ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2137 มนุษย์สุกรอู่เยวี่ย + ตอนที่ 2138 สำนึกผิดตอนใกล้ตาย
ตอนที่ 2137 มนุษย์สุกรอู่เยวี่ย
ครึ่งปีให้หลัง
ที่พักอาศัยแห่งหนึ่งละแวกชานเมืองในเมืองหลวง อู่เยวี่ยที่ถูกปิดผนึกไว้ในโอ่งใบใหญ่เงยหน้าขึ้นหมายจะมองดูแสงจันทร์นอกหน้าต่าง แต่ตำแหน่งของเธอไกลจากหน้าต่างเกินไป แม้จะเอียงศีรษะเก้าสิบองศาก็ยังไม่สามารถมองเห็นพระจันทร์ได้ จึงเห็นได้แค่แสงจันทร์สีขาวที่สาดส่องเข้ามายังหน้าต่างและกระทบลงมาบนพื้น
อู่เยวี่ยอยากขยับตัวแต่เธอไม่มีมือไม่มีเท้าจึงทำให้ขยับร่างกายไม่ได้เลย เธอกินดื่มขับถ่ายอยู่แต่ในโอ่งใบนี้
คนที่เฮ่อเหลียนเช่อจัดไว้ก็ไม่กล้าที่จะปล่อยปละละเลยคอยเทียวมาอาบน้ำชำละล้างให้เธอทุกวัน และทุกมื้ออาหารในแต่ละวันก็มักจะอุดมสมบูรณ์ ล้วนเป็นวัตถุดิบชั้นดีที่บำรุงสายตา อย่างเช่น ตับหมู เนื้อเป็ด ปลาดำ และบลูเบอร์รี่เป็นต้น เลี้ยงดูเธออย่างอุดมสมบูรณ์
อู่เยวี่ยไม่เข้าใจว่าเฮ่อเหลียนเช่อคิดจะทำอะไรกันแน่?
ทั้ง ๆที่ตอนถูกจับกลับมาครั้งนั้น เฮ่อเหลียนเช่อตัดแขนขาสี่ข้างของเธอขนาดนั้นแล้ว และยังใช้การลงโทษทั้งหมดที่มีอยู่ทรมานเธอราวกับตายทั้งเป็น ในขณะที่เธอต้องการเพียงความตายแต่เฮ่อเหลียนกลับไม่ยอมยกให้เธอง่าย ๆ
ทรมานเธอมาแรมเดือน เฮ่อเหลียนเช่อก็ไม่ได้ลงโทษอะไรเธออีก แถมยังพาเธอมาอยู่ในโอ่งใบใหญ่ทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์สุกร[1] ตั้งแต่นั้นมา โลกทั้งใบของเธอก็คือโอ่งใบใหญ่ใบนี้!
เธอใช้ชีวิตอยู่ในโอ่งใหญ่ใบนี้มานับครึ่งปี เธอคำนวณวันเวลาตามที่พระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกดิน และบัดนี้ก็ผ่านมาครึ่งปีแล้ว…
เหตุใดเฮ่อเหลียนเช่อถึงไม่ฆ่าเธอ?
เขาจะทำอะไรกับเธอกันแน่?
ในใจอู่เยวี่ยเกิดความหวาดกลัวขึ้นมา แน่นอนว่าเธอไม่เคยคิดว่าเฮ่อเหลียนเช่อจะไว้ชีวิตเธอ ความตายเป็นสิ่งที่แน่นอนอยู่แล้ว แต่เธอแค่ไม่มั่นใจว่าต้องตายด้วยวิธีไหน!
ผ่านไปอีกหนึ่งคืน อู่เยวี่ยตื่นขึ้นมาท่ามกลางเสียงร้องประสานเสียงของนก จากนั้นก็รอคอยการปรนนิบัติจากคนที่จับตาดูเธอมาตลอด และคน ๆนั้นก็คือหญิงสาวร่างกำยำผู้หนึ่ง ในทุก ๆเช้าจะเก็บน้ำค้างที่สดใหม่มาล้างดวงตาให้กับเธออย่างพิถีพิถัน
ที่ว่ากันว่าน้ำค้างช่วยทำให้ดวงตาสว่าง เมื่อก่อนเธอไม่เคยเชื่อแต่ตอนนี้กลับเชื่อสนิท
ล้างตามานานนับครึ่งปี อู่เยวี่ยก็รู้สึกสบายตาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน การมองเห็นก็ดีขึ้นมากและเห็นสิ่งของได้ชัดเจนขึ้น!
