ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2161 ม้าที่หล่อที่สุด + ตอนที่ 2162 ลอบจู่โจม
ตอนที่ 2161 ม้าที่หล่อที่สุด
เหยียนหมิงซุ่นทำหน้าตกใจ เพราะระหว่างเหมยเหมยกับเฮ่อเหลียนชิงก็เหมือนดาวหางกับโลก แค่มาเจอะกันก็ต้องทะเลาะกันอยู่ร่ำไป ฉะนั้นเขาจะกลับมาเพียงคนเดียวและน้อยครั้งนักที่พาเหมยเหมยกลับมาด้วย
ทำไมจู่ๆถึงพูดแบบนี้ล่ะ?
เหมยเหมยมองค้อนใส่เขาแวบหนึ่งแล้วแค่นเสียงเอ่ย “ถือว่าฉันไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น แล้วพี่ก็ไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้นด้วย”
ไม่ขานรับเธอแบบนี้มันทำให้เธอรู้สึกกระอักกระอ่วนใจเหลือเกิน อีกอย่างเธอก็ชักจะเสียใจขึ้นมาแล้ว เมื่อก่อนตาแก่เฮ่อเหลียนชิงก็รังแกเธอไม่ใช่น้อย ๆ ทำไมเธอต้องใจอ่อนกับตาแก่นี่ด้วย!
เหยียนหมิงซุ่นยิ้มอย่างรักใคร่ เขารู้อยู่แล้วว่ายัยโง่เป็นคนขี้ใจอ่อนที่สุด จึงเอ่ยเสียงอ่อนโยน “ได้ เราจะกลับมาบ่อย ๆแล้วกัน”
“ฉันไม่ได้พูดอะไรเลยนะ!” เหมยเหมยยู่ปาก
“พี่พูดเอง เธอแค่เออออตามสามีเท่านั้น” เหยียนหมิงซุ่นรู้ใจ เหมยเหมยยิ้มอย่างพึงพอใจ แบบนี้ค่อยยังชั่ว
“เอาล่ะ ที่ฉันพูดไปคงเข้าใจแล้วสินะ พรุ่งนี้ถ้ายังกล้าแอบขโมยทานมื้อเช้าของฉันก็อย่าหาว่าฉันใจร้ายล่ะ…แยกย้าย ขยันให้มันน้อย ๆหน่อย ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปสวนฉันคงไม่มีที่พอสำหรับลูก ๆหลาน ๆของพวกแกแล้วนะ!”
เฮ่อเหลียนชิงสะบัดมือส่งสัญญาณว่าสิ้นสุดคำเทศนาประจำวันของเขา บรรดาสุนัขแมวทั้งหลายก็เหมือนโล่งใจ พระเจ้า ในที่สุดเจ้าของก็บ่นเสร็จเสียที…
ได้ อะไรที่ควรทำก็ต้องทำ ไม่อย่างนั้นวัน ๆกินเยอะขนาดนั้นก็ต้องหางานทำสักหน่อยสิ!
“พวกแกมาที่นี่ทำไม? ไม่มีธุระอะไรก็ไม่จำเป็นต้องมาบ่อย ๆหรอก รำคาญ!”
เฮ่อเหลียนชิงถลึงตาใส่ทั้งคู่อย่างไม่พอใจนัก เจ้าพวกนี้ไร้หัวใจยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานเสียอีก ตลอดปีแทบไม่เคยมาทานข้าวกับเขาสักมื้อ เหอะ เขาก็ไม่ง้อหรอก!
ความใจอ่อนที่เหมยเหมยมีต่อเขาเมื่อครู่หายวับไปในทันที เธอสวนกลับไปโดยไม่ต้องคิดด้วยซ้ำ “คุณอย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย ฉันมาหาโฉ่วโฉ่วหรอก ใครมาเยี่ยมคุณกัน!”
