ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2393 เกิดขึ้นพร้อมกันอีกแล้ว + ตอนที่ 2394 ที่แท้ก็คนคุ้นเคย
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 2393 เกิดขึ้นพร้อมกันอีกแล้ว + ตอนที่ 2394 ที่แท้ก็คนคุ้นเคย
ตอนที่ 2393 เกิดขึ้นพร้อมกันอีกแล้ว
“พี่สะใภ้…” เหยียนหมิงต๋าเอ่ยทักทายอย่างนอบน้อม
“ชิ!”
เหมยเหมยแค่นเสียงเบา เธอคร้านที่จะสนใจเขา ถึงแม้ว่าคืนก่อนเหยียนหมิงซุ่นจะอธิบายให้เธอฟังแล้วว่าเหยียนหมิงต๋ามีเรื่องที่ยังพูดไม่ได้ แล้วยังบอกอีกว่าเขาได้สั่งสอนเจ้าบ้านั่นไปแล้ว
อืม…
ดูจากตอนนี้เหยียนหมิงซุ่นคงซัดไปไม่เบาเลยนี่นา เหมยเหมยจึงรู้สึกสบายใจขึ้นมาก
แต่ถึงอย่างไรเธอก็ไม่อยากทำหน้าดี ๆใส่เหยียนหมิงต๋า ใครใช้ให้เจ้าบ้านี่ไปคลุกคลีอยู่กับโม่เฉียวหลิงล่ะ!
แต่ที่สำคัญคือเหยียนหมิงซุ่นเคยกำชับเอาไว้ว่าให้เธอทำตัวเหมือนเดิม ควรเหวี่ยงใส่ก็ปล่อยอารมณ์ได้เต็มที่ แม้ว่าเหยียนหมิงซุ่นไม่ได้พูดออกมาตรง ๆ แต่เหมยเหมยรู้ดีว่าจำเป็นต้องเล่นละครตบตาใครบางคน
แต่ก่อนเหยียนหมิงซุ่นไม่ได้จริงจังขนาดนี้ แต่ครั้งนี้กลับ…
นั่นแสดงว่าศัตรูในครั้งนี้อันตรายมาก!
เหยียนหมิงต๋าไม่ได้รับคำทักทายตอบกลับจากเหมยเหมยจึงได้แต่ลูบจมูกปอย ๆแก้เก้อ และหันไปหยอกล้อเล่อเล่อแทน
คุณปู่เหยียนเองก็ไม่ได้ทำสีหน้าชอบใจเท่าไรนัก หน้าดำคล้ำเครียดตั้งแต่เหยียนหมิงต๋าเดินเข้าประตูบ้านมาและไม่มองหน้าเขาเลยสักนิด
คุณย่าหยางจึงต้องยิ้มเพื่อสร้างบรรยากาศให้ดีขึ้น “ทานข้าวกันเถอะ กับข้าววันนี้ต้องกินให้หมดนะ มื้อเช้าพรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องทานของเหลือ”
“แอ๊ะ…แอ๊ะ…”
เล่อเล่อส่งเสียงร้องดีใจ อุ้งมือตุ้ยน้อยเอื้อมคว้าหมับเข้าที่มือของเหยียนหมิงต๋า ดึงกันไปดึงกันมาเล่นอย่างสนุกสนาน
เหยียนหมิงต๋าชอบเล่อเล่อมาก ทุกครั้งที่มาทานข้าวก็มักจะเล่นกับเล่อเล่ออยู่พักใหญ่ เขามีความอดทนมากจริง ๆ
มีตัวสร้างเสียงหัวเราะอย่างเล่อเล่ออยู่ บรรยากาศในการทานอาหารก็ดูจะผ่อนคลายลงบ้าง เมื่อมื้ออาหารสิ้นสุดลง คุณย่าหยางก็ลากตัวเหยียนหมิงต๋าไปยังท้ายครัว
“แกรีบไปเลิกรากับนังจิ้งจอกนั่นซะ ไม่เห็นหรือไงว่าคุณปู่ของแกกับพี่สะใภ้โกรธกันใหญ่แล้ว ได้ยินหรือยัง?”
