ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2365 ท้องโตอาจจะเป็นเพราะไขมัน + ตอนที่ 2366 แก่แต่ใช่ย่อย
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 2365 ท้องโตอาจจะเป็นเพราะไขมัน + ตอนที่ 2366 แก่แต่ใช่ย่อย
ตอนที่ 2365 ท้องโตอาจจะเป็นเพราะไขมัน
เหมยเหมยจงใจเลือกไปในเวลากลางวัน ฉีฉีเก๋อกับฉางชิงซงต่างก็อยู่บ้านกำลังกินข้าวกันอยู่
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเหลือบมองไปที่โต๊ะกินข้าว เนื้อผัดซอส มันฝรั่งผัดซอสเปรี้ยว แล้วก็มีแกงฟัก มีเนื้อมีผักมีน้ำแกง การกินถือว่าไม่เลว
“เป็นอาหารที่ฉางชิงซงทำเหรอ?” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนถามขึ้น
“ใช่ ตอนนี้เขาเป็นคนทำอาหารทุกมื้อ พวกเธอนั่งลงเร็ว” ท้องของฉีฉีเก๋อโตมากและนูนสูงด้วย แถมยังท้องโตกว่าเหมยเหมยในตอนนั้นอีก
“ท้องของเธอดูแล้วใหญ่กว่าของเหมยเหมยเยอะเลย เล่อเล่อหนัก 4 กิโลนิด ๆ ลูกของเธอน่าจะหนัก 5 กิโลได้มั้ง?” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนทำหน้าตกใจ นึกไม่ออกเลยว่าเด็กที่น้ำหนัก 5 กิโลจะอ้วนขนาดไหน?
ป้าฟางอดหัวเราะไม่ได้ “ท้องโตไม่ได้หมายความว่าเด็กจะตัวใหญ่นะ ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นชั้นไขมันก็ได้!”
ปากของเหมยเหมยกระตุกเล็กน้อย คำพูดของป้าฟางทำให้เห็นภาพค่อนข้างชัดเจน
ฉีฉีเก๋อถอนหายใจออกมา “ในท้องของฉันมีแต่ไขมัน ตอนที่ไปตรวจครรภ์ หมอบอกว่าเด็กตัวไม่ใหญ่มาก อาหารบำรุงต่าง ๆตกมาที่ฉันหมด พอหลังคลอดไขมันพวกนี้จะทำอย่างไรดีล่ะ!”
เหมยเหมยตบท้องของตัวเองเบา ๆ “ดูฉันสิ ไขมันทั้งนั้น ฉันน้ำหนักขึ้นกว่าแต่ก่อนตั้งท้อง 5 โลกว่า พอลูกหย่านมฉันก็จะลดน้ำหนักแล้ว”
จริง ๆแล้วเหมยเหมยไม่ได้ถือว่าอ้วนมาก อย่างมากก็แค่ดูอวบอิ่มขึ้นซึ่งก็ดูสวยไปอีกแบบ เหยียนหมิงซุ่นหลงใหลเหมยเหมยในตอนนี้มาก ไม่อยากให้เธอไปลดน้ำหนักเลยแม้แต่น้อย
“น้ำหนักขึ้นมา 5 กิโลกว่าโดยรวมน้ำหนักเธอก็แค่ 55 กิโลเท่านั้น น้ำหนักปกติฉันก็ 65 กิโลแล้ว เธอยังกล้าพูดอีกเหรอ?”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนถลึงตาใส่เธออย่างอารมณ์เสียพลันรู้สึกปวดใจเหลือเกิน ขนาดคลอดลูกแล้วก็ยังผอมกว่าเธออีก แล้วยังมีหน้ากล้ามาบอกว่าตัวเองอ้วนต่อหน้าเธอ แบบนี้จงใจหาเรื่องกันชัด ๆ!
เหมยเหมยเอามือลูบจมูกปอย ๆไม่กล้าพูดอะไรต่อ ก่อนหน้านี้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนผอมลงจริง ๆแต่พอตอนหลังเริ่มน้ำหนักขึ้น ทั้งกินทั้งดื่มบำรุงร่างกายเต็มที่ ไขมันที่ลดลงไปก็กลับคืนมาเท่าตัว ทำให้น้ำหนักทะลุ 65 กิโลกรัมไปแล้ว
“ของพวกนี้เป็นของที่ฉันใช้ตอนคลอดแล้วใช้ไม่หมด พอถึงเวลานั้นเธอก็เอาไปโรงพยาบาลได้เลยจะได้ไม่ต้องเตรียมใหม่”
เหมยเหมยเอากระเป๋าขนาดใหญ่ที่นำติดตัวมาส่งให้ฉีฉีเก๋อซึ่งเป็นชุดเด็กที่ทำจากผ้าฝ้าย ผ้าอ้อมเด็ก แล้วก็กระดาษชำระแบบยาว ถึงแม้จะไม่ใช่ของที่พิเศษอะไรแต่ถ้าต้องมาเตรียมในช่วงเวลาเร่งด่วนก็วุ่นวายไม่น้อยเหมือนกัน
“ขอบคุณนะ ช่วยประหยัดเวลาฉันเตรียมของพอดีเลย” ฉีฉีเก๋อรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก เธอยังไม่ได้เตรียมอะไรเลยจริง ๆ!
