ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2014 เสี่ยวเป่าผิดปกติ + ตอนที่ 2015 ไม่อาจต้านทานความชอบที่มีต่อเด็กคนนี้
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 2014 เสี่ยวเป่าผิดปกติ + ตอนที่ 2015 ไม่อาจต้านทานความชอบที่มีต่อเด็กคนนี้
ตอนที่ 2014 เสี่ยวเป่าผิดปกติ
เฮ่อเหลียนเช่อไม่เคยมีความลับต่อเหมยซูหาน เขาจึงเล่าเรื่องที่เสี่ยวเป่าติดอู่เยวี่ยให้ฟัง
“กลุ้มใจชะมัดเลย ถ้าไม่ใช่เพราะเสี่ยวเป่า ฉันไม่มีทางปล่อยให้ยัยผู้หญิงคนนั้นมีชีวิตรอดได้แม้แต่วันเดียว” เฮ่อเหลียนเช่อยัดข้าวคำใหญ่เข้าปากด้วยความกลุ้มใจ คิดว่าเนื้อเป็นอู่เยวี่ยแล้วกัดเคี้ยวด้วยความแค้น
เหมยซูหานนั่งคิดบางอย่างอยู่เงียบ ๆ เขาไม่เคยเจอเสี่ยวเป่าแต่เขาผ่านมาแล้วสองภพชาติ และด้วยเหตุผลทางร่างกายของเฮ่อเหลียนเช่อเมื่อชาติก่อน เขาจึงได้ศึกษาตำราทางการแพทย์มามากมาย และเป็นธรรมดาที่จะเข้าใจบางอย่างมากกว่าเฮ่อเหลียนเช่อ
นี่เห็นได้อย่างชัดเจนมากว่าการแสดงออกของเสี่ยวเป่าผิดปกติ
เป็นเรื่องปกติที่ทารกจะตัวติดกับแม่แต่ไม่มีทางเหมือนเสี่ยวเป่าแน่นอน ถึงขนาดไม่ยอมดื่มนมที่ไม่ใช่ของแม่ตนเอง ถ้าไม่ใช่อ้อมอกของแม่ก็จะงอแง นี่จึงเป็นเรื่องที่น่าสงสัยมาก
“เสี่ยวเป่ายังยอมให้ใครอุ้มอีกไหม?” เหมยซูหานถาม
เฮ่อเหลียนเช่อขบคิดพร้อมเอ่ยว่า “ยังมีหมออีกคนหนึ่ง ตอนที่โอหยางซานซานตั้งครรภ์เขามักจะอยู่ด้วยเสมอ ตอนเสี่ยวเป่าเกิดก็ได้เขาทำคลอดให้ เสี่ยวเป่าสนิทสนมกับเขามาก”
นี่จึงเป็นสิ่งที่ทำให้เฮ่อเหลียนเช่อไม่พอใจมากที่สุด
ต่อให้เขาไม่ใช่พ่อแท้ ๆของเสี่ยวเป่าแต่ก็ถือว่าเป็นพี่ชายแท้ ๆ มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด ทำไมถึงไม่ยอมให้เขาอุ้มแต่กลับไปสนิทกับคนนอกเสียได้ล่ะ?
น่าโมโหชะมัดเลย!
