ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2647 ยากจนข้นแค้น + ตอนที่ 2648 ความโหดร้ายบนโลกใบนี้
ตอนที่ 2647 ยากจนข้นแค้น
ฉีฉีเก๋อเปลี่ยนใจหลังโดนเหมยเหมยด่าไปยกหนึ่ง
“ขายได้สิบล้านจริงเหรอ?” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนทำท่าไม่ค่อยเชื่อ
บ้านที่ฉางชิงซานซื้อเสียเงินค่าตกแต่งไม่ถึงหนึ่งล้านแถมชุมชนนั่นยังอยู่วงแหวนรอบสี่ซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองไกลไปสักหน่อยถึงได้ขายราคาถูก แล้วจะราคาสิบล้านได้อย่างไร?
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยังไม่รู้ว่ารออีกไม่กี่ปีอย่าว่าแต่วงแหวนรอบสี่เลย ขอแค่เป็นบ้านตั้งอยู่ภายในวงแหวนห้าก็ราคาสูงเสียดฟ้า ชุมชนที่ไกลกว่านี้ก็แทบจะอยู่ติดเหอเป่ยแล้ว!
“ไม่เชื่อสินะ…งั้นตอนนี้ฉันซื้อบ้านหลังนั้นด้วยเงินสองล้าน ถ้าฉันขายได้สิบล้าน ฉีฉีเก๋อเธออย่าเสียใจทีหลังเชียว!” เหมยเหมยเอ่ยอย่างไม่พอใจน้อย ๆ
ฉีฉีเก๋อพรูลมหายใจโล่งอกเหมือนได้รับการปลดปล่อย “ไม่ต้องสองล้านหรอก ฉันขายให้เธอล้านเดียว ต่อให้วันหน้าเธอขายได้ยี่สิบล้านฉันก็ไม่เสียใจภายหลังแน่นอน แค่นึกถึงบ้านหลังนั้นฉันก็กลัวไปหมด ต่อให้ราคาดีแค่ไหนฉันก็ไม่เอา!”
เดิมทีเหมยเหมยแค่พูดเล่น ๆแต่กลับคิดไม่ถึงว่าฉีฉีเก๋อจะคิดจริง เงินหนึ่งล้านใช้เวลาไม่ถึงสองปีเธอก็หามาคืนได้แล้ว
“เธอต้องคิดให้ดีนะ ฉันไม่ได้โกหกเธอจริง ๆ บ้านหลังนั้นอนาคตอย่างน้อยก็ขายได้สิบล้าน มีแต่จะมากไม่มีทางน้อยกว่านี้แน่!”
“คิดดีแล้ว ไม่ว่าราคาดีแค่ไหนฉันก็ไม่เอา หรือว่าฉันให้เธอฟรี ๆเลยดีกว่า ไม่รับเงินสักหยวนเดียว!” ฉีฉีเก๋อคิดว่าถ้าให้ฉางชิงซานสู้มอบให้เพื่อนสนิทยังจะดีกว่า!
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก็พยักหน้าแรง ๆ ไม่ต่างกัน “ใช่…ยังไงซะก็ห้ามคืนให้ฉางชิงซาน เหมยเหมยเธอไม่กลัวก็รับไว้สิ!”
เหมยเหมยทั้งนึกขำทั้งโกรธ “ถ้าเธอไม่เอาจริง ๆงั้นฉันซื้อต่อนะ ตกลงไว้แล้วว่าสองล้านก็คือสองล้าน อย่ามาเถียงฉันเลย พวกเธอรู้ว่าฉันไม่ขาดแคลนเงินแค่นี้หรอกน่า”
เงินสองล้านเธอใช้เวลาไม่กี่ปีก็หาคืนมาได้แล้ว เป็นการค้าขายที่มีแต่จะได้กำไร!