“จะขอบคุณทำไม ใช่แล้ว เวลาเธออยู่เดือนใครจะเป็นคนมาดูแลเธอเหรอ?” เหมยเหมยเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“ฉันจะเป็นคนดูแลเอง ครึ่งปีนี้ฉันไม่ต้องออกไปทำงานต่างเมืองแล้ว อยู่ที่บ้านนี่แหละ” ฉางชิงซงยิ้มพลางกล่าว
เหมยเหมยเข้าใจสถานการณ์อยู่บ้าง ดูทรงแล้วฉางชิงซงน่าจะไม่รู้เรื่องที่แม่ของเขายังอยู่ที่เมืองหลวง อีกทั้งไม่ได้วางแผนจะให้แม่ของตัวเองมาดูแลฉีฉีเก๋อ ความคิดจิตสำนึกถือว่าไม่เลว
แต่ว่าเรื่องที่ยายแก่ปีศาจอยู่ที่เมืองหลวงต้องบอกให้ฉางชิงซงรับรู้ ไม่เช่นนั้นพอถึงเวลาเกิดเรื่องขึ้นมา คนที่ขายหน้าก็คือฉีฉีเก๋อกับฉางชิงซง
“นายโทรศัพท์หาที่บ้านหรือยัง?” เหมยเหมยถามฉางชิงซง
“โทรแล้วสิ” ฉางชิงซงประหลาดใจเล็กน้อย นึกว่าเหมยเหมยจะกังวลว่าเขาจะเรียกแม่ของตัวเองมาจึงรีบพูดยืนยันว่า “ไม่ต้องเป็นห่วง แม่ของผมกลับบ้านไปแล้วและจะไม่มาที่นี่อีก”
“นายแน่ใจว่าแม่ของนายกลับบ้านเกิดไปแล้วจริง ๆเหรอ?” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยิ้มเยาะ
“แน่นอนสิ ฉันโทรหาพ่อฉันแล้ว พ่อบอกว่าแม่กลับไปแล้ว มีอะไรน่าโกหกกัน” ฉางชิงซงเริ่มไม่พอใจ
ฉีฉีเก๋อรีบเข้ามาพูดไกล่เกลี่ย “กลับบ้านแล้วจริง ๆนะ พ่อของรุ่นพี่ฉางเป็นคนบอกเองเลย”
“แม่ของนายเคยรับโทรศัพท์บ้างไหม?” เหมยเหมยเอ่ยถาม
ฉางชิงซงลองนึกย้อนกลับไป จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที จะว่าไปทุกครั้งที่โทรศัพท์กลับบ้านแม่ของเขาไม่เคยรับสายเลยสักครั้ง หรือว่า…
“แม่ของนายยังไม่ได้กลับบ้านแต่อยู่ที่เมืองหลวงมาโดยตลอด” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนขี้เกียจพูดอ้อมค้อมจึงโพล่งออกไปตรง ๆ
……………………………………………
ตอนที่ 2366 แก่แต่ใช่ย่อย
ฉีฉีเก๋อหน้าถอดสีในทันที “ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้…”
ฉางชิงซงก็ไม่อยากจะเชื่อ ใบหน้าตกตะลึงพลันถามขึ้นว่า “แม่ของฉันมีเงินติดตัวไม่มาก ท่านอาศัยอยู่ในเมืองหลวงจะใช้เงินจากไหน?”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยิ้มเยาะแล้วพูดว่า “แม่ของนายมีความสามารถมากเลยนะ หาเงินด้วยตัวเองได้ด้วย จะมาใช้เงินของนายทำไม!”
