ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2103 คิดอย่างรอบคอบ + ตอนที่ 2104 ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 2103 คิดอย่างรอบคอบ + ตอนที่ 2104 ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ตอนที่ 2103 คิดอย่างรอบคอบ
เหมยเหมยแต่งตัวเป็นทางการเตรียมตัวขึ้นศาล เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงขายาว ผมของเธอถูกมวยเก็บไว้ มองดูเป็นผู้ใหญ่และดูเป็นสาวมั่นมีความสามารถขึ้นไม่น้อยเลย
“อยากให้พี่ไปด้วยไหม?” เหยียนหมิงซุ่นถาม
“ไม่ต้องหรอกคะ พี่ไปทำธุระของพี่เถอะ คดีนี้ฉันต้องชนะแน่นอน!” เหมยเหมยมั่นใจอย่างเปี่ยมล้น ฝั่งเธอมีหลักฐานเพียงพอ เว้นแต่สมองของผู้พิพากษาจะมีปัญหา ไม่เช่นนั้นเธอต้องชนะคดีแน่
เหยียนหมิงซุ่นมองเหมยเหมยด้วยสายตาที่แตกต่างไปจากเดิม ใจสั่นเล็กน้อย หลังจากผ่านสงครามเย็นเรื่องพิษกู่มาเขาก็เริ่มคิดทบทวน
เขาเอาแต่ยึดติดว่าชายต้องเป็นใหญ่มากไปจริง ๆ ทั้งยังประเมินความสามารถของเหมยเหมยต่ำเกินไปด้วย ดังนั้นตอนนี้เขาถึงค่อย ๆปรับนิสัย เว้นช่องว่างและให้อิสระเหมยเหมยมากขึ้น
“ไม่อยากให้พี่ไปด้วยจริง ๆนะ?” เหยียนหมิงซุ่นยิ้มถาม
“ไม่ต้อง…พี่น่ารำคาญจริง ๆเลยนะ…” เหมยเหมยยิ้มอย่างกระเง้ากระงอด เหยียนหมิงซุ่นหยิกแก้มเธอเบา ๆอยู่หลายที กล้าพูดว่าเขาน่ารำคาญงั้นเหรอ ตอนกลางคืนรอรับโทษได้เลย
พูดถึงเขาก็มีเรื่องสำคัญต้องจัดการในตอนเช้าเช่นกัน ไม่มีเวลาไปศาลเป็นเพื่อนเหมยเหมยหรอก
“ตอนเย็นพี่จะรีบกลับมาทำอะไรอร่อย ๆให้เธอกินนะ ปีกไก่อบน้ำผึ้งของโปรดที่เธอชอบที่สุดไง…” เหยียนหมิงซุ่นกระซิบที่ข้างหูของเหมยเหมยและยังขบเบา ๆอีกด้วย จากนั้นก็มองปลายหูสีขาวเนียนนุ่มที่เปลี่ยนเป็นสีชมพูด้วยความพึงพอใจ ต่างหูมุกขนาดเท่านิ้วก้อยที่หูเข้ากันอย่างลงตัว
“เกลียดที่สุด…อย่ามาทำให้ผมฉันยุ่งนะ…”
เหมยเหมยผลักเขาเบา ๆ เหยียนหมิงซุ่นยืดตัวตรงเพราะเขาและลูกน้องนัดประชุมตอนแปดโมงครึ่งจะไปสายไม่ได้
ตอนที่เหยียนหมิงซุ่นหยิบกุญแจรถก็ถามลุงเหลาว่า “สถานการณ์ในกองทัพของหมิงต๋าเป็นอย่างไรบ้าง?”
