได้โกรธ เพียงถามว่า “เจ้าสาวเหมือนจะคนตระกูลโอหยางสินะ? ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนตระกูลโอหยางก็มีข่าวเสียหายไม่น้อยนี่นา!”
ผู้ช่วยหุบปากแน่นไม่กล้าตอบรับคำนายใหญ่
บางอย่างทำได้แค่รับฟัง!
ตอบรับไม่ได้!
แต่เขากลับมั่นใจได้ว่าในใจของนายใหญ่คุณชายหมิงมีความสำคัญมากกว่าสินะ!
ดูท่าทางเขาต้องเลือกฝั่งแล้วล่ะ!
………………………………………………….