ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2325 ทางที่ดีที่สุดคือหย่า + ตอนที่ 2326 แกล้งป่วย
ตอนที่ 2325 ทางที่ดีที่สุดคือหย่า
ฉางชิงซงทำหน้าผิดหวังอย่างมาก เขาสื่อว่าจะกลับไปซื้อตั๋วรถให้แม่เขาทันทีที่ถึงบ้าน แล้วหวังว่าฉีฉีเก๋อจะกลับบ้านไปกับเขาก่อน
“ขอแค่แม่พี่ยังอยู่บ้านหนึ่งวัน ฉันก็จะไม่มีทางกลับบ้านแน่นอน”
ฉีฉีเก๋อไม่หวั่นไหวเลยสักนิด เธอจะไม่เป็นคนที่ไร้ศักดิ์ศรีอีกต่อไป คุณแม่ฉางต้องกลับไป!
ฉางชิงซงจำต้องลากลับก่อน ฉีฉีเก๋อพรูลมหายใจเฮือกหนึ่งที่ไหล่ลู่ลงพลางทำหน้าตึงเครียด
“เธอจะเครียดทำไม? ต้องหนักแน่นเหมือนเมื่อกี้สิ อย่าหูเบาเกินไป คำพูดของผู้ชายเชื่อได้แค่ครึ่งเดียว ถ้าเธอเชื่อหมดเธอนั่นแหละที่โง่!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนถือโอกาสสั่งสอนจนเผลอลืมตัวว่าอยู่ที่ใด
พอเหยียนหมิงซุ่นได้ยินว่าฉางชิงซงกลับไปแล้วจึงออกมาจากห้องหนังสือ แต่เมื่อได้ยินคำพูดของคุณหนูใหญ่เหริ่นเข้าจึงอดขมวดคิ้วไม่ได้
เพื่อนคนนี้ของเหมยเหมยค่อนข้างเป็นคนมีน้ำใจแต่ปากนี่…
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไม่รู้ว่าเหยียนหมิงซุ่นออกมาแล้วจึงยังพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด “ถ้อยคำหวาน ๆของผู้ชายเธอก็ถือว่าเป็นลมตด ประเด็นคือต้องกำเงินไว้ให้ดี เงินเดือนกับเงินพิเศษของฉางชิงซงต้องให้เธอไม่ขาดแม้แต่หยวนเดียว ครั้งนี้ต้องพูดให้ชัดเจน ฉันบอกเธอไว้เลยนะ ความจริงผู้ชายน่ะเป็นพวกชอบอยู่ไม่สุข จะดีกับเขามากไม่ได้ ต้องคอยตักเตือนเป็นระยะ ๆ…”
“อะแฮ่ม…”
เหยียนหมิงซุ่นทนฟังต่อไม่ไหวแล้วจริง ๆ ยิ่งพูดก็ยิ่งไม่เข้าท่า
เสียงของเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนหยุดชะงักทันทีพลางทำหน้าตกใจ โอ๊ย คุณท่านคนนี้ออกมาตั้งแต่เมื่อไร?
ไม่มีเสียงเคลื่อนไหวสักนิดอย่างกับวิญญาณแหนะ!
“เอ่อ…ฉันกลับก่อนล่ะ…ฉีฉีเก๋อเธอทำตามที่ฉันบอกล่ะ อย่าทำเป็นหูทวนลมอีกนะ…”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกได้ถึงสายตาเยือกเย็นของเหยียนหมิงซุ่นจึงไม่กล้าอยู่ต่อก่อนจะขอตัวกลับไปอย่างเร็ว
ฉีฉีเก๋อเองก็กลัวเหยียนหมิงซุ่นอยู่บ้างเลยส่งยิ้มให้เขาก่อนจะลุกยืนแล้วเดินกลับเข้าห้องเหลือพื้นที่ไว้ให้สองสามีภรรยาเหมยเหมย
เหมยเหมยเห็นแล้วก็นึกขำ เหยียนหมิงซุ่นไม่น่ากลัวสักนิด ทำไมเพื่อนของเธอถึงกลัวเขาขนาดนี้กันนะ?
“วันนี้ลูกเป็นเด็กดีไหม?” เหยียนหมิงซุ่นนั่งลงข้าง ๆเหมยเหมยแล้วยื่นมือลูบหน้าท้องเธอไปมา มีเท้าเตะเขาเหมือนอย่างเคยและแรงมากขึ้นเรื่อย ๆอีกต่างหาก
เหยียนหมิงซุ่นอมยิ้มน้อย ๆ พอย้ายมือไปที่ไหนเท้าเล็ก ๆก็จะขยับตามมาเตะทันที
เหมยเหมยห้ามมือเหยียนหมิงซุ่นไว้พลางพูดตำหนิ “ทำตัวเหมือนเด็กขึ้นทุกวัน แค่นี้ก็เล่นสนุกเชียว!”