แต่ฉีฉีเก๋อกลับไม่ยอมรับเงินสองล้านนั้นไว้ สุดท้ายยอมรับไว้เพียงล้านเดียวซึ่งเหมยเหมยก็คร้านจะเถียงกับเธอต่อ ไว้ค่อยชดเชยให้เธอวันหน้าแล้วกัน ไม่จำเป็นต้องรีบเอาตอนนี้ก็ได้
อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อย ๆ เรื่องชั่วร้ายที่คนตระกูลฉางสร้างเอาไว้ก็ค่อย ๆจางหายไป ตอนนี้ฉีฉีเก๋อเป็นศิลปินอยู่พิพิธภัณฑ์ของเหยียนซินหย่า รูปวาดของเธอมีชีวิตชีวาบวกกับคำแนะนำอย่างดีจากเหยียนซินหย่าเลยทำให้ไม่นานก็โดดเด่นท่ามกลางศิลปินวัยหนุ่มสาวที่นับว่าพอมีชื่อเสียงเล็กน้อย
ชีวิตดำเนินไปอย่างราบเรียบและมีความสุข…
“ฉางชิงซานโทรมาขอเจอเป่ารื่อน่า ฉันไม่รู้ว่าควรตอบตกลงไปหรือเปล่า”
วันหนึ่งขณะที่เพื่อนนัดเจอกันในร้านกาแฟ ฉีฉีเก๋อก็เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าชั่งใจ
“เจออะไร ตอนแรกเขาไม่เคยเห็นเป่ารื่อน่าเป็นลูกสาวแท้ ๆอยู่ก่อนแล้ว อย่าไปเจอ!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนคัดค้านสุดแรง
ฉางชิงซานในตอนนี้บอกได้เลยว่ายากจนข้นแค้น แผนถ่ายทำหนังใหม่ล้มเหลวไม่เป็นท่า เดิมทีฉางชิงซานคิดจะหาผู้ลงทุนใหม่ แต่นักเขียนบทที่เขาเล็งเอาไว้บอกว่าไม่อยากให้เขาถ่ายทำแล้วเพราะเขาเจอผู้ซื้อที่ดีกว่า
จากนั้นคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในบ้านเขาก็ถูกแฉออกมาว่าสามคนสมาชิกครอบครัวเข่นฆ่ากันเองจนทำเอาคนฟังขนลุกพลางลือกันว่าเป็นเพราะโรคประสาทที่ถูกสืบทอดทางพันธุกรรมของครอบครัวฉางชิงซาน แถมยังเป็นการฆ่าที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
ด้วยเหตุนี้เพื่อน ๆรอบตัวต่างก็ตีตัวออกห่างจากฉางชิงซาน
ใครจะอยากคบเพื่อนที่ป่วยเป็นโรคประสาทพร้อมฆ่าคนได้ทุกเมื่อกันล่ะ ใช่ว่าอยากรนหาที่ตายสักหน่อย!
ฉางชิงซานที่ไม่หลงเหลืออะไรก็สูญเสียที่พึ่งอันน้อยนิดสุดท้าย—สายสัมพันธ์ของคนรู้จัก!
เขาไม่เหลือที่ยืนในเมืองหลวงอีกต่อไปกลายเป็นสุนัขจรจัดไร้ที่ซุกหัวนอน เทียบไม่ได้กับช่วงที่เขาเพิ่งเรียนจบหมาด ๆด้วยซ้ำ!
“ให้เขาเจอหน่อยแล้วกัน ในเมื่อเป็นพ่อแท้ ๆของเป่ารื่อน่า แต่เธอต้องมีคนไปด้วย เผื่อหมอนั่นคิดจะทำอะไรอีก!” เหมยเหมยพูดเตือน
ฉีฉีเก๋อพยักหน้าศีรษะ “ฉันก็คิดไว้อย่างนั้นเหมือนกัน ถึงตอนนั้นพี่รองจะไปเป็นเพื่อนฉัน”
“งั้นก็ไม่เป็นไรแล้ว!”
