ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2002 ดูอ่อนเยาว์ขึ้นทุกวัน + ตอนที่ 2003 เด็กที่งดงาม
ตอนที่ 2002 ดูอ่อนเยาว์ขึ้นทุกวัน
แขกเหรื่อมากันเกือบครบแล้ว หนิงเฉินเซวียนและเฮ่อเหลียนเช่อเข้ามาในงาน เพราะอากาศดีงานเลี้ยงจึงจัดในลานหน้าบ้าน เพราะลานบ้านกว้างจึงไม่มีปัญหาแม้ว่าจะตั้งหลายร้อยโต๊ะ
เสียงของเฮ่อเหลียนชิงทั้งแหลมทั้งสูง อีกทั้งที่นั่งก็อยู่ใกล้ประตูทางเข้า ต่อให้หนิงเฉินเซวียนไม่อยากได้ยินก็คงจะยาก
พอได้ยินถึงสีเขียว สีหน้าของหนิงเฉินเซวียนก็บึ้งตึงขึ้นมาทันที ชั่วชีวิตนี้ของเขาสิ่งที่ไม่อยากได้ยินที่สุดก็คือสีนี้เหมือนกับเฮ่อเหลียนชิง หนิงเฉินเซวียนที่โกรธจัดรีบวิ่งไปตรงหน้าเฮ่อเหลียนชิง ตะโกนว่า “เฮ่อเหลียนชิง ทำไมแกถึงได้หน้าด้านไร้ยางอายแบบนี้อยู่เรื่อยเลยนะ? บ้านฉันไม่ต้อนรับคนอย่างแก ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!”
สำหรับคนต่ำทรามหน้าด้านอย่างเฮ่อเหลียนชิง หนิงเฉินเซวียนไม่ต้องการไว้หน้าเลยแม้แต่น้อย
เฮ่อเหลียนชิงส่งเสียงหัวเราะเยาะออกมา “ไม่ตอบแทนน้ำใจที่หวังดีแล้วยังไล่หยั่งกับหมูกับหมาอีก นี่ฉันก็แค่กังวลความโง่ไม่รู้ประสีประสาอะไรของแกหรอก กลัวว่าแกจะโดนจิ้งจอกเจ้าเล่ห์หลอกลวงทรยศเลยอุตส่าห์ตั้งใจมาเตือนแกโดยเฉพาะเลยนะ”
“ฉันไม่ต้องการความหวังดีจอมปลอมของแก ต่อให้ฉันไม่เก่งกล้าสามารถก็ฉลาดกว่าแกแล้วกัน” หนิงเฉินเซวียนกัดฟันพูดอย่างโกรธแค้น
เฮ่อเหลียนชิงตาแก่บ้านี่ ไม่ใช่ว่ามาเพื่อสร้างความอับอายให้เขาหรอกหรือไง?
ยังมีหน้ามาบอกว่าตัวเองหวังดีอีก?
ไร้ยางอาย!
“ฉันรู้ว่าแกทั้งฉลาดและมีความสามารถ แต่เพราะฉลาดเกินไปเลยเสียรู้ต่างหาก ฉันไม่วางใจ ตาแก่หนิงหลานสุดที่รักของนายหน้าตาเหมือนใครล่ะ? เหมือนนายหรือว่าเฮ่อเหลียนเช่อเหรอ?”
จู่ ๆเฮ่อเหลียนชิงก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนามาถามไถ่ถึงเรื่องหลานของเขา คนอื่นต่างเงียหูฟังด้วยความสนใจ พวกเขาก็สนใจเหมือนกันนี่นา!
หนิงเฉินเซวียนรู้สึกใจชาวาบ เขาไม่เหมาะที่จะคุยกับเฮ่อเหลียนชิงดี ๆเลยจริง ๆ สู้พูดจาถากถางเหน็บแนมยังจะดีเสียกว่า!
“หลานของฉันจะเป็นอย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับแก!”