เธอแค่นเสียงใส่เบา ๆทีหนึ่งแล้วกลอกตาใส่เฮ่อเหลียนชิง ก่อนจะหมุนตัววิ่งไปสวนหลังบ้าน โฉ่วโฉ่วอยู่ที่นั่น เฮ่อเหลียนชิงสร้างสนามหญ้าขนาดเล็กไว้ให้โฉ่วโฉ่วโดยเฉพาะเพื่อให้โฉ่วโฉ่วได้วิ่งเล่นตามสบาย
นี่จึงเป็นเหตุผลที่โฉ่วโฉ่วยังมีสัญชาตญาณความเป็นสัตว์ป่าอยู่ บวกกับยาวิเศษของเหมยเหมยจึงทำให้กลายเป็นม้าที่หล่อเหลาที่สุดในบรรดาฝูงม้าเชียวล่ะ!
เฮ่อเหลียนชิงมองไปทางเหยียนหมิงซุ่นอย่างโกรธเคือง “ดูสิ…ดูสิ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เป็นเพราะแกคอยให้ท้ายอยู่เรื่อยไงล่ะ”
“พ่อเองก็ไปท้าทายเขาก่อน เมื่อกี้เหมยเหมยเพิ่งบอกว่าจะกลับมาทานข้าวกับพ่อบ่อย ๆ แต่พ่อก็ดันไปยั่วโมโหเธอซะได้” เหยียนหมิงซุ่นตอบกลับเสียงเย็นประโยคหนึ่ง ผู้หญิงของเขาเขาก็ต้องรักและตามใจอยู่แล้วสิ
เฮ่อเหลียนชิงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “แม่นั่นจะใจดีขนาดนี้เชียว? แกอย่าพูดดีแทนเธอไปหน่อยเลย ฉันไม่ใช่คนที่จะหลอกได้ง่าย ๆหรอกนะ”
เขาให้เสี่ยวเมิ่งเข็นเข้าห้องเพื่อทานมื้อเช้าต่อ เหยียนหมิงซุ่นมีเรื่องปรึกษาเขาเลยเดินเข้าไปพร้อมกัน
เหมยเหมยมาถึงถิ่นฐานของโฉ่วโฉ่วอย่างคุ้นเส้นทาง แม้จะเป็นสนามหญ้าขนาดเล็กแต่ก็มีขนาดเกือบสิบไร่ นั่นจึงเพียงพอให้โฉ่วโฉ่ววิ่งโลดแล่นได้ตามใจอยากแล้ว
“โฉ่วโฉ่ว…ฉันมาแล้ว!”
เหมยเหมยเห็นจุดดำ ๆแต่ไกลจึงตะโกนเรียกเสียงดัง โฉ่วโฉ่วผู้แสนสง่าวิ่งมาตามเสียง ขนดำเงาปลิวไปตามสายลม เส้นเว้าโค้งของร่างกายขยับลื่นไหลเหมือนผ่านการตัดต่อรูปจากคอมพิวเตอร์ ไม่ได้น่าเกลียดเหมือนชื่อเลยสักนิด
โฉ่วโฉ่วเห็นเหมยเหมยก็ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น มันก้มศีรษะลงถูหน้าเธอคล้ายกำลังอ้อนก็ไม่ปาน แน่นอนว่าเจ้าตัวใหญ่นี่กำลังอ้อนอยู่จริง ๆ
“เจ้านายมาแล้ว…มีของอร่อยให้กินอีกแล้ว…ทำไมเจ้านายยังไม่เอาของอร่อยออกมาอีกล่ะ ต้องรบเร้าเจ้านายอีกหน่อย…”
โฉ่วโฉ่วไม่ได้เม็ดยาวิเศษแสนอร่อยอย่างที่รอคอยก็เริ่มร้อนใจ แลบลิ้นเลียศีรษะเหมยเหมย กลิ่นเหม็นเขียวของหญ้าทำให้เหมยเหมยรีบอุดจมูกแล้วถอยหนี
“เหม็นจะตายอยู่แล้ว ฉันจะให้แกกินตอนนี้แหละ ไอ้ตัวแสบ…”
เหมยเหมยล้วงเม็ดยาวิเศษออกมาพร้อมรอยยิ้ม จากนั้นก็วางไว้บนฝ่ามือโฉ่วโฉ่วแลบลิ้นกว้านเอาเข้าปากเกลี้ยง อร่อยจัง!
