ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2565 หนีออกไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน + ตอนที่ 2566 ใจสื่อถึงกันหายไปไหนแล้ว
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 2565 หนีออกไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน + ตอนที่ 2566 ใจสื่อถึงกันหายไปไหนแล้ว
ตอนที่ 2565 หนีออกไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน
เหมยเหมยไม่ค่อยอยากเชื่อเท่าไหร่ “ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นหรอกมั้ง? หรือว่านาสซาร์จะคลั่งไคล้ร่างนี้มากงั้นเหรอ?”
หานเหมยตัวสั่นสะท้านเฮือก กลอกตาใส่พร้อมสีหน้าหลากหลายอารมณ์
“จะเป็นไปได้อย่างไรกัน? นาสซาร์มีภรรยาตั้งสามคนแล้ว เขาไม่ได้ชอบร่างนี้เลยด้วยซ้ำแต่เขาแค่อยากครอบครอง อีกอย่างเพราะวิธีที่เข้าขึ้นครองตำแหน่งไม่ใช่วิธีที่โปร่งใส ตอนนี้ลูกน้องพ่อของร่างนี้มีปัญหากับเขาอยู่ เพราะฉะนั้นเขาจึงจำเป็นจะต้องแต่งงานกับร่างนี้เพื่อทำให้ลูกน้องพวกนั้นสงบลง”
หานเหมยมีใบหน้าอมทุกข์ วันที่เธอเพิ่งกลับมาเกิดวันแรกเป็นคืนที่นาสซาร์เปิดสงครามพอดี เนื่องจากเจ้าของร่างนี้เป็นลูกสาวคนเล็กสุดจึงได้รับความเอาอกเอาใจจากพ่อเป็นพิเศษ เธอเป็นคนเอาแต่ใจไม่น้อย คืนนั้นเธอทะเลาะกับพ่อของตนเลยหลบอยู่ในบ้านไม่ได้ออกไปที่ห้องโถงใหญ่
นาสซาร์ฆ่าคนในครอบครัวทุกคนของร่างนี้ทิ้งซึ่งเกือบร้อยคนจนศพเกลื่อนทั่วทั้งห้องโถงใหญ่ เลือดไหลดุจสายน้ำ เจ้าของร่างนี้ได้ยินเสียงจึงออกไปดูสถานการณ์ข้างนอก ครั้นเห็นภาพที่นาสซาร์ฆ่าพ่อของตนพอดีผู้หญิงคนนั้นจึงสลบไป เขาก็เลยได้เข้าร่างนี้
พอฟื้นขึ้นมาแม้แต่เวลาให้ปรับตัวก็ยังไม่มีด้วยซ้ำและเริ่มหนีหัวซุกหัวซุน
ยังดีที่โชคช่วย เธอได้พบกับทีมแพทย์ เนื่องจากเธอมีความรู้เรื่องการปฐมพยาบาลอยู่บ้างและทำอาหารอร่อยก็เลยได้มาอยู่ด้วย
นาสซาร์ให้คนมาตามเธอหลายครั้ง แน่นอนว่าเธอไม่มีทางกลับไปอยู่แล้ว กลับไปถึงแม้จะไม่ตายแต่คงใช้ชีวิตอย่างไม่เป็นสุขแน่นอน จุดจบของพี่สาวพวกนั้นก็คือเธอในอนาคต
แต่เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความอดทนของนาสซาร์จะยืนหยัดได้อีกนานแค่ไหน!
เมื่อถึงเวลานั้นขึ้นมาจริง ๆ เธอจะเป็นภาระให้พวกทีมแพทย์ไม่ได้…เฮ้อ !
เมื่อหานเหมยนึกถึงอนาคตของตัวเองก็อดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้ ทำไมถึงได้มาอยู่ในร่างเด็กผู้หญิงที่มีแต่เรื่องวุ่นวายคนนี้กันนะ?
