ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2099 เป้าหมายไม่ใช่เพราะเงิน + ตอนที่ 2100 ต้องชนะคดีให้ได้
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 2099 เป้าหมายไม่ใช่เพราะเงิน + ตอนที่ 2100 ต้องชนะคดีให้ได้
ตอนที่ 2099 เป้าหมายไม่ใช่เพราะเงิน
งานแถลงข่าวของพวกเหมยเหมยทำให้เกิดคลื่นโกลาหลลูกใหญ่ในวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ทั่วประเทศ
บริษัทหนึ่งเป็นบริษัทชั้นนำยักษ์ใหญ่ อีกแห่งหนึ่งกลับเป็นแค่บริษัทขนาดเล็กที่ไม่เป็นที่รู้จักเท่านั้น บริษัทหวนอวี่นี้โง่โอ้อวดไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง หรือเบื้องหลังจะมีคนใหญ่คนโตหนุนหลังอยู่ถึงได้กล้าทำตามอำเภอใจโดยไม่เกรงกลัวใครแบบนี้?
จ้าวเสวียเอ๋อร์จัดงานแถลงข่าว ซึ่งในขณะเดียวกันก็ขอให้ทนายทำการยื่นฟ้องบริษัทหวนอวี่เรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ พร้อมทั้งยื่นเรื่องถอดถอนต่อสำนักงาน GD ให้ระงับการออกอากาศละครที่ทำการลอกเลียนแบบนี้เสีย
แต่อู่เยวี่ยได้พูดคุยกับโอหยางเซี่ยงหมิงไว้แต่แรกแล้ว อย่างไรเสียหาคนที่รับผิดชอบโดยตรงง่ายกว่า มีโอหยางเซี่ยงหมิงอยู่ทั้งคนคงเป็นไปไม่ได้ที่จะถอดละครทีวีเรื่องนี้ออก
ส่วนสถานีโทรทัศน์เมืองหลวงไม่มีทางยุ่งด้วยหรอก!
สถานีโทรทัศน์จะให้ความสำคัญกับเรตติ้งและผลประโยชน์เท่านั้น ตราบใดที่ละครนำผลประโยชน์ทางการโฆษณามาสู่สถานีโทรทัศน์ได้ สถานีโทรทัศน์เมืองหลวงไม่สนใจด้วยซ้ำว่าคุณจะลอกเลียนแบบมาหรือไม่ ใครจะกล้ามีปัญหากับเงินล่ะ!
แม้เหมยเหมยจะโกรธ แต่เธอรู้ดีว่าปัจจุบันคนที่เข้าใจเรื่องลิขสิทธิ์ภายในประเทศยังไม่แข็งแรงพอ แม้จะผ่านไปอีกกี่สิบปีก็ไม่มีทางแข็งแรงขึ้นไปมากกว่านี้อยู่แล้ว
เธอยังจำได้ดีว่าเมื่อชาติที่แล้วมีโปรดิวเซอร์คนหนึ่งที่มีชื่อเสียงมาก ตลอดเส้นทางของเขาคือการทำละครยอดฮิตโดยอาศัยการลอกเลียนแบบและดัดแปลงจนกลายเป็นโปรดิวเซอร์มือทองตัวจริง ในตอนท้ายนักเขียนชื่อดังท่านหนึ่งที่ถูกลอกเลียนแบบ ทนไม่ไหวอีกต่อไปจึงลุกขึ้นมาฟ้องร้องโปรดิวเซอร์ไร้ยางอายคนนี้ และแม้ว่านักเขียนจะเป็นฝ่ายชนะ แต่โปรดิวเซอร์คนนี้กลับไม่ได้รับความเสื่อมเสียใด ๆเลย
จนกระทั่งเขาได้คัดลอกผลงานชิ้นใหญ่กว่าเดิมอย่างไร้ยางอายที่สุด และยังมีผู้ชมจำนวนมากที่ยังคงซื้อมัน ช่างน่าเศร้าเหลือเกิน!