โฉ่วโฉ่วได้กินเม็ดยาวิเศษสมใจจึงกึ่งย่อตัวลงบนพื้นสนามหญ้าเป็นเชิงให้เหมยเหมยขี่มัน มันจะพาเจ้านายไปเดินเล่น เหมยเหมยยิ้มแล้วนั่งควบมัน โฉ่วโฉ่ววิ่งอย่างมั่นคงซึ่งต่อให้เธอไม่ต้องจับมันก็ไม่มีทางล้มแน่นอน
สองคนที่อยู่ในมุมลับตาคนต่างตกใจจนมองหน้ากัน ม้าที่เข้ากับคนง่ายขนาดนี้ช่างเห็นได้น้อยนัก ดูท่าทางนายท่านของพวกเขาคงยากที่จะเอาชนะได้อีกแล้ว!
……………………….
ตอนที่ 2162 ลอบจู่โจม
ชายสองคนนี้เป็นลูกน้องของหนิงเฉินเซวียนที่ได้รับคำสั่งจากหนิงเฉินเซวียนให้มาที่นี่ กว่าจะลักลอบเข้ามาหลังสวนฟาร์มได้ช่างยากลำบากนัก พวกเขาเตรียมลงมือทำร้ายโฉ่วโฉ่วเพื่อให้ม้าของหนิงเฉินเซวียนได้รับชัยชนะ
เดิมทีลูกน้องสองคนนี้ยังคิดว่าหนิงเฉินเซวียนทำเรื่องไร้สาระ แต่เท่าที่ดูตอนนี้นายท่านของพวกเขาคิดการณ์ไกลจริง ๆ
“รอผู้หญิงคนนั้นไปแล้วค่อยลงมือเหรอ?” สองคนทำหน้าลังเล
พวกเขาซุ่มอยู่ตรงนี้มาเกือบครึ่งค่อนคืนเพื่อช่วงเวลาอันสั้นนี้ เพราะช่วงเวลานี้ระบบความปลอดภัยของคอกม้าผ่อนปรนมากที่สุด หลังจากพวกเขาลงมือเสร็จก็จะสามารถหนีไปได้อย่างราบรื่น
แต่ตอนนี้มีคนเพิ่มเข้ามาจึงยิ่งทำให้เรื่องนี้จัดการยากขึ้นกว่าเดิม!
“รอไม่ได้แล้ว ต้องลงมือตั้งแต่ตอนนี้ไม่อย่างนั้นเราต้องตายอยู่ที่นี่แน่”
“ได้ รอม้ามาก็ลงมือเลย”
พวกเขาสองคนตกลงความเห็นกันพลางมองไปตรงหน้าอย่างจดจ่อ โฉ่วโฉ่วที่มีเหมยเหมยนั่งควบหลังเดินใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ สองคนนี้มีมีดสั้นพกพาอยู่หลายเล่ม พวกเขารอจังหวะสร้างบาดแผลให้กับเท้าของโฉ่วโฉ่วอยู่ เหลือเวลาอีกไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ก็จะถึงวันแข่งขันแล้ว หากโดนมีดสั้นพกพาบาดเท้าต้องไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้อย่างแน่นอน
แผนการของหนิงเฉินเซวียนช่างโหดร้ายจริง ๆ!
เวลานี้เป็นช่วงเดือนพฤษภาคมพอดี สนามหญ้าเต็มไปด้วยดอกไม้ป่าอันสวยงาม สีแดงสีขาวสีเหลือสีม่วงปะปนกันไปซึ่งช่วยแต่งแต้มให้สนามหญ้าดูงดงามเป็นพิเศษ
เหมยเหมยเห็นแล้วสนใจ ฉิวฉิวอยู่กับเฮ่อเหลียนชิงเลยไม่สามารถทำงานให้เธอได้ เธอจึงสั่งให้โฉ่วโฉ่วเก็บดอกไม้ให้เธอ
“ดอกเดซี่สีแดงนั่น แล้วก็สีขาวด้วย…เก่งมาก ตบรางวัลเป็นเม็ดยาวิเศษแล้วกันนะ!”