เหมยเหมยวางใจทันที พี่รองของฉีฉีเก๋อมีรูปร่างบึกบึนแข็งแรง ต่อให้มีฉางชิงซานสิบคนก็ไม่ใช่ปัญหา ไม่มีทางเป็นอะไรไปได้หรอก!
…………………………..
ตอนที่ 2648 ความโหดร้ายบนโลกใบนี้
ฉางชิงซานเป็นคนกำหนดจุดนัดพบซึ่งก็คือร้านกาแฟแห่งหนึ่งละแวกบ้านเก่าที่ฉางชิงซานเคยอาศัย ฉีฉีเก๋อพาเป่ารื่อน่ากับพี่รองของเธอไปด้วย
เหมยเหมยยังไม่ค่อยวางใจ อย่างไรเสียเธอก็ว่างเลยพาเสี่ยวเป่ากับเล่อเล่อไปด้วย แต่ไม่ได้นั่งร่วมโต๊ะเดียวกับฉีฉีเก๋อแต่เลือกที่จะนั่งโต๊ะอีกฟากที่ห่างออกไปหลายโต๊ะ
ฉีฉีเก๋อตั้งใจมาถึงก่อนเวลานัด คนในร้านไม่มากเท่าไรที่ผ่านไปสักพักฉางชิงซานก็มาถึง
ในเวลาสั้น ๆเพียงไม่กี่วันฉางชิงซานเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน หนวดยาวเฟิ้มผมเผ้ายุ่งเหยิงจนดูมีอายุมากกว่าเดิมสิบกว่าปี
เห็นเป่ารื่อน่าในอ้อมแขนของฉีฉีเก๋อฉางชิงซานก็เค้นรอยยิ้มออกมา ยื่นมือออกไปหมายจะอุ้มแต่เป่ารื่อน่าตกใจจนร้องไห้และพยายามซุกอกฉีฉีเก๋อเพราะลืมฉางชิงซานไปตั้งนานแล้ว
“เป่ารื่อน่า นี่พ่อไง พ่อของลูก…”
ฉางชิงซานรู้สึกปวดใจ แม้แต่ลูกสาวยังจำเขาไม่ได้ เขาในตอนนี้ยังไม่เทียบเท่าสุนัขข้างถนนเลย
เป่ารื่อน่าส่ายศีรษะอย่างแรง เธอไม่มีความทรงจำใดเกี่ยวกับคุณพ่อและไม่ได้เฝ้าคอยที่จะได้เจอเลย ภายในใจของเธอคุณพ่อยังไม่ดีเท่าคุณลุง คุณลุงพาเธอออกไปทานของอร่อย ๆทุกวัน แถมยังพาเธอไปเที่ยวสวนสนุก แต่คุณพ่อไม่เคยเลยสักครั้ง
“ไม่เอาคุณพ่อ…จะเอาคุณแม่…จะเอาคุณลุง…” เป่ารื่อน่าพยายามหลบมือฉางชิงซาน แม้เสียงจะเบาแต่ฉางชิงซานกลับได้ยินชัดเต็มสองหูเลยสีหน้าเปลี่ยนไปฉับพลัน
“เป่ารื่อน่า….ใครสอนลูกพูดแบบนี้?” ฉางชิงซานถามเสียงเข้ม ร่างน้อย ๆของเป่ารื่อน่าสั่นเทา ตกใจจนไม่กล้าหันไปมองยิ่งกว่าเดิม
ฉีฉีเก๋อกอดลูกสาวไว้แน่นแล้วปั้นหน้าเย็นชาตวาดถาม “นายจะดุเป่ารื่อน่าทำไม? เด็กยังต้องให้สอนเหรอ? ใครดีกับเธอใครไม่ดีกับเธอ เป่ารื่อน่ารู้ดีอยู่แก่ใจ นายลองถามตัวเองนะว่านายเคยรับผิดชอบอะไรเป่ารื่อน่าบ้าง?”