เหยียนหมิงซุ่นลูบจมูกแล้วพูดขึ้น “ต้องเป็นเด็กผู้ชายแน่เลย แรงเยอะขนาดนี้ ไหวพริบก็ดีด้วย ไม่เลวเลย”
เหมยเหมยเองก็คิดว่าเป็นเด็กผู้ชายเช่นกันเพราะวัน ๆเหมือนตีลังกาอยู่ในท้องของเธอ ซนขนาดนี้ต้องเป็นผู้ชายอย่างไม่ต้องสงสัย
“ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็เป็นลูกของฉันทั้งนั้น” เหมยเหมยก้มหน้ามองท้องที่มีรังสีความเป็นแม่แผ่ออกจากรอบตัว
เหยียนหมิงซุ่นคิดอะไรออก เขาไม่ได้รบกวนเหมยเหมยแต่ลุกย่องไปเอากล้องถ่ายรูปมากดถ่ายภาพนี้เอาไว้
บันทึกช่วงเวลาอันแสนงดงามนี้ไว้เป็นที่ระลึกให้ลูก เพื่อไม่ให้เขาลืมความลำบากตอนแม่ตั้งครรภ์
ทั้งคู่ซบพิงกันก่อนจะเริ่มคุยเรื่องสัพเพเหระ เมื่อครู่แม้เหยียนหมิงซุ่นจะอยู่ในห้องหนังสือแต่เขากลับได้ยินคำพูดทุกประโยคของฉางชิงซง จากที่เขามองความในใจของผู้ชายคนนี้ก็พอรู้ว่าตำแหน่งของแม่สำคัญกว่าภรรยาอย่างแน่นอน
อีกอย่างถึงฉางชิงซงจะเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง มีการศึกษาความรู้ระดับสูงแต่ความคิดของเขายังเป็นแนวความคิดสังคมชายเป็นใหญ่แบบดั้งเดิม สิ่งสำคัญที่สุดคือผู้ชายคนนี้ใจแคบขี้เหนียว ยอมให้ฝ่าฝันแต่เพียงความลำบากไปด้วยกันแต่ยากที่จะแบ่งปันความสุขสบายให้แก่กัน
นับว่าไม่ใช่คนดีอะไร!
“ความจริงวิธีที่ดีที่สุดคือหย่า ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาอีกต่อไป” เหยียนหมิงซุ่นบอก
เหมยเหมยหยักไหล่ “ฉันก็คิดว่านี่เป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่ชีวิตเป็นของฉีฉีเก๋อให้เธอตัดสินใจเองดีกว่า บางทีฉางชิงซงอาจจะปรับปรุงตัวก็ได้!”
“ไม่มีทาง…พี่พนันกับเธอได้เลยว่าแม่ของเขาต้องอยู่ต่อแน่นอน”
เหยียนหมิงซุ่นพูดอย่างมั่นใจแล้วลุกไปคั้นน้ำส้มที่ห้องครัว คนท้องต้องทานวิตามินให้มาก น้ำส้มคั้นหนึ่งแก้วต่อวันจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น
……………………..
ตอนที่ 2326 แกล้งป่วย
เหยียนหมิงซุ่นพูดถูกเผงเพราะยายแก่ปีศาจไม่ได้กลับไปตามคาด
ช่วงเที่ยงของวันรุ่งขึ้นฉางชิงซงก็มาหาและดูท่าทางเหนื่อยล้าอย่างมาก บอกว่าแม่ของเขากำลังให้น้ำเกลืออยู่เพราะเมื่อคืนจู่ ๆก็ล้มป่วยไป
“ฉีฉีเก๋อ พี่ขอลามาแค่สัปดาห์เดียว ไม่มีเวลาจริง ๆ เธอกลับมาได้ไหม?” ฉางชิงซงอ้อนวอน
ฉีฉีเก๋อมีสีหน้าลังเลหน่อย ๆ เหมยเหมยถามขึ้นว่า “ทำไมจู่ ๆแม่ของนายถึงป่วยได้ล่ะ? ป่วยเป็นโรคอะไรเหรอ?”
ฉางชิงซงถอนหายใจ “โรคเดิม ๆแหละ โรคข้ออับเสบเรื้อรังที่มักจะกำเริบอยู่บ่อย ๆ”
ฉีฉีเก๋อกัดฟัน “จ้างพี่เลี้ยงเถอะ ตอนนี้ฉันดูแลตัวเองยังแทบไม่ได้ไม่มีกำลังไปดูแลแม่ของพี่หรอก และฉันก็จะไม่กลับบ้าน ฉันยังไม่เปลี่ยนคำพูดนะ ถ้าแม่พี่ยังอยู่บ้านหนึ่งวันฉันก็จะไม่มีวันกลับไปอีก”
ฉางชิงซงมองเธออย่างระอา “ฉีฉีเก๋อเธอช่วยมีเหตุผลหน่อยได้ไหม? ตอนนี้แม่ฉันลงจากเตียงยังไม่ได้ เธอจะให้กลับบ้านอย่างไร? อีกอย่างเธอจะอยู่บ้านจ้าวเหมยระยะยาวก็ไม่ได้หรือเปล่า?”