“สองวันก่อนเข้าร่วมภารกิจด้วย ดูเหมือนว่าตอนนี้จะมาที่เมืองหลวงแต่เป็นการปฏิบัติการอย่างลับ ๆจึงไม่สามารถติดต่อได้” ลุงเหลาตอบ
“รอเขากลับกองทัพเมื่อไรบอกผมด้วย”
เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้สนใจอะไรนัก เหยียนหมิงต๋าอยู่ในหน่วยรบพิเศษ ปฏิบัติภารกิจเป็นเรื่องธรรมดา
เวลาขึ้นศาลคือตอนเช้าเวลาแปดโมงห้าสิบ เหมยเหมยมาถึงศาลก่อนสิบนาที จ้าวเสวียเอ๋อร์และทนายความมาถึงนานแล้ว อู่เจิ้งซือก็ปรากฏตัวต่อหน้าเธออย่างลำพองใจ
“เหมยเหมย…”
อารมณ์ของอู่เจิ้งซือค่อนข้างซับซ้อน เดิมทีนี่คือลูกสาวของเขา ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะค้นพบพรสวรรค์ของลูกสาวคนนี้ แต่กลับโดนจ้าวอิงหัวคว้าตัวไปเสียแล้ว
ถ้าหากจ้าวเหมยยังเป็นลูกสาวของเขา เจ้าหญิงอัปลักษณ์ก็ต้องเป็นของเขา ไหนเลยจะต้องมาถ่ายซินเดอเรลล่าบ้าบอนี่ด้วย?
เหมยเหมยมองเขาอย่างเย็นชา “กรุณาเรียกฉันว่าคุณหนูจ้าว สำหรับคนที่ขโมยผลงานของฉันไป แค่ต้องคุยด้วยฉันยังรังเกียจเลย!”
สีหน้าของอู่เจิ้งซือเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขายังคิดจะอธิบายอีกหลายประโยคแต่เหมยเหมยกลับเดินหนีไปไกลแล้ว
เขาพ่นลมออกจมูกด้วยความโมโหแล้วมองไปที่ทนายสวีที่อยู่ข้าง ๆเขาด้วยความสงสัย “ทำตามที่คุณพูดจะไม่มีปัญหาจริง ๆเหรอ?”
“วางใจได้ คุณหนูโอหยางจัดการให้แล้ว ขอแค่คุณยอมโอนเงินของบริษัทออก แม้ว่าคุณจะแพ้คดีก็จะไม่มีปัญหาอะไร” ทนายความสวี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“แต่ว่า…เงินของฉันจะทำอย่างไร?” อู่เจิ้งซือยังไม่วางใจ
โอหยางซานซานสัญญาว่าจะให้ส่วนแบ่งเขาสามส่วน เขาลองคำนวณดูแล้วละครซินเดอเรลล่าเรื่องนี้ทำรายได้เกือบห้าล้าน ซึ่งกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือเขาจะได้ส่วนแบ่งหนึ่งล้านห้าแสน!
หนึ่งล้านห้าแสนเพียงพอสำหรับที่จะซื้อบ้านพักสุดหรูในเมืองจิน แถมยังมีเงินเหลือไว้ใช้ตอนบั้นปลายชีวิตได้อย่างสุขสบายเลยล่ะ
แต่เงินนี้ยังไม่ได้มาอยู่ในมือ เขายังไม่ค่อยอุ่นใจนัก
ทนายความสวีจงใจพูดว่า “คุณวางใจเถอะ คุณหนูโอหยางจะโกงเงินแค่นั้นของคุณไปทำไม? คุณคงไม่รู้ว่าตอนนี้คุณหนูโอหยางมีสถานะเป็นใครสินะ เธอคือคุณนายเช่อที่มีชื่อเสียง อย่าว่าแต่หนึ่งล้านห้าแสนเลย แม้แต่เงินสิบห้าล้านก็ไม่ได้อยู่ในสายตาเธอด้วยซ้ำ”
อู่เจิ้งซือใจเต้น ภรรยาของคุณชายเช่อ?
ภูมิหลังไม่ได้เบาเลยนี่!
เขายิ้มให้ทนายสวีแล้วไม่ได้พูดอะไรอีก เขามักจะรู้สึกไม่สบายใจอยู่เรื่อย เขาแอบดีใจที่เขาไม่ได้ปักใจเชื่อตั้งแต่แรกแล้วฝากเงินของบริษัทไว้ในบัญชีที่โอหยางซานซานกำหนด แต่เขาเอามาฝากไว้ในบัญชีของเขาเองต่างหาก
รหัสก็มีแต่เขาที่รู้!