เหยียนหมิงต๋าขมวดคิ้วมุ่น ตอบรับอึก ๆอัก ๆ “รู้ครับ ผมรู้ตัวเองดี…”
หากราบรื่นละก็อีกไม่เกินสองเดือนทุกอย่างก็จะคลี่คลาย ถึงเวลานั้นค่อยอธิบายให้พี่สะใภ้ฟังดี ๆก็ได้แล้ว
คุณย่าหยางเข้าใจว่าเหยียนหมิงต๋าเตรียมเลิกรากับโม่เฉียวหลิงจึงพอใจเป็นอย่างมาก “เชื่อย่าถูกแล้ว ผู้หญิงอย่างโม่เฉียวหลิงไม่เหมาะที่จะเป็นภรรยาเลย เอาไว้พรุ่งนี้ย่าจะแนะนำผู้หญิงที่ดีกว่านี้ให้แกเอง หลานของย่าหน้าตาก็ดีแถมยังอนาคตไกล จะต้องได้เจอผู้หญิงดี ๆแน่นอน…”
เหยียนหมิงต๋าหัวเราะเย้ยตัวเอง ตัวเขาตอนนี้แทบไม่เป็นผู้เป็นคนเลยด้วยซ้ำ มีสิทธิ์อะไรที่จะแต่งงานงั้นหรือ?
อย่าทำร้ายผู้หญิงคนอื่นเลยจะดีกว่า!
เขาไม่ได้คัดค้านอะไรคุณย่า ถึงอย่างไรคุณย่าก็ทำได้แค่แนะนำ สำเร็จหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับตัวเขาเอง
ตอนนี้เขาเองก็ไม่มีอารมณ์มาใส่ใจเรื่องรัก ๆใคร่ ๆอยู่แล้ว แค่อยากจะทำเรื่องที่มันมีความหมายเสียบ้าง
เมื่อยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมาเขาใช้ชีวิตอย่างสับสนวุ่นวาย ไม่รู้ว่าชีวิตข้างหลังที่เหลืออยู่จะยาวนานแค่ไหน แต่เขาหวังว่าจะใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่และมีความหมายขึ้นบ้าง!
หญิงชราที่กระวนกระวายใจ หลังจากอบรมสั่งสอนเหยียนหมิงต๋าเสร็จก็ไปพูดจาเกลี้ยกล่อมเหมยเหมย ไม่อยากให้เธอต้องคิดเล็กคิดน้อยกับน้องชายสามี
“คุณย่าหยางวางใจเถอะค่ะ หนูไม่ได้โกรธหมิงต๋าเลย หนูแค่เป็นห่วงกลัวว่าเขาจะโดนหลอกอีก แต่พี่หมิงซุ่นต่อว่าเขาไปแล้ว คุณย่าไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ!”
ในใจเหมยเหมยรู้สึกไม่ค่อยดีนัก แต่เหยียนหมิงซุ่นเคยสั่งไว้ว่าห้ามให้ทั้งสองเฒ่ารู้ความจริงเด็ดขาด เธอจึงทำได้แค่ปิดเป็นความลับ เธอจะเป็นตัวถ่วงเหยียนหมิงต๋าไม่ได้
เนื่องด้วยฉีฉีเก๋อร่างกายอ่อนแอจึงนอนโรงพยาบาลไปหลายคืน ค่ารักษาทั้งหมดเหมยเหมยเป็นคนจ่าย ส่วนคุณลุงปาเกินและครอบครัวก็มาถึงในวันถัดมา พวกเขาคอยดูแลเอาใจใส่ฉีฉีเก๋อและต่างรู้สึกซาบซึ้งต่อเหมยเหมยและเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนมาก
พวกเธอเองต่างก็โล่งใจ สิ่งที่ฉีฉีเก๋อต้องการมากที่สุดในตอนนี้คือความรักความเอาใจใส่จากพ่อแม่ ถึงอย่าไรพวกเธอก็เป็นแค่เพื่อน พวกลุงปาเกินมาได้ประจวบเหมาะเวลาพอดี
เหมยเหมยรับปากเหยียนหมิงซุ่นว่าจะไม่ไปโรงพยาบาล แต่เธอก็รู้สึกคันยุบยิบในใจจึงให้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนคอยสอดส่องไว้
ผ่านไปหลายวันก็มีสายจากเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนโทรเข้ามาบอกว่าเกิดเรื่องขึ้นอีกแล้ว นึกไม่ถึงว่าคู่กรณีในครั้งนี้จะเป็นบุคคลที่คุ้นเคย
………………………………………………………
ตอนที่ 2394 ที่แท้ก็คนคุ้นเคย
ชายผู้โชคร้ายในครั้งนี้ก็คือหลานชายป้าสะใภ้ใหญ่ของเหยียนหมิงซุ่น ซึ่งก็คือหวงจื้อเกาคนที่เคยมาเยี่ยมที่บ้านก่อนหน้านี้
“โดนขโมยไตไปข้างหนึ่ง ผู้ดูแลสวนสาธารณะเป็นคนเห็น นับว่าโชคดีอยู่ไม่น้อย ตอนนี้ช่วยเอาไว้ได้แล้ว” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกล่าว
เหมยเหมยใจเต้นไม่เป็นระส่ำ ทำไมถึงเป็นหวงจื้อเกาได้ล่ะ?
เขาไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆกับโม่เฉียวหลิงแล้วไม่ใช่เหรอ?
แต่เนื่องจากคนที่โดนคือหวงจื้อเกา เหมยเหมยจึงยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าโม่เฉียวหลิงต้องมีความเกี่ยวข้องกับพวกกลุ่มค้าอวัยวะมนุษย์แน่นอน ทำไมโลกนี้ถึงได้มีเรื่องบังเอิญมากขนาดนี้นะ?
“ตำรวจรู้หรือยัง?” เหมยเหมยถาม
“แน่นอนว่าต้องรู้แล้ว หวงจื้อเกาอยู่ที่โรงพยาบาล ตำรวจก็เข้ามาถามไถ่ แต่หมอนั่นเหมือนจะไม่รู้อะไรเลย”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกเสียดายเล็กน้อย ตอนนี้ตัวเธอเองก็รู้สึกสนใจคดีลักษณะนี้ขึ้นมาบ้างแล้ว เกิดเหตุการณ์ขโมยไตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่?
“เธอรู้จักโรคไตวายเรื้อรังไหม? ท้ายที่สุดแล้วมีเพียงทางเลือกเดียวคือปลูกถ่ายไต แต่จะมีไตที่สดใหม่แข็งแรงจากไหนมาให้เธอปลูกถ่ายได้ล่ะ…” เหมยเหมยหัวเราะเยาะ
“แม่เจ้า ไม่แปลกใจเลยที่คาร์ล มาร์กเคยกล่าวไว้ว่านักธุรกิจสามารถสละได้แม้กระทั่งชีวิตเพื่อให้ได้มาซึ่งผลกำไร!”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตกใจเป็นอย่างมาก นึกไม่ถึงเลยจริง ๆว่าจะมีพวกค้าอวัยวะมนุษย์อยู่จริง นี่เท่ากับว่าเห็นชีวิตคนเป็นแค่ต้นหญ้าชัด ๆเลยนี่นา!
“เหอะ…คนพวกนี้ทำเพื่อเงิน มีหรือที่จะสนใจชีวิตของคนธรรมดา”
เหมยเหมยพลันนึกบางอย่างได้ในฉับพลัน จินตนาการไปถึงคำพูดของเหยียนหมิงซุ่นจึงรีบเอ่ยเตือนว่า “เรื่องนี้เธอห้ามเข้าไปยุ่งอีกนะ พวกมันไม่สนเรื่องความเป็นความตายอะไรทั้งนั้น เธออย่าเอาตัวเข้าไปยุ่งเชียวล่ะ จำไว้เลยนะว่าอย่าเข้าไปยุ่งเด็ดขาด!”
“รู้แล้วน่า ฉันก็กลัวตายนะ ไม่เข้าไปยุ่งหรอก!”
พอเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนได้ยินว่าเกี่ยวข้องกับความเป็นความตาย ก็พลันตัวสั่นสะท้าน ไหนเล่าจะกล้าเข้าไปยุ่งอีก!
