ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1880 ไม่อนุญาตให้ถ่ายทำ + ตอนที่ 1881 คนที่อยู่เบื้องหลัง
ตอนที่ 1880 ไม่อนุญาตให้ถ่ายทำ
อู่เยวี่ยเอาอกเอาใจหนิงเฉินเซวียนอย่างดีพอสบโอกาสก็จงใจพูดต่อหน้าหนิงเฉินเซวียนว่าเธอคิดถึงคุณพ่อแต่กลับอยู่ไกลกัน อีกทั้งตอนนี้เธอไม่สะดวกเดินทางไปไหนเลยไปเยี่ยมโอหยางเซี่ยงหมิงไม่ได้…
พูดไปไม่กี่ครั้งหนิงเฉินเซวียนก็ตระหนักถึงเรื่องนี้ บวกกับคุณหมอที่ถูกอู่เยวี่ยซื้อตัวไปตั้งนานแล้วก็พูดคล้อยตามว่าคนท้องจะคิดมากไม่ได้ไม่อย่างนั้นจะส่งผลต่อเด็กในท้อง
ทีนี้ทำเอาหนิงเฉินเซวียนร้อนใจจนรีบสั่งให้ผู้ช่วยย้ายโอหยางเซี่ยงหมิงกลับมาเมืองหลวงเลย
เรื่องเล็กแค่นี้สำหรับหนิงเฉินเซวียนแล้วไม่ใช่เรื่องยากลำบากอะไร ขอแค่ดีต่อหลานก็พอ
ด้วยเหตุนี้โอหยางเซี่ยงหมิงที่เดิมทีคิดว่าจะเกษียณอย่างมีเกียรติที่เมืองจินก็ถูกย้ายกลับมาเมืองหลวงอย่างมึนงง และนึกขอบคุณอู่เยวี่ยอย่างมากและรับปากว่าต่อจากนี้จะฟังคำอู่เยวี่ยทุกอย่าง
คนที่ได้ดิบได้ดีที่สุดของตระกูลโอหยางอย่างโอหยางปินกับโอหยางสยงต่างเสียชีวิตกันทั้งคู่แล้ว พอเห็นว่าตระกูลใกล้จะถดถอยลงทุกทีแต่ใครจะคาดคิดว่าทุกอย่างกลับพลิกผัน โอหยางซานซานที่ถูกตระกูลทอดทิ้งและขับไล่ไปต่างประเทศจะกลับมาเฉิดฉายและแต่งงานกับเฮ่อเหลียนเช่อได้
จนถึงตอนนี้คนของตระกูลโอหยางก็ยังตั้งตัวไม่ทัน พวกเขาหวังจะไปนับญาติกับอู่เยวี่ยแต่ก็รู้สึกพะวงเพราะกลัวอู่เยวี่ยแค้นฝังใจ
ในเมื่ออดีตพวกเขาไร้เมตตากับสองแม่ลูกหวงอวี้เหลียนเหลือเกิน!
อีกทั้งงานแต่งงานของอู่เยวี่ยกับเฮ่อเหลียนเช่อตระกูลโอหยางก็ไม่ได้รับบัตรเชิญแต่อย่างใด นั้นทำให้ยิ่งรู้สึกกังวลใจแล้วจะยังกล้าเสนอหน้ามาอีกหรือ?