“ไม่เป็นไร ฉันไม่ถือสา” เหมยเหมยยิ้มตาหยีเอ่ย
ฉางชิงซงหมดคำจะพูดและรู้สึกขุ่นเคืองอย่างมาก คิดว่าฉีฉีเก๋องี่เง่าเกินไปแล้ว
แม่ของเขาป่วยหนักขนาดนั้นยังทำตัวเหมือนเด็กน้อยอีก ไม่คิดจะเข้าอกเข้าใจถึงความลำบากของเขาสักนิดเลย อีกอย่างจ้างพี่เลี้ยงต้องใช้เงินเท่าไร เขาเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะขนาดนั้นกัน?
คราวนี้ฉีฉีเก๋อตัดสินใจแน่วแน่ต่อให้ฉางชิงซ่งหว่านล้อมอย่างไรก็ไม่ยอมตกลงง่าย ๆ
หลังจากฉางชิงซงกลับไปเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก็มาถึงทันที พอเธอได้ยินว่าฉีฉีเก๋อไม่ยอมรับปากจะกลับไปเลยพรูลมหายใจยาว “แบบนี้สิ จะกลับไปไม่ได้เด็ดขาด ยายแก่ปีศาจนั่นต้องแกล้งป่วยแน่ ๆ ไม่อย่างนั้นทำไมพอจะให้กลับบ้านแล้วถึงป่วยขึ้นมาซะล่ะ? ไม่มีเรื่องบังเอิญขนาดนี้หรอก!”
“ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ หลายวันก่อนยังแข็งแรงดีอยู่เลย แต่จู่ ๆก็ลงจากเตียงไม่ได้คงมีแค่เจ้าโง่อย่างฉางชิงซงเท่านั้นแหละที่เชื่อ ฉีฉีเก๋อเธอพักที่บ้านฉันให้สบายใจได้เลย ถ้ายายแก่ปีศาจนั่นไม่กลับเธอก็ไม่ต้องกลับ ครั้งนี้ต้องรั้นให้สุดเลยนะ” เหมยเหมยบอก
“อืม…เข้าใจแล้ว ขอบคุณพวกเธอนะ…” ฉีฉีเก๋อตาแดงก่ำอีกครั้ง หญิงสาวที่แต่เดิมมีนิสัยร่าเริงแจ่มใสกลายเป็นสาวน้อยขี้แงคิดมากเพราะความทุกข์ของชีวิตคู่เสียได้
“เราไม่ต้องการคำขอบคุณของเธอ แค่เธอมีชีวิตที่ดีก็พอแล้ว!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนโต้กลับอย่างไม่สบอารมณ์นัก
บรรดาเพื่อนรักสามคน เธอกับเหมยเหมยมีความสุขสบายดี มีเพียงฉีฉีเก๋อที่ชีวิตรันทดมากขนาดนี้ ในฐานะเพื่อนสนิทอย่างเธอจะรู้สึกดีได้อย่างไร?
********
ฉางชิงซ่งกลับบ้านในสภาพคอตกหางลู่ พอคุณแม่ฉางได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากทางบันไดก็รีบปิดโทรทัศน์มุดเข้าที่นอน หน้าผากยังมีผ้าขนหนูวางไว้อย่างเกินจริงราวกับคนอยู่เดือนก็ไม่ปาน พร้อมส่งเสียงร้องครางแผ่วเบาไปด้วย
ประตูถูกผลักเปิดออก ฉางชิงซงเดินเข้ามา คุณแม่ฉางไม่เห็นฉีฉีเก๋อใจก็เต้นตุบตับ “เมียของลูกล่ะ? ทำไมไม่กลับมา?”
“แม่ ผมส่งแม่กลับบ้านเกิดแล้วกัน อีกสองวันผมต้องกลับไปทำงานแล้วที่บ้านไม่มีคนดูแลแม่ กลับบ้านไปยังมีพ่อคอยดูแลแม่อยู่” ฉางชิงซงคิดมาตลอดทางสุดท้ายก็ตัดสินใจส่งแม่ของเขากลับบ้าน
เขาไม่มีปัญญาจ้างพี่เลี้ยง เรื่องเล็กน้อยแต่กลับสำคัญเหลือเกิน!
“ทำไมจะไม่มีคนดูแล ให้เมียของลูกกลับมาดูแลฉันสิ ดูแลแม่สามีเป็นหน้าที่ของลูกสะใภ้ ลูกรีบให้เธอกลับมาได้แล้ว!”
คุณแม่ฉางไม่ยอมกลับบ้านเกิดอยู่แล้ว เมืองหลวงทั้งหรูหราทั้งคึกครื้น เธอไปเต้นรำกับกลุ่มคนเฒ่าคนแก่ที่สวนสาธารณะทุกวัน มีคนชมว่าเธอเต้นท่วงท่าบิดตัวได้สวย ถ้าอยู่บ้านเกิดคนอื่นต้องนินทาเธออีกแน่ ๆ
คนในเมืองใหญ่มีโลกทัศน์กว้างเช่นนี้ ไม่เหมือนคนที่มาจากเมืองเล็ก ๆโลกแคบ เธอกลับไปคงอึดอัดตาย ไม่ง่ายเลยกว่าสามีเธอจะยอมตกลงให้มาที่นี่ ไม่ว่าอย่างไรเธอจะไม่กลับไปเด็ดขาด
………………………