ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2345 อย่าพูดเสียเวลา + ตอนที่ 2346 สวมเขี้ยวไหน
ตอนที่ 2345 อย่าพูดเสียเวลา
“โอ้โห…เหยียนหมิงซุ่นกล้ามีชู้เหรอ?”
สยงมู่มู่ที่ตามมาติด ๆทำท่าขึงขังหมายจะเดินเข้าไปหาเรื่องแต่ถูกเซียวเซ่อกระชากแขนไว้ เธอเดินนำหน้าด้วยสีหน้าเย็นชา
เหยียนหมิงซุ่นมุ่นคิ้วอย่างรังเกียจ เขาไม่คิดว่าโม่เฉี่ยวหลิงจะกล้าปรากฏตัวที่นี่แล้วยังพูดจาน่าขยะแยงออกมาได้
“หลีกไป…เธอจะชอบใครก็ไม่เกี่ยวกับฉัน!” เหยียนหมิงซุ่นหมุนตัวจะขึ้นรถ หากเมื่อครู่ไม่ใช่เพราะโม่เฉี่ยวหลิงเอาตัวมาขวางไว้หน้ารถกะทันหันเขาก็ไม่จอดรถหรอก
“แต่คนที่ฉันชอบคือพี่นะ…” โม่เฉี่ยวหลิงตะโกนบอกอย่างไม่สนใจสิ่งรอบตัว
เธอตัดสินใจทุ่มหมดหน้าตักแล้ว
เพราะป้าสะใภ้ใหญ่ก่อเรื่องที่หมู่บ้านหนหนึ่งจนคนทั้งหมู่บ้านรู้กันโดยทั่วว่าเธอโม่เฉี่ยวหลิงก็คือคางคกที่คิดจะกินเนื้อห่าน ใจหวังสูงเสียดฟ้าไม่รู้จักตักน้ำชะโงกดูเงาตัวเองบ้าง
เดิมทีเธอยังเหมือนหงส์ทองในหมู่บ้าน แต่ตอนนี้…กลับอนาถยิ่งกว่าอีกาที่ใคร ๆก็ต่างหัวเราะเยาะเธอ
หวงจื้อเกาก็ไม่สนใจเธอแล้ว อีกทั้งบรรดาเพื่อนจากบ้านเกิดเดียวกันที่มาทำงานในเมืองหลวงก็ไม่รู้ว่าไปฟังข่าวมาจากไหนถึงได้ส่งข่าวต่อ ๆกันจนข่าวลือสะพัดไปทั่วทุกหนแห่ง บอกว่าเธอไปเสนอตัวเป็นเมียน้อยถึงที่บ้านแต่ถูกเมียหลวงไล่ออกมา!
โม่เฉี่ยวหลิงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอผ่านชีวิตช่วงนี้มาได้อย่างไร เวลาหนึ่งวันยาวนานเหมือนเป็นปี เวลาทำงานก็เอาแต่ฟุ้งซ่านจนทำผิดพลาดไปหลายต่อหลายครั้ง
เธอไม่โทษเหยียนหมิงซุ่นแต่กลับแค้นเหมยเหมยเข้ากระดูก
ต้องเป็นยายแพศยานั่นแอบเล่นงานเธอลับหลังแน่!
ในเมื่อบังคับให้มาถึงทางตัน เช่นนั้นเธอก็ตัดสินใจทุ่มหมดหน้าตักแล้ว!
ผู้ชายตามจีบผู้หญิงยากเหมือนมีภูเขากั้นไว้ แต่ผู้หญิงตามจีบง่ายดายเหมือนมีผ้าบาง ๆกั้นไว้เท่านั้น ผู้ชายล้วนแต่ชอบหาเศษหาเลยข้างนอกอยู่แล้ว อีกทั้งจ้าวเหมยกำลังท้องโตเหยียนหมิงซุ่นต้องอดทนแย่แน่ ๆ ขอเพียงเธอชิงเปิดใจก่อนแล้วไม่ทำตัวเหนียมอายเหมือนหญิงสาวชาวตะวันตก เหยียนหมิงซุ่นที่กำลังหิวโซไม่มีทางปฏิเสธเธอแน่ ๆ
อย่างน้อยเธอก็ยังเป็นหญิงบริสุทธิ์อยู่นะ!
