ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2529 เผาไหม้จนเกรียม + ตอนที่ 2530 เทียชิวเปียว
ตอนที่ 2529 เผาไหม้จนเกรียม
“คุณรีบไปแจ้งตำรวจอย่าให้พวกเขาจับผู้มีพระคุณ ไม่สิ…ก็ต้องตามหาอยู่ดี เราต้องขอบคุณต่อหน้าเธอ…”
เคย์โกะเริ่มพูดผิด ๆถูก ๆ อิจิโร่ฉลาดมากไม่นานก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นเลยโวยวายขึ้นว่า “คุณน้าไม่อยากให้ตำรวจไปรบกวนเธอ อย่าให้ตำรวจไปตามหาเธอ คุณน้าจะโกรธได้!”
“อิจิโร่อย่าโกรธ คุณพ่อจะโทรบอกทางสถานีตำรวจว่าไม่ให้ไปรบกวนคุณน้านะ!”
เคย์โกะเอ่ยปลอบลูกชายเสียงอ่อนโยนเพราะกลัวจะทำให้ลูกชายสะเทือนใจอีกครั้งจึงยอมตามใจเขาทุกเรื่อง
คาวากุจิโทรบอกทางตำรวจให้ล้มเลิกการตามหาเหมยเหมย พลางพูดกลบเกลื่อนว่าเพราะเด็กขี้เล่นถึงได้เดินพลัดหลงเอง ตอนนี้เจอตัวแล้ว
เรื่องของอิจิโร่จะแพร่งพรายออกไปไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเหล่านักข่าวที่น่ารำคาญนั่นต้องใส่สีตีไข่แล้วจะเป็นการทำร้ายลูกของเขาอีกครั้งอย่างแน่นอน!
เหมือนเมื่อสามสิบปีที่แล้ว ถ้าเรื่องพี่สาวของเขาไม่ถูกพวกนักข่าวกระจายข่าวออกไปพวกโจรลักพาตัวก็ไม่มีทางรู้ว่าพวกเขาแจ้งตำรวจจนสุดท้ายฆ่าพี่สาวของเขาทิ้งด้วยความโกรธ
เรื่องนี้กลายเป็นบาดแผลลึกของตระกูลพวกเขา ถึงขั้นทำให้คุณแม่ของเขาป่วยโทรมติดเตียงอยู่สิบกว่าปีแล้วจากไปก่อนเวลาอันควร!
เคย์โกะเปิดโทรทัศน์ด้วยความระมัดระวัง เธอคิดจะเปลี่ยนไปช่องการ์ตูนช่องโปรดของลูกแต่อิจิโร่ดันตะโกนขึ้นว่า “ที่นี่!”
“อะไรเหรอ?”
เคย์โกะรีบเปลี่ยนกลับไปช่องที่ดึงดูดความสนใจอิจิโร่ซึ่งเป็นช่องรายงานข่าวประจำวัน บนหน้าจอปรากฏให้เห็นภาพบ้านหลังสีดำที่เหลือเพียงซากปรักหักพังรวมถึงกลุ่มควันโขมง
มีตำรวจมากมายมารวมตัวกันอยู่ใต้ต้นแอปเปิ้ล นับว่าโชคดีที่ต้นไม้ต้นนั้นไม่โดนเผา แต่ดูท่าทางตำรวจพวกนี้เหมือนกำลังขุดบางอย่างใต้ต้นนั้น
“ที่นี่…เขาตีผม…”
จู่ ๆอิจิโร่ก็ตัวสั่นดวงตาฉายแววหวาดกลัวจนเคย์โกะถลาเข้ามากอดลูกเอาไว้ พร้อมเอ่ยปลอบเขาด้วยเสียงอ่อนโยน
นักข่าวในโทรทัศน์ยังคอยรายงานที่เกิดเหตุว่าภายในบ้านมีศพชายคนหนึ่งที่ถูกไฟครอกจนไหม้เกรียมจึงยังไม่สามารถรู้ตัวตนได้ แต่ชัดเจนว่าเป็นการวางเพลิงซึ่งที่เกิดเหตุยังมีปากกาอัดเสียงอีกด้ามทิ้งไว้ด้วย รายละเอียดทางตำรวจไม่ยอมเปิดเผยแต่ตำรวจต่างไปขุดต้นไม้ต้นนั้นหมดแล้ว
“ใต้ต้นไม้มีอะไรกันแน่? ท่านผู้ชมก็รอคำตอบไปพร้อมกับผมเลยครับ!”
