ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2145 อาการเมินเฉยของเสี่ยวเป่า + ตอนที่ 2146 ความโมโหเดือดดาลของหนิงเฉินเซวียน
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 2145 อาการเมินเฉยของเสี่ยวเป่า + ตอนที่ 2146 ความโมโหเดือดดาลของหนิงเฉินเซวียน
ตอนที่ 2145 อาการเมินเฉยของเสี่ยวเป่า
ถึงแม้เหลืออีกแค่หนึ่งเดือนเสี่ยวเป่าจะอายุสองขวบแต่ก็สูงกว่าเด็กในวัยเดียวกันมาก ดูขาวสะอาดสะอ้าน หน้าตาหล่อเหลาจนทำให้คนไม่อาจละสายตาได้ แม้แต่ซาตานจากนรกเมื่อได้เห็นเทวดาตัวน้อยที่ใสสะอาดเช่นนี้ก็ยังปรากฏรอยยิ้มที่เมตตาอ่อนโยนกว่าคุณน้าคุณป้าเสียอีก
สำหรับมุมมองของตัวเขาเองแล้วรอยยิ้มในเวลานี้ดูอ่อนโยนเมตตายิ่งกว่าพระโพธิสัตว์เสียอีก แต่ในสายตาของเสี่ยวเป่ากลับน่าเกลียดกว่าหมาที่ลุง(เหมยซูหาน)เลี้ยงไว้ด้วยซ้ำ
ดวงตาสีเข้มของเสี่ยวเปาเหมือนอัญมณีที่เปล่งประประกายเหมือนดาวบนท้องฟ้า สะอาดและลุ่มลึก ยากที่จะหยั่งถึงราวกับถูกดูดวิญญาณไป
แค่มองดวงตาคู่นี้คงคิดไม่ถึงว่าเจ้าของของมันจะเป็นแค่เด็กตัวเล็ก ๆ เพราะดวงตาคู่นี้แฝงไปด้วยอะไรมากมาย แม้แต่ผู้ใหญ่ก็ไม่ได้มีดวงตาที่ลึกซึ้งเช่นนี้
นี่คือสายตาของนักคิด!
แต่เจ้าของดวงตาคู่นี้เป็นเพียงเด็กที่อายุยังไม่ถึงสองขวบ มันน่าเหลือเชื่อมาก ๆ!
คิ้วสง่างามของเสี่ยวเป่ามุ่นเล็กน้อย เขาไม่ชอบกลิ่นของชายชราตรงหน้าเป็นอย่างมาก กลิ่นทั้งเหม็นและเปรี้ยว เหม็นยิ่งกว่าบ้านต้าโช่ว (สุนัขที่เหมยซูหานเลี้ยง)เสียอีก
เขาอยากกลับไปหาพ่อและลุงของเขา เล่นกับพวกต้าโช่ว เอ้อร์โช่วและซานโช่ว ไม่อยากอยู่ที่นี่เลยแม้แต่น้อย
แต่ก่อนมาที่นี่พ่อบอกเขาว่าให้เขาเชื่อฟังคุณปู่ อย่าทำให้คุณปู่ต้องโกรธ…เสี่ยวเป่าถอนหายใจเบา ๆ บนใบหน้าเล็ก ๆปรากฏความระอาที่ไม่ควรเกิดในช่วงอายุของเขาขึ้นมา
แต่มันปรากฏแค่แวบเดียวแล้วก็หายไป หนิงเฉินเซวียนอายุมากแล้วดวงตาก็ฝ้าฟางจึงมองเห็นไม่ชัด เขายังคงยิ้มให้อย่างเมตตา ตะเกียบคีบหมูตุ๋นชิ้นหนึ่งและคิดจะป่อนให้กับเสี่ยวเป่า
“เสี่ยวเป่าทานเนื้อสิ ทานเนื้อให้มาก ๆจะได้แข็งแรง ในอนาคตเสี่ยวเป่าจะต้องเป็นราชา ฉะนั้นหลานต้องเรียนรู้หลายด้าน หลังจากทานเสร็จปู่จะพาหลานไปขี่ม้า”
หนิงเฉินเซวียนมีจิตใจอันฮึกเหิมและปณิธานอันยิ่งใหญ่ บรรพบุรุษของเขาทำงานหนักมาเกือบพันปี แต่กลับไม่สามารถทำความปรารถนาสุดท้ายของตระกูลหนิงได้สำเร็จ มีเพียงเขาเท่านั้นที่ทำได้!
