ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2367 พูดถูกหมดเลย + ตอนที่ 2368 ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
ตอนที่ 2367 พูดถูกหมดเลย
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนทำสีหน้ารังเกียจเอ่ยว่า “ตาแก่นั่นตาบอดหรือเปล่าถึงมาผูกปิ่นโตกับยายแก่ปีศาจที่อัปลักษณ์ขนาดนี้ แบบนี้เขายังกล้ากินอีกเหรอ!”
คำพูดนี้ถึงแม้จะดูแรงเกินไปแต่หน้าตาของแม่ของฉางชิงซงดูไม่ได้เลยจริง ๆ ปากแหลมแก้มตอบ ผิวหนังหยาบกร้าน บวกกับพิการเพราะมือทั้งสองข้างเปลี่ยนรูปไปแล้ว สภาพน่าเกลียดจนไม่รู้จะพูดอย่างไร
แต่ตาแก่คนนั้นถึงจะไม่ใช่คนดีอะไรแต่เมื่อเทียบกับยายแก่ปีศาจก็ดูดีขึ้นมาในทันที ทั้งสองคนไม่มีทางที่จะถูกจับคู่กันได้แน่
“ใช่ ฉันได้ยินมาว่าก่อนที่ตาแก่คนนี้จะเกษียณถือว่าเป็นคนที่มีความรู้ แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงทำเรื่องต่ำช้าเช่นนี้ได้นะ?” เหมยเหมยก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
พวกเธอกลับมาถึงบ้านแล้ว เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก็ตามกลับมาด้วยเพราะอยากคุยต่อ
คุณย่าหยางพูดอย่างไม่ยี่หระว่า “คนที่มีความรู้บางคนก็ทำเรื่องต่ำช้าออกมาได้เช่นกัน ต่ำช้ากว่าคนที่ไม่มีความรู้เสียอีก ความเป็นมนุษย์กับการมีความรู้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันเลย”
“ใช่ แต่ก่อนหมู่บ้านของเราก็มีตาแก่คนหนึ่งรูปร่างหน้าตาดี อีกทั้งยังรับผิดชอบทำบัญชีในหมู่บ้านด้วย ตอนนั้นภรรยาของเขาถือว่าเป็นสาวงามในหมู่บ้านแต่ตาแก่คนนี้กลับไปมีความสัมพันธ์กับแม่หม้ายในหมู่บ้าน แม่หม้ายคนนั้นหน้าตาอัปลักษณ์ยิ่งกว่ายายแก่ปีศาจอีกนะ ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาไปคบกันได้อย่างไร”
จนป่านนี้ป้าฟางก็ยังไม่เข้าใจว่าสาเหตุที่ผู้ชายออกไปหากินข้างนอกเป็นเพราะชอบความสวยความงามหรือว่าชอบของแปลกกันแน่?
คุณย่าหยางก็ยกตัวอย่างขึ้นมาด้วยเช่นกัน แสดงให้เห็นว่าผู้ชายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จักขอบเขตจริง ๆ
เหมยเหมยกับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเหมือนได้ฟังเรื่องราวที่น่าเหลือเชื่อจึงทำหน้าตกตะลึง จากนั้นก็รู้สึกว่าเรื่องของพ่อแม่ของฉางชิงซงไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป
“ครั้งนี้ยายแก่ปีศาจจะต้องถูกไล่กลับบ้านแน่นอน!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพูดด้วยความมั่นใจ
เหมยเหมยก็คิดแบบนี้เช่นกัน หากฉางชิงซงอยากรักษาหน้าตัวเองไว้ก็ควรจะส่งแม่ที่สร้างเรื่องอับอายกลับบ้านไปเสีย ไม่เช่นนั้นในไม่ช้าก็เร็วคนอื่นก็ต้องรู้อยู่ดี ฉางชิงซงกับฉีฉีเก๋อจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
“เรื่องนี้ก็ไม่แน่ ถึงแม้ฉันจะไม่เคยเจอยายแก่ปีศาจที่พวกเธอพูดถึงมาก่อน แต่เมื่อก่อนย่าเจอผู้หญิงแบบนี้มาเยอะ เธอน่าจะคุ้นชินกับแสงสีเสียงในเมืองใหญ่จะยอมกลับไปบ้านนอกเมืองเล็ก ๆได้อย่างไรกัน? เธอจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้อยู่ต่ออย่างแน่นอน” คุณย่าหยางไม่คิดเช่นนั้น
“ฉางชิงซงบอกว่าจะส่งแม่กลับบ้านด้วยตัวเอง!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้
“พ่อแม่เถียงสู้ลูกไม่ได้ ลูกก็จัดการอะไรพ่อแม่ไม่ได้เหมือนกัน ต้องดูว่าฝ่ายไหนไร้เหตุผลมากกว่ากัน”
คุณย่าหยางยิ้มพลางส่ายศีรษะ คนที่มีเหตุผลมักจะสู้กับคนที่ชอบแถไม่ได้ ฉางชิงซงเอาแม่ตัวเองไม่อยู่แน่ ๆ!