อีกทั้งหน้าตาหุ่นก็ไม่แย่ ผู้ชายก็ชอบความสดใหม่นี้ไม่ใช่หรือ?
โม่เฉี่ยวหลิงมั่นอกมั่นใจนักหนา เธอถึงขั้นคิดไว้ดิบดีว่าเป็นชู้รักของเหยียนหมิงซุ่นก่อนค่อยหาทางเบียดตำแหน่งของจ้าวเหมยช้า ๆ แล้วก้าวขึ้นตำแหน่งคุณนายเหยียนทีหลัง
“เหยียนหมิงซุ่น…ฉันชอบพี่จริง ๆนะ…เพื่อพี่ฉันยอมทิ้งศักดิ์ศรี…” โม่เฉี่ยวหลิงตะโกนแล้วพุ่งเข้าไปกอดเหยียนหมิงซุ่นไว้
เธอเฝ้ารออยู่แถวนี้มาตั้งสามวันกว่าจะเจอตัว ถ้าไม่รีบสารภาพออกไปไม่รู้ว่าวันหน้าจะมีโอกาสอีกหรือเปล่า!
“เพี้ยะ”
เหยียนหมิงซุ่นได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากด้านหลัง เมื่อครู่เพิ่งเบี่ยงตัวหลบยังไม่ทันหันกลับไปก็ได้ยินเสียงดังขึ้นเสียแล้ว
เหมือนมีของหนักร่วงตกพื้น
เขาหันหลังกลับมาด้วยความสงสัยแต่กลับเห็นโม่เฉี่ยวหลิงที่น่ารังเกียจกำลังล้มหน้าคะมำจุ่มพื้นอยู่ คุณหนูใหญ่เซียวเอาเท้าเหยียบเธอไว้แรง ๆจนหน้าบิดเบี้ยว
“ผู้หญิงคนนี้คือชู้รักของนายเหรอ?” เซียวเซ่อมองเหยียนหมิงซุ่นอย่างเย็นชา
“จะเป็นงั้นไปได้ยังไง? แค่คนไร้สมองคนหนึ่งเท่านั้น” เหยียนหมิงซุ่นไม่พอใจกับคำว่าชู้รักอย่างมาก หากให้เหมยเหมยได้ยินเข้าต้องมีเรื่องอีกแน่
“ไม่ใช่ก็ดี วันหลังรับมือกับคนไร้สมองแบบนี้ก็อย่ามัวแต่พูดไร้สาระ ลงมือทันทีเลย…”
เซียวเซ่อเองก็ไม่พอใจต่อวิธีการแก้ปัญหาของเหยียนหมิงซุ่นอย่างมาก จะมัวแต่อ้อมค้อมไปทำไมกัน?
รับมือกับยายสุนัขจิ้งจอกหน้าไม่อาย คนจริงไม่มีวันพูดเยอะ มัวแต่พูดพล่ามมากทำไมกัน?
พอนึกถึงบรรดาหญิงสาวที่ยังป้วนเปี้ยนอยู่รอบตัวพ่อของเธอเซียวเซ่อก็บันดาลโทสะอย่างไม่มีเหตุผล สีหน้าเย็นชาพลางยกขาขึ้นสูงกระทืบลงไปแรง ๆ
“กร๊อบ”
กระดูกหักแล้ว!
โม่เฉี่ยวหลิงเจ็บจนหมดสติไป
เซียวเซ่อทำหน้าเรียบนิ่งพลางล้วงโทรศัพท์จากกระเป๋าออกมาโทรหาผู้ช่วยที่อยู่จีนของเธอ “มาทาง***มีผู้หญิงคนหนึ่งถูกฉันเตะจนเป็นลมหมดสติไป พาไปส่งโรงพยาบาลหน่อยแล้วจ่ายแค่ค่ารักษาพยาบาลให้ก็พอ!”
