ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2545 ที่บ้านมีเหมืองสินะ + ตอนที่ 2546 เป็นเจ้าหญิงจริงๆ
ตอนที่ 2545 ที่บ้านมีเหมืองสินะ
ยูทากาฮาชิกลืนน้ำลาย แม้เขาจะเป็นคุณชายประจำตระกูลทากาฮาชิ แต่เนื่องจากไม่ใช่ผู้สืบทอดจึงมีมรดกภายใต้ชื่อตัวเองไม่มากนัก เขามีเพียงเงินส่วนแบ่งจากกำไรเล็ก ๆน้อย ๆที่ได้จากบริษัทเท่านั้น แต่สำหรับคนทั่วไปเงินก้อนนี้ก็ถือว่าเป็นเงินจำนวนมหาศาลแล้ว
แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้เขาก็ไม่อาจทำได้อย่างเหมยเหมย ปากบอกจะบริจาคห้าล้านดอลลาร์ก็ควักเอาเช็คขึ้นมาเขียนเลย!
บ้านคุณผู้หญิงจ้าวเหมยคนนี้ทำเหมืองสินะ?
ไม่อย่างนั้นทำไมถึงได้รวยขนาดนี้ล่ะ?
เหมยเหมยเห็นว่าจู่ ๆบรรยากาศก็เงียบไป สองคนนี้ไม่พูดอะไรเลยคิดว่าให้เงินน้อยไปจึงรีบพูดขึ้นว่า “ไม่พอใช่ไหม? งั้นสิบล้านแล้วกัน?”
“เอื้อก”
สองพี่น้องกลืนน้ำลายดังเอื้อกพลันก็อยากบีบคอเหมยเหมยที่อยู่ตรงหน้าให้ตายไปเสีย เกลียดนักคนที่เอะอะก็ชอบอวดรวย!
สิบล้านดอลลาร์เชียว!
ถ้าเปลี่ยนเป็นเงินญี่ปุ่นต้องเพิ่มศูนย์กี่ตัวนะ?
ตระกูลผู้หญิงคนนี้ต้องทำเหมืองแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย!
“คุณฟุ่มเฟือยขนาดนี้ สามีของคุณก็ตามใจแบบนี้เหรอ?” เคย์โกะอดถามไม่ได้
เหมยเหมยตอบตามตรง “ความจริงปกติฉันประหยัดมากนะไม่ค่อยใช้เงินเท่าไหร่!”
เคย์โกะชักมือกลับพยายามฝืนใจไม่ให้ยื่นออกมาเพราะกลัวจะบีบคอผู้หญิงคนนี้ตายจริง ๆ ใช้เงินสิบล้านดอลลาร์ทีเดียวไม่แม้แต่จะกะพริบตา แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าตัวเองประหยัดมากอีกเหรอ?
ปกติเธอซื้อกระเป๋าราคาหนึ่งพันดอลลาร์ยังชั่งใจอยู่ตั้งนาน เพราะไม่ว่าจะเป็นตระกูลโยโกยามะหรือตระกูลทากาฮาชิล้วนยึดถือในหลักการใช้จ่ายอย่างประหยัด ไม่อนุญาตให้ลูกหลานซื้อของฟุ่มเฟือย ยิ่งไม่อนุญาตให้ใช้จ่ายเงินเกินตัว!
“ไม่ต้องบริจาคเยอะขนาดนั้นหรอก ล้านเดียวพอแล้ว คุณประหยัดหน่อยเถอะ ผู้ชายหาเงินไม่ใช่ง่าย ๆ ผู้หญิงอย่างเราจะฟุ่มเฟือยเกินตัวไม่ได้นะ!” เคย์โกะอุตส่าห์พูดโน้มน้าว อย่างไรเสียเธอก็เป็นหญิงสาวชาวญี่ปุ่นย่อมสลักหลักคุณธรรมของสตรีที่ดีฝังเข้ากระดูกอยู่แล้ว
ยูทากาฮาชิก็พูดคล้อยตาม “ใช่ ล้านเดียวก็พอแล้ว ช่วงนี้ทีมแพทย์กำลังติดขัดเรื่องเงิน แค่ได้เงินหนึ่งล้านของคุณมาก็พอจะช่วยชีวิตคนได้มากแล้ว”
“ได้ งั้นก็หนึ่งล้านแล้วกัน!”
