ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1978 หมากัดกัน + ตอนที่ 1979 พวกคุณนี่ไร้คุณธรรมเกินไปแล้ว
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1978 หมากัดกัน + ตอนที่ 1979 พวกคุณนี่ไร้คุณธรรมเกินไปแล้ว
ตอนที่ 1978 หมากัดกัน
เหยียนหมิงซุ่นที่ลอบมองสถานการณ์อยู่ในที่ลับมาตลอดหัวเราะเยาะอย่างเย็นชา
ในที่สุดก็ทนไม่ไหว!
วันนี้มาได้คุ้มค่าจริง ๆ ไม่งั้นจะได้เห็นฉากหมากัดกันสนุก ๆแบบนี้เหรอ?
ตอนนั้นถานซูฟางโมโหแม่ของเขาแทบตาย พ่อแม่และครอบครัวของเธอต่างก็ร่วมกันออกความเห็นไม่น้อย หนำซ้ำตอนเขายังเด็กไม่ใช่แค่ถานซูฟางที่เคยทารุณกรรมเขา แต่คนในตระกูลถานก็รังแกเขาไม่น้อย ถึงขั้นตบตีด่าทอเขาต่อหน้าของถานซูฟางเลยด้วย
เรื่องเหล่านี้เขาจำได้หมด ต้องทบบัญชีเก่าทีละบัญชี รวมถึงดอกเบี้ยด้วย
เขาจะเอาคืนให้หมด!
เหมยเหมยที่เห็นก็ส่ายหน้าไม่หยุด ถ้าถานซูฟางได้เห็นคนในครอบครัวญาติพี่น้องเป็นแบบนี้ เกรงว่าฝาโรงศพก็คงจะปิดไม่ได้แล้ว!
คุณยายถานและเหยียนโฮ่วเต๋อสองคนนี้รับมือยากพอกัน แรก ๆทั้งคู่ยังไว้หน้าพูดจาอ้อมค้อมใส่กันบ้าง พอถึงตอนท้ายกลับฉีกหน้าเผยธาตุแท้ออกมาหมด ใคร ๆต่างก็รับรู้ถึงธาตุแท้ที่แสนจะอัปลักษณ์นั่น
บรรดาแขกที่ก่อนหน้านี้เคยชื่นชมเหยียนโฮ่วเต๋อต่างพากันผิดหวัง นัยน์ตาฉายแววดูถูกเหยียดหยาม
เถ้ากระดูกของเมียยังไม่ทันเย็น ฝ่ายนี้กลับวางแผนจะเอาเงินบำนาญของเมียตัวเองแล้ว ช่างน่าผิดหวังและเจ็บปวดใจเสียจริง!
เช่นเดียวกันกับการกระทำของคุณยายถานที่ยิ่งทำให้ผู้คนดูถูกดูแคลนเธอมากขึ้นกว่าเดิม เหยียนโฮ่วเต๋อเป็นเพียงสามี เดิมทีคู่สามีภรรยาก็เป็นดั่งนกในป่าใหญ่ เมื่อประสบเภทภัยก็แยกย้ายกันบินหนีจึงไม่ต้องคาดหวังอะไรกับเขามาก
แต่อีกคนเป็นแม่กลับคิดวางแผนจะเอาเงินบำนาญของลูกสาวด้วยวิธีเดียวกัน ช่างไร้ความเป็นคนเกินไปแล้ว!
“เหยียนโฮ่วเต๋อ แกอย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าแกหย่ากับถานซูฟางไปนานแล้ว ทำไมซูฟางถึงต้องไปเป็นแพทย์ภาคสนามที่นั่นด้วย? ไม่ใช่เพราะคนตระกูลเหยียนของแกหรอกเหรอ แกยังมีหน้าจะมาเอาเงินบำนาญของซูฟางอีกเหรอ?”
“แม่พูดจาแบบนี้ก็ไม่ถูกนะครับ ไปเป็นแพทย์ภาคสนามมีเกียรติจะตายไป ผมรู้สึกภูมิใจมากที่มีภรรยาอย่างซูฟาง อีกอย่างผมกับซูฟางก็ยังรักใคร่กันดี ไม่รู้เลยว่าความสัมพันธ์ดีขนาดไหนแล้วจะหย่ากันได้อย่างไรล่ะครับ?”