ความจริงเป็นความผิดพลาดของลูกน้องของหนิงเฉินเซวียน อีกทั้งตัวอู่เยวี่ยเองก็ลืมเรื่องนี้ไปเพราะตัวตนของเธอไม่ใช่โอหยางซานซานเลยไม่คุ้นชินกับการที่อยู่ ๆก็มีครอบครัวใหญ่ขึ้นมา
หนำซ้ำเพราะอยู่ดูแลครรภ์ที่บ้านในช่วงหลายวันที่ผ่านมา อู่เยวี่ยถึงจำครอบครัวนี้ได้เลยลอบด่าตัวเองว่าโง่
ตระกูลโอหยางต่อให้ถดถอยลงอย่างไรแต่ก็ยังมีภูมิหลังที่ดีอยู่ ขอแค่เธอใช้ให้เป็นประโยชน์ครอบครัวนี้ก็มีประโยชน์ต่อเธอไม่น้อย อย่างน้อยความหวังที่เธออยากเข้าวงการบันเทิงก็ไม่ยากที่จะทำให้สำเร็จได้
ตระกูลโอหยางหลายคนทำงานอยู่ในหน่วยงานดูแลกิจการวิทยุและโทรทัศน์ อีกทั้งตำแหน่งก็ไม่ใช่เล็ก ๆซึ่งก็คือการดูแลเรื่องในวงการบันเทิง ต่อให้เป็นผู้กำกับหรือดาราชื่อดังขนาดไหนก็ต้องทำตัวเจี๋ยมเจี้ยมยามอยู่ต่อหน้าตระกูลโอหยาง
อู่เยวี่ยทั้งโกรธทั้งเสียใจเพราะหากเธอนึกถึงจุดนี้ได้เร็ว เธอคงไม่ต้องโดนโปรดิวเซอร์ที่น่ารังเกียจคนนั้นเอาเปรียบหรอกมั้ง?
หลังจากโอหยางเซี่ยงหมิงถูกย้ายกลับมาเมืองหลวง เรื่องแรกที่จะสั่งให้เขาทำก็คือให้เริ่มถ่ายทำละครแนวประวัติศาสตร์ฟอร์มยักษ์ที่เธอถูกตาต้องใจหลังจากเธอคลอดลูกแล้ว และที่สำคัญเธอจะต้องได้แสดงเป็นนางเอก
ตอนนี้เธอไม่สนใจกับแค่บทนางรองแล้ว!
โอหยางเซี่ยงหมิงทำตามคำสั่งทุกอย่างที่ไม่นานก็สำเร็จ อู่เยวี่ยเลยเตรียมให้เขาทำอย่างที่สองอีกทั้งให้โอหยางเซี่ยงหมิงกะเวลาให้ดีอย่าเร็วและช้าเกินไป ซึ่งจะต้องพอดี
ตอนนี้อู่เยวี่ยเป็นเหมือนนางพญาในตระกูลโอหยาง ถ้อยคำเปรียบดั่งพระราชสาส์นที่ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่ง โอหยางเซี่ยงหมิงยิ่งหวาดระแวงถึงขั้นเตรียมสมุดเล่มเล็กเอาไว้จดเพื่อจะได้ทำตามทุกข้อไม่ให้ผิดพลาด
……
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วและไม่นานก็มาถึงช่วงสิ้นปี กองถ่ายได้เตรียมการทุกอย่างไว้หมดแล้ว ฝั่งหานจื่อจวินเองก็จวนจะถ่ายทำเสร็จแล้ว แถมยังโทรหาผู้กำกับฟางด้วยตัวเองว่าอย่างมากอีกเพียงหนึ่งเดือนก็จะสามารถเข้ากองถ่ายได้
จะว่าไปความตรงไปตรงมาของหานจื่อจวินทำเอาเหมยเหมยเหนือคาดอย่างมากเพราะไม่วางท่าเหมือนเป็นดาราชื่อดังเลยสักนิด ต่อให้เอานางเอกหน้าใหม่อย่างโจวซิ่งเอ๋อร์มาเล่นเขาก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย ทั้งยังคุยง่ายอีกต่างหาก
แม้ส่วนมากจะเห็นแก่เหมยซูหานก็ตามแต่ก็บ่งบอกได้ว่าเจ้าตัวต้องเป็นคนเรียบง่ายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่ใช่คนประเภทวางท่าทำตัวกร่างแต่อย่างใด!
งานทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว เหลือเพียงรอให้ได้ใบอนุญาตถ่ายทำมาทางผู้กำกับฟางก็จะเริ่มถ่ายทันที ทุกคนจึงรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาไม่น้อย
แต่–
บรรดาคนที่กำลังฮึกเหิมได้ที่กลับถูกน้ำเย็นสาดใส่เข้าอย่างจัง
“สำนักงาน GD ไม่ให้ผ่าน? ทำไมไม่ให้ถ่ายล่ะ?” เหมยเหมยได้รับสายจากจ้าวเสวียเอ๋อร์ ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่อยู่เหนือความคาดหมายอย่างมาก
……………………………………………….