นักข่าวหันกล้องไปยังใต้ต้นแอปเปิ้ลที่ถูกขุดลึกเกือบหนึ่งเมตร กลิ่นเหม็นเน่าในอากาศรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ สีหน้าของตำรวจก็จริงจังขึ้นเรื่อย ๆ ตำรวจอาวุโสไม่มีทางรู้สึกแปลกใจกับกลิ่นเหม็นเน่าเช่นนี้อยู่แล้ว!
สองสามีภรรยาเคย์โกะเองก็รอคำตอบอย่างใจจดจ่อ อิจิโร่ผล็อยหลับไปแล้วด้วยเสียงเพลงกล่อมเด็กของคุณแม่ แต่กลับจับมือของเคย์โกะแน่นไม่ยอมปล่อย
“พระเจ้า…”
ในที่สุดก็ขุดพบบางสิ่ง เคย์โกะกับนักข่าวในโทรทัศน์เผลอสูดปากพร้อมกัน จากนั้นก็ไล่ตาดูศพในสภาพเน่าเฟะบนพื้นด้วยความตกตะลึงซึ่งดูไม่ออกแล้วว่าเป็นชายหรือหญิงแต่ชัดเจนว่าเป็นผู้ใหญ่ เสื้อผ้าและร่างกายเน่าหมดแล้ว มิน่าถึงฝังลึกขนาดนี้ก็ยังกลบกลิ่นเน่าของศพไม่ได้!
ตำรวจกลับไม่หยุดแต่ขุดต่อไปจนขุดพบศพแล้วศพเล่าก่อนจะนำมาวางเรียงบนพื้น ศพอื่น ๆเหลือเพียงโครงกระดูกสีขาว ขนาดทั้งเล็กทั้งใหญ่ที่มีมากถึงสิบหกศพ!
ทุกคนล้วนตกตะลึงกับภาพที่เห็นโดยเฉพาะชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้ ๆชายคนโรคจิต ยิ่งกว่านั้นคือรู้สึกหวาดผวา นี่พวกเขาอาศัยอยู่ใกล้ฆาตกรมานานขนาดนี้แล้วรอดมาถึงทุกวันนี้ได้มันช่างเป็นปาฏิหาริย์เสียจริง!
สิ่งที่โชคดีที่สุดกลับเป็นสองสามีภรรยาเคย์โกะที่พวกเขามั่นใจแล้วว่าศพไหม้เกรียมในข่าวก็คือคนที่ลักพาตัวลูกชายไป แต่ตอนนี้ลูกชายได้รับการช่วยชีวิตเอาไว้แต่ฆาตกรนั่นกลับตายแล้วยังถูกเผาจนศพไหม้เกรียมอีกต่างหาก
ระหว่างนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
คาวากุจิวานคนรู้จักช่วยสืบเสาะหาข้อมูลจากวงในมา หลังจากรับรู้เนื้อหาในปากกาอัดเสียงก็ยิ่งรู้สึกเสียใจทีหลัง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยิ่งรู้สึกขอบคุณต่อเหมยเหมยมากกว่าเดิม!
……………………………
ตอนที่ 2530 เทียชิวเปียว [1]
“ต้องตามหาผู้มีพระคุณให้ได้ ฉันจะขอโทษเธอต่อหน้า ฉันเสียมารยาทเกินไปแล้ว!”