ประตูถูกเปิดออก หญิงร่างกำยำเดินเข้ามาในมือพร้อมขวดน้ำค้างเล็ก ๆขวดหนึ่ง และไม่มีสิ่งใดอีก
อู่เยวี่ยรู้สึกประหลาดใจมากเพราะทุกครั้งมักจะมาพร้อมกับอาหารเช้ามื้อใหญ่ หลังจากที่ล้างดวงตาให้เสร็จก็จะป้อนข้าวป้อนน้ำให้กับเธอ ทุกวันจะเป็นเช่นนี้ เหตุใดวันนี้ถึงไม่มีอาหารเช้าล่ะ?
“เงยหน้าขึ้น” หญิงร่างกำยำเอ่ยเสียงนิ่งขรึมแล้วหยดน้ำค้างลงในดวงตาของอู่เยวี่ย น้ำค้างเหล่านี้เก็บมาในช่วงเช้าตรู่ฉะนั้นจะอืดอาดชักช้าไม่ได้
อู่เยวี่ยรับรู้ถึงความเย็นชื้นในดวงตาพลันรู้สึกสบายไปทั่วทั้งร่างกาย จากนั้นก็ล้างหน้าแปรงฟันให้ แถมยังรวบผมให้เธอด้วย ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ทำอย่างเป็นขั้นเป็นตอนขาดเพียงแค่อาหารมื้อเช้า
ในใจเธอรู้สึกถึงลางร้าย จึงลอบถาม “วันนี้ไม่มีอาหารเช้าเหรอ?”
“ไม่มี!” หญิงสาวตอบเสียงดังทุ้ม
“แล้วอาหารมื้อเที่ยงมีไหม?”
หญิงสาวเหลือบมองเธอแวบหนึ่งอย่างเห็นใจแล้วเอ่ยเสียงรำคาญใจว่า “จะพูดจาไร้สาระอะไรนักหนา อีกเดี๋ยวจะพาเธอย้ายไปที่อื่นแล้ว!”
จะว่าไปแล้วหญิงสาวผู้นี้ก็นึกเห็นใจอู่เยวี่ยอยู่ไม่น้อย ไม่รู้ว่าทำไมถึงไปทำให้คุณชายเช่อไม่พอใจเข้าแบบนั้น อายุยังน้อยกลับกลายเป็นมนุษย์สุกรเสียได้ ตอนนี้แม้แต่ดวงตาก็รักษาไว้ไม่ได้แล้ว ต่อจากนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปเลย!
เห็นใจก็ส่วนเห็นใจ หญิงสาวไม่ปริปากพูดอะไรมากไปกว่านี้อีกเพราะเธอไม่กล้ายั่วโมโหคุณชายเช่อ ทำงานให้มากพูดให้น้อยรับเงินแล้วแยกย้าย นี่คือหลักการทำงานของเธอ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เธอสามารถอยู่รอดภายใต้บังคับบัญชาของเฮ่อเหลียนเช่อมาจนถึงทุกวันนี้ ทั้ง ๆที่เธอไร้ความสามารถหน้าตาอัปลักษณ์และไม่ได้โดดเด่นอะไรเลย!
อู่เยวี่ยใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม ย้ายไปที่อื่น?
เธอจะถูกย้ายไปที่ไหน?
หรือว่าเฮ่อเหลียนเช่อจะจัดการกับเธอแล้ว?