นอกจากนี้ยังมีการลอกเลียนแบบในลักษณะนี้อีกนับไม่ถ้วน บางคนชนะคดี บางคนก็แพ้คดี แต่ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไรล้วนไม่มีผลกระทบใด ๆต่อพวกคนไร้ยางอายที่ลอกเลียนแบบผลงานเช่นนี้เลย
เพราะสิ่งที่พวกเขาใฝ่หาคืออำนาจของเงิน ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกผิดชอบชั่วดี มุมมองทัศนคติ คุณธรรมจริยธรรม…ทุกอย่างสามารถโยนทิ้งไปได้
ยังมีอะไรที่สำคัญกว่าเงินอีกเหรอ?
อีกหลายสิบปีข้างหน้าก็ยังคงเป็นเช่นนี้ คดีความการฟ้องร้องลิขสิทธิ์ในปัจจุบันนับว่าเป็นเรื่องยากยิ่งกว่าเสียอีก
แต่ต่อให้ยากแค่ไหนเหมยเหมยก็จะฟ้อง เหตุใดความยุติธรรมจึงไม่สามารถเอาชนะความชั่วร้ายได้นะ?
ทำไมคนที่ทำงานหนักอย่างขยันขันแข็งกลับได้รับสิ่งตอบแทนที่ไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย ตรงกันข้ามกับคนร้ายที่ขโมยผลงานของผู้อื่นไปกลับสามารถกลายเป็นผู้ชนะในการใช้ชีวิตได้อย่างง่ายดายเล่า?
มีคนเคยพูดว่านี่คือกฎที่ซุกซ่อนอยู่ในยุทธภพแห่งนี้ ในเมื่ออยู่ในยุทธภพนี้ก็ต้องยอมรับมันไป!
นี่มันกฎบ้าบออะไรเนี่ย!
เหมยเหมยทำเพื่อทวงความยุติธรรมให้กับผู้ที่ไม่มีอำนาจ ทั้ง ๆที่มีความสามารถแต่กลับถูกบังคับให้ต้องยอมรับกฎบ้าบอเหล่านี้ ในเมื่อตอนนี้เธอยังพอมีที่พึ่ง เช่นนั้นเธอก็จะเป็นคนยิงปืนแห่งความยุติธรรมนัดแรกนี้เอง!
เธอจะทำให้ทุกคนรู้ว่าการขโมยเป็นเรื่องไร้ยางอาย ไม่ควรค่าที่จะให้การสนับสนุน!
“เหมยเหมย ต่อให้เราชนะการฟ้องร้องครั้งนี้ได้ เกรงว่าจะไม่ได้รับประโยชน์อะไรนะ” จ้าวเสวียเอ๋อร์เป็นกังวลมาก
ซินเดอเรลล่าออกอากาศไปแล้วแถมยังได้รับเรตติ้งที่ดีไม่น้อย เช่นนี้บริษัทหวนอวี่ก็จะสามารถขายละครทีวีให้กับสถานีโทรทัศน์อื่นได้มากขึ้น และทำเงินได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน
หากประธานสำนักงาน GD ไม่สั่งระงับการออกอากาศ พวกเขาก็ไม่สามารถยับยั้งการเผยแพร่ของละครทีวีเรื่องนี้ได้
สถานีโทรทัศน์ในประเทศมีมากขนาดนั้น แม้ว่าจะได้ออกอากาศเพียงสิบเปอร์เซ็นต์ของสถานีก็ตาม บริษัทหวนอวี่ก็ยังทำเงินได้มหาศาลอยู่ดี แต่เงินกลับไม่ตกถึงมือพวกเขาแม้แต่แดงเดียว
เขามีวิธีซ่อนสินทรัพย์เป็นพันวิธี อู่เจิ้งซือก็ต้องมีเช่นเดียวกัน
โธ่เว้ย แค่คิดว่าเงินจำนวนมากถูกปล้นไป จ้าวเสวียเอ๋อร์ก็ไม่อาจห้ามความเสียใจได้อีก
เหมยเหมยกลอกตามองเขาพูดขึ้นอย่างเย็นชา “ฉันไม่ได้ต้องการผลประโยชน์ วัตถุประสงค์ในการฟ้องร้องของฉันคือการทำลายบริษัทหวนอวี่ให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและไม่สามารถอยู่ในวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์อีกต่อไปได้ และเพื่อให้เพื่อนร่วมสายงานเดียวกันได้เห็นว่าคนที่ลอกเลียนแบบงานของผู้อื่นย่อมมีจุดจบที่ย่ำแย่!”