เธอวางสายไปแล้วเตะโม่เฉี่ยวหลิงไปข้างถนนอย่างนึกรังเกียจ ทั้งหยิบเอากระดาษแผ่นหนึ่งจากกระเป๋าตวัดปลายปากกาเขียนลวก ๆ–
ผู้เซ็นรับพอล (พอลคือผู้ช่วยของเธอ)
ใช้กาวแปะกระดาษไว้ตรงหลังโม่เฉี่ยวหลิงแล้วพยักพเยิดปลายคางไปทางสยงมู่มู่ที่อึ้งจนตาค้างไป “ไปทานเนื้อกัน!”
…………………………
ตอนที่ 2346 สวมเขี้ยวไหน
พวกเซียวเซ่อเพิ่งเข้าบ้านมาอาหารจากร้านอาหารก็มาส่งถึงที่พอดี เหมยเหมยสั่งจากร้านอาหารที่เหมยซูหานเป็นคนเปิดไว้ ร้านอาหารนี้เหมยซูหานทิ้งไว้ให้เธอ เจ้านายเป็นคนสั่งอาหารเองเชฟย่อมใส่ใจเป็นอย่างดี แค่ดมกลิ่นอาหารก็เรียกน้ำลายได้แล้ว
“ทำไมพวกเธอถึงอยู่ด้วยกันได้ล่ะ?” เหมยเหมยยิ้มถาม
“บังเอิญเจอกันตรงประตู”
เซียวเซ่อปิดปากไม่เอ่ยถึงโม่เฉี่ยวหลิง กอดอกมองท้องของเหมยเหมยแล้วขมวดคิ้ว “ทำไมท้องของเธอถึงใหญ่ขนาดนี้? แฝดเหรอ?”
“เปล่า แค่บำรุงดีไปหน่อยครรภ์เลยใหญ่ไปนิด”
“ต้องเป็นลูกผู้ชายแน่ ๆ ของขวัญของฉันจะได้ใช้ประโยชน์พอดี” สยงมู่มู่ล้วงเอาสร้อยคอจากกระเป๋าออกมาด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ เป็นสร้อยด้ายแดงที่มีจี้เป็นฟันแหลมคมซี่หนึ่ง
“นี่เป็นเขี้ยวจระเข้ ฉันได้มันมาจากป่าอะเมซอน ชาวบ้านในพื้นที่จะถอนเอาเขี้ยวจระเข้ใส่ให้เด็กทารกที่เพิ่งคลอด ได้ยินว่าช่วยคุ้มครองเด็กทารกให้ปลอดภัยแข็งแรง”
สยงมู่มู่อธิบายแล้วยื่นเขี้ยวจระเข้ให้เหมยเหมย “เอาไว้สวมให้หลานของฉัน”
“ขอบคุณนะ รอลูกคลอดฉันจะสวมให้เขาเลย” เหมยเหมยรับไว้เหมือนได้ของล้ำค่ามา
เซียวเซ่อแค่นเสียงเบา ๆทีหนึ่งก่อนจะล้วงด้ายแดงอีกเส้นจากกระเป๋าแล้วยัดใส่มือโดยตรง
“เขี้ยวจระเข้มีประโยชน์บ้าอะไร เขี้ยวหมาป่าสิดี นี่เป็นเขี้ยวหมาป่าที่ฉันยิงจากที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบตเองกับมือ เด็กผู้ชายก็ต้องสวมสร้อยเขี้ยวหมาป่าสิ!”
เหมยเหมยมองเขี้ยวสองซี่ในมือแล้วทำหน้าสับสน
เขี้ยวเป็นของดีทั้งคู่แต่ลูกชายเธอมีคอเดียวน่ะสิ!
“ใส่ของฉัน เขี้ยวจระเข้หมายถึงพลัง” สยงมู่มู่
“พลังมีประโยชน์อะไร เขี้ยวหมาป่าหมายถึงความกล้าหาญกับความฉลาด!” เซียวเซ่อมองเหยียดเขาแล้วพูดเย้ย “เขี้ยวจระเข้นั่นนายเป็นคนล่าเองกับมือเหรอ?”