เหมยซูหานกลับยิ่งรู้สึกถึงความผิดปกติมากขึ้น ถ้าสนิทกับแม่ก็ยังพูดได้ว่าเป็นสายสัมพันธ์แม่ลูก แต่สนิทกับหมอเกาที่เป็นคนนอก นี่มันเป็นเพราะอะไรกันนะ เรื่องนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องทางวิทยาศาสตร์เลยสักนิดเดียว
“อาเช่อ ฉันไปเจอเสี่ยวเป่าได้ไหม?” เหมยซูหานถาม
เขารู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ชอบมาพากลแต่ตอนนี้เขายังไม่เคยเจอเสี่ยวเป่าจึงไม่ควรผลีผลามตัดสินใจ ต้องรอหลังจากได้เจอกันก่อนถึงจะมั่นใจในสิ่งที่เขาคาดเดาในใจได้
ตอนแรกเฮ่อเหลียนเช่อจะตอบว่าไม่ได้ แต่เมื่อเห็นสีหน้าแห่งความหวังของเหมยซูหานจึงใจอ่อนยวบและพูดขึ้นว่า “งั้นเดี๋ยวฉันจะจัดเวลาให้สักวันแล้วกัน ฉันให้นายดูรูปถ่ายของเสี่ยวเป่าก่อนดีกว่า เจ้าตัวเล็กนี่หน้าตางดงามมาก หน้าตาดีกว่าตอนฉันเด็ก ๆเสียอีก แต่นิสัยใจคอไม่ได้เรื่องเลย ดูแลเอาใจยากชะมัด”
เขาหยิบรูปของเสี่ยวเป่าออกมาด้วยความตื่นเต้น ทั้งหมดเป็นรูปถ่ายตอนครบหนึ่งเดือน เขาให้ช่างกล้องถ่ายไว้หลายสิบรูป
เหมยซูหานเพิ่งเห็นรูปเสี่ยวเป่าเป็นครั้งแรก แค่แวบแรกก็ตกตะลึงมองด้วยความอึ้ง และไม่พูดอะไรออกมาเป็นเวลาสักพักใหญ่เลย
เขาเข้าใจแล้วว่าเหตุใดคนที่ตัดญาติขาดมิตรอย่างเฮ่อเหลียนเช่อถึงได้อ้าปากก็เสี่ยวเป่าหุบปากก็เสี่ยวเป่า ความหดหู่ตลอดหนึ่งเดือนของเขาล้วนเกิดมาจากความเอาใจใส่ที่เฮ่อเหลียนเช่อมีต่อเสี่ยวเป่า ความเอาใจใส่เช่นนี้ทำให้เขาเกิดความหึงหวง
แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกว่าตัวเองใจแคบเกินไป หากได้เผชิญหน้ากับเด็กทารกตัวเล็ก ๆที่เปรียบเสมือนเทวดา ใครจะไม่ชอบเล่า?
“น่ารักจัง แน่นอนว่าต้องน่ารักกว่าอาเช่อตอนเด็ก ๆอยู่แล้ว ดวงตาของเสี่ยวเป่าโตกว่านาย จมูกก็โด่งกว่า เค้าโครงหน้าก็งดงามกว่า ทำไมถึงมีเด็กที่น่ารักได้ขนาดนี้นะ หน้าตางดงามจริง ๆ เอารูปอื่นออกมาดูให้หมดเลยสิ…”
เหมยซูหานไม่มีอารมณ์กินข้าวแล้ว เขาแย่งรูปถ่ายทุกใบในมือเฮ่อเหลียนเช่อมาชื่นชมทุก ๆใบ ดูรูปใบหนึ่งก็ชมออกมาหนึ่งประโยค ในแววตาและหัวใจเขามีแต่เสี่ยวเป่า
เฮ่อเหลียนเช่อรู้สึกปวดใจ แม่เจ้าโว้ย ทุกคนเป็นแบบนี้กันไปหมด คิดว่าเขาตายไปแล้วหรือไงกัน?
“มีอะไรให้น่าดูนัก? ก็แค่เด็กคนหนึ่งไม่ใช่หรือไง ขับถ่ายเองก็ไม่ได้เหม็นจะตายไป ไม่ต้องดูแล้วรีบกินข้าวเลย” เฮ่อเหลียนเช่อแย่งรูปมาด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์
เหมยซูหานอารมณ์เสียยิ่งกว่าแล้วแย่งรูปภาพกลับมา “นายจะหึงอะไรแม้กระทั่งกับเด็กฮะ? ดูความใจแคบของนายสิ ไม่ได้ใหญ่ไปกว่าปลายเข็มสักเท่าไรเลย”
เฮ่อเหลียนเช่อลูบจมูกปอย ๆไม่กล้ายอมรับว่าตนเองหึงหวง แต่เขาเองก็รู้สึกลำพองใจไม่น้อยเพราะมีน้องชายที่งดงามขนาดนี้ และเขาก็เป็นคนทำมันออกมาเองด้วย!