“ถุย…พูดพล่ามไร้สาระอะไรของแก ถานซูฟางบอกฉันหมดแล้ว อย่าคิดว่าฉันไม่รู้!”
…
ทั้งคู่ทะเลาะกันอย่างไม่ลดละ บรรดาแขกต่างพากันส่ายหน้าไปมา เหยียนหมิงต๋านึกอยากจะหาที่มุดหลบหนีไป
“หยุดทะเลาะกันได้แล้ว ขอให้แม่จากไปอย่างสงบได้ไหมครับ?” เหยียนหมิงต๋าตะโกนขึ้นอย่างเจ็บปวด
ต่อให้แม่ของเขาจะเคยทำความผิดแต่ก็ควรให้ความสำคัญกับผู้ตายสิ แม่ของเขาจ่ายค่าตอบแทนด้วยราคาของชีวิต ทำไมเหยียนโฮ่วเต๋อกับคุณยายต้องทำแบบนี้ด้วย?
พวกเขาเคยเห็นแม่เป็นคนในครอบครัวบ้างไหม?
ผู้นำของโรงพยาบาลได้เดินเข้ามา พวกเขาตรงเข้ามาหาเหยียนหมิงต๋า เขาสังเกตอยู่นานจึงพบว่าเหยียนหมิงต๋าค่อนข้างมีเหตุมีผลมากที่สุด
ผู้นำได้มอบเงินบำนาญของโรงพยาบาลให้กับเหยียนหมิงต๋า เงินได้ไม่มากแต่ก็ไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ โดยเป็นจำนวนหนึ่งหมื่นหยวน
“ขอแสดงความเสียใจด้วยนะ เงินพวกนี้นายเก็บเอาไว้เถอะ ต่อจากนี้ถ้ามีปัญหาอะไรก็ให้ไปที่โรงพยาบาล ถ้าพวกเราช่วยได้ก็จะพยายามอย่างสุดความสามารถเลย”
“ขอบคุณครับ!”
เหยียนหมิงต๋าไม่ได้ต้องการเงินพวกนี้ เขาอยากให้แม่มีชีวิตอยู่ต่อไปมากกว่า มือของผู้นำค้างอยู่กลางอากาศอยู่นานพอสมควร
ผู้นำทอดถอนหายใจ เขาเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของเหยียนหมิงต๋าดีจึงได้ยัดเงินใส่อุ้งมือของเขาไป
คุณยายถานและเหยียนโฮ่วเต๋อดวงตาลุกวาวพุ่งพรวดเข้ามาตรงหน้าของเหยียนหมิงต๋าหมายจะแย่งเงินในมือของเขาไป
เหยียนหมิงต๋าไม่มีทางปล่อยให้พวกเขาแย่งเงินไปแน่นอน ไม่เสียแรงที่อยู่ในกองทัพมา เขาพลิกมืออย่างรวดเร็วก็ยัดเงินเข้ากระเป๋าเรียบร้อย
“หมิงต๋า พ่อจะเก็บเงินไว้ให้ลูกเอง เอาไว้แต่งสะใภ้เข้าบ้านให้ลูกในอนาคตไง”
“หมิงต๋า ไม่ต้องไปฟังพ่อของหลาน เขาต้องหาแม่เลี้ยงให้หลานแน่ ๆ ไม่รู้ว่าเงินจะถูกพวกจิ้งจอกตัวไหนเอาไป ยายจะเป็นคนเก็บไว้ให้หลานเอง”
…
เหมยเหมยเห็นดังนั้นก็บันดาลโทสะ
แม้ว่าความเป็นจริงเธอจะไม่ชอบถานซูฟางแต่คนเขาตายไปแล้ว บุญคุณความแค้นทุกอย่างล้วนปล่อยให้หายไปกับสายลม แต่สองคนนี้กลับแย่งชิงเงินบำนาญของถานซูฟางในงานอย่างออกนอกหน้าโดยไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้น
ไม่ดูน่าเกลียดไปหน่อยเหรอ!
