ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2149 เสี่ยวเป่าเป็นคน ไม่ใช่เครื่องมือ + ตอนที่ 2150 ตาแก่สารเลวที่ไม่มีความเป็นมนุษย์
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 2149 เสี่ยวเป่าเป็นคน ไม่ใช่เครื่องมือ + ตอนที่ 2150 ตาแก่สารเลวที่ไม่มีความเป็นมนุษย์
ตอนที่ 2149 เสี่ยวเป่าเป็นคน ไม่ใช่เครื่องมือ
“นายสั่งสอนเสี่ยวเป่าอย่างไรกัน? ไม่เคารพผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่มีระเบียบเลยสักนิด ฉันคุยกับเขาแต่เขากลับทำเหมือนว่าฉันกำลังผายลม จนถึงตอนนี้เขายังไม่เรียกฉันสักคำ ทำแบบนี้ได้อย่างไร…”
หนิงเฉินเซวียนชี้ไปที่เฮ่อเหลียนเช่อพร้อมด่ากราด เสี่ยวเป่าที่อาบน้ำสะอาดเรียบร้อยแล้วซ่อนตัวอยู่ด้านหลังเฮ่อเหลียนเช่อ เขาถลึงตาจ้องหนิงเฉินเซวียนอย่างไม่พอใจ
ตาแก่เหม็นเขียวคนนี้เป็นคนชั่วร้าย ทำร้ายพ่อ แถมยังกักขังม้าเอาไว้อีก คนสารเลว!
เสี่ยวเป่าปกปิดอารมณ์ความรู้สึกภายในใจของเขาไม่เป็น ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ แล้วหนิงเฉินเซวียนจะไม่รู้สึกได้อย่างไร ความโกรธยิ่งพุ่งปรี๊ดขึ้นแล้วชี้ไปที่เสี่ยวเป่าพร้อมก่นด่าว่า “แกดูท่าทีของลูกแกเถอะ พูดด้วยตั้งนานไม่ตอบกลับสักคำ อยู่ที่นี่มาเป็นอาทิตย์แล้วยังไม่ยอมพูดสักคำเลย เป็นแบบนี้ได้อย่างไรกัน นี่เป็นการดูหมิ่นฉันชัด ๆ ฉันไม่ควรค่าที่จะคุยด้วยหรือไง?”
“คุณอาคิดมากไปแล้ว เสี่ยวเป่าเขาไม่ชอบพูดมาแต่ไหนแต่ไรต่างหาก ขนาดกับผมเองเขายังพูดด้วยไม่กี่คำเลย แล้วจะเอาอะไรกับเด็กตัวแค่นี้ ตะโกนเสียงดังแบบนี้ระวังเสี่ยวเป่าจะตกใจเอาได้นะ”
เฮ่อเหลียนเช่อมองหนิงเฉินเซวียนอย่างไม่พอใจ กับเด็กน้อยยังไม่รู้จักอดทน แบบนี้เขาจะวางใจให้เสี่ยวเป่าอยู่ที่นี่ต่อไปได้อย่างไร เขาก้มหน้าลงมองเสี่ยวเป่า พอเห็นเจ้าตัวเล็กยังปกติดีก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาขยิบตาให้เสี่ยวเป่าแล้วบีบแก้มป่องของเจ้าตัวเล็กที่กำลังยู่ปากอยู่ เขาก็รู้สึกชอบใจขึ้นมาในทันที
ผิวของน้องชายเขาเนียนนุ่มจริง ๆ บีบทุกวันก็ไม่พอ
หนิงเฉินเซวียนรู้สึกว่าพ่อลูกตรงหน้าพูดจาไม่น่าฟังทำตัวขัดหูขัดตา ความโมโหก็ยิ่งพุ่งปรี๊ดสูงขึ้น มีสิทธิ์อะไรเมินใส่เขา?
เขาคือราชาที่กำลังจะได้ครองบัลลังก์ และยังเป็นปู่ของเสี่ยวเป่าอีกต่างหาก!