“พวกเราเอาเสี่ยวเป่ามาเลี้ยงเองดีไหม?” จู่ ๆเหมยซูหานก็พูดประโยคหนึ่งขึ้นมา แต่เพียงครู่เดียวเขาก็มีท่าทีสร้อยเศร้าพลางยกยิ้ม “ฉันแค่ล้อเล่น นายอย่าคิดจริงจังไปเลยนะ”
………………………………………………….
ตอนที่ 2015 ไม่อาจต้านทานความชอบที่มีต่อเด็กคนนี้
เมื่อครู่เหมยซูหานเกิดความปรารถนาอันแรงกล้าที่อยากจะเลี้ยงดูเสี่ยวเป่าขึ้นมาจริง ๆจึงพลั้งปากพูดออกไปอย่างห้ามไม่ได้ แต่พอคำพูดหลุดออกมาจากปากเขาก็รู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้
เสี่ยวเป่าเป็นถึงทายาทของตระกูลหนิง หนิงเฉินเซวียนจะต้องเลี้ยงเขาไว้ข้างกาย แม้แต่เฮ่อเหลียนเช่อก็ไม่มีสิทธิ์เลี้ยงดู แล้วเขามีบารมีมีความสามารถอะไรเหรอ?
เฮ่อเหลียนเช่อลูบหลังมือของเหมยซูหานเบา ๆเอ่ยปลอบโยนว่า “เจ้าเด็กบ้าเสี่ยวเป่านั่นไม่ยอมเชื่อฟังเลยสักนิด นิสัยก็แย่ พวกเราไม่ต้องเอาเขาหรอก วันหลังเราค่อยไปรับเด็กที่ทั้งน่ารักและเชื่อฟังจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาเลี้ยงแล้วกันนะ”
เหมยซูหานยกยิ้ม “ตกลง”
ความจริงเขาอยากจะพูดว่าไม่ หลังจากที่ได้เห็นเสี่ยวเป่า เด็กคนไหน ๆก็ไม่อาจเข้าตาเขาได้อีก
แต่เขาไม่อยากทำให้เฮ่อเหลียนเช่อลำบากใจ เรื่องของอนาคตไว้ค่อยคุยก็แล้วกัน
ทางด้านเหยียนหมิงซุ่นเองก็สืบหาข่าวคราวบางอย่างได้บ้างแล้ว เหมยเหมยอ่านเอกสารตรวจสอบเหล่านั้นพลันรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย
“ยอมกินแค่นมของอู่เยวี่ยคนเดียว แถมยอมให้อู่เยวี่ยอุ้มเพียงคนเดียวอีก นี่มันแปลกไปหน่อยนะ!”
เหมยเหมยบ่นพึมพำกับตัวเอง คิ้วขมวดเป็นปม เธอย้อนนึกไปถึงตำราการเลี้ยงดูทารกที่เคยอ่านเมื่อชาติก่อน ในหนังสือเคยบอกไว้ว่าทารกคุ้นกลิ่นของแม่มาก จากที่ว่ามาทารกจะติดแม่มากกว่าหน่อยเท่านั้นแต่ไม่ถึงขั้นว่ายอมให้แม่เข้าใกล้เพียงคนเดียวจนถึงขนาดต่อต้านการเข้าใกล้จากคนอื่น ๆแบบนี้
อันที่จริงเด็กทารกจัดว่าเป็นวัยที่ใจร้ายที่สุดเนื่องจากไม่มีจิตใต้สำนึกและไม่มีความทรงจำ แม้จะติดแม่ตามสัญชาตญาณแต่นั่นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพียงแค่แยกเด็กออกห่างจากแม่สักระยะหนึ่ง เด็กทารกคนนั้นก็จะลืมแม่ของตนเองไปตลอดกาล
โบราณว่าไว้พระคุณของผู้ให้กำเนิดก็ไม่ยิ่งใหญ่เท่าพระคุณของผู้ที่เลี้ยงดูมา จริง ๆแล้วความหมายเป็นเช่นนี้แหละ
และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ว่าเหตุใดคนจำนวนมากถึงได้รับเลี้ยงลูกของคนอื่น แถมหลังจากเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ก็จะมีใจผูกพันลึกซึ้งเหมือนกัน นั่นเป็นเพราะความรู้สึกสามารถค่อย ๆบ่มเพาะกันได้ ทารกที่ยิ่งเล็กก็ยิ่งง่ายต่อการอบรมเลี้ยงดู
ดังนั้นปฏิสัมพันธ์ระหว่างอู่เยวี่ยกับลูกต้องมีปัญหาแน่ ๆ
“พวกเฮ่อเหลียนเช่อค้นพบว่าเสี่ยวเป่าตาบอดแต่กำเนิดหรือยัง?” เหมยเหมยถามขึ้นอีก
“ตระกูลหนิงไม่มีใครสังเกตเห็น พวกเขาต่างคิดว่าเสี่ยวเป่าคือเด็กที่แข็งแรงสมบูรณ์” เหยียนหมิงซุ่นพูดอย่างมั่นใจ
เหมยเหมยรู้สึกโล่งใจ หากยังไม่พบก็ดี เสี่ยวเป่าจะได้รับความรักมากขึ้นและไม่ต้องถูกหนิงเฉินเซวียนทอดทิ้งด้วย
เด็กน้อยงดงามอย่างเสี่ยวเป่า ใครเห็นใครก็หลงรัก แม้แต่ซาตานจอมมารก็ยังไม่อาจตัดใจทำร้ายเด็กคนนี้ได้เลย
แต่ถ้าเป็นหนิงเฉินเซวียนไม่รับประกัน
คน ๆนี้บ้าไปแล้ว เราไม่สามารถใช้มาตรฐานของมนุษย์ทั่วไปมาวัดค่าการกระทำของคนบ้าได้
เหยียนหมิงซุ่นหลุดขำพรืด “จะว่าไปเฮ่อเหลียนเช่อก็ปฏิบัติกับเด็กคนนี้ได้ไม่เลวเลยนะ เลี้ยงเหมือนลูกแท้ ๆเลย”
ตอนที่เขาฟังรายงานข่าวคราวที่ลูกน้องไปตามสืบหามาก็รู้สึกเหลือเชื่อ เฮ่อเหลียนเช่อยังเป็นคนที่เลือดเย็นไร้ความรู้สึกและโหดเหี้ยมอำมหิตอย่างที่เขาเคยรู้จักอยู่ไหมนะ?
นึกไม่ถึงเลยว่าจะไปเลือกซื้อของเล่นให้เด็กที่ห้างสรรพสินค้า แถมยังเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เด็กอีก เพียงแต่เสี่ยวเป่าไม่ยอมรับน้ำใจไว้ก็เท่านั้น
เหมยเหมยกลับไม่รู้สึกแปลกใจเลย เมื่อก่อนเธอเคยฟังเหมยซูหานพูดถึงเรื่องสมัยเด็ก ๆของเฮ่อหลียนเช่อ ตามที่เหมยซูหานพูดจริง ๆแล้วเฮ่อเหลียนเช่อจอมวิปริตเป็นเด็กคนหนึ่งที่น่ารัก จิตใจดีมีเมตตา เก่งกาจมีพรสวรรค์ ซ้ำยังขี้อายเอามาก
แต่เขาถูกปลูกฝังเลี้ยงดูจากหนิงเฉินเซวียนจนกลายเป็นพวกตัดญาติขาดมิตรวิปริตต่างหาก
คงพูดได้เพียงว่าสิ่งแวดล้อมมีบทบาทในการพัฒนาอุปนิสัยของมนุษย์อย่างมาก
แต่ความเป็นจริงนั้นอุปนิสัยเดิมของเฮ่อเหลียนเช่อยังคงไว้ซึ่งความใจดีมีเมตตาอย่างเมื่อครั้งยังเด็ก และเขากับเสี่ยวเป่าก็มีสายสัมพันธ์กันทางสายเลือด อีกอย่างเสี่ยวเป่าหน้าตาน่ารักขนาดนี้ แม้แต่ตัวเธอเองที่โกรธเกลียดอู่เยวี่ยยังยากที่จะโกรธเกลียดเด็กคนนี้ได้เลย หากคนเป็นพี่ชายอย่างเฮ่อเหลียนเช่อไม่ชอบสิแปลก!
…………………………………………………..