สยงมู่มู่สะอึกไปทันทีแล้วพูดเสียงอ้ำอึ้งว่า “มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละถึงจะล่าด้วยตัวเอง นี่ฉันเอาขนมปังสิบอันแลกกับชาวบ้านที่นั่นมาเลยนะ”
“หึ…นายนี่เจ้าแผนการจริง ๆ เขี้ยวหมาป่านี่ฉันล่ามาเองกับมือ เขี้ยวจระเข้ของนายไม่มีทางเทียบกับของฉันได้หรอก!” เซียวเซ่อทำหน้าภูมิใจ สายตาที่มองไปทางเหมยเหมยเหมือนไม่อนุญาตให้ปฏิเสธ
เหมยเหมยลำบากใจขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะล่ามาเองกับมือหรือแลกมาด้วยขนมปังสิบชิ้นก็ล้วนแต่เป็นน้ำใจจากเพื่อน ไม่ว่าเธอจะปฏิเสธอันใดก็รู้สึกผิดอยู่ดี
“หรือว่าเราสลับกันใส่ดี? เดือนคี่ใส่เขี้ยวจระเข้ เดือนคู่ใส่เขี้ยวหมาป่า พวกเธอคิดว่าไง?” เหมยเหมยหาทางออกได้แต่กลับถูกสองคนมองตาขวาง
“ไม่ได้ ใส่ได้แค่เส้นเดียว!” ทั้งคู่ปฏิเสธพร้อมกันเป็นเสียงเดียวกัน
เหมยเหมย “…”
ลำบากใจจัง!
เหยียนหมิงซุ่นเดินเข้ามากวาดตามองเขี้ยวทั้งสองซี่แล้วพูดเสียงเด็ดขาด “เขี้ยวจระเข้ใส่ไว้ตรงข้อเท้า เขี้ยวหมาป่าใส่ไว้ตรงคอ ไปทานข้าว!”
เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ก็ต้องแย่งกัน สองคนนี้ยังเด็กน้อยเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด!
“พี่ฉลาดจัง ตกลงตามนี้ละ!” เหมยเหมยพรูลมหายใจออกมาแล้วฉีกยิ้มกว้าง
เซียวเซ่อกระตุกยิ้มมุมปากสูง พึงพอใจกับคำตัดสินนี้อย่างมาก
แต่สยงมู่มู่กลับไม่ยอม
“ทำไมถึงเอาของฉันสวมที่เท้าล่ะ? เหยียนหมิงซุ่นนายจงใจสินะ ฉันเป็นลุงของลูกชายนายเชียวนะ ครอบครัวเดียวกันก็ต้องสวมคอสิ…”
สยงมู่มู่พูดท้วงอยู่หลังเหยียนหมิงซุ่นแต่ไม่มีใครสนใจเขา เซียวเซ่อพุ่งไปทานเนื้อตั้งนานแล้ว ทั้งยังคีบคำโตใส่ปากทานอย่างเอร็ดอร่อย สยงมู่มู่น้ำลายสอเพราะเธอเลยไม่สนใจว่าสร้อยของเขาจะถูกสวมที่เท้าหรือที่คออีกต่อไป ทิ้งตัวนั่งเก้าอี้แล้วเริ่มลงมือทาน
“อร่อยจัง ให้ตายสิ อาหารของพวกตะวันตกใช้ไม่ได้เลย อาหารจีนเราสิดี”
สยงมู่มู่ซาบซึ้งจนน้ำตาคลอเบ้า ขณะที่มือก็หยิบเอาปูม้าตัวหนึ่งขึ้นมา
เซียวเซ่อจัดการหมูตุ๋นน้ำแดงไปกว่าครึ่งจานก็พอหายหิวลงบ้างเลยผ่อนความเร็วลงแต่เหมือนจะนึกบางอย่างได้กะทันหันเลยตบกบาลทีก่อนจะไปหยิบกระเป๋าของเธอมา
………………