เธอไม่ได้สนใจเรื่องเงินเลยสักนิด!
เธอแค่ต้องการแก้ไขกฎของวงการนี้ แม้มันจะยากเธอก็ยังอยากจะลองดูสักตั้ง!
จ้าวเสวียเอ๋อร์จุกจนพูดไม่ออก…แต่เขาสนใจเงินนี่นา!
กฎระเบียบมันแก้ไขได้ง่าย ๆที่ไหนล่ะ น้องของเขาช่างไร้เดียงสาเสียจริง ๆ…เฮ้อ!
ปวดใจชะมัดเลย!
………………………………………………….
ตอนที่ 2100 ต้องชนะคดีให้ได้
เหมยเหมยมองออกว่าจ้าวเสวียเอ๋อร์กำลังคิดอะไรอยู่ เขาต้องเสียใจกับเรื่องเงินแน่ ๆ สมกับเป็นนักลงทุนจริง ๆเลย!
“พี่หาเงินเยอะ ๆไปจะมีประโยชน์อะไร? ต่อให้มีอายุจนถึงร้อยปีการกินการดื่มก็มีขีดจำกัด กินดื่มมากเกินไปก็จะทำให้ป่วย พี่เอาเงินนั่นไปทำอะไรที่มันมีความหมายกว่านี้ไม่ดีกว่าเหรอ”
เหมยเหมยพูดตำหนิใส่เขาอย่างดุดัน จ้าวเสวียเอ๋อร์เช็ดน้ำลายออกจากใบหน้าตัวเองแล้วบ่นพึมพำเสียงเบาว่า “เธอจะไม่ให้พี่เก็บเงินแต่งงานบ้างหรือไง?”
“พี่คิดจะหาเมียกี่คน? สิบคนหรือแปดคน? เงินที่พี่หามาได้ใช้ทองคำสร้างเมียได้เป็นคนแล้วมั้ง?”
“พี่จะเอาเมียไปทำอะไรเยอะแยะ? แต่งแค่คนเดียวนี่แหละ ถ้าพี่มีภรรยาก็ต้องเลี้ยงดูเขาอย่างดีสิ พี่ยังต้องเลี้ยงดูสั่งสอนลูกอย่างดีอีก ทุกอย่างล้วนต้องใช้เงินทั้งนั้น เงินน้อยนิดที่พี่หามาได้จะไปพออะไร…”
จ้าวเสวียเอ๋อร์ร่ำไห้อย่างน่าสงสาร น้องคนเล็กของเขาเป็นคนที่กินดีอยู่ดีไม่เข้าใจความรู้สึกของคนที่อดยากหรอก[1] เธอมีเหยียนหมิงซุ่นเป็นที่พักพิง แน่นอนว่าไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนี้หรอก แต่เขาไม่เหมือนกันนี่!
ตอนนี้ตระกูลจ้าวตกอับ กลัวว่าผ่านไปอีกไม่กี่ปีคนในเมืองหลวงคงลืมเลือนตระกูลจ้าวไปแล้ว ตระกูลใหญ่ขนาดนี้มีแค่เขาที่หาเงินได้มากหน่อย มีคนมากมายรอกินรอดื่มอยู่ แล้วจะไม่ให้เขาหาเงินเยอะได้เช่นไร?
จะให้เขากินดีอยู่ดีคนเดียว แล้วมองคนในตระกูลกินโจ๊กกับผักดองคงไม่ได้หรอกมั้ง?
เหมยเหมยขี้เกียจจะเสวนากับเขาต่ออีก คงหลงเงินจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว!
“แต่อย่างไรเสียฉันก็จะฟ้องเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด ใช้เงินส่วนตัวของฉันไม่ต้องหักจากบัญชีของบริษัทหรอก แบบนี้ได้ใช่ไหม?” เหมยเหมยพูดอย่างเย็นชา
จ้าวเสวียเอ๋อร์ตกใจเป็นอย่างมาก แม้จะนึกเสียดายเงินที่ใช้ในการฟ้องร้องแต่เขาก็ไม่ได้พูดว่าไม่ให้ฟ้องร้องนี่นา ถ้าหากว่าน้องเขาใช้เงินตัวเองออกจริง ๆ ต่อไปนี้ต้องตีตัวออกห่างเขาแน่ จากเดิมความสัมพันธ์ก็ค่อนข้างห่างเหินกันอยู่แล้ว เกรงว่าภายภาคหน้าคงห่างกันยิ่งกว่าเดิมแน่!