เคย์โกะที่ได้ฟังสามีเล่าเรื่องราวทุกอย่างก็เหงื่อผุดไปทั้งตัวและรู้สึกอับอายมากกว่าเดิม นี่เธอทำอะไรลงไป?
เหมือนหญิงที่ไร้การอบรมสั่งสอนคนหนึ่ง!
ไม่สิ ยิ่งกว่าหญิงไร้การอบรมสั่งสอนเสียด้วยซ้ำ!
“ผมไปตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวตอนเช็คอินโรงแรม เธอชื่อซูซานเป็นชาวฮวาเซี่ยสัญชาติอเมริกัน หนึ่งชั่วโมงก่อนนั่งเครื่องบินไปยังประเทศตะวันออกเฉียงใต้ ผมจะส่งคนไปตามหาเธอที่นั่น!” หน่วยข่าวกรองของตระกูลโยโกยามะไม่ใช่เล่น ๆอยู่แล้ว ไม่นานก็ตามสืบข้อมูลส่วนตัวปลอม ๆของเหมยเหมยมาจนครบรวมถึงข้อมูลการเดินทางของเธอด้วย
“คุณต้องบอกทางสถานีตำรวจด้วยว่าให้คดีนี้จบไปอย่างนี้เถอะ ไม่ต้องตามสืบต่อแล้ว แล้วก็นักข่าวพวกนั้นให้พวกเขาช่วยหุบปากด้วย!”
สติและความใจเย็นของเคย์โกะฟื้นคืนกลับมาอย่างเคยแล้ว เธอยังคงเป็นลูกสะใภ้คนเก่งประจำตระกูลโยโกยามะคนเดิม
“ได้…ผมจะถ่ายทอดคำสั่งลงไป คราวนี้ถึงอิจิโร่ของเราจะเจอเรื่องไม่ดีมาแต่เขาก็ยังโชคดี นับว่าเป็นสิ่งตอบแทนที่ปกติเราสนิทกับชาวฮวาเซี่ย พระเจ้าถึงให้ชาวฮวาเซี่ยมาช่วยลูกชายของเราไว้!”
โยโกยามะ คาวากุจิกล่าวอย่างปลื้มใจแล้วสบตาภรรยาด้วยรอยยิ้ม
ที่แท้เหตุผลที่สามีภรรยาคู่นี้ย้ายออกมาอยู่ข้างนอกเองเพราะวิธีการจัดการเรื่องราวของพวกเขาตรงกันข้ามกับผู้อาวุโสท่านหนึ่งในตระกูล ผู้อาวุโสท่านนั้นเอนเอียงไปทางฝ่ายขวาและปกติก็ค่อนข้างสนิทกับพวกฝักใฝ่ฝ่ายขวานั่นเอง
ส่วนสองสามีภรรยาโยโกยามะ คาวากุจินั้นดันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง พวกเขาชื่นชมวัฒนธรรมฮวาเซี่ยอย่างมาก ไม่เพียงแค่เริ่มศึกษาวัฒนธรรมฮวาเซี่ยด้วยตัวเองแต่ยังให้ลูกชายเรียนรู้ตั้งแต่เด็กอีกด้วย ทั้งเพิ่มสวัสดิการเงินเดือนแก่พนักงานชาวฮวาเซี่ยในบริษัทจนสร้างความไม่พอใจแก่ผู้อาวุโสท่านนี้ หนำซ้ำยังเกิดความขัดแย้งกับพวกเขาหลายต่อหลายครั้ง
ลำดับอาวุโสในประเทศญี่ปุ่นเข้มงวดอย่างมาก แม้สองสามีภรรยาโยโกยามะไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของผู้อาวุโสแต่พวกเขาก็ต่อต้านไม่ได้ ด้วยความระอาจำต้องย้ายออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่เพื่อแสดงถึงการขัดขืนในแบบฉบับพวกเขาเงียบ ๆ ใครจะคิดว่าจะเกิดเรื่องลูกชายถูกลักพาตัวไปล่ะ!