“ในเมื่อไม่มีอะไรแล้วผมก็ต้องขอตัว ส่วนเสี่ยวเป่าผมก็ถือโอกาสพากลับไปด้วยเลยแล้วกัน คุณอาจะได้ไม่หงุดหงิดอีก” เฮ่อเหลียนเช่อถือโอกาสเสนอจะพาเสี่ยวเป่ากลับไปด้วย หลายวันมานี้เสี่ยวเป่าไม่อยู่บ้าน เขากับเหมยซูหานกินไม่ได้นอนไม่หลับ แม้แต่สุนัขสามตัวในบ้านก็ไม่ได้ทำให้มีชีวิตชีวาเหมือนเมื่อก่อนเลยสักนิด
ชีวิตที่ไม่มีเสี่ยวเป่าก็เหมือนชีวิตที่ขาดสีสัน ถึงจะเติมเท่าไรก็ไม่เต็มสักที
หนิงเฉินเซวียนถลึงตาใส่ “พาไปไม่ได้ ต่อจากนี้ไปเสี่ยวเป่าต้องอยู่กับฉัน ฉันต้องสั่งสอนกฎระเบียบให้เขามากกว่านี้ ในอนาคตหลานชายของฉันจะต้องทำการใหญ่ แต่ถึงขนาดไม่พูดสักคำเลยจะเป็นไปได้อย่างไร”
เวลานี้หนิงเฉินเซวียนเกิดความสงสัยเล็กน้อย เด็กที่อายุจะสองขวบแล้ว ต่อให้พูดไม่ได้ก็ต้องส่งเสียงเรียกคนได้บ้างไม่ใช่เหรอ?
อีกอย่างลูกหลานของพวกเขาตระกูลหนิงต่างก็มีความสามารถเกินวัยและพูดได้เร็วมาก เหมือนตอนเขาเพิ่งเจ็ดเดือนก็เรียกชื่อคนได้แล้ว พอถึงสองขวบก็จำบทกวีสมัยราชวงศ์ถังและซ่งได้อย่างคล่องแคล่ว แบบนี้ถือว่าเสี่ยวเป่าผิดปกติมาก
“พวกนายได้ทดสอบไอคิวของเสี่ยวเป่าแล้วหรือยัง ไอคิวของเขาเป็นอย่างไรบ้าง?” หนิงเฉินเซวียนนึกถึงประเด็นสำคัญขึ้นได้ สีหน้าก็ดูเคร่งเครียดทันที
หากว่าไอคิวของเสี่ยวเป่ามีปัญหา ต่อให้เหมือนเสี่ยวซีมากแค่ไหนเขาก็คงต้องปล่อยไปแล้วล่ะ
คนที่ไอคิวไม่ถึงมาตรฐาน ไม่สมควรเป็นทายาทผู้สืบทอดของเขา!
เฮ่อเหลียนเช่อมองหนิงเฉินเซวียนด้วยท่าทีระแวดระวัง “จะวัดไอคิวไปทำไม? ไอคิวของเสี่ยวเป่าไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน”
“แม้กระทั่งพูดยังพูดไม่ได้เลย แล้วจะไม่มีปัญหาได้อย่างไร? เรื่องนี้นายไม่ต้องยุ่ง อีกสองสามวันฉันจะหาคนมาวัดไอคิวดู หากว่าไอคิวไม่ถึงมาตรฐานนายก็เตรียมตัวคลอดหลานชายให้ฉันใหม่ คราวนี้คลอดหลาย ๆคนหน่อย เผื่อมีดีไม่ดีผสมปนเปกัน” หนิงเฉิวเซวียนกล่าวอย่างเย็นชา เพราะสำหรับเขาแล้วหลานชายก็เป็นแค่เพียงเครื่องมือ
“หมายความว่าไง? คุณอาคิดว่าเสี่ยวเป่าเป็นตัวอะไร? เขาเป็นคน มีชีวิตจิตใจเหมือนกัน ไม่ใช่สัตว์ คิดอยากจะเอาก็เอา พอไม่เอาก็โยนทิ้ง คุณอายังมีความรู้สึกอยู่บ้างไหม?”
เฮ่อเหลียนเช่อเข้าใจทันทีว่าหนิงเฉินเซวียนหมายความว่าอย่างไร ฉับพลันความโกรธก็พุ่งขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ราวกับภูเขาไฟที่กำลังจะปะทุขึ้นมา
“ผมต้องการแค่เสี่ยวเป่าคนเดียวและจะไม่คลอดหลานเพื่อคุณอาอีก ถ้าคุณอาอยากมีมากนักก็ไปมีเอง ผมจะไม่ทำตามใจคุณอาอีกต่อไปแล้ว!”