แม้ว่าคนที่ถูกขโมยไตไปจะน่าสงสาร แต่เธอเองก็ไม่ใช่พระมหาไถ่[1] แล้วก็ไม่ใช่พระพุทธเจ้า เธอแค่อยากแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกหดหู่ก็เท่านั้นเอง!
ถึงอย่างไรหวงจื้อเกาก็นับว่าเป็นญาติที่รู้จักกัน เกิดเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ก็ต้องให้ความสนใจเป็นธรรมดา
เหมยเหมยซื้อข้าวของเพียงแค่ไม่กี่อย่าง จากนั้นก็ไปโรงพยาบาลพร้อมกับป้าฟาง โม่ซิวหย่วนบอกหมายเลขห้องผู้ป่วยกับเธอแล้ว เรื่องทั้งหมดมีเขาเป็นคนจัดการซึ่งยุ่งวุ่นวายพอสมควร ทั้งยังต้องไปรับแม่ของหวงจื้อเกาและคุณลุงคุณป้าของเขามาอีก
หวงจื้อเกานอกจากร่างกายอ่อนแรงแล้ว สติปัญญายังนับว่าดีมาก คนที่ขโมยไตไปจะต้องเป็นมืออาชีพมากแน่ ๆ รอยเย็บบาดแผลแนบเนียนมาก แถมยังฉีดยาชาให้ด้วยซึ่งไม่ได้เป็นผลร้ายแรงแต่อย่างใด
เพียงแค่ขาดไตไปข้างหนึ่ง
พ่อแม่ของหวงจื้อเกาต่างก็อยู่ที่นี่ รวมทั้งคุณลุงคุณป้าด้วย เหมยเหมยจึงเอ่ยทักทาย
“แล้วนี่จะทำอย่างไรดีล่ะ จื้อเกายังไม่ทันแต่งงานก็ถูกขโมยไตไปข้างหนึ่งแล้ว ต่อไปนี้ไม่รู้เลยว่าจะยัง…”
แม่ของหวงจื้อเการ้องห่มร้องไห้น้ำตาไหลอาบแก้ม ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำจนเป็นลูกท้อ ไม่มีอารมณ์มาเอ่ยทักทายอะไรเหมยเหมยเลย
“อย่าร้องเลย ร้องไปก็ไม่ได้ทำให้ไตของหวงจื้อเกากลับมา สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือจับตัวคนชั่วให้ได้ แล้วเอาไตกลับคืนมา แล้วค่อยมาดูอีกทีว่ายังสามารถใส่กลับคืนได้ไหม” คุณลุงเอ่ยเสียงขรึมและรู้สึกไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
“ฮื้อ…”
แม่ของหวงจื้อเกากลั้นเสียงร้องไห้เอาไว้ สะอื้นเสียงแผ่ว ฟังแล้วหดหู่ใจเหลือเกิน
“เหมยเหมย ทำไมหมิงซุ่นถึงไม่มาล่ะ? เขารู้เรื่องนี้หรือเปล่า?” ป้าสะใภ้ใหญ่เอ่ยถาม ดวงตาของเธอเองก็บวมเป่งมากเช่นกัน
“พี่หมิงซุ่นรู้เรื่องแล้วค่ะ ตอนนี้เขาติดธุระด่วน ถ้าเคลียร์งานเสร็จจะตามมาค่ะ” เหมยเหมยพูดอย่างอดทน
หวงจื้อเกาถือว่าเป็นเคสฉุกเฉิน และอีกอย่างงานของเหยียนหมิงซุ่นก็ได้ถูกวางแพลนเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆแล้ว ดังนั้นหากไม่ได้เกิดเรื่องใหญ่โตจนแก้ไขไม่ได้ เหยียนหมิงซุ่นไม่มีทางยอมให้ตารางงานรวนแน่นอน
“ยังมีเรื่องอะไรที่สำคัญมากว่าหวงจื้อเกาอีกเหรอ…”
แม่ของหวงจื้อเกาบ่นพึมพำเสียงเบา เหมยเหมยสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยพลางขมวดคิ้วมุ่น
…………………………………………………………..
[1] พระผู้ช่วยให้รอดชีวิต