เหยียนหมิงซุ่นก้าวเท้าเดินออกไป เหมยเหมยจึงรีบเดินตามหลังไปติด ๆ
………………………………………………………………
ตอนที่ 1979 พวกคุณนี่ไร้คุณธรรมเกินไปแล้ว
เหยียนหมิงซุ่นกระชากตัวเหยียนโฮ่วเต๋อออกมาด้วยมือเดียว อีกนิดเดียวก็แทบล้มคะมำ เขาไม่สะดวกจัดการกับทางคุณยายถานจึงทำได้แค่ปล่อยให้เธอรออยู่อย่างนั้น เพียงแต่…
เหมยเหมยที่เดินตามหลังสามีมาใช้สองมือออกแรงผลักจนยายเฒ่าจอมน่ารังเกียจนั่นกระเด็นออกไป พี่ชายพี่สาวของถานซูฟางจึงรีบเข้ามาพยุงไว้พร้อมจ้องหน้าเหมยเหมยด้วยความโมโห
“แม้แต่คนแก่ก็ยังผลัก แกยังมีคุณธรรมอยู่ไหม?” พี่สาวหน้าตาคล้ายถานซูฟางมากแต่นิสัยแย่กว่าหน่อย แถมรูปร่างดูแข็งแรงบึกบึนกว่ามาก
เพราะยัยป้าคนนี้เป็นคนงานในโรงงานเครื่องโม่ของโรงงานเครื่องจักร พละกำลังแข็งแกร่ง ปากคอเราะรายเสียยิ่งกว่ามีดที่ใช้กับแท่นกลึงเสียอีก
แต่เหมยเหมยไม่กลัวเธอเลยสักนิด ก่นด่ากลับไปว่า “ใครกันแน่ที่ไร้คุณธรรม? คนเป็นแม่ยื้อแย่งเงินบำนาญของลูกสาวกลางพิธีบำเพ็ญกุศล แบบนี้ยังมีความเป็นคนอยู่ไหม? พวกเธอเป็นลูกชายลูกสาวกลับไม่คิดจะห้ามปรามแต่กลับช่วยเธอยื้อแย่ง หึ…ฉันว่าพวกเธอก็ไม่ได้มีคุณธรรมอะไรเหมือนกันนั่นแหละ!”
พี่สาวของถานซูฟางได้ยินก็นึกโกรธเอามาก แม้ว่าสิ่งที่เหมยเหมยพูดจะเป็นความจริง แต่เธอไม่มีทางยอมรับอย่างเด็ดขาด
ยังจะเอาศักดิ์ศรีอยู่ไหมล่ะ?
ยัยป้าคนนี้ยกสองมือเท้าสะเอว ยืดตัวตรง ตั้งท่าเตรียมด่ากราด หนำซ้ำไม่ใช่แค่จะขยับปากด่าแต่เธอยังหมายที่จะฉีกปากของยัยปีศาจตรงหน้านี่ด้วย
เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะเสียงเย็นพลันดึงเหมยเหมยมาไว้ด้านหลัง และไม่จำเป็นต้องลงไม้ลงมือเลย แค่สาดแววตาสังหารออกไปเท่านั้น…
ต่อให้พี่สาวของถานซูฟางจะวางอำนาจบาตรใหญ่แค่ไหนแต่ก็เป็นเพียงแค่เสือกระดาษ ขนาดเห็นคนเชือดสัตว์กำลังฆ่าหมูยังหายใจหอบด้วยความกลัวเลย แล้วเธอจะต้านสายตาอันแหลมคมของพญายมบาลได้อย่างไร!
ขาทั้งสองข้างกลับไม่ยอมเชื่อฟัง ยิ่งสั่นก็ยิ่งอ่อนปวกเปียกแล้วเกาะพี่ชายของถานซูฟางไว้แน่น นั่นถึงทำให้เธอไม่ล้มลงไปกองกับพื้น
“ไสหัวไป!”
เหยียนหมิงซุ่นเป็นคนพูดน้อยต่อยหนัก แค่คำพูดคำเดียวก็ทำเอาพี่ชายพี่สาวของถานซูฟางตกใจจนต้องหนีเตลิดเปิดเปิง เหลือแค่คุณยายถานที่กล้าเผชิญหน้าอยู่ตามลำพัง ถึงอย่างไรเธอก็หนังหน้าหนาอยู่แล้ว เพื่อเงินเธอยอมขายขี้หน้า!
