ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2097 ถูกแทงข้างหลังยังไม่รู้ตัวอีก + ตอนที่ 2098 คำประกาศในงานแถลงข่าว
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 2097 ถูกแทงข้างหลังยังไม่รู้ตัวอีก + ตอนที่ 2098 คำประกาศในงานแถลงข่าว
ตอนที่ 2097 ถูกแทงข้างหลังยังไม่รู้ตัวอีก
จ้าวเสวียเอ๋อร์ตกใจมาก “เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ทำไมจู่ ๆถึงต้องจัดงานแถลงข่าวล่ะ?”
เหมยเหมยไม่พอใจเป็นอย่างมากต่อการรับรู้ข่าวสารที่ล่าช้าของจ้าวเสวียเอ๋อร์ ทั้งที่พูดกันแต่แรกแล้วว่าเธอดูแลภายใน จ้าวเสวียเอ๋อร์ดูแลภายนอก ตอนนี้บริษัทหวนอวี่กลับสร้างระเบิดเงียบ ๆจนกระทั่งระเบิดตู้มแล้ว แต่จ้าวเสวียเอ๋อร์กลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย
เขามัวทำอะไรของเขาอยู่?
“พี่รู้จักบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์หวนอวี่ไหม?” เหมยเหมยถามเสียงขรึม
จ้าวเสวียเอ๋อร์รับรู้ได้ว่าน้ำเสียงของน้องตนไม่ค่อยดีนักจึงใจเต้นระรัว นี่เกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้น?
เนื่องจากในระหว่างการถ่ายทำละครเขามีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกับเหมยเหมยหลายอย่าง จ้าวเสวียเอ๋อร์จึงมุ่งเน้นและทุ่มทุนไปกับการถ่ายทำภาพยนตร์และละครเรื่องอื่นจนได้เงินมาไม่น้อย เขาจึงไม่ได้ให้ความสนใจกับเจ้าหญิงอัปลักษณ์มากเหมือนแต่แรก
บริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์หวนอวี่?
แค่ชื่อบริษัทยังไม่เคยได้ยินเลย เป็นบริษัทกระเป๋าหนังหรือไงกัน?
จ้าวเสวียเอ๋อร์ไม่ได้สนใจอะไรนัก ปัจจุบันบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์ในประเทศมีอยู่มากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทเชลล์ใช้สำหรับดำเนินงานที่มีลักษณะคลุมเครืออย่างพวกด้านการเงินนับไม่ถ้วน
บริษัทที่ดำเนินธุรกิจภาพยนตร์และโทรทัศน์อย่างแท้จริง มีเพียงบริษัทของเขาและเหมยซูหานเท่านั้นที่มีชื่อเสียง และด้วยเหตุนี้เขาจึงให้ความสำคัญกับบริษัทหัวหยู่ของเหมยซูหานตลอด บริษัทขนาดเล็กอื่น ๆเขาไม่สนใจเลย
“บริษัทหวนอวี่ทำอะไรเหรอ?” จ้าวเสวียเอ๋อร์ถามติดตลก
“พี่สาม พี่เป็นถึงประธานบริษัทภาพยนตร์โทรทัศน์แต่ไร้ความสามารถมากเลยนะ ไม่รู้แม้แต่เรื่องที่ถูกบริษัทคู่แข่งแทงข้างหลัง อีกอย่างลูกน้องคนอื่น ๆของพี่ไร้ประโยชน์ขนาดนี้เลยเหรอ? ละครทีวีออกอากาศไปแล้วหกตอน แต่กลับไม่มีใครเห็นแม้แต่คนเดียว?” เหมยเหมยเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ ในฐานะพนักงานของบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์ งานประจำก็คือการสอดส่องดูละครไม่ใช่เหรอ?