“ถึงแม้นาสซาร์จะน่ากลัวแค่ไหนแต่ก็มีอิทธิพลแค่ที่ทะเลทรายแห่งนี้หรือเปล่า? หากออกจากตะวันออกกลางไปประเทศอื่น เปลี่ยนสถานะปลอมไปใช้ชีวิตอยู่ที่อื่นจะมีอะไรให้ต้องกลัวกัน?” เหมยเหมยไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก
เธอไม่เชื่อหลอกว่านาสซาร์จะมีหัวกับแขนงอกเพิ่มขึ้นมาได้
“เธอไม่รู้อะไร ผู้ชายคนนั้นเป็นคนบ้าระห่ำมากจริง ๆ สร้างเรื่องหวาดผวาไปทั่วโลก อีกอย่างมีหลายคดีที่เธอน่าจะเคยพอได้ยินมาบ้าง ก็มีคดีพวก……”
หานเหมยขยับเข้าไปข้างหูของเหมยเหมยแล้วกระซิบชื่อออกมาเสียงเบา เหมยเหมยตกใจจนตะลึงตาค้าง คดีที่น่ากลัวพวกนั้นแน่นอนว่าเธอต้องเคยได้ยินอยู่แล้ว ทุกคนบนโลกนี้ต่างรู้ดี นึกไม่ถึงว่านาสซาร์จะเป็นคนทำ!
เป็นคนบ้าที่สติหลุดไปแล้วจริง ๆ ไม่น่าหานเหมยถึงได้กลัวขนาดนี้!
“ถ้าอย่างนั้นจะทำอย่างไรดีล่ะ? มาอยู่กับทีมแพทย์ไม่ใช่แผนที่จะใช้ได้ตลอดไป ผู้หญิงที่นี่อายุ 16 ก็ต้องแต่งงานแล้ว อย่างมากเธอก็น่าจะมีเวลาอีกแค่สองปีเท่านั้น!”
“ครึ่งปี ร่างนี้อายุ 14 คนที่นี่อายุ 15 ก็ต้องแต่งงานแล้ว” หานเหมยถอนหายใจออกมา พอตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เลยทำให้เธอกินไม่ได้นอนไม่หลับ
แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี!
เหมยเหมยตกใจ นับว่าโชคดีที่เธอมาได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นหานเหมยก็คงจะต้องกลายเป็นภรรยาของมันไปแล้ว!
“ฉันคิดว่าเธอหนีไปกับฉันก่อนแล้วค่อยคิดก็แล้วกัน ที่นี่เป็นที่ของนาสซาร์ อยู่ต่อไปก็ยิ่งจะมีแต่อันตราย ออกไปก่อนแล้วค่อยคิดหาหนทาง ถึงแม้นาสซาร์จะเป็นคนที่มีอิทธิพลมากขนาดไหนแต่ก็คงไม่ถึงกับมีสายตาสอดส่องอยู่ทั่วทุกที่บนโลกนี้หรอกมั้ง?”
หานเหมยคิด ๆดูแล้วก็ใช่ ออกไปก่อนอาจจะมีทางรอดก็ได้ แต่เธอก็ยังกลัวอยู่ดี——
“ฉันกลัวจะเป็นภาระให้เธอกับพวกเด็ก ๆ ถ้าถูกจับได้ขึ้นมาละก็”
“ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันไม่ทำให้เขาจับได้แน่นอน เอาล่ะ เรื่องนี้เธอไม่ต้องยุ่งแล้วยกให้ฉันเป็นคนจัดการเอง อีกไม่กี่วันทีมแพทย์จะกลับเข้าเมืองเพื่อเอาเสบียง พวกเราก็หนีไปกัน จากนั้นก็ไปสหรัฐฯให้เซียวเซ่อช่วยสร้างสถานะตัวปลอมขึ้นมาก่อนแล้วค่อยกลับฮวาเซี่ย ฉันไม่เชื่อหรอกว่านาสซาร์จะกล้ามาสร้างความวุ่นวายในฮวาเซี่ย!”