โฉ่วโฉ่วเป็นม้าแสนรู้ แค่เหมยเหมยชี้นิ้วเขาก็แลบลิ้นดึงดอกไม้แสนสวยมาไว้ในปากแล้วค่อยเงยศีรษะขึ้นยื่นให้เหมยเหมย เพียงครู่เดียวในมือเหมยเหมยก็มีดอกไม้แสนสวยช่อใหญ่แล้ว
เหมยเหมยเด็ดเอาดอกสีแดงเหน็บไว้ข้างหูรวมถึงโฉ่วโฉ่วด้วย
“สวยจัง โฉ่วโฉ่วเป็นม้าที่หล่อที่สุด ม้าที่สวยอันดับหนึ่งเลยล่ะ” เหมยเหมยกอดคอโฉ่วโฉ่วหัวเราะคิกคักแล้วยังเกาให้มันอีกด้วย
โฉ่วโฉ่วพ่นลมทางจมูกพลางบ่นในใจ รู้ว่าเขาหล่อที่สุดแล้วยังตั้งชื่อแสนน่าเกลียดนี้ให้เขาอีก ลูกพี่ฉิวมักเอาเรื่องชื่อของเขามาล้อเขาทุกที มันน่าโมโหชะมัดเลย!
“นี่ โฉ่วโฉ่วแกใกล้จะอายุสี่ขวบแล้วนะ โตเป็นหนุ่มแล้ว หาภรรยาได้แล้ว โฉ่วโฉ่วชอบแบบไหนเหรอ ตัวสีเผือกเหมือนแม่ของแกหรือว่าสีดำขลับเหมือนตัวแกดีล่ะ?”
เหมยเหมยนับนิ้วดูจึงพบว่าม้าตัวน้อยในวันนั้นได้โตเป็นหนุ่มแล้ว พลันก็รู้สึกภาคภูมิใจเหมือนคนเป็นพ่อแม่จนเริ่มกังวลถึงเรื่องสำคัญในชีวิตอย่างการสมรสของลูกชายแสนน่ารักน่าชังของตนขึ้นมา
โฉ่วโฉ่วพ่นลมออกทางจมูกอย่างไม่ใส่ใจ ม้าธรรมดาไม่เข้าตาเขาหรอกนะ หากตามหาม้าที่ถูกใจไม่พบยอมขอเป็นโสดไปทั้งชีวิตดีกว่า
เหมยเหมยนั่งจนเหนื่อยเพราะอาการประจำเดือนในครั้งนี้มาแปลกมากจนรู้สึกปวดเมื่อยบริเวณเอวเหลือเกิน เธอแค่ควบม้าไปเพียงครู่เดียวก็รู้สึกเมื่อยเหมือนเอวจะหักแล้ว
“โฉ่วโฉ่ว ฉันของีบหน่อย แกเดินช้า ๆหน่อยนะ!”
เหมยเหมยหันหน้ามองฟ้าแล้วนอนพิงบนแผ่นหลังกว้างของโฉ่วโฉ่วทั้งอย่างนั้น แถมยังหลับตาลงก่อนที่โฉ่วโฉ่วจะลดความเร็วลงกลายเป็นการเดินช้า ๆ จังหวะเท้าที่มั่นคงทำให้เหมยเหมยเริ่มง่วง
“ฮี่…”
จู่ ๆโฉ่วโฉ่วก็ยกเท้าหน้าขึ้นสูงห่างจากพื้นอย่างน้อยหนึ่งเมตร แสงวาบสีขาวพุ่งมาที่เท้าจนเกือบปักโดนกีบเท้าหน้าของมันเข้า เกือบไปแล้วจริง ๆ
เหมยเหมยแทบร่วงลงมา โชคดีที่ถึงแม้ว่าโฉ่วโฉ่วจะอยู่ในวินาทีอันตรายแต่ก็ไม่ลืมเจ้านายที่อยู่บนหลัง โฉ่วโฉ่วคอยดูแลอยู่ตลอดถึงทำให้เหมยเหมยไม่ร่วงลงมา ความง่วงของเธอหายเป็นปลิดทิ้งแล้วเผลอกำขนของโฉ่วโฉ่วตามสัญชาตญาณ แต่สมองยังไม่ทันตื่นตัวดี
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
มีแสงวาบสีขาวอีกหลายเส้นพุ่งเข้ามา โฉ่วโฉ่วหลบอย่างคล่องแคล่ว แต่กลับหลบไม่พ้นจึงต้องวิ่งกระดกถี่กว่าเดิม เหมยเหมยตัวสั่นคลอนจนความดันขึ้นแล้วเกิดความรู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาชั่วขณะ!
………………………