วันต่อมาฉางชิงซงโทรมาบอกว่าเขาจะไปส่งแม่กลับบ้านให้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนมาช่วยดูแลฉีฉีเก๋อหน่อย เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไม่พูดอะไรแล้วตอบตกลงในทันที จากนั้นก็รีบไปบอกเหมยเหมยพลันรู้สึกว่าสิ่งที่คุณย่าหยางคาดการณ์ไว้เมื่อวานน่าจะผิด
แต่ว่า…
พอมาถึงช่วงบ่ายฉางชิงซงก็พาแม่ของเขากลับมา ท่าทางดูเหน็ดเหนื่อยไม่น้อยและดูเหมือนจะโมโหมากด้วย
เหมยเหมยคร้านเข้าไปถามไถ่ เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนจึงวิ่งไปวิ่งมาสองที่ด้วยท่าทีกระตือรือร้น
“คุณย่าหยาง คุณย่าเป็นคนที่แม่นมากจริง ๆเพราะพูดถูกเผงหมดเลย!”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนทำหน้าชื่นชมพร้อมยกนิ้วโป้งให้!
คุณย่าหยางได้ใจแล้วเอ่ยด้วยความภูมิใจว่า “ย่ากินเกลือมามากกว่าพวกเธอกินข้าวอีก เรื่องแบบนี้เจอมาเยอะแล้ว!”
เหมยเหมยเร่งให้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
“ก็ไม่มีอะไรหรอก คือยายแก่ปีศาจไม่ยอมกลับเลยวิ่งเข้าไปให้รถชนแต่ยังดีที่คนขับเบรกทัน ไม่อย่างนั้นคงเกิดเลือดตกยางออกแล้วมั้ง?”
“ก็ไม่ได้เป็นไรสักหน่อยแล้วทำไมต้องพากลับมาด้วย?” เหมยเหมยรู้สึกประหลาดใจ
“ยายแก่ปีศาจบอกว่าพ่อของฉางชิงซงไม่รู้ว่าตัวเองทำเรื่องขายหน้าไว้กลับไปคงโดนแน่ เธอเลยไม่ยอมกลับบ้าน แถมบอกว่าถ้าส่งตัวกลับไป เธอจะกระโดดลงจากรถตายให้ฉางชิงซงดู!”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพูดพลางส่ายศีรษะ ในใจรู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลย
เมื่อเทียบกับยายแก่ปีศาจแล้วพ่อแม่ของเธอดีกว่ามากจริง ๆ!
……………………………………
ตอนที่ 2368 ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
“แล้วตอนนี้จะทำอย่างไรต่อไป? หรือว่าจะให้ยายแก่ปีศาจอยู่ต่องั้นเหรอ?” เหมยเหมยคิ้วขมวดแน่น
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนโมโหเป็นฟืนเป็นไฟพูดขึ้นว่า “มีสิทธิ์อะไร หากจะไปตายก็ให้ไปตายสิ ฉันไม่เชื่อหรอกว่ายายแก่ปีศาจจะยอมตายจริง ๆ!”
คนอย่างยายแก่ปีศาจเธอเจอมาเยอะแล้ว ทุกครั้งอะไรนิดอะไรหน่อยก็เอาความเป็นความตายมาข่มขู่คนอื่น แต่ความจริงพวกเขากล้าตายเสียที่ไหน แค่พูดไปอย่างนั้นแหละ!
คุณย่าหยางส่ายศีรษะ “คำพูดแบบนี้พวกเราคนนอกพูดยังพอว่า แต่คนเป็นลูกจะพูดแบบนี้ออกมาได้อย่างไร แบบนั้นต้องถูกคนอื่นตำหนิแน่ คำติฉินนินทาของคนอื่นทำให้คนตายได้เลยนะ!”
คนในเหตุการณ์มองไม่ออกแต่คนนอกมองเข้าใจทะลุปรุโปร่ง คนที่เจอปัญหาเองมักจะจัดการปัญหาไม่ได้แถมยังมีแต่เรื่องวุ่นวายตามมาอีก มีแม่แบบนี้สร้างความลำบากให้ฉางชิงซงจริง ๆ
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนโมโหเป็นอย่างมากจึงจิกผมตัวเองด้วยความหงุดหงิด “อย่างนี้ก็ไม่ได้ อย่างนั้นก็ไม่ได้ หรือว่าจะให้ยายแก่ปีศาจนั่นอยู่ต่อทำตัวเป็นปีศาจต่อไปงั้นเหรอ?”