หลังจากฟังคำพูดของทนายสวีเมื่อวานนี้เขาก็แอบโยกย้ายเงินพวกนี้อย่างเงียบ ๆแล้วบอกทนายสวีว่าเขาได้ทำตามคำสั่งแล้วโดยที่ไม่มีใครรู้
…………………………………………..
ตอนที่ 2104 ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
อู่เยวี่ยยังไม่รู้ว่าอู่เจิ่งซือมีแผนตลบหลังตน เธอคิดว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของเธอ
เพราะความไม่สะดวกของเธอจึงทำให้ไม่มีโอกาสไปที่ธนาคารเพื่อตรวจสอบว่ามีเงินในบัญชีของเธอมากกว่าห้าล้านหรือไม่ แต่อู่เยวี่ยไม่ได้คิดว่าอู่เจิ้งซือจะกล้าขัดคำสั่งเธอ เพราะถึงอย่างไรสถานะในปัจจุบันของเธอก็คือโอหยางซานซาน ไม่ใช่อู่เยวี่ย
สถานะของโอหยางซานซาน สำหรับอู่เจิ้งซือแล้วมีอำนาจมากพอที่จะสยบเขาได้
แต่อู่เยวี่ยกลับลืมความเห็นแก่ตัวของอู่เจิ้งซือไปจนสิ้น ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนขี้ขลาดแต่เพื่อความปรารถนาของตน บางครั้งเขาก็มีความกล้ามากพอ
เช่นเดียวกับที่เขากล้าจะเสี่ยงครั้งใหญ่เปลี่ยนลูกที่ตายไปแล้วของเหอปี้อวิ๋นเป็นเหมยเหมยในตอนนั้น
ผู้พิพากษาเปิดศาลตรงเวลาเหมยเหมยแสดงหลักฐานมากมายทางฝั่งของเธอ นอกจากนี้ทนายความที่ได้รับการว่าจ้างยังเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงอีกด้วย บดขยี้ฝั่งของอู่เจิ้งซือจนเละ ผลลัพธ์ก็เห็นได้อย่างชัดเจน
แต่ว่าเป้าหมายของอู่เยวี่ยไม่ใช่การชนะคดี ดังนั้นทนายความสวีจึงไม่ได้โต้แย้งอะไรมากไปกว่านี้ ผู้พิพากษาจึงตัดสินคดีความได้อย่างรวดเร็ว
ตัดสินให้ฝั่งของเหมยเหมยชนะคดีและสั่งให้บริษัทหวนอวี่ห้ามขายละครเรื่องซินเดอเรลล่าอีกต่อไป อีกทั้งต้องชดเชยค่าเสียหายแก่เหมยเหมยสามล้าน พร้อมประกาศขอโทษต่อหน้าคนทั่วประเทศผ่านสื่อ
อู่เจิ้งซือปวดใจไม่น้อย ซินเดอเรลล่าเพิ่งได้ออกอากาศ ช่วงเวลาแห่งการทำเงินยังไม่ทันเริ่มขึ้นเลยแต่กลับถูกสั่งห้ามฉายต่อแล้ว นี่ต้องสูญเงินไปเท่าไรกันนะ!
เขาบอกแล้วว่าบทละครควรจะมีการดัดแปลงบ้าง ไม่ควรขโมยความคิดมาง่าย ๆและหยาบโลนเช่นนี้ แต่อู่เยวี่ยก็ไม่ฟังการโน้มน้าวใด ๆ บอกว่านี่เป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการสร้างละครทีวี ต้องรีบคว้าโอกาสนี้ไว้ก่อน
อู่เจิ้งซืออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ หากฟังคำแนะนำของเขาตั้งแต่แรก แน่นอนว่าจะต้องสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยสิบล้าน
แต่ไม่นานเขาก็กลับมามีความสุขอีกครั้ง ไม่ว่าอย่างไรอย่างน้อยเขาก็ทำเงินได้ถึงห้าล้าน ตอนนี้เขาเข้าใจกฎของวงการนี้อย่างคร่าว ๆแล้ว เขามีความมั่นใจเป็นอย่างมากว่าจะต้องกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งแน่นอน!