“เธอหมายความไง? มีอะไรก็พูดออกมาให้ชัดเจนอย่าพูดจาคลุมเครือแบบนี้!” ฉางชิงซงเริ่มหมดความอดทน เขาไม่พอใจกับท่าทางเยาะเย้ยของเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนมาก
เหมยเหมยพูดขึ้นว่า “แม่ของนายไปเป็นสาวใช้ให้กับตาแก่ที่ยังโสดอยู่คนหนึ่ง นี่เป็นที่อยู่บ้านของตาแก่คนนั้น”
เธอจงใจเน้นคำว่าโสด เชื่อว่าด้วยสติปัญญาของฉางชิงซงน่าจะเข้าใจความหมายของเธอ
และก็เป็นไปตามคาด
สีหน้าของฉางชิงซงเปลี่ยนไปในทันทีจากนั้นก็รับที่อยู่ไป สถานที่นั้นอยู่ไม่ไกลจากบ้านเขานัก เขารู้สึกเหลือเชื่อ แต่เหมยเหมยก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องโกหกเขา
“ฉันไม่รู้ว่าแม่ของนายคิดจะทำอะไรกันแน่ นายลองถามเองก็แล้วกัน” เหมยเหมยไม่ได้พูดเปิดโปงเพราะเห็นแก่หน้าของฉีฉีเก๋อ
ฉางชิงซงโมโหเป็นอย่างมาก เขาเริ่มรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีแต่เขาก็ยังหวังว่าตัวเองจะคิดผิดไป
หวังว่าจะไม่ใช่แบบที่เขาคิด
ไม่เช่นนั้นเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
“ฉันจะลองไปดู รบกวนพวกเธอช่วยดูแลฉีฉีเก๋อด้วย”
ฉางชิงซงออกไปอย่างรีบร้อน เขาจะต้องรู้เรื่องนี้ให้ได้
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? แม่ของพี่ฉางไปทำอะไรเหรอ?” ฉีฉีเก๋อรู้สึกกระวนกระวายใจ
“เรื่องนี้เธอไม่ต้องไปสนใจหรอก ทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรก็พอ” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกล่าว
“ใช่ เธอทำจิตใจให้สงบรักษาร่างกายให้ดีก็พอ” เหมยเหมยเองก็พูดขึ้นมาพร้อมกับส่งสายตาให้ป้าฟาง
ป้าฟางรับรู้ผ่านทางสายตาจึงแอบตามฉางชิงซงออกไปอย่างเงียบ ๆ
ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงฉางชิงซงก็กลับมาด้วยความโมโห ข้างหลังมียายแก่ปีศาจตามมาด้วย พอเธอเห็นพวกเหมยเหมยแววตาก็ปรากฏความเคียดแค้นพาดผ่านขึ้นมา
ต้องเป็นเด็กพวกนี้บอกลูกชายเธอแน่ ไม่อย่างนั้นฉางชิงซงจะรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?
“พรุ่งนี้แม่กลับบ้านเถอะผมจะไปส่งเอง” ฉางชิงซงใบหน้าเย็นชา ไม่ได้มีท่าทีเคารพนอบน้อมเหมือนอย่างเคย
ยายแก่ปีศาจแค่นเสียงออกมาอย่างไม่พอใจ ต่อหน้าลูกชายเธอไม่กล้าทำอะไรมาก ไม่กล้าตอบโต้ ดูจากท่าทางของเธอแล้วคงจะไม่ยอมกลับบ้านง่าย ๆแน่!
เหมยเหมยเห็นท่าไม่ดีจึงขอตัวกลับก่อน เธอพูดกับฉีฉีเก๋อว่า “อีกสองวันฉันค่อยมาหาเธอใหม่”
ฉีฉีเก๋อพยักหน้าแล้วออกมาส่งพวกเธอ ดูท่าทางไม่ค่อยสบายใจเท่าไรนัก เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนลูบมือเธอเบา ๆแล้วพูดปลอบว่า “เธอไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น ให้พวกเขาสองแม่ลูกจัดการกันเอง เธอคิดไว้แค่อย่างเดียวอย่าให้ยายแก่ปีศาจอยู่ที่นี่ต่อไปเป็นอันขาด!”
“อืม…”
ฉีฉีเก๋อพยักหน้า
ป้าฟางรอพวกเธออยู่บนรถ พอขึ้นรถเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก็อดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้
“ป้าคะ เรื่องเป็นอย่างไรกันแน่?”
ป้าฟางจอดรถไว้ในที่ที่ไม่มีคนผ่าน จากนั้นก็เริ่มเล่าเรื่องที่เธอเห็นเมื่อครู่ด้วยความดูถูก
“ยายแก่ปีศาจคนนี้ไร้ยางอายจริง ๆ ขนาดกลางวันแสก ๆยังกล้าทำเรื่องบัดสีกับตาแก่นั่น ฉางชิงซงไปถึงก็เห็นเข้าพอดี…”
“พระเจ้า…เร่าร้อนขนาดนั้นเชียว มีพลังเยอะจริง ๆ!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนถอนหายใจ เธอกับอิงจวี้กังไม่ได้มีอารมณ์แบบนี้บ้างเลย!
ถึงจะแก่แต่ใช่ย่อยเลยนะ!
“มิน่าสีหน้าของฉางชิงซงถึงดูไม่ดีเลย มีแม่แบบนี้มันช่าง…” เหมยเหมยกลับรู้สึกสงสารฉางชิงซง
อายุตั้งห้าสิบหกสิบแล้วแต่กลับไม่สำรวมกิริยา สิ่งที่ทำให้เธอพูดไม่ออกเลยก็คือพ่อของฉางชิงซงยังช่วยโกหกแทนภรรยาของตัวเองอีกต่างหาก เป็นอะไรที่…
…………………………………