ฉางชิงซานสีหน้าอ่อนลงเล็กน้อยแต่ไฟโทสะในใจกลับลุกโชนกว่าเดิม เขาไม่แสดงออกทางสีหน้าสักนิดและเลือกจะชักมือขวากลับไปสอดเข้ากระเป๋าเสื้อโค้ทพร้อมกำหมัดไว้แน่น
“ฉีฉีเก๋อ เมื่อก่อนฉันผิดไปแล้ว เธอให้โอกาสฉันสักครั้งนะ…ฉันจะแก้ตัว…จะพาเป่ารื่อน่าออกไปเที่ยวทุกวัน ทำงานบ้าน…เธอเชื่อฉันนะ ฉันจะปรับปรุงตัวแน่ ๆ…”
ฉางชิงซานอ้อนวอนขอร้อง หลายวันมานี้เขาได้ลิ้มรสความโหดร้ายของโลกใบนี้มาทุกรูปแบบ กลุ่มเพื่อนในรายชื่อผู้ติดต่อไม่ยอมรับสายเขาสักคน หนังเรื่องใหม่ยิ่งเงียบกริบไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ช่วงนี้เขาพักที่โรงแรมไม่มีรายได้เข้า ถ้าไม่ใช่เพราะยังมีเสื้อผ้าแบรนด์เนมกับเครื่องประดับจำนวนหนึ่งเขาคงไม่มีแม้แต่เงินกินข้าวด้วยซ้ำ
แต่นี่ไม่ใช่แผนระยะยาว เสื้อผ้ามือสองกับเครื่องประดับกระเป๋าขายได้ไม่เท่าไร ฉางชิงซานครุ่นคิดอยู่หลายวัน คิดว่าการกลับไปคืนดีกับฉีฉีเก๋อเป็นวิธีที่ดีที่สุด
ถ้าฉีฉีเก๋อไม่ตอบตกลง…ก็อย่าหาว่าเขาใจร้ายแล้วกัน!
อย่างไรเสียตอนนี้เขาก็ตกอยู่ในเหวลึกไม่อาจผงาดกลับมาได้แล้ว งั้นลากอีกคนมาอยู่เป็นเพื่อนก็ถือว่าได้กำไรแล้วล่ะ
ฉีฉีเก๋อมองฉางชิงซานที่เหมือนกำลังส่ายหางทำตัวน่าสงสารอยู่ตรงหน้าเธออย่างเย้ยหยัน มาเสียใจภายหลังเอาป่านนี้จะมีประโยชน์อะไร?
เธอไม่สนใจแล้ว ตอนนี้เธอกับลูกสาวใช้ชีวิตอยู่กันอย่างสุขสบายดี มีความสุขมากกว่าชีวิตที่เหมือนเป็นหญิงแก่หน้าหม่นแต่ก่อนมากโข ตอนนี้เธอคงน้ำเข้าสมองหากตกหลุมพรางอีกครั้ง!
“ฉางชิงซาน นายหลงตัวเองเกินไปหรือเปล่า คิดจริง ๆหรือว่าไปจากนายแล้วใครก็มีชีวิตอยู่ต่อไม่ได้น่ะ? ฉันมีเงินมีบ้านมีงานทำ มีความสุขสำราญดี ทำไมฉันต้องกลับไปคืนดีกับนายด้วย?” ฉีฉีเก๋อพูดประชด
“เพื่อเป่ารื่อน่าจะได้เติบโตอย่างแข็งแรง เธอต้องการครอบครัวที่สมบูรณ์ ฉีฉีเก๋อเธอต้องคิดเผื่อเป่ารื่อน่า…”
ฉางชิงซานรู้สึกแค้นจับใจ เงินและบ้านเหล่านั้นทั้งหมดเป็นของเขานะ!
…………