ไม่นานก็มีคนเข้ามายกอู่เยวี่ยออกมาจากโอ่ง พร้อมกับอาบน้ำล้างตัวให้สะอาดและนำตัวไปโรงพยาบาลทหาร เฮ่อเหลียนเช่อและกลุ่มจักษุแพทย์ชั้นนำที่ได้รับเชิญจากต่างประเทศมาเป็นพิเศษต่างก็กำลังรอเธออยู่
………………………………………………………………
ตอนที่ 2138 สำนึกผิดตอนใกล้ตาย
“คุณชายเช่อครับ พาตัวมาถึงแล้วครับ” ลูกน้องรายงานต่อเฮ่อเหลียนเช่อ
“ไปพาตัวมาให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจเช็คสิ” เฮ่อเหลียนเช่อออกคำสั่ง
เสี่ยวเป่าอายุครบหนึ่งขวบเมื่อวานนี้ เขาให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจดูเสี่ยวเป่าตั้งแต่เช้าตรู่ ผู้เชี่ยวชาญแจ้งว่าดวงตาของเสี่ยวเป่ารักษาได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี หนึ่งขวบเป็นช่วงอายุที่ดีที่สุดสำหรับการผ่าตัด
อีกทั้งอู่เยวี่ยเป็นแม่แท้ ๆของเสี่ยวเป่า ข้อดีต้องมีมากพออยู่แล้ว อาจถึงขั้นสมบูรณ์แบบเลยก็ว่าได้!
ครั้งนี้เป็นการผ่าตัดอย่างลับ ๆ หนิงเฉินเซวียนไม่รู้เรื่องนี้ เพื่อการผ่าตัดของเสี่ยวเป่าเขาถึงขั้นสร้างโรงพยาบาลส่วนบุคคลที่มีอุปกรณ์และสิ่งอำนวยครบครันแห่งนี้ขึ้น อุปกรณ์ต่าง ๆในโรงพยาบาลล้วนเป็นของชั้นนำระดับโลก แม้แต่โรงพยาบาลทหารก็ไม่มีอุปกรณ์ที่ดีขนาดนี้ ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ต่างก็เป็นจักษุแพทย์เฉพาะทางอันดับต้น ๆของโลก สำหรับพวกเขาแล้วการปลูกถ่ายกระจกตานั้นง่ายเสียยิ่งกว่าการกินสเต็กชิ้นหนึ่งเสียอีก ต่อให้หลับตาก็ยังสามารถทำการผ่าตัดออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แต่ราคาที่เฮ่อเหลียนเช่อยอมจ่ายเพียงพอที่จะทำให้ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ใจเต้นได้ พวกเขาจึงรีบมาร่วมกันสร้างแสงสว่างให้กับเสี่ยวเป่าถึงที่นี่โดยไม่กลัวความห่างไกลเลยสักนิด
อู่เยวี่ยถูกเข็นเข้ามา พอเจอเฮ่อเหลียนเช่อก็ตัวสั่นสะท้านอย่างไม่รู้ตัว มีชีวิตอยู่ปานขุมนรกมาเป็นเวลานานนับครึ่งปีจนทำให้เธอหวาดกลัวเฮ่อเหลียนเช่อจากก้นบึ้งของหัวใจ
เธอตื่นตัวอยู่เสมอ ตอนที่ถูกพาตัวเข้ามาเธอคอยลอบสังเกตสภาพแวดล้อมรอบตัว ที่นี่ดูคล้ายกับโรงพยาบาลแต่ก็ไม่ค่อยเหมือนนัก ดูเงียบผิดปกติ ไม่มีผู้ป่วยไม่มีหมอแต่กลับเหมือนห้องทดลองมากกว่า
ในใจของอู่เยวี่ยเกิดความวิตกกังวลขึ้นอย่างหนัก เธอรู้สึกได้ว่ากำลังจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น
กลุ่มชาวต่างชาติผมบลอนด์พากันห้อมล้อมกรูเข้ามาหา ปากพูดภาษาต่างประเทศเจื้อยแจ้ว และยังได้เปิดไฟฉายส่องดวงตาของเธอ อู่เยวี่ยรู้สึกว่าตอนนี้เธอเหมือนหมูที่รอโดนเชือดและอาจถูกมีดแทงได้ทุกเมื่อ
“กระจกตาไม่เลวเลย ดูสดใสดี และไม่มีการอักเสบใด ๆเลย” ผู้เชี่ยวชาญท่านหนึ่งพูดกับเฮ่อเหลียนเช่อ พร้อมกับแจ้งว่าลงมือผ่าตัดได้ทันที
“งั้นก็เริ่มเลย!”
เฮ่อเหลียนเช่อเองก็ดีใจมากเช่นกัน เสี่ยวเป่าของเขาจะมองเห็นแสงสว่างแล้ว!