เฮ่อเหลียนเช่ออุ้มเสี่ยวเป่าขึ้นมาด้วยมือข้างเดียวแล้วหมุนตัวออกจากบ้านตระกูลหนิงไป
…………………………………………..
ตอนที่ 2150 ตาแก่สารเลวที่ไม่มีความเป็นมนุษย์
เหมยเหมยรู้เรื่องที่เสี่ยวเป่าก่อเรื่องใหญ่ที่บ้านตระกูลหนิงจากเหยียนหมิงซุ่นจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะชอบใจ
“เสี่ยวเป่าช่างน่ารักจริง ๆ หนิงเฉินเซวียนตาแก่โรคจิตคนนี้ไม่ได้ทำอะไรเสี่ยวเป่าใช่ไหม?” เหมยเหมยเป็นห่วงอยู่บ้าง
“เปล่า เฮ่อเหลียนเช่อไปทันเวลาพอดี เขาพาเสี่ยวเป่ากลับบ้านไปแล้ว” เหยียนหมิงซุ่นอมยิ้ม พอเขาเห็นภาพที่ลูกน้องถ่ายเก็บไว้ได้ตอนที่ม้าวิ่งชุลมุนกันก็อดมีความสุขขึ้นมาไม่ได้
ใบหน้าของหนิงเฉินเซวียนบนรูปภาพบึ้งตึงมาก ดูท่าจะโมโหจนถึงขีดสุดแต่จนปัญญาจะทำอะไรเสี่ยวเป่าได้
“เธอดูสิ เสี่ยวเป่าปล่อยม้าทั้งหมดออกมาเองคนเดียวเลยนะ เกือบจะเหยียบหนิงเฉินเซวียนตายด้วยซ้ำ”
เหยียนหมิงซุ่นหยิบรูปถ่ายให้เหมยเหมยดู เขาให้คนแฝงเข้าไปอยู่ในบ้านตระกูลหนิงหลายคนเพื่อเป็นหมากลับของเขา หนิงเฉินเซวียนและเฮ่อเหลียนเช่อต่างไม่มีใครรู้ เพราะแบบนี้เขาถึงได้รู้ทุกเรื่องของตระกูลหนิงอย่างทะลุปรุโปร่ง และรู้ถึงความเคลื่อนไหวของหนิงเฉินเซวียนอย่างชัดเจนด้วย
ตาแก่นี่ช่วยตัวเองไม่ได้อีกแล้ว ถึงเวลาโดนเก็บสักที!
เรื่องนี้จะจัดการก่อนงานแต่งงานของเขา และถือเป็นของขวัญสำหรับวันแต่งงานที่สมบูรณ์แบบให้ตัวเองด้วย!
เหมยเหมยเห็นฉากชุลมุนในภาพก็อารมณ์ดีขึ้นมาไม่น้อย ยิ่งเห็นเสี่ยวเป่าที่สกปรกจนเหลือเพียงดวงตาคู่เดียวก็ยิ่งหัวเราะจนน้ำตาไหล เจ้าตัวเล็กนี่ยิ่งเห็นก็ยิ่งทำให้รักมากขึ้นเรื่อย ๆ
“ม้าพวกนี้ทำไมถึงไม่ทำร้ายเสี่ยวเป่าล่ะ น่าแปลกจัง” เหมยเหมยพูดพึมพำกับตัวเอง
ม้าตั้งหลายตัวแถมยังชุลมุนวุ่นวายขนาดนั้นนั้น แต่กลับไม่มีม้าสักตัวเหยียบโดนเสี่ยวเป่าเลย ช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ
ฉิวฉิวที่แทะกุ้งมังกรน้อยอย่างเอร็ดอร่อยอยู่อีกด้านส่งเสียงฮึออกมาอย่างลำพองใจ หากมีลมหายใจที่คุณชายฉิวอย่างมันมอบให้ ไม่ต้องพูดถึงม้าจำนวนมหาศาลหรอก แม้กระทั่งเสือดุร้ายที่พุ่งลงมาจากภูเขาก็ไม่กล้าทำอะไรเสี่ยวเป่าทั้งนั้นแหละ
เหยียนหมิงซุ่นก็นึกถึงปัญหาข้อนี้เช่นกัน แต่เขารู้สึกว่าเสี่ยวเป่าน่าจะมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้สัตว์อยากเข้าใกล้มาตั้งแต่กำเนิด ถึงแม้ว่าเด็กเช่นนี้จะหายากแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี เสี่ยวเป่าน่าจะมีลักษณะดังกล่าว