“งั้นจะโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงทำไมล่ะ? เอ๊ะ ตาแก่หนิงคงไม่ใช่ว่าหลานของแกโตมาไม่เหมือนคนตระกูลหนิงอย่างพวกแกหรอกใช่ไหม?” เฮ่อเหลียนชิงทำเหมือนว่าเพิ่งค้นพบสิ่งใหม่จึงสนอกสนใจขึ้นมาทันที
“ฉันบอกแล้วไงของถูกและดีไม่มีอยู่จริงหรอก ไปคว้าเอาสินค้าที่ผ่านมาเป็นสิบมือ ลูกที่คลอดออกมาก็ไม่รู้ว่าเหมือนใคร ตาแก่หนิงแกก็อย่าทุกข์ใจไปเลย เด็กคือเทวดาที่ถูกส่งมาจากสวรรค์ ความสัมพันธ์ทางสายเลือดอะไรเทือกนี้นายก็อย่าได้ไปสนใจมันเลย!”
เฮ่อเหลียนชิงพูดจนน้ำลายแตกฟอง นี่เป็นการสื่อว่าลูกที่อู่เยวี่ยคลอดออกมาไม่ใช่สายเลือดของตระกูลหนิง กล่าวก็คือบนหัวของเฮ่อเหลียนเช่อมีม้าหลายพันตัวเหยียบย่ำอยู่เพราะโดนสวมเขานั่นเอง
หนิงเฉินเซวียนจุกอกอย่างถึงที่สุด หลานของเขาคลอดออกมาแน่นอนว่าเขาดีใจมาก และวินาทีแรกเขาก็รีบพาไปหาหมอเพื่อตรวจเลือดโดยเร็วที่สุด ความสัมพันธ์ทางสายเลือดบริสุทธิ์ที่สุดแล้ว เด็กนั่นเป็นหลานของเขาร้อยเปอร์เซ็นต์
“เฮ่อเหลียนชิงแกหมดปัญญาจะมีลูก ชั่วชีวิตนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะมีหลานเลยอิจฉาฉันงั้นสิ? ฉันเป็นผู้ใหญ่ใจกว้างไม่ถือสาแกแล้วกัน นายเลี้ยงดูสั่งสอนอาเช่อของฉันมาตั้งหลายปี บุญคุณนี้ฉันจำไว้เสมอ หลานของฉันจะเห็นแก่บุญคุณนี้คงไม่ลืมที่จะดูแลแกหรอก”
หนิงเฉินเซวียนสงบลงมา ประชันฝีปากกลับไปได้ไม่เลวเลยทีเดียว ในดวงตามีความเย้ยหยันและเห็นใจในเวลาเดียวกัน
พูดเหมือนว่าแกเป็นตาแก่ที่ไม่มีทายาทไม่มีลูกหลานดูแล แล้วมีสิทธิ์อะไรมาหัวเราะเยาะคนอื่น!
เหยียนหมิงซุ่นรีบลุกขึ้นพูดว่า “พ่อบุญธรรมของผมผมดูแลเองได้ คงไม่ต้องรบกวนคุณหนิงให้ลำบากหรอกครับ และอีกอย่างผมคิดว่าช่วงนี้คุณดูสีหน้าซีดเซียวไปหน่อยนะครับ สีหน้าดูไม่ดีเลย สุขภาพคงไม่ค่อยดีเท่าไรแน่ คุณหนิงโปรดดูแลสุขภาพด้วย หากเกิดเรื่องอะไรขึ้น พ่อบุญธรรมของผมคงเหงาและไม่มีความสุขแน่เลยครับ”
เฮ่อเหลียนชิงพอใจกับการออกตัวอย่างทันท่วงทีของเหยียนหมิงซุ่นมาก ลูกชายคนนี้รับมาไม่เสียเปล่าเลยจริง ๆ ดูคำพูดทิ่มแทงนี่สิ ช่างมีความสุขเหลือเกิน!
“นั่นสิ ตาแก่หนิงแกต้องใช้ชีวิตดี ๆหน่อยล่ะ ถ้าแกตายฉันคงเสียใจมากแน่!” เฮ่อเหลียนชิงมองไปที่หนิงเฉินเซวียนด้วยความจริงใจ เขาจงใจยกคางอวบอิ่มขึ้นเพื่อโชว์ใบหน้าแดงฝาดสีดอกกุหลาบอันเปล่งปลั่งและไร้ริ้วรอยของเขาแสดงต่อหน้าทุกคน
หนิงเฉินเซวียนจุกอยู่ในอกจนแทบจะระเบิด โธ่เว้ย ตาแก่บ้านี่ดูอ่อนเยาว์ขึ้นทุกวันจริง ๆ!