เหมยเหมยเขียนวงกลมเจ็ดตัวแล้วฉีกออกยื่นให้ยูทากาฮาชิให้เขาช่วยบริจาคแทน
ยูทากาฮาชิร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก นี่ก็เชื่อคนง่ายจังเลย ถ้าเกิดว่าเขาเป็นพวกต้มตุ๋นล่ะ?
เงินหนึ่งล้านดอลลาร์ก็หายเข้าไปในกลีบเมฆสิ?
เคย์โกะถอนหายใจพร้อมส่ายหน้า เดิมทีเธอคิดว่าเหมยเหมยจะเป็นคนที่ฉลาดรอบคอบแต่พอได้สัมผัสในช่วงเวลาหลายวันที่ผ่านมานี้ เธอถึงเพิ่งรู้ว่าคน ๆนี้อยู่ห่างจากคำว่าฉลาดรอบคอบเท่ากับมีภูเขาไฟฟูจิกั้นอยู่ซะอีก!
แต่เรื่องความโชคดีกลับเป็นเรื่องจริง!
ก็นับว่าคนโง่ก็มีวาสนาของคนโง่ละนะ!
ฟูจิตะคุงพยายามคัดค้านไม่ให้เหมยเหมยพาเด็กไปอย่างสุดความสามารถ ต่อให้เธอบริจาคเงินหนึ่งล้านก็ไม่ได้ แต่ทีมแพทย์ของเขากลับตกลงกันทุกคน ช่วยไม่ได้เพราะขาดแคลนเงินจริง ๆ มีเงินก้อนนี้พอจะซื้อยากับเสบียงอาหารได้อีกมากมายเลยและสามารถเอาไปช่วยชีวิตคนได้อีกตั้งเยอะด้วย!
“…ไว้ไปเจอกันที่ฮวาเซี่ยแล้วกัน บ๊ายบาย!”
เช้าวันรุ่งขึ้นเหมยเหมยก็พาเด็ก ๆไปสนามบินพร้อมบอกลาครอบครัวเคย์โกะ
ทางเหยียนหมิงซุ่นได้รับสายจากลูกน้องก็ตกใจยกใหญ่จนเสียงเปลี่ยน “จะไปตะวันออกกลาง? น้ำเข้าสมองเธอหรือไง? คิดจะพาเด็ก ๆไปด้วยอีก เหลวไหลจริง ๆ!”
“ลูกพี่ จะห้ามคุณนายดีไหม?” ลูกน้องทำหน้าขมขื่น เดิมทีคิดว่าแค่ออกมาพักร้อน แต่ตอนนี้กลับพบว่าพวกเขานั้นคิดง่ายเกินไปแล้ว!
เหยียนหมิงซุ่นคิดแล้วคิดอีกพร้อมทั้งวิเคราะห์ความเป็นไปได้มากมาย เหมยเหมยไม่มีทางวิ่งแจ้นไปทางนั้นอย่างไร้เหตุผลแน่นอน เธอคงมีเหตุผลบางอย่างแหละน่า!
“รู้ไหมว่าทำไมคุณนายอยากไปที่นั่น?”
“เมื่อวานผมสะกดรอยตามน้องชายของคุณนายโยโกยามะ ได้ยินเขาคุยกับเพื่อนเหมือนว่าจะไปตามหาใครสักคนที่นั่นละมั้ง? คุณนายยังบริจาคเงินให้ทีมแพทย์อีกหนึ่งล้านดอลลาร์เพื่อให้ทีมแพทย์อนุญาตให้พาเด็ก ๆไปด้วยอีกต่างหาก”
เหยียนหมิงซุ่นนวดขมับ ไปตามหาใครสักคนที่นั่นเหรอ?
น่าแปลกจัง!
แต่เขาเองก็รู้ว่าเหมยเหมยไม่มีทางล้อเล่นกับชีวิตของเด็ก ๆ เธอต้องผ่านการปรึกษากับฉิวฉิวมาแล้ว เรื่องความปลอดภัยคงไม่ใช่ปัญหา!
ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่วางใจอยู่ดี!
………………………..