ต้องคอยสอดส่องว่าช่วงนี้มีรายการฮิตอะไรบ้าง เรียนรู้ข้อดีของผู้อื่น หาข้อเสียของบริษัทตัวเอง
นี่เป็นงานที่ต้องทำเป็นประจำทุกวัน พนักงานไร้ประโยชน์พวกนั้นของจ้าวเสวียเอ๋อร์รับเงินเดือนเยอะขนาดนั้นมัวแต่พักร้อนอยู่ในบริษัทหรืออย่างไร?
“เหมยเหมย…เธอเป็นอะไรเนี่ย…”
จ้าวเสวียเอ๋อร์เพิ่งสังเกตได้ถึงความผิดปกติ อารมณ์โกรธของน้องเขาไม่เบาเลย!
แม่เจ้า มีใครพอจะช่วยบอกเขาได้บ้างไหมว่ามันเกิดเรื่องใหญ่โตอะไรขึ้น?
“เจ้าหญิงอัปลักษณ์ของเราถูกลอกเลียนแบบ ซึ่งก็คือบริษัทหวนอวี่ ตอนนี้กำลังออกอากาศในช่วงเวลาทองของเมืองหลวง เรตติ้งไม่เบาเลย…”
เหมยเหมยพูดอย่างหัวเสีย
“เป็นไปได้ไง…โธ่เว้ย บริษัทหวนอวี่ใช่ไหม…เหมยเหมยใจเย็น ๆนะ พี่จะไปตรวจสอบให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้เลย…เลขาหวง…หายหัวไปไหนวะ”
ปอดของจ้าวเสวียเอ๋อร์แทบระเบิดออกมา
เขาเป็นคนที่สงบนิ่งใจเย็นมาตลอด แต่มีเพียงสองเรื่องที่ทำให้เขาระเบิดอารมณ์ได้
หนึ่งคือจุดจบของวันสิ้นโลก
สองคือกระเป๋าเงินถูกขโมยไป
ไม่นึกเลยว่าจะกล้าลอกเลียนแบบเจ้าหญิงอัปลักษณ์ของเขา นี่มันเป็นการแย่งเงินไปจากกระเป๋าของเขาเลยนะ แถมยังเป็นเงินจำนวนมากอีกด้วย
เขากับบริษัทหวนอวี่นี่ได้เห็นดีกันแน่!
“พี่สาม ฉันไม่ได้ว่าพี่นะ แต่บริษัทควรจัดระเบียบใหม่ เรื่องสำคัญขนาดนี้ยังไม่มีใครแจ้งข่าวให้รู้เลย คนพวกนี้มัวแต่ทำอะไรอยู่…” ไฟโทสะของเหมยเหมยยังไม่มอดดับลง
“ครับ ๆ…พี่จะหักโบนัสของพวกนั้นเอง…เรามาจัดการบริษัทหวนอวี่นี่ให้เสร็จก่อนดีกว่า…พรุ่งนี้เปิดงานแถลงข่าวเลย!”
จ้าวเสวียเอ๋อร์ไม่พอใจต่อการทำงานที่ล่าช้าของพนักงาน แต่สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือช่วยเหลือเงินในกระเป๋าของตนเองก่อน ส่วนปัญหาภายในของบริษัทจะจัดการเมื่อไรก็ได้!
หากมีเงินยังจะกลัวหาพนักงานดี ๆไม่ได้อีกเหรอ?
เหมยเหมยวางสายไป ทางด้านลุงเหลาก็สืบหาข้อมูลของบริษัทหวนอวี่ได้แล้ว
“คุณหนูครับ ตัวแทนนิติบุคคลตามกฎหมายของบริษัทหวนอวี่คืออู่เจิ้งซือครับ จดทะเบียนที่เมืองจินในช่วงฤดูหนาวปีที่แล้วครับ ซิลเดอเรลล่าเป็นละครเรื่องแรกที่บริษัทนี้ถ่ายทำครับ!”
…………………………………………………..
ตอนที่ 2098 คำประกาศในงานแถลงข่าว
เหมยเหมยใจเต้นระส่ำ ทุกอย่างชัดเจนแล้ว
ยัยชั่วอู่เยวี่ย!