ตอนที่ 1881 คนที่อยู่เบื้องหลัง
ขั้นตอนที่ทุกคนต่างคิดว่าคงไม่น่ามีอะไรผิดพลาดตอนนี้กลับหยุดชะงัก ไม่ว่าใครก็คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ยิ่งเหมยเหมยยิ่งคิดไม่ถึง
“สาเหตุเพราะอะไรกันแน่? สำนักงาน GD ต้องบอกเหตุผลสิ” เหมยเหมยถาม
จ้าวเสวียเอ๋อร์ตอบกลับอย่างคุกรุ่น “สำนักงาน GD บอกว่าเจ้าหญิงอัปลักษณ์สนับสนุนให้มีความรักก่อนวัยอันควรแล้วยังสื่อว่าการเรียนไม่สำคัญซึ่งจะสร้างผลกระทบไม่ดีต่อนักเรียน อีกอย่างห้ามยุ่งเกี่ยวกับประเด็นทางทหาร…สรุปก็คือถ้าไม่แก้บทก็จะไม่ให้ถ่ายทำ!”
เหมยเหมยโกรธจนหลุดขำออกมา “แล้วพวกเขาจะให้แก้อย่างไร?”
“อายุของนางเอกต้องมีอายุอย่างน้อยสิบแปดปีขึ้นไป พื้นหลังก็ต้องเปลี่ยนเป็นช่วงมหาวิทยาลัย รวมถึงบทของนางเอกก็ต้องเปลี่ยนเป็นเด็กเรียนเก่ง แล้วก็พระเอกจะเป็นทหารไม่ได้…”
จ้าวเสวียเอ๋อร์พูดตามสิ่งที่พนักงานสำนักงาน GD บอกเขาทุกตัวอักษร เหมยเหมยยิ่งฟังก็ยิ่งโกรธจนไฟโทสะคุกรุ่น
ถ้าปรับเปลี่ยนบทตามนี้จริง ๆแล้วจะถ่ายทำเจ้าหญิงอัปลักษณ์ของเธอไปทำไมอีก?
เหตุผลที่เจ้าหญิงอัปลักษณ์ได้รับความชื่นชอบจากนักอ่านอย่างล้นหลามก็เพราะประสบการณ์ของนางเอกเองที่มีอยู่เกลื่อนในชีวิตจริงและเหตุนี้ถึงได้เข้าถึงใจของนักอ่าน ชีวิตจริงจะมีเด็กเรียนเก่งมากมายขนาดนั้นหรือ?
“ไม่แก้ ไม่แก้แม้แต่ตัวอักษรเดียว ใครเป็นคนสั่งห้ามกันแน่?”
เหมยเหมยแค่นหัวเราะ เดิมทีคิดว่าเรื่องเล็กแค่นี้คงไม่ต้องเดือดร้อนถึงเหยียนหมิงซุ่น แต่ตอนนี้ดูทรงแล้วคงต้องให้สามีของเธอออกหน้าสินะ!
จ้าวเสวียเอ๋อร์สีหน้าเปลี่ยนไปกะทันหัน ทำท่าจะพูดแต่ก็ชะงักไปจนเหมยเหมยถลึงตาใส่เขาทีหนึ่งเขาถึงยอมบอก “โอหยางเซี่ยงหมิง ตอนนี้เขาเป็นคนรับผิดชอบตรวจสอบบทละครพวกนี้ ละครภาพยนตร์ทุกเรื่องที่จะถ่ายทำต้องได้รับการอนุญาตจากเขา”
เหมยเหมยชะงักแล้วถามอย่างสงสัย “โอหยางเซี่ยงหมิงอยู่เมืองจินไม่ใช่เหรอ? กลับมาเมืองหลวงตั้งแต่เมื่อไร? ใครเป็นคนย้ายเขากลับมา? เฮ่อเหลียนเช่อเหรอ?”