เหมยเหมยค่อนข้างมั่นใจเป็นอย่างมาก ฮวาเซี่ยเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในโลกแล้ว คนของนาสซาร์เข้ามาไม่ได้ด้วยซ้ำ!
……………………………………..
ตอนที่ 2566 ใจสื่อถึงกันหายไปไหนแล้ว
หลังจากได้รับการปลอบใจจากเหมยเหมย จิตใจของหานเหมยก็รู้สึกสงบลงไม่น้อย เธอพูดออกมาด้วยความซาบซึ้งใจว่า “ขอบคุณนะ…เหมยเหมย!”
นึกไม่ถึงเลยว่าคนแรกที่หาเธอเจอจะเป็นเหมยเหมย ไม่ใช่เฮ่อเหลียนเช่อ
หานเหมยจุกอยู่ในอกและหงุดหงิดใจเล็กน้อย
ถึงแม้เธอจะบอกตัวเองว่าอย่าคิดเล็กคิดน้อย เฮ่อเหลียนเช่อก็แค่ไม่ได้เจอคนจากทีมแพทย์ ใช่ว่าเขาจะไม่อยากตามหาเธอสักหน่อย แต่คนรักกันก็ควรจะมีใจที่สื่อถึงกันได้ไม่ใช่เหรอ?
ถึงแม้จะอยู่ห่างไกลกันก็ควรจะสัมผัสได้ถึงการมีตัวตนของเธอไม่ใช่เหรอ?
เฮ่อเหลียนเช่อไม่ได้พยายามตามหาแน่ ๆ!
หานเหมยไม่รู้ตัวเลยว่านอกจากร่างกายจะเปลี่ยนเป็นผู้หญิงแล้ว แม้แต่จิตใจก็ยังคับแคบลงด้วย
“คุณอา…เอ้ย…พี่สาว…ผมกับพ่อตามหาพี่มาตั้งนาน ไปมาแล้วก็หลายที่…” เสี่ยวเป่าคลานเข้ามาอยู่บนตัวเธอแล้วพูดเสียงเบาขึ้นด้วยความรัก
“พวกเธอไปไหนกันมาบ้าง?”
“ป่าอะเมซอน ทะเลทราย ทวีปออสเตรเลีย…แล้วก็ทุ่งหญ้า…พวกเราตามหาในป่าอยู่นาน แล้วก็ได้เจอเผ่ามนุษย์กินคนด้วย…”
เสี่ยวเป่าชูมือนั่งนับนิ้ว หานเหมยขมวดคิ้ว เฮ่อเหลียนเช่อทำไมถึงพาเสี่ยวเป่าไปสถานที่อันตรายขนาดนั้นนะ?
อีกอย่างเสี่ยวเป่าเพิ่งจะอายุเท่าไร ไม่รู้จักเชิญครูให้มาสอนหนังสือบ้าง?
ต่อไปตามคนอื่นเขาไม่ทันจะทำอย่างไร?
เธอรู้อยู่แล้วว่าเฮ่อเหลียนเช่อเลี้ยงเด็กไม่เป็น นิสัยหยาบโลน เดี๋ยวกลับไปจะด่าให้เข็ด!
ห่างจากที่ตั้งฐานทัพไปประมาณ 50 กิโลเมตร เฮ่อเหลียนเช่อขี่อยู่บนหลังอูฐที่ค่อย ๆเดินอย่างช้า ๆ ทั้งตัวปกคลุมไปด้วยชุดคลุมยาวแต่ก็ยังร้อนอยู่ดี บ้าเอ้ย…พอคนที่นี่ได้ยินว่าจะไปเขตทำสงครามก็ไม่มีใครยอมพาไปเลย แม้แต่รถก็ยังหาเช่าไม่ได้ เขาหมดหนทางก็เลยต้องซื้ออูฐมาตัวหนึ่ง
เขาออกเดินทางมาตั้งครึ่งค่อนวันแล้วแต่ก็ยังหาไม่เจอว่าพวกทีมแพทย์อยู่ที่ไหน ที่นี่ไม่มีแม้แต่แผนที่ด้วยซ้ำ!