อู่เจิ้งซือไม่ได้อยู่ที่เมืองหลวงนานนัก พอขึ้นศาลเสร็จเขาก็รีบกลับเมืองจินทันที ส่วนเรื่องชดเชยค่าเสียหายศาลประจำท้องถิ่นในเมืองจินจะให้ความร่วมมือในการดำเนินการเอง
อู่เยวี่ยได้รับข่าวว่าอู่เจิ่งซือได้ฝากเงินทั้งหมดเข้าบัญชีที่เธอกำหนดตามวิธีการของเธอ อู่เยวี่ยพึงพอใจมาก ตราบใดที่มีเงินห้าล้านเส้นทางหนีเอาตัวรอดของเธอก็จะราบรื่น
ได้เวลาออกจากกรงนี้แล้ว!
สามวันต่อมาสถานีโทรทัศน์เมืองหลวงก็หยุดออกอากาศเรื่องซินเดอเรลล่าภายใต้แรงกดดันจากศาล อันที่จริงต่อให้ศาลไม่สั่ง สถานีโทรทัศน์เมืองหลวงก็ไม่ต้องการออกอากาศอีกต่อไปแล้ว
หากไม่มีการเปรียบเทียบก็คงไม่เป็นอะไร!
ก่อนที่เจ้าหญิงอัปลักษณ์จะลงฉาย ละครเรื่องซินเดอเรลล่าก็ดูไม่เลวเลยทีเดียว ทั้งน่ารักสดใส สร้างแรงบันดาลใจ รักวัยใสและยังน่าดึงดูดอีกด้วย
แต่พอเจ้าหญิงอัปลักษณ์ลงจอ สถานีโทรทัศน์ก็เข้าใจเลยว่าทำไมเหมยเหมยถึงได้มั่นใจในตอนแถลงข่าวขนาดนั้น ไม่ว่าจะเป็นทักษะการแสดงของนักแสดง เสื้อผ้า ฉาก รวมไปถึงระดับฝีมือของผู้กำกับ…ต่างก็เหนือชั้นกว่าซินเดอเรลล่าทั้งนั้นเลย!
นี่คือผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ผู้ชมไม่ได้โง่ หรูฮวาและหวังจู่เสียน[1]ในชุดเดียวกัน จะเลือกดูใครล่ะ?
เห็นได้ชัดว่าต้องเป็นคนหลังอยู่แล้ว!
เจ้าหญิงอัปลักษณ์ฉายไม่ถึงสัปดาห์สถานีโทรทัศน์เมืองหลวงก็ได้ปรับเวลาออกอากาศของเจ้าหญิงอัปลักษณ์เป็นช่วงไพรม์ไทม์(ช่วงเวลาทอง)อย่างไม่ลังเล ส่วนซินเดอเรลล่าที่เคยฉายก็โดนเลื่อนเวลาออกไป
พอตอนนี้ปลดออก สถานีโทรทัศน์เมืองหลวงก็ไม่มีเรื่องให้ทุกข์ใจแล้ว
เพราะว่ารายได้จากโฆษณาที่เจ้าหญิงอัปลักษณ์นำมาให้พวกเขาเพียงพอที่จะทำให้พวกเขายิ้มหน้าบานเลยทีเดียว!
เรตติ้งของเจ้าหญิงอัปลักษณ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนนำลิ่วรายการทีวีหลายรายการที่ออกอากาศในช่วงเวลาเดียวกัน และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าผลจะเป็นไปตามที่คาดไว้แต่ก็ทำให้เหมยเหมยดีใจอยู่ดี
เพราะสิ่งที่เธอยืนหยัดว่าจะผลิตแต่ผลงานคุณภาพเป็นเรื่องที่ถูกต้อง!
แต่ว่า——
“เหมยเหมย…บริษัทหวนอวี่ไม่มีเงินสักแดงเดียวจึงไม่สามารถดำเนินการได้!” จ้าวเสวียเอ๋อร์โทรมาด้วยความโมโห
…………………………………………..
[1] เป็นชื่อดาราในสมัยนั้น แต่หรูฮวาจะเป็นตลกชายที่ชอบแต่งตัวลอกเลียนแบบผู้หญิง ส่วนหวังจู่เสียนเป็นดาราสาวสวย