แกนี่มันใจกล้าดีจริง ๆ นึกไม่ถึงเลยว่าจะกล้าติดต่อกับอู่เจิ้งซือ ไม่คิดเกรงกลัวเลยว่าตัวตนที่แท้จริงจะถูกเปิดเผย!
เมื่อรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นแผนของอู่เยวี่ย เหมยเหมยก็ไม่รีบร้อนอะไร เธอต่อปากต่อคำกับอู่เยวี่ยมาถึงสองภพสองชาติ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้จะนับประสาอะไร
หึ!
เธอรู้ถึงเป้าหมายของอู่เยวี่ยดียิ่งกว่าอะไร คงมีอยู่สองอย่าง หนึ่งคืออยากหาเงิน สองคือหมั่นไส้เธอ!
อู่เยวี่ยถูกเฮ่อเหลียนเช่อกักบริเวณจึงไม่สามารถติดต่อสื่อสารกับคนภายนอกได้ แม้แต่โทรหาอู่เจิ้งซือก็ยังยาก เธอเห็นละครซิลเดอเรลล่าออกอากาศทางทีวีจึงได้ประมาณเรตติ้งของละครเรื่องนี้ไว้โดยประมาณ พลันรู้สึกพึงพอใจอยู่ไม่น้อย
เรตติ้งที่สูงเท่ากับรายได้มหาศาล เธอไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องเงินอีกต่อไปแล้ว!
แต่เพียงไม่นานอู่เยวี่ยก็รู้สึกกังวล บัดนี้เธอไร้ซึ่งอิสรภาพ ต่อให้ละครเรื่องนี้ได้เงินเป็นกองเท่าภูเขา เธอก็ไม่ได้รับส่วนแบ่งแม้แต่แดงเดียว อู่เจิ้งซือไม่ใช่คนดี หากเธอขาดการติดต่อกับเขาไปนาน ๆ ผู้เป็นพ่อของเธอคนนี้จะต้องยึดเงินส่วนนี้ไปแน่ ๆและคงไม่แบ่งให้เธอแม้แต่แดงเดียว
อย่างไรก็ตามเธอเองก็ไม่เคยเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงต่อหน้าอู่เจิ้งซือ และต่อให้เธอจะบอกว่าตนคืออู่เยวี่ย แต่คนไร้คุณธรรมอย่างอู่เจิ้งซือจะคาดหวังให้เขาปฏิบัติกับลูกสาวแท้ ๆด้วยความจริงใจได้แค่ไหนกันเชียว?
ไม่ได้การล่ะ เธอต้องคิดหาวิธีนำเงินพวกนี้มาเป็นของตัวเองให้ได้
ไม่มีเงิน ต่อให้เธอหนีออกไปได้ก็ไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ ในใจของอู่เยวี่ยขบคิดแผนการอยู่ตลอดเวลา เธอลองนึกหาคนที่เธอรู้จักว่าใครพอจะช่วยเธอได้บ้าง
จู่ ๆชื่อของคน ๆหนึ่งก็โผล่ขึ้นมา อู่เยวี่ยพลันนึกดีใจ
ถูกต้อง เขานั่นแหละ!
โชคดีที่เธอเจอช่องทางการติดต่อของเขาคนนั้นก่อนที่จะถูกกักบริเวณ คน ๆนี้จะต้องช่วยเธอได้แน่นอน!
อู่เยวี่ยมั่นใจเต็มเปี่ยม หยิบกระดาษและปากกาจากลิ้นชักออกมาเขียนจดหมายหนึ่งฉบับ เธอต้องหาวิธีส่งจดหมายออกไปให้ได้ โชคดีที่แม้ว่าเฮ่อเหลียนเช่อจะกักบริเวณเธอ แต่ในทุก ๆสองสามวันจะปล่อยเธอออกไปโดยรอบกายจะมีผู้ติดตามจับตาดูเธอเป็นจำนวนมาก แต่ก็พอมีโอกาสที่จะเจอกับคนภายนอกได้อยู่
ขอแค่เจอคนภายนอกได้ก็เพียงพอแล้ว
เธอมีวิธีที่จะส่งจดหมายฉบับนี้!