เหมยเหมยเองก็หมดหนทางแล้วเช่นกันเพราะอย่างไรก็เป็นเรื่องในครอบครัวของคนอื่น เธอจะเข้าไปยุ่มย่ามมากก็ไม่ดี ไม่เช่นนั้นแค่ให้ป้าฟางออกหน้า เพียงมือข้างเดียวก็จัดการยายแก่ปีศาจให้หนีกลับบ้านได้แล้ว
คุณย่าหยางเอ่ย “เรื่องนี้พวกเธอไม่ต้องเข้าไปยุ่งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทแค่ไหนก็ต้องมีขอบเขต เรื่องในครอบครัวอย่าเข้าไปยุ่มย่ามมากจะดีกว่า”
ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทกันมากแค่ไหนแต่ก็สู้ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาไม่ได้หรอก เวลาเกิดเรื่องพอเพื่อนยื่นมือเข้าไปยุ่งอาจจะได้รับคำขอบคุณก็จริง แต่พอเรื่องผ่านไปสองสามีภรรยานอนหมอนใบเดียวกัน พูดคุยกลับมาคืนดีกัน กลับมาเป็นสามีภรรยาที่รักใคร่กันเหมือนเดิม ถึงเวลานั้นความเป็นเพื่อนอาจจะหายไปเลยก็ได้
“หนูพอจะรู้ตัวเองอยู่ค่ะ หนูจะไม่เข้าไปก้าวก่ายมากนักหรอก หนูแค่รู้สึกอึดอัดเลยอยากบ่นออกมาก็เท่านั้น!”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพยักหน้า เธอแค่อยากทวงความยุติธรรมแทนฉีฉีเก๋อ เดิมทีคิดว่าคงไม่มีอะไรแล้วจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขสักที แต่พอจะถึงกำหนดคลอดดันมีเรื่องนี้เกิดขึ้นมาอีก
หากยายแก่ปีศาจได้อยู่ต่อจริง ๆ ต่อไปฉีฉีเก๋อคงลำบากแน่!
“จริง ๆแล้วเรื่องแบบนี้สิ่งสำคัญขึ้นอยู่กับตัวฉีฉีเก๋อเองด้วย หากเขาไม่สามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง พวกเธอร้อนใจไปก็ไม่ช่วยอะไรหรอก” ป้าฟางพูด
“ใช่ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ชีวิตเป็นของเรา เราต้องใช้ชีวิตด้วยตัวเอง!” คุณย่าหยางพยักหน้าเห็นด้วย
เพื่อนก็ไม่ได้ว่างขนาดนั้นทุกวันเสียหน่อย เพื่อนยังมีชีวิตและครอบครัวของตัวเองจะให้ไปสนใจเรื่องไร้สาระแบบนั้นทุกวันก็ใช่เรื่อง!
เพราะฉะนั้นก็ควรจะพึ่งตัวเองนั่นแหละ!
ถึงแม้เหมยเหมยกับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนจะเป็นห่วงฉีฉีเก๋อมากแค่ไหนแต่ก็ไม่ได้เข้าไปยุ่มย่ามด้วยเท่าไรแล้ว เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนแค่โทรหาถามไถ่ความเป็นอยู่ก็เท่านั้น
“ฉีฉีเก๋อบอกว่ายายแก่ปีศาจได้อยู่ต่อ ฉางชิงซงกลัวว่าแม่ของเขาจะฆ่าตัวตายจริง ๆ” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเอ่ย
เหมยเหมยถอนหายใจ คนที่ผ่านโลกมามากกว่ามองอะไรออกมากกว่าจริง ๆ ทุกอย่างเป็นไปตามที่คุณย่าหยางคาดเดาไว้ไม่มีผิด
“เอาเถอะ รอตอนฉีฉีเก๋อคลอดลูก พวกเราก็เข้าไปดูแลมากหน่อยก็แล้วกัน”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนแบมือทั้งสองข้างออกทำท่าประมาณว่าช่วยไม่ได้แล้วพูดขึ้นว่า “คงทำได้แค่นั้น หวังว่าฉีฉีเก๋อจะเข้มแข็งหน่อย อย่าทำตัวอ่อนแอเหมือนแต่ก่อนก็พอ”
เหมยเหมยคิดว่ายายแก่ปีศาจคงจะถูกลูกชายจัดการแล้ว ต่อไปคงจะทำตัวดีขึ้นบ้างไม่ออกไปทำเรื่องขายหน้าข้างนอกอีก เพราะอย่างไรคนเราก็ควรรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองไว้บ้าง!
เพียงแต่ว่าเธอประเมินความไร้ยางอายของยายแก่ปีศาจต่ำเกินไป!
เพราะเรื่องนี้ทำให้เหมยเหมยรู้สึกสะอิดสะเอียนใจไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้เล่าให้เหยียนหมิงซุ่นฟัง ตอนที่เล่นกับลูกสาวของตัวเองถึงจะรู้สึกมีความสุขขึ้นมาบ้าง
“เสี่ยวเป่าส่งของขวัญมาให้ บอกว่าเป็นของขวัญที่มอบให้น้องสาว!”
เหยียนหมิงซุ่นเดินเข้ามาพร้อมพัสดุชิ้นหนึ่งในมือถือ
“เอามาให้ฉันดูเร็วเข้า พวกเขาถึงไหนกันแล้ว? โปสการ์ดครั้งก่อนยังอยู่ที่มาเก๊าอยู่เลย!”
เหมยเหมยยื่นมือรับพัสดุมาอย่างดีใจ
……………………….