ตอนนี้เป็นจังหวะโอกาสที่ดี ขอแค่คนที่เขาจัดเตรียมไว้เปิดฉากก่อเหตุที่ชายแดน จากนั้นเขาก็จะลุกขึ้นมาก่อจลาจล เพียงเท่านี้เขาก็จะกลายเป็นราชาที่เหล่าไพร่ฟ้าให้ความสำคัญ และบัดนี้เขามีผู้สืบทอดแล้ว
นั่นก็คือเสี่ยวเป่า!
ทายาทที่เหมือนกับเสี่ยวซี!
นี่เป็นเหตุผลหลักที่หนิงเฉินเซวียนให้ความสำคัญกับเสี่ยวเป่ามาก
เสี่ยวซีก็คือหนิงเฉินซี น้องสาวพ่อเดียวกันกับหนิงเฉินเซวียน ขณะเดียวกันก็เป็นหลานสาวของเขาด้วย ซึ่งก็คือคนที่เขารักมากที่สุดในโลก
เสี่ยวเป่าดูเหมือนย่าของเขามาก โดยเฉพาะตอนที่ดวงตาคู่นั้นจับจ้องมาที่เขา หนิงเฉินเซวียนเหมือนเห็นเสี่ยวซีในร่างเสี่ยวเป่า ในใจมีความอ่อนโยนถาโถมเข้ามาไม่สิ้นสุด และช่วยยับยั้งความเหี้ยมโหดของเขาที่ไม่สามารถควบคุมได้ให้มีความอดทนมากขึ้น
หนิงเฉินเซวียนไม่รอให้เสี่ยวเป่าตอบ เจ้าตัวเล็กมองเขานิ่งด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“เสี่ยวเป่าอ้าปาก!”
มือของหนิงเฉินเซวียนถือตะเกียบค้างอยู่กลางอากาศ ผ่านไปนานก็อดใจรอเสี่ยวเป่าพูดออกมาไม่ไหว ความใจร้อนพลุ่งพล่านขึ้นมาแต่เขาพยายามสะกดมันไว้ แล้วเค้นรอยยิ้มที่แสนใจดีมีเมตตาออกมาอีกครั้ง แต่ในใจกลับรู้สึกแปลก ๆ
เป็นเวลาเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วที่เสี่ยวเป่ามาอยู่กับเขาที่นี่ ประพฤติตัวได้ดีไม่เลว ไม่ร้องไห้และไม่กรีดร้องเหมือนเด็กคนอื่น ๆ เวลาส่วนใหญ่จะใช้ไปกับปากกาวาดภาพบนฝาผนังและไม่ก่อกวนคนอื่นเลย
แต่ปัญหาก็คือ——
เสี่ยวเป่าไม่ยิ้ม แม้กระทั่งคำพูดสักประโยคก็ไม่มี
ใบหน้าเล็ก ๆที่งดงามของเขาเงียบสงบอยู่เสมอ ไม่มีร่องรอยของการแสดงออกทางสีหน้าแต่อย่างใด เงียบไม่เหมือนเด็กปกติทั่วไป
หนิงเฉินเซวียนถามอยู่หลายครั้งแต่เสี่ยวเป่ากลับไม่แม้แต่จะชายตามอง เสี่ยวเป่าก้มหน้าหยิบเนื้อในชามแล้วเอาเข้าปากทานเอง บนใบหน้าและมือมีแต่น้ำมันเยิ้มไปหมดบวกแก้มป่อง ๆนั้นมันช่างน่ารักจนทำให้คนใจละลายได้เลย
แต่หนิงเฉินเซวียนกลับไม่รู้สึกแบบนั้น เพราะเขาโมโหเป็นอย่างมาก!