……………………………………………
ตอนที่ 2003 เด็กที่งดงาม
อายุของเฮ่อเหลียนชิงกับหนิงเฉินเซวียนเท่ากัน เกิดปีเดียวกัน แต่สภาพปัจจุบันของทั้งสองคนนั้นแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน
นับว่าหนิงเฉินเซวียนเองก็บำรุงร่างกายตัวเองค่อนข้างดี เมื่อเทียบกับเพื่อน ๆแล้วเขาจะดูอายุน้อยกว่าเกือบสิบปี แต่พอมายืนเทียบกับเฮ่อเหลียนชิงที่ดูอ่อนวัยกว่ากลับดูเหมือนห่างกันสองชั่วอายุคน
“ถึงจะมีอายุยืนยาวแค่ไหนแต่ถ้าไม่มีลูกหลานแล้วจะมีประโยชน์อะไร?” หนิงเฉินเซวียนถูกยั่วโมโหจนทนไม่ไหว ไม่อยากจะเห็นหน้าเฮ่อเหลียนชิงเจ้าหมอนี่อีกต่อไปแล้ว เขาสวนกลับไปหนึ่งประโยคแล้วเตรียมตัวเดินหนีไป
“กินดื่มกันให้เต็มที่เลยนะทุกคน ฉันจะไปต้อนรับแขกคนอื่น ๆก่อน”
มือทั้งสองข้างของหนิงเฉินเซวียนกำหมัดแน่น พูดตามมารยาทอยู่สองสามประโยคแล้วก็ไปทักทายแขกโต๊ะอื่น
เฮ่อเหลียนชิงส่งเสียงตะโกนขึ้นว่า “ตาแก่หนิง เดี๋ยวอุ้มหลานชายของแกมาให้ฉันดูหน่อยว่าหน้าตาเป็นไง ฉันตั้งใจเตรียมของขวัญชิ้นใหญ่ไว้ให้เป็นพิเศษเลยนะ!”
ทุกคนนึกถึงเต่าสีเขียวในงานเลี้ยงวันเกิดกันอย่างพร้อมเพียงกันจึงอดไม่ได้ที่จะตั้งหน้าตั้งตารอดู ไม่รู้ว่าครั้งนี้เฮ่อเหลียนชิงจะเตรียมของดี ๆอะไรไว้อีก?
หรือว่าจะเป็นเต่าอีกเหรอ?
หนิงเฉินเซวียนชะงัก เขาปรารถนาอยากจะบีบคอตาแก่สารเลวนี่ให้ตายเป็นอย่างยิ่ง บางครั้งเขาก็รู้สึกหดหู่ว่าทำไมมีเขาแล้วต้องมีตาแก่นั่นด้วย ทำไมต้องให้เขาและเฮ่อเหลียนชิงมาเกิดในยุคเดียวกันด้วยนะ!
เขาไม่สนใจเฮ่อเหลียนชิง เนื่องจากวันนี้เป็นงานเลี้ยงครบเดือน เด็กจะต้องถูกอุ้มออกมาให้ทุกคนได้เห็นอยู่แล้ว นี่คือจุดประสงค์หลักในการจัดเลี้ยงของเขา
เขาต้องการให้ทุกคนในเมืองหลวงและคนทั้งประเทศรับรู้ว่าเขาหนิงเฉินเซวียนมีหลานชายแล้ว
อีกทั้งยังเป็นหลานชายที่งดงามมากที่สุดอีกด้วย!
อาหารในงานเลี้ยงอร่อยมากแต่เหมยเหมยกลับไม่มีความอยากอาหารเลยสักนิดจึงกินด้วยท่าทีเหม่อลอย เธออยากเห็นอู่เยวี่ยเร็ว ๆเพราะอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงคนนี้ หนำซ้ำยังว่ากันว่าเด็กสุขภาพแข็งแรงมากด้วยสิ
เธอมักมีลางสังหรณ์อยู่ตลอดว่าเรื่องนี้คงไม่ง่ายขนาดนั้น!