“นี่มันเป็นเรื่องธุระภายในครอบครัวของเรา แกยุ่งอะไรด้วย?” คุณยายถานโมโห
เหมยเหมยมุดออกมาจากวงแขนของเหยียนหมิงซุ่นแล้วเอ่ยประชดว่า “คุณยายคงอายุเยอะจนสมองเสื่อมแล้วสินะ ถานซูฟางเป็นสะใภ้ตระกูลเหยียน ดังนั้นก็ถือว่าเป็นคนในตระกูลเหยียน ไม่ว่าจะด้านความรู้สึกหรือด้านกฎหมาย เงินก้อนนี้ก็ควรจะเป็นสิทธิ์ของสามีและลูกชายของเธอทั้งหมด คุณมีสิทธิ์ส่วนไหนกับเงินก้อนนี้เหรอ?”
บรรดาแขกต่างพากันพยักหน้าเห็นด้วย นั่นสิ ลูกสาวที่แต่งออกไปก็เหมือนดั่งน้ำที่สาดทิ้ง คนตระกูลถานนี่หน้าไม่อายเกินไปแล้ว!
เหมยเหมยหัวเราะเยาะ “คุณยายคะ คุณยายอย่าคิดว่าตัวเองอายุมากแล้วจะมาทำตัวไร้ยางอายได้นะ ไม่มีเหตุผลข้อนี้หรอกนะคะ!”
“แกสิที่หน้าไม่อาย มันเป็นเรื่องธุระภายในครอบครัวของพวกฉัน!” คุณยายถานยื่นมือออกมาชี้หน้าด่ากราด
“เธอเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของผม” เหยียนหมิงต๋าพูดเสียงนิ่งขรึม
แขกท่านหนึ่งที่ทนดูต่อไปไม่ไหวจึงพูดขึ้นว่า “เขาต่างหากที่เป็นครอบครัวเดียวกัน คุณยายกับถานซูฟางกลายเป็นสองครอบครัวไปแล้ว ทำไมยังคิดที่จะเอาเงินบำนาญของเธออีกล่ะ?”
“นั่นสิ ไม่เห็นสมเหตุสมผลเลย!”
ทุกคนต่างประสานเสียงพูดอย่างให้ความร่วมมือ ไม่เคยเห็นใครสุดยอดเท่าคนตระกูลถานอีกแล้ว!
แม้แต่เงินของคนตายก็คิดจะเอา ไม่คิดเกรงกลัวว่าคนตายจะกระโดดออกจากหลุมมาคิดบัญชีเลยหรือไง!
คุณยายถานแสดงความไม่พอใจ “ฉันเป็นแม่แท้ ๆของถานซูฟาง เธอมีหน้าที่จะต้องเลี้ยงดูฉันกับพ่อของเธอตามกฎหมายเลี้ยงชีพผู้สูงอายุ ตอนนี้เธอไม่อยู่แล้ว ฉันจะเอาเบี้ยเลี้ยงผู้สูงอายุสักหน่อยมันไม่สมควรเหรอ?”
เหมยเหมยหัวเราะเยาะ “คุณยายคะ ดูเหมือนว่าคุณยายจะศึกษาเรื่องนี้มาโดยเฉพาะเลยนะ ช่างลำบากคุณเสียจริง!”
แขกคนอื่น ๆต่างพากันส่ายหน้า ลูกสาวตายแต่ไม่เสียใจเลยสักนิด นึกไม่ถึงว่าจะไปค้นหาความรู้ด้านกฎหมายอีก มันน่าปวดใจเหลือเกิน!
คุณยายถานหัวเราะเยาะเย้ย นัยน์ตาฉายแววพึงพอใจ อย่าคิดจะรังแกยายเฒ่าอย่างเธอว่าไม่รู้ความเชียวละ เธอยอมจ่ายค่าสอบถามทนายเชียวนะ ใครหน้าไหนก็อย่าคิดจะมาหลอกเธอเลย!
……………………………………………………………