เขาไม่อนุญาตให้ใครเมินใส่เขาทั้งนั้น ต่อให้เป็นทายาทของเขาก็ไม่ได้!
…………………………………………..
ตอนที่ 2146 ความโมโหเดือดดาลของหนิงเฉินเซวียน
พ่อบ้านที่ยืนอยู่ข้าง ๆก็คือคนเก่าแก่ของตระกูลหนิงและรู้จักหนิงเฉินเซวียนเป็นอย่างดี แค่มองท่าทีของเขาก็รู้ทันทีว่าหนิงเฉินเซวียนกำลังจะคลุ้มคลั่งขึ้นมา เขาเป็นห่วงเสี่ยวเป่ามากแต่ก็ไม่กล้าที่จะก้าวเข้าไปเตือน หนิงเฉินเซวียนในตอนนี้เขาไม่กล้ายุแหย่
พ่อบ้านส่งสายตาให้กับคนรับใช้ที่ยืนอยู่อีกด้าน คนรับใช้เข้าใจในทันทีแล้วก้าวถอยหลังออกไปอย่างเงียบ ๆเพื่อโทรหาเฮ่อเหลียนเช่อ
หนิงเฉินเซวียนตวาดด้วยเสียงแหลมสูงว่า “หนิงเฉิงจื้อ ได้ยินที่ปู่พูดไหม?”
หนิงเฉิงจื้อเป็นชื่อที่หนิงเฉินเซวียนตั้งให้เสี่ยวเป่า ความหมายคือปณิธานอันยิ่งใหญ่ที่จะสืบทอดจากบรรพบุรุษ แต่เฮ่อเหลียนเช่อรังเกียจชื่อเชย ๆบ้านนอกแบบนี้จึงเรียกเสี่ยวเป่าอยู่ตลอด เขายังแอบเปลี่ยนชื่อในทะเบียนให้เป็นหนิงเสี่ยวเป่าอีกด้วย
เสี่ยวเป่าไม่สนใจชื่อหนิงเฉิงจื้อเลยแม้แต่น้อยและไม่รู้ด้วยว่าเรียกใคร เขากินเนื้อหมดไปหนึ่งชิ้น อร่อยถูกใจแถมรสชาติก็ไม่เลว เขาจึงยื่นมือไปหยิบอีกชิ้นยัดเข้าปาก
แสดงท่าทีเมินเฉยไม่สนใจหนิงเฉินเซวียนอีกครั้ง!
“ใครอนุญาตให้แกใช้มือกินข้าว? ตระกูลหนิงของพวกเราไม่ใช่ครอบครัวป่าเถื่อน ต้องปฏิบัติตามธรรมเนียม แกใช้ตะเกียบเดี๋ยวนี้!”
เส้นเลือดบนหน้าผากของหนิงเฉินเซวียนเต้นตุบ ๆ เขาเป็นคนเจ้าระเบียบโดยเฉพาะมารยาทบนโต๊ะอาหาร ห้ามส่งเสียงดังขณะดื่มซุปหรือเคี้ยว แถมยังต้องนั่งตัวตรงและห้ามทำข้าวหกบนโต๊ะ…
ทุกอิริยาบถและคำพูดต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดตามกฎของราชวงศ์สมัยโบราณ เฮ่อเหลียนเช่อถูกเลี้ยงดูในลักษณะนี้เมื่อเขายังเป็นเด็ก หากทำอะไรผิดก็จะโดนหนิงเฉินเซวียนดุด่าต่อว่าแบบนี้เสมอ
การแสดงออกของเสี่ยวเป่าในตอนนี้สำหรับหนิงเฉินเซวียนแล้วเหมือนเป็นการยั่วโมโห ทันใดนั้นความโมโหก็ปะทุขึ้นมา ความโหดร้ายทารุณในร่างกายไม่สามารถระงับได้อีกต่อไป
รอยยิ้มหายไปแล้ว สีหน้าท่าทางดุดันขึ้น ในดวงตามีแต่ความเย็นชา
พ่อบ้านใจเต้นรัว ไม่ได้การแล้ว นายท่านกำลังจะระเบิดอารมณ์ ทำไมคุณชายเช่อถึงยังไม่มาอีกนะ ตอนนี้มีแต่คุณชายเช่อเท่านั้นที่จะหยุดนายท่านได้!