เหมยเหมยคีบเนื้อวัวสองสามชิ้นวางไว้บนโต๊ะแล้วปล่อยให้ฉิวฉิวหยิบกินเอง เจ้าตัวเล็กหน้าตาน่ารักและดึงดูดให้ผู้คนต่างเอ็นดูไม่น้อย แขกคนอื่น ๆที่ร่วมโต๊ะด้วยไม่ถือสามันเลย แถมแขกบางคนยังคีบเนื้อป้อนให้มันด้วยซ้ำ ฉิวฉิวไม่ปฏิเสธใครเลยแล้วกินอย่างมีความสุข
“คุณนายเฮ่อเหลียนและเจ้าหนูน้อยมาทางนี้แล้ว…” มีคนส่งเสียงพูดขึ้น
เหมยเหมยหันไปมอง อู่เยวี่ยที่แต่งหน้าอย่างประณีตอุ้มลูกชายที่ห่อผ้าไว้ในอ้อมอกพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง เฮ่อเหลียนเช่อก็มากับเธอด้วย พยักหน้าและยิ้มให้แขกไม่หยุด
ไม่นานก็มาถึงโต๊ะของพวกเหมยเหมย วันนี้อู่เยวี่ยสวมชุดกี่เพ้าสีแดง ร่างกายหลังคลอดดูอวบอิ่มมากเหมาะที่จะใส่ชุดกี่เพ้า อวดสัดส่วนโค้งเว้าอย่างชัดเจน ทั่วทั้งเรือนร่างอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของผู้หญิงที่โตเต็มวัยแล้ว
แต่ว่าอู่เยวี่ยแต่งหน้าหนามากซึ่งสามารถมองเห็นได้จากในระยะใกล้ แป้งบนใบหน้าของเธอเยอะจนน่าตกใจทีเดียว ทั้งยังผมของเธอที่เกล้าขึ้นเพื่อให้เข้ากับชุดกี่เพ้าจึงเผยให้เห็นเส้นผมปลายโคนตรงหน้าผากดึงสูงขึ้น อีกทั้งยังเห็นผมหงอกหลายเส้นอยู่รำไร
เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ของอู่เยวี่ยแย่มาก ไม่เหมือนว่าจะมีความสุขอย่างที่เธอแสดงออกมาขนาดนั้นเลย!
เหมยเหมยถึงได้สบายใจขึ้นมาก มีชีวิตลำบากก็ดี!
“ฉันอยากเห็นว่าเจ้าหนูน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มขนาดไหนเชียว…”
เหมยเหมยเรียกอู่เยวี่ยไว้แล้วชะโงกหน้าดูเด็กน้อยในอ้อมอกของเธอ เธออยากรู้มากจริง ๆว่าสิ่งที่ทุกคนต่างเล่าลือกันว่าหลานชายของตระกูลหนิงหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มมากไม่เหมือนเด็กธรรมดาบนโลกมนุษย์ เธอคิดว่านี่เป็นเรื่องที่เกินจริงไปหน่อย เธอต้องเห็นด้วยตาของตัวเองถึงจะเชื่อ
แต่ว่า——
พอเหมยเหมยเห็นเด็กทารกที่กำลังหลับลึกอยู่ในผ้าห่อตัว สายตาก็เหมือนถูกสะกดไว้จนแทบไม่อยากละสายตาไปไหนเลย
คนพวกนั้นพูดไม่ผิดจริง ๆ เด็กคนนี้เหมือนเทวฑูตตัวน้อยที่ตกลงมาจากสวรรค์ งดงามจนไม่เหมือนมนุษย์ อีกอย่างพอเห็นเด็กที่หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มเช่นนี้คงไม่มีใครทำร้ายได้ลงคอ!
เด็กคนนี้เหมือนกับเด็กทารกที่เหมยเหมยจินตนาการเอาไว้เลย แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นลูกของอู่เยวี่ยไปแล้ว เธออิจฉาเหลือเกิน!
อู่เยวี่ยมีสิทธิ์อะไรถึงได้ครอบครองลูกที่หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มขนาดนี้นะ?
…………………………………………..