ตอนที่ 2546 เป็นเจ้าหญิงจริงๆ
เหยียนหมิงซุ่นพิจารณาอยู่นานก็ตัดสินใจให้เหมยเหมยไปตะวันออกกลาง
“ลูกพี่บ้าไปแล้วหรือไง? ที่นั้นคือตะวันออกกลางนะ แถมตอนนี้กำลังมีสงครามรุนแรงอีกด้วย น่ากลัวยิ่งกว่าคฤหาสน์จอบส์เป็นพันเท่า ลูกพี่วางใจให้คุณนายพาลูกไปได้เหรอ?”
ลูกน้องตกใจยกใหญ่ เขาไม่กล้าเชื่อหูของพวกเขาเลย อีกทั้งยังแอบสงสัยในใจลึก ๆ…
ลูกพี่แอบมีแผนร้ายอะไรหรือเปล่า?
มิเช่นนั้นจะส่งตัวภรรยาและลูกสาวเข้าปากเสือเองกับมือได้เช่นไร?
เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “พวกแกตายไปแล้วหรือไง? คิดหาวิธีแฝงตัวเข้าไปในทีมแพทย์สิ!”
“ลูกพี่ งั้นลูกพี่ต้องบริจาคเงินหนึ่งล้าน ทีมแพทย์ดูแค่เงินไม่ได้ดูคนสักหน่อย! ”
“บริจาคบ้าอะไร ไปคิดหาวิธีการเอาเอง เรื่องเล็กแค่นี้ทำไม่ได้ฉันจะส่งแกไปแอฟริกาซะ!” เหยียนหมิงซุ่นวางสายด้วยความโมโห ในใจเจ็บปวดอยู่บ้าง
ภรรยาของเขาช่างใจกว้างจริง ๆ เงินหนึ่งล้านคิดจะบริจาคก็บริจาคกันง่าย ๆเลย!
เงินจำนวนนี้สู้เอามาเพิ่มสวัสดิการให้ลูกน้องยังดีกว่า เขาไม่ได้รักทุกคนบนโลกนี้ขนาดนั้น!
ลูกน้องวางสายแล้วมองหน้ากันอย่างระอา พูดเสียงพร้อมเพรียงกันว่า “ทำไงดี?”
“งั้นก็ช่วยไม่ได้!”
ทั้งสองคนเอ่ยขึ้นมาพร้อมกัน แลกเปลี่ยนสายตากันแล้วเดินพุ่งไปหาผู้รับผิดชอบทีมแพทย์ ทั้งสองเข้าไปโอบไหล่คนละด้านดูแล้วเหมือนเพื่อนรักกันแล้วพาตัวผู้รับผิดชอบทีมแพทย์เข้าห้องน้ำไป…
ในขณะเดียวกันชาวต่างชาติสองคนที่ตามไปด้วยก็ปรากฏรอยยิ้มเจื่อนบนใบหน้า
พวกเขาไม่อยากไปตะวันออกกลางเลยสักนิด แต่ในเมื่อรับเงินค่าจ้างมาแล้วคงไม่ทำงานไม่ได้!
ผ่านไปสักพักใหญ่พวกเขาก็ออกมา ใบหน้าผู้รับผิดชอบทีมแพทย์แฝงไปด้วยรอยยิ้มขมขื่น อยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตา!
“ผมเพิ่งได้รับคำสั่งมาว่าต้องเพิ่มบุคลากรอีกสี่คน พวกเขาจะไปที่นั่นกับเรา ทุกคนโปรดให้การต้อนรับเขาด้วย!” ผู้รับผิดชอบทีมแพทย์แนะนำทั้งสี่คน ต่อให้คิดเป็นร้อยรอบก็ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ไม่เคยเจอใครอยากแย่งไปสนามรบมาก่อนเลย
ยิ่งไปกว่านั้นไม่เคยเจอใครจ่ายเงินเพื่อขอไปด้วยซ้ำ
โลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ มีเรื่องประหลาดแบบนี้ด้วย!
เหมยเหมยกลับไม่ได้นึกเอะใจถึงสถานะของพวกเขาเลยสักนิด เขานึกว่าเป็นคนเบื้องบนส่งลงมาจริง ๆ แต่เสี่ยวเป่าเหลือบมองอยู่หลายครั้ง แถมยังเผยรอยยิ้มที่ดูมีเลศนัยออกมาด้วย
การเดินทางครั้งนี้คงจะคึกคักน่าดู!