อู่เยวี่ยเข้าใจในทันที เธอกำลังจะถูกควักลูกตาออกมา ไม่แปลกใจเลยที่เธอจะต้องล้างตาด้วยน้ำค้างมาตลอดระยะเวลาครึ่งปี แถมได้กินอาหารบำรุงสายตามากมาย ไม่นะ…เธอไม่อยากกลายเป็นคนตาบอด!
“คุณชายเช่อ…ขอร้องล่ะ…ฉันไม่อยากตาบอด คุณปล่อยฉันไปเถอะ…” อู่เยวี่ยโอดครวญร้องเสียงดัง ดิ้นพล่านอยู่บนเตียงผ่าตัดอย่างรุนแรง ตอนนี้เธอรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ผ่านมาแล้วจริง ๆ
เสียใจกับทุกสิ่งที่เธอทำตลอดหลายปีที่ผ่านมา!
หากเธอเชื่อฟังเหอปี้อวิ๋น ตั้งใจร่ำเรียน ไม่เรียกร้องในสิ่งที่ไม่ใช่ของของเธอมากเกินไป เช่นนั้นเธอก็คงไม่มีสภาพเหมือนในวันนี้ บางทีเธออาจจะแต่งงานกับคนโง่ ๆอย่างเหยียนหมิงต๋าและมีชีวิตที่ราบรื่นและสงบสุขไปแล้ว
เจ้าบื้อเหยียนหมิงต๋าจะต้องเชื่อฟังเธอทุกอย่างแน่นอน เขาไม่ทำให้เธอเป็นกังวลเลยสักนิด เธอคงจะมีชีวิตที่มีความสุขมากแน่นอน!
ณ ตอนนี้อู่เยวี่ยเพิ่งจะเข้าใจความหมายของความสุขที่จริง แต่มันก็สายเกินไปแล้ว ชีวิตคนเราไม่สามารถหวนย้อนกลับไปใหม่ได้ เธอเองก็ไม่สามารถเริ่มต้นใหม่ได้อีกเช่นกัน!
“แม่คะ…พี่หมิงต๋า…ขอโทษนะคะ…หนูผิดไปแล้ว…”
อู่เยวี่ยพูดเสียงอู้อี้พร้อมน้ำตาที่ไหลริน คนที่รักเธอที่สุดทั้งสองคน คนหนึ่งถูกเธอฆ่าตายด้วยน้ำมือของเธอเอง ส่วนอีกคนหนึ่งถูกเธอทอดทิ้ง!
เธอเสียใจกับสิ่งที่ผ่านมาจริง ๆ!
หากเริ่มต้นใหม่ได้อีกครั้ง เธอไม่อยากเป็นศัตรูกับจ้าวเหมยแล้วแต่งงานกับเหยียนหมิงต๋า จากนั้นเธอสองคนก็จะกลายเป็นพี่สะใภ้น้องสะใภ้แบบนี้ไม่ดีกว่าหรือ?
ความเจ็บปวดถาโถมเข้ามาอู่เยวี่ยค่อย ๆสลบไปและไม่รับรู้อะไรอีก จากนั้นเธอก็ถูกเข็นตัวเข้าไปในห้องผ่าตัด ในขณะเดียวกันเสี่ยวเป่าซึ่งเติบโตขึ้นมากก็ถูกเข็นเข้ามาด้วย
เฮ่อเหลียนเช่อประทับจูบลงบนหน้าผากของเสี่ยวเป่า เขามองอยู่เนิ่นนานกว่าจะมีคนมาเข็นเตียงเข้าห้องไป
ในแววตาเผยถึงความกังวลและความคาดหวัง
…………………………………………………….
[1] แปลตรงตัวหมายถึงการเปลี่ยนคนให้เป็นหมู เนื่องด้วยบทลงโทษนี้เกิดขึ้นในต้นสมัยของราชวงศ์ฮั่นโดยหลี่ว์ไทเฮา (吕太后)ซึ่งใช้ในการประหารขุนนางเก่า โดยลักษณะคือการตัดมือ ตัดเท้า ควักลูกตา เอาทองแดงกรอกหูให้หูหนวก กรอกยาใบ้เข้าปาก ตัดลิ้น ทำลายเส้นเสียง ลากตัวไปไว้ในสุขา หรือบางรายอาจถูกตัดจมูก โกนหัว โกนขนคิ้วและทายาประเภทที่ขนไม่งอกอีก