”นายท่าน ผมไปยกตุ๋นรวมมิตรที่ท่านโปรดมาให้ดีไหมครับ คุณชายน้อยจะต้องชอบกินแน่ ๆ…”
“ไสหัวไป!”
หนิงเฉินเซวียนตวาดอย่างหมดความอดทน หากไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์ของพ่อบ้านมีมานานหลายสิบปี เขาคงยิงให้ตายภายในนัดเดียวแน่นอน
สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดคือมีคนมาขัดจังหวะระหว่างที่เขาพูด ช่างไม่รู้จักกาลเทศะเอาเสียเลย เช่นนั้นแล้วจะมีชีวิตอยู่ทำไม!
พ่อบ้านชราตัวสั่นด้วยความตกใจและทำได้เพียงถอยออกมา เขาเหลือบมองเสี่ยวเป่าที่ยังไม่รู้อีโหน่อีเหน่ว่าอันตรายกำลังจะมาเยือนอย่างเห็นใจ เฮ้อ!
นี่มันเวรกรรมอะไรกันเนี่ย!
เสี่ยวเป่ากลับไม่รู้สึกถึงบรรยากาศรอบตัวเลยสักนิด เขาไม่รับรู้ถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของหนิงเฉินเซวียนด้วย แต่เขากลับรู้สึกอึดอัดเหลือเกิน
เพราะว่าร่างกายของหนิงเฉินเซวียนมีกลิ่นเหม็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เสี่ยวเป่าแทบทนไม่ไหว
“ปึง”
เจ้าตัวเล็กอารมณ์ไม่ดีเสียแล้วจึงหยิบเนื้อด้วยมือเดียวแล้วลุกออกจากโต๊ะไป ในเมื่อที่นี่กลิ่นเหม็น งั้นเขาก็จะไปหาที่ที่มีกลิ่นหอมนั่งทานแล้วกัน
“แกจะไปไหน? ฉันอนุญาตให้แกไปหรือไง…”
หนิงเฉินเซวียนชะงักไปในตอนแรก แต่หลังจากนั้นก็โมโหเดือดดาลขึ้นมา
นี่คิดจะต่อต้านงั้นเหรอ?
ทำเป็นเมินเฉยใส่เขาใช่ไหม?
มีอย่างที่ไหนกัน!
“แกหยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ!”
หนิงเฉินเซวียนไล่ตามไปพร้อมนึกไม่พอใจเฮ่อเหลียนเช่อเช่นกัน เขารู้สึกว่าเสี่ยวเป่าถูกเฮ่อเหลียนเช่อตามใจจนเคยตัวจึงไร้ระเบียบ เขาต้องแก้นิสัยเสียของเสี่ยวเป่าให้กลายเป็นทายาทสืบสกุลที่ยอดเยี่ยมและมีคุณสมบัติที่เหมาะสมให้ได้!
ไม่อย่างนั้นในอนาคตจะตกเป็นเป้าให้คนอื่นหัวเราะเยาะเอาได้?
ถึงแม้ว่าเสี่ยวเป่าจะอายุยังน้อยแต่เขาเดินได้นานแล้ว ขาสั้นวิ่งอย่างรวดเร็ว หนิงเฉินเซวียนแก่และอ่อนแอจึงไล่ตามเขาไม่ทันสักที
หนึ่งคนแก่หนึ่งเด็กน้อยวิ่งจนไปถึงสวนหลังบ้าน ที่นั่นเป็นคอกเลี้ยงม้าของหนิงเฉินเซวียนและได้รวบรวมม้าชั้นยอดทั่วโลกมาไว้ด้วยกัน ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่หนิงเฉินเซวียนโปรดปรานมากที่สุด!
………………………………………….