นี่ไม่ใช่จุดจบที่เขาอยากจะเห็น!
“พี่สนับสนุนการฟ้องร้อง…เราต้องทำต่อไปให้ถึงที่สุด ค่าใช้จ่ายทั้งหมดหักจากบัญชีของบริษัท พี่สามจะเป็นแรงหนุนที่แข็งแกร่งของเธอเอง!” จ้าวเสวียเอ๋อร์เปลี่ยนคำพูดทันที ตบอกด้วยความภาคภูมิใจทะลุฟ้า!
เหมยเหมยกลอกตาใส่และไม่พูดในทำนองที่ว่าใช้เงินตัวเองอีก แต่เธอก็คิดอีกอย่างขึ้นในใจ
มุมมองและเป้าหมายของเธอแตกต่างไปจากจ้าวเสวียเอ๋อร์อย่างสิ้นเชิง เธอกลัวว่าในอนาคตจะมีความคิดแตกต่างกันมากขึ้นเรื่อย ๆเหมือนกับการถ่ายทำเจ้าหญิงอัปลักษณ์ในครั้งนี้ สิ่งที่เธอต้องการคือผลงานคุณภาพ จ้าวเสวียเอ๋อร์กลับต้องการความเร็วในการทำงานเท่านั้น
ดังนั้นเธอจึงต้องคำนึงถึงความร่วมมือในภายภาคหน้าแล้วล่ะ!
คดีความลอกเลียนแบบงานของเหมยเหมยในครั้งนี้เป็นกระแสดังทั่วประเทศ มีผู้สื่อข่าวจำนวนมากออกข่าวเรื่องนี้ และยังคอยติดตามความคืบหน้าทุกอย่างของคดีนี้ด้วย
หากการฟ้องร้องของเหมยเหมยได้รับชัยชนะนับว่าเป็นข่าวใหญ่แห่งวงการมาก!
ดังนั้นจึงมีผู้คนที่กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ และบรรดาผู้อ่านเจ้าหญิงอัปลักษณ์หลายคนก็ได้เข้าร่วมด้วย โดยเขียนจดหมายถึงเหมยเหมยทีละฉบับแสดงทัศนคติที่ชัดเจนของพวกเขา ผู้อ่านที่น่ารักบางคนได้เขียนจดหมายส่งไปถึงสถานีโทรทัศน์เป็นการส่วนตัว โดยร้องขอให้ระงับการออกอากาศละครซินเดอเรลล่า พวกเขาจะไม่มีวันดูละครทีวีที่ผลิตออกมาได้ห่วยแตกแบบนี้แน่ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นผลงานลอกเลียนแบบอีกต่างหาก
“อย่าดูละครทีวีที่ละเมิดลิขสิทธิ์และห่วยแตกเด็ดขาด ใครดูขอให้เป็นหมา!”
ประโยคนี้ดังขึ้นตอนที่มีนักข่าวสัมภาษณ์คนที่เดินสัญจรไปมา มีสาวน้อยขี้เล่นคนหนึ่งเอ่ยประโยคนี้ขึ้นมาด้วยท่าทีจริงจังและได้รับการสนับสนุนจากคนหนุ่มสาวเป็นจำนวนมาก เด็ก ๆพวกนี้นอกจากตัวเองจะไม่ดูแล้วยังบังคับไม่ให้คนที่บ้านดูด้วย ผลลัพธ์ออกมาดีมากเพราะเรตติ้งลดฮวบเลย
เหมยเหมยรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากพลันรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ เพราะเธอไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพังแต่ยังมีผู้อ่านที่รักอีกมากมายที่คอยสนับสนุนเป็นแรงหนุนที่แข็งแกร่งของเธอ!
ดังนั้นเธอจะต้องเอาชนะการฟ้องร้องในครั้งนี้ให้ได้!
เพื่อผดุงความชอบธรรมให้กับวงการนี้!
………………………………………………………………………..
[1] อุปมาว่าไม่เข้าใจความรู้สึกของคนอื่นนั่นเอง