“น่าจะเป็นเพราะเสี่ยวเป่ามีแรงดึงดูดให้สัตว์รักสัตว์ชอบละมั้ง พี่เห็นเขากับเหมยซูหานเลี้ยงสุนัขด้วยกันสามตัว แถมเล่นด้วยกันทุกวันเลยด้วย” เหมยเหมยอธิบาย
สุนัขที่เหมยซูหานเลี้ยงไว้ต่างก็มีขนาดใหญ่และดุร้ายมาก ต้าโช่วเป็นสุนัขพันธุ์ชาเป่ย เอ้อร์โช่วเป็นสุนัขพันธุ์บูลด็อก ซานโช่วเป็นสุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด แม้แต่ผู้ใหญ่ก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สุนัขทั้งสามตัวนี้เลย แต่เสี่ยวเป่ากลับกลายเป็นเพื่อนสนิทของพวกมัน แถมมักจะขี่สุนัขเล่นเป็นม้าแต่ก็ไม่เป็นอะไรสักอย่าง
“เฮ่อเหลียนเช่อพาเสี่ยวเป่ากลับไปด้วยก็ดีแล้ว อยู่กับหนิงเฉินเซวียนไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไร” เหมยเหมยโล่งอกแต่ไม่นานก็หนักใจขึ้นมาอีกครั้งเพราะคำพูดของเหยียนหมิงซุ่น
“หนิงเฉินเซวียนจะต้องเอาเสี่ยวเป่ากลับไปอีกครั้งแน่ อีกอย่างเขายังอยากจะให้เฮ่อเหลียนเช่อมีหลานให้เขาอีกเยอะ ๆ เพราะเรื่องนี้สองพ่อลูกึงทะเลาะกันใหญ่โตเลยล่ะ”
“ทำไมถึงอยากให้มีอีกหลายคนล่ะ?”
“เพราะว่าเสี่ยวเป่าไม่ยอมพูด หนิงเฉินเซวียนสงสัยว่าไอคิวของเขาจะมีปัญหาเลยเชิญคนมาทดสอบไอคิวของเสี่ยวเป่าเรียบร้อยแล้ว เหตุที่จะมีหลาย ๆคนหน่อยก็เพื่อจะได้มีตัวเลือกที่ดีที่สุดไง” เหยียนหมิงซุ่นพูดพลางส่ายศีรษะ หนิงเฉินเซวียนไม่มีความเป็นมนุษย์เลยสักนิด มิน่าล่ะเฮ่อเหลียนเช่อถึงได้ทะเลาะกับเขา
“ตาแก่สารเลว…นี่กำลังทำเหมือนเสี่ยวเป่าเป็นตัวอะไร เครื่องมือเหรอ? ถ้าหากเสี่ยวเป่าไอคิวต่ำก็จะทิ้งเขาไปสินะ? เขาทำแบบนี้ได้อย่างไร…” เหมยเหมยโมโหเป็นอย่างมาก
เธอเกลียดที่สุดก็คือการเอาเรื่องไอคิวมาพูด
บนโลกใบนี้ทุกคนจะมีไอคิวสูงทุกคนได้อย่างไร อีกอย่างไอคิวต่ำแล้วมันทำไมเหรอ ไอคิวต่ำก็ยังมีพรสวรรค์ เสี่ยวเป่ามีความสามารถทางศิลปะที่ยอดเยี่ยมขนาดนั้น ในอนาคตจะต้องกลายเป็นศิลปินที่ยอดเยี่ยมได้อย่างแน่นอน อนาคตไกลแล้วจะต้องกังวลอะไรอีก!
“ใจเย็น ๆ ไม่ต้องโมโหไป เฮ่อเหลียนเช่อไม่ทำตามอยู่แล้ว เสี่ยวเป่ามีเขาคอยปกป้องอยู่ ไม่เกิดอะไรขึ้นแน่นอน” เหยียนหมิงซุ่นปลอบใจเหมยเหมยที่กำลังโมโห
“อ้วก…”
เหมยเหมยโมโหมากจนรู้สึกพะอืดพะอมท้องไส้ปั่นป่วน เธอรีบเอามือปิดปากแล้วอยู่ห่างจากซุปปลาที่เหยียนหมิงซุ่นเพิ่งตักให้
…………………………………………..