ช่วงสายของวันถัดมางานแถลงข่าวจัดขึ้นตรงตามเวลา จ้าวเสวียเอ๋อร์ได้ประณามพฤติกรรมไร้ยางอายของบริษัทหวนอวี่ และประกาศต่อสาธารณะชนว่าจะใช้วิธีการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด เขาจะไม่ยอมปล่อยบริษัทหวนอวี่ลอยนวลอย่างแน่นอน
เหมยเหมยเองก็แสดงทัศนคติของตนเองไป และยังได้พูดบทความยาวอีกหนึ่งย่อหน้า แสดงความสัตย์จริง ซึ่งเป็นคำพูดที่ออกมาจากใจจริงของเธอ
“หนังสือเรื่องเจ้าหญิงอัปลักษณ์คือประสบการณ์ชีวิตจริงของฉันเอง ดังนั้นฉันจึงให้ความสนใจกับละครเรื่องนี้เป็นอย่างมาก หวังว่าจะสามารถถ่ายทำเป็นละครทีวีที่จะไม่ทำให้นักอ่านของฉันต้องผิดหวัง แม้อาจจะไม่สามารถทำออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติขนาดนั้นแต่ฉันก็อยากจะพยายามจนสุดความสามารถ ซึ่งเรื่องนี้ฉันและผู้กำกับฟางชิงผิงได้ลงมติกันว่าพวกเราไม่ต้องการสร้างละครทีวีในรูปแบบอาหารจานด่วน สิ่งที่พวกเราอยากถ่ายทำนั้น ต่อให้ผ่านไปอีกสิบปีก็ยังเป็นผลงานาชั้นเยี่ยมที่ทุกคนยังคงจดจำมันได้
ดังนั้นความคืบหน้าในการถ่ายทำเจ้าหญิงอัปลักษณ์ถึงล่าช้าเล็กน้อยจนต้องใช้เวลาหลายปีถึงจะได้ลงจอ แต่ที่ไหนได้กลับถูกคนหน้าด้านเอารัดเอาเปรียบ นึกไม่ถึงว่าจะลอกเลียนแบบเจ้าหญิงอัปลักษณ์ของฉันไปเหมือนยันต้นฉบับ แต่เปลี่ยนแค่ชื่อเรื่องเป็นซิลเดอเรลล่าเท่านั้น ชื่อของพระเอกกับนางเอกก็เปลี่ยน แต่เนื้อเรื่องและชื่อของตัวละครสมทบกลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย… ”
สุดท้ายเหมยเหมยพูดด้วยความโกรธว่า “ฉันไม่สามารถขออะไรจากผู้ชมทุกท่านได้ แต่ฉันก็ยังอยากขอให้ทุกคนอดใจรออีกสามวันเจ้าหญิงอัปลักษณ์ของฉันก็จะออกอากาศในเมืองหลวงแล้ว ส่วนจะดีหรือไม่นั้นขอให้ผู้ชมเป็นคนตัดสินเองแล้วกันค่ะ
และฉันขอแนะนำบริษัทหวนอวี่สักหน่อยว่าแม้ของที่ขโมยไปจะดีแค่ไหน สุดท้ายมันก็เป็นของคนอื่นอยู่ดี หากมีเวลามากพอที่จะกระทำสิ่งไร้ยางอายเช่นนี้ได้ งั้นสู้เอาเวลาไปทำจิตใจให้สงบแล้วขัดเกลาละครให้มันดีขึ้นจะดีกว่า อย่าได้คิดทำเรื่องสกปรกลักขโมยแบบนี้เลย มันเป็นการทำลายกฎของวิชาชีพนะคะ!”
…………………………………………………………………..