เฮ่อเหลียนเช่อก่นด่ามาตลอดทาง เขาหยิบเข็มทิศออกมาเพื่อดูทิศทางแล้วเปลี่ยนเส้นทาง ตอนนี้เขารู้สึกคิดถึงเสี่ยวเป่าจับใจ ถ้ามีเสี่ยวเป่าอยู่เขาไม่เคยต้องกังวลเรื่องเส้นทางเลยด้วยซ้ำ ใช้ดียิ่งกว่าเรดาร์เสียอีก!
ไม่รู้ว่าสิ่งที่ไอ้บ้าเหยียนหมิงซุ่นพูดเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า เหมยซูหานกลับมาแล้วจริง ๆเหรอ?
หรือว่าจะอยู่ที่ทะเลทรายแห่งนี้?
หรือว่าเหมยซูหานจะกลายเป็นผู้ชายตะวันออกกลางที่มีหนวดเคราเต็มไปหมด?
เฮ่อเหลียนเช่ออดที่จะตัวสั่นไม่ได้ เขารังเกียจผู้ชายตะวันออกกลางที่สุด หน้าตาไม่น่ามองไม่เท่าไหร่ บนตัวยังมีกลิ่นประหลาดอีกต่างหาก…แต่หากเป็นเหมยซูหานจริงเขาก็จะพยายามฝืนใจแล้วกัน!
อย่างมากก็แค่พากลับไปแปลงโฉมโกนหนวดเคราทิ้ง ไม่ให้กินเนื้อวัวเนื้อแพะ อาบน้ำนมกลิ่นกุหลาบอะไรพวกนี้ทุกวัน… เหมยซูหานที่ทั้งหอมทั้งตัวนิ่มของเขาก็คงจะกลับมาได้ในเร็ววันแล้ว!
เมื่อคิดได้เช่นนั้นเฮ่อเหลียนเช่อก็ดีใจจนอดหัวเราะออกมาไม่ได้ เขาถีบท้องอูฐแล้วเอ่ย “ไปให้มันเร็ว ๆหน่อย อาหารของฉันให้แกกินหมดเลย!”
คนที่นี่ต่างก็เป็นพ่อค้าหน้าเลือด อูฐตัวหนึ่งเก็บเขาตั้ง 2000 ดอลลาร์ แล้วยังทั้งขี้เกียจทั้งกินเก่งอีก รอให้เจอพวกจ้าวเหมยก่อนจะจับอูฐขี้เกียจตัวนี้มาฆ่ากินให้ดูเลย!
เสียงร้องตะโกนกับเสียงมอเตอร์รถดังแว่วมาแต่ไกล เฮ่อเหลียนเช่อหรี่ตามอง ถึงแม้เขาจะมาตะวันออกกลางนับครั้งได้แต่ก็พอจะรู้อยู่บ้าง คนที่กล้าขับรถในเขตสงครามก็มีแต่พวกผู้ก่อการร้ายเท่านั้นแหละ
ดูท่าเขาคงจะต้องวอร์มร่างกายแล้ว!
เฮ่อเหลียนเช่อนั่งอยู่บนอูฐไม่ขยับและไม่คิดหนีเพราะไม่มีที่ให้หนี รอบข้างเป็นทะเลทรายไร้ที่กำบัง แม้แต่กระต่ายยังไม่สามารถอำพรางตัวเองได้เลย
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
รถปิ๊กอัพเก่าคันหนึ่งขับเข้ามา บนรถมีคนอยู่สิบกว่าคน ถึงแม้จะใส่ชุดเหมือนชาวบ้านทั่วไปแต่พวกเขาต่างก็ถือปืน AK อยู่ในมือซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นผู้ก่อการร้าย
……………………….