แม้ว่าสำนักงาน GD จะไม่นับว่าเป็นหน่วยงานที่เก่งกาจขนาดนั้นแต่ดูจากอายุและความสามารถของโอหยางเซี่ยงหมิงที่สามารถเลื่อนตำแหน่งได้หลายขั้นในวัยที่ใกล้จะปลดเกษียณแบบนี้ ตระกูลโอหยางไม่ได้มีความสามารถมากขนาดนี้หรอก
“กลับมาได้สองเดือนแล้ว ไม่ใช่เฮ่อเหลียนเช่อแต่เป็นหนิงเฉินเซวียน”
จ้าวเสวียเอ๋อร์พูดเสริมอีกประโยคหนึ่ง “ตอนนี้โอหยางซานซานเข้ากันได้ดีกับหนิงเฉินเซวียนเชียวล่ะ”
ความจริงเขาเองก็แปลกใจไม่แพ้กัน โอหยางซานซานไปอยู่ต่างประเทศมาสามปีเหมือนเกิดใหม่ยังไงอย่างนั้น ทั้งเรื่องความฉลาดทางด้านสติปัญญาและความฉลาดทางอารมณ์ล้วนลอกคราบมาใหม่หมด เพราะโอหยางซานซานในอดีตเขาคิดว่าเหมือนหมูที่มีขางอกเพิ่มมาอีกคู่หนึ่งเท่านั้นแหละ!
แต่ตอนนี้ไพ่ในมือที่แย่มากกลับถูกโอหยางซานซานตีกลับมาได้อย่างสวยงามเหนือคาด อีกทั้งยังเข้ากันได้ดีกับหนิงเฉินเซวียนที่ขึ้นชื่อว่าเข้ากับคนได้ยากที่สุดในโลกอีกต่างหาก นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งจะทำได้เลย!
เหมยเหมยนวดขมับถึงนึกขึ้นได้ว่าสถานะของอู่เยวี่ยในตอนนี้คือโอหยางซานซาน โอหยางเซี่ยงหมิงเป็นพ่อของเธอ การโต้กลับของอู่เยวี่ยในครั้งนี้อยู่เหนือความคาดหมายเธอจริง ๆ!
เธอประมาทเอง!
“เรื่องนี้ฉันจัดการเอง การถ่ายทำทุกอย่างดำเนินไปตามเดิมไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรหรอก ส่วนใบอนุญาตฉันจะรีบขอมาให้เร็วที่สุด” เหมยเหมยพูดเสียงแน่วแน่
นางแพศยาอู่เยวี่ยมักชอบแอบทำข้อแลกเปลี่ยนลับหลังคนอื่นแบบนี้อยู่แล้ว ถ้าเช่นนั้นเธอจะเอาคืนอย่างที่อีกฝ่ายทำมา ดูสิว่าใครจะร้ายกว่าใคร?
จ้าวเสวียเอ๋อร์ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที “ฉันบอกเหมยซูหานก่อน ละครเรื่องนี้เขาก็มีส่วนเกี่ยวข้องเหมือนกัน งั้นจะให้เขาลองไปคุยกับเฮ่อเหลียนเช่อดู ต่อให้โอหยางซานซานเหิมเกริมแค่ไหนแต่คงไม่ถึงขั้นไม่ฟังคำของเฮ่อเหลียนเช่อหรอกมั้ง!”
“พี่ลองดูแล้วกัน”
เหมยเหมยกลับไม่มั่นใจอย่างเขา ตอนนี้อู่เยวี่ยได้ที่พึ่งใหม่อย่างหนิงเฉินเซวียน ไม่แน่อาจจะไม่ฟังคำของเฮ่อเหลียนเช่อจริง ๆก็ได้!
แต่จะลองสักหน่อยคงไม่เสียหายอะไร ส่วนทางนี้เธอจะรีบหาทางให้การถ่ายทำดำเนินไปตามแผนเดิมให้ได้ เธอจะยอมให้แผนชั่วร้ายของอู่เยวี่ยสำเร็จไม่ได้เด็ดขาด!
…………………………………………….