น่าเสียดายที่คุณพ่อไม่ตามมาด้วย!
หลังจากทางฝั่งเหยียนหมิงซุ่นวางสายไปยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกทะแม่ง ๆ เหมยเหมยรู้จักเพื่อนคนไหนในตะวันออกกลางงั้นเหรอ?
เพื่อนของเธอผ่านการคัดกรองจากเขามาแล้วทั้งนั้น ทำไมเขาไม่รู้เลยว่าที่ตะวันออกกลางจะมีเพื่อนคนอื่นที่เล็ดลอดสายตาเขาไปได้ด้วย?
เหยียนหมิงซุ่นโทรหาบิลเพราะคนเดียวที่เขานึกออกในตอนนี้มีแค่เขาแล้ว บางทีบิลอาจจะพอรู้อะไรบ้างก็ได้
บิลกับยูทากาฮาชิก็รู้จักกัน ในขณะเดียวกันก็รู้จักหานเหมยด้วยเพราะพวกเขาเคยอยู่ที่เดียวกันมาก่อน ถือว่าเป็นเพื่อนเก่าแก่กันด้วยซ้ำ บิลแสดงท่าทีกระตือรือร้นมากและรีบโทรหายูทากาฮาชิในทันที
“ทากาฮาชิคุง คุณผู้หญิงจ้าวเหมยและฟุจิตะคุงไปตะวันออกกลางเหรอ?” บิลเอ่ยถามตามตรง
ยูทากาฮาชิมีสีหน้าตกใจ “คุณรู้ข่าวเร็วขนาดนี้ได้อย่างไรกัน? คุณกำลังอยู่ในช่วงพักร้อนอยู่ไม่ใช่เหรอ?”
“สามีของจ้าวเหมยโทรหาผมเพราะอยากรู้ว่าเธอไปทำอะไรที่นั่น สามีของเธอรู้สึกไม่ค่อยวางใจเท่าไร”
“เธอได้ยินเรื่องหานเหมยจากผมเลยรู้สึกสนใจขึ้นมา เธอบอกว่าอยากไปเจอหานเหมยที่นั้นสักครั้ง…” ยูทากาฮาชิเอ่ยด้วยความจนใจ บิลที่ได้ยินเช่นนั้นก็พร่ำบ่นว่าแย่แล้ว
เดินทางไปสนามรบที่ไกลแสนไกลเพื่อไปเจอผู้หญิงคนหนึ่งงั้นเหรอ?
ถ้าเป็นบุรุษหนุ่มรูปงามคนหนึ่งก็ยังพอเข้าใจได้!
“สามีของจ้าวเหมยเป็นเจ้าของเหมืองแร่เหรอ?” ยูทากาฮาชิอดถามไม่ได้
บิลหัวเราะร่า “แน่นอนว่าไม่ใช่ เจ้าของเหมืองแร่จะนับอะไรได้ สามีของเขาเป็นข้าราชการระดับสูงผู้มีอิทธิพลในฮวาเซี่ย อีกอย่างตัวเธอเองก็เป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงมาก เจ้าหญิงอัปลักษณ์รู้จักไหมล่ะ? นั่นแหละผลงานของจ้าวเหมยคนนี้เลย…”
จนกระทั้งสายตัดไป ผ่านไปอยู่นาน…ยูทากาฮาชิก็ยังคงตกตะลึงอยู่ จากนั้นก็โพล่งถามเคย์โกะที่กำลังจัดดอกไม้อยู่ว่า “พี่ พี่รู้ไหมว่าจ้าวเหมยเป็นใคร?”
“จ้าวเหมยเหรอ…หรือว่าเธอเป็นเจ้าหญิงของประเทศลึกลับที่ใดสักแห่งงั้นเหรอ?” เคย์โกะหยอกล้อ
“เธอเป็นเจ้าหญิงจริง ๆ ผลงานนักเขียนเจ้าหญิงอัปลักษณ์ที่พี่ชอบที่สุดก็คือจ้าวเหมยนี่แหละ!”
“อะไร…นะ…”
……………………………