โชคดีที่เจอเหมยเหมย นับว่าเป็นความโชคดีท่ามกลางความโชคร้ายแล้ว!
“รออิจิโร่รักษาตัวจนหาย ฉันอยากไปขอบคุณผู้มีพระคุณด้วยตัวเอง คุณให้คนคอยติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเธอไว้ อย่าให้คลาดสายตาละ!” เคย์โกะสั่งสามี หากไม่ใช่เพราะไม่วางใจลูกชายเธอจะรีบบินไปหาพวกเหมยเหมยที่ประเทศแถบตะวันออกเฉียงใต้ทันที
“ผมไปกับคุณด้วย วางใจเถอะ อิจิโร่ของเราไม่เป็นอะไรแน่ เขาเป็นเด็กที่เข้มแข็งคนหนึ่ง ต้องผ่านไปได้แน่ ๆ!”
สองสามีภรรยาสวมกอดกันพลางมองลูกชายที่หลับใหลอยู่บนเตียงด้วยความรักและเมตตา ถึงจะรู้สึกแย่แต่มากกว่านั้นคือความโล่งอก
ไม่มีอะไรดีไปกว่าการมีชีวิตอยู่แล้ว!
เหมยเหมยพาเด็กสองคนเที่ยวแถบประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างสนุกสนาน วันเวลาผ่านไปกว่าครึ่งเดือนอย่างไม่รู้ตัว สามแม่ลูกถูกแดดเผาไหม้จนผิวดำแล้วยังอ้วนขึ้นจากเดิมเล็กน้อย โดยเฉพาะเหมยเหมยที่กินทุเรียนทุกวัน หลากหลายพันธุ์และต่อให้กินทุกวันก็ไม่มีเบื่อ
ทุเรียนลูกใหญ่วันละลูกจนแก้มเริ่มป่อง แต่กลับไม่กระทบต่อความงามของเหมยเหมยเพราะดูมีน้ำมีนวลยิ่งกว่าเดิม!
ลูกน้องจะคอยรายงานเรื่องต่าง ๆนา ๆของสามแม่ลูกให้เหยียนหมิงซุ่นฟังทุกวัน นอกจากกิน ๆนอน ๆก็เอาแต่เที่ยวเล่นจนทำเอาเหยียนหมิงซุ่นฟังแล้วรู้สึกแย่จับใจ
ไปจากเขาแล้วมีความสุขขนาดนั้นเชียว?
“คุณนายมีแก้มแล้ว…คาดว่าน่าจะหนักขึ้นสามถึงห้าจิน[2]ได้…” ลูกน้องรายงานอย่างตรงไปตรงมา
เหยียนหมิงซุ่น ‘…ไปจากเขาแล้วกลับเผลอใจปล่อยให้ตัวเองอ้วนได้…นี่ต้องรังเกียจเขามากขนาดไหนกันนะ?’
“ลูกพี่ คุณชายเช่อใกล้จะมาที่นี่แล้ว!” ลูกน้องรีบรายงานต่อ
“หาทางหลอกล่อเขาไปยุโรปซะ!”
เหยียนหมิงซุ่นออกคำสั่งโดยไม่ต้องคิด เฮ่อเหลียนเช่อมีสิทธิ์อะไรได้เจอลูกชาย?
เขาไม่ได้กลับไปอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว เฮ่อเหลียนเช่อก็อย่าคิดจะได้เจอลูกชายเลย!
………………………
[1] เทียชิวเปียว ประเพณีที่ชาวจีนจะซื้ออาหารมีไขมันสูงเพื่อบำรุงร่างกายไว้รับมือกับความหนาวเมื่อย่างเข้าฤดูใบไม้ร่วง
[2] หน่วยวัดน้ำหนักของจีน หนึ่งจินเท่ากับครึ่งกิโลกรัม