ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2669 ผู้ป่วยโรคจูนิเบียวระยะสุดท้าย + ตอนที่ 2670 ภาวะมีบุตรยาก
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 2669 ผู้ป่วยโรคจูนิเบียวระยะสุดท้าย + ตอนที่ 2670 ภาวะมีบุตรยาก
ตอนที่ 2669 ผู้ป่วยโรคจูนิเบียวระยะสุดท้าย
“เธอกินยาลดความอ้วนยี่ห้ออะไร?” เหมยเหมยแทบกระอักความโกรธตายอยู่แล้ว
ตอนขึ้นมัธยมปลายอย่างมากก็ 15-16 ปี ร่างกายยังเติบโตไม่เต็มที่เลย ยัยโง่นี่ไปกินยาลดความอ้วนอะไรกัน?
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนครุ่นคิดส่ายหน้ากล่าว “จำไม่ได้แล้ว เพื่อนในชั้นเรียนฉันแนะนำมาบอกว่าผลลัพธ์ไม่เลวเลยแนะนำให้ฉันกิน แถมหิ้วมาจากฮ่องกงขวดหนึ่งไม่กี่ร้อยเอง เห็นบอกว่าแค่กินวันละสามเม็ดตอนท้องว่าง แถมเดือนหนึ่งยังลดได้ตั้ง 5 กิโลกว่าเลยนะ!”
ในตอนนั้นถูกเพื่อนหลอกจนใจหวั่นไหวตามไปด้วย ไม่ต้องทนหิวก็ผอมลงได้ขนาดนั้น งั้นยาลดความอ้วนนี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเธอหรอกหรือไง!
ตอนนั้นเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินทอง พอยิ่งเห็นหุ่นของเพื่อนทั้งเซ็กซี่ทั้งหุ่นดีขนาดนั้นเลยไหว้วานให้เพื่อนช่วยซื้อให้ชุดหนึ่งซึ่งชุดหนึ่งกินได้สามเดือน
เดือนแรกที่กินได้ผลดีมาก กินเนื้อกินปลาไปทุกวัน ตกดึกยังมีมื้อดึกอีก แถมยังจัดเบียร์ไปอีกหลายขวด… แต่ก้อนเนื้อบนร่างกายเธอกลับลดเอา ๆ เดือนหนึ่งน้ำหนักลดลงไป 7.5 กิโล!
นั่นเลยทำเอาเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนดีใจจนแทบบ้า ตอนนั้นเธอตัวสูงเท่าตอนนี้ซึ่งก็คือ 163 ซม. แต่ว่ากลับมีน้ำหนักไม่ถึง 45 กิโล เกรงว่าช่วงชีวิตนี้ของเธอน่าจะเป็นช่วงที่หุ่นดีที่สุดแล้วมั้ง
ครั้นเห็นสาวงามที่ผอมทรวดทรงดีในกระจก เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก็อยากจะส่องกระตลอด 24 ชั่วโมงด้วยซ้ำ แต่เธอเองยังไม่ชอบเอวที่ออกจะหนาไปเสียหน่อยของตัวเอง อีกทั้งตอนสวมชุดกระโปรงก็ยังดูไม่สวยพอ…
ดังนั้น…
คุณหนูเหริ่นถึงได้ทำการตัดสินใจที่โง่ที่สุด เดือนที่สองเธอจึงเพิ่มโดสยาเข้าไปเองโดยพลการ โดยเริ่มกินวันละสี่เม็ดเพราะอยากตัวบางเหมือนกระดาษเป็นคนสวยเร็ว ๆ!
แต่ผลลัพธ์ของเดือนที่สองกลับทำให้เธออยากอ้วก…ไม่เพียงแต่ไม่ผอมแต่ยังหนักขึ้นด้วย เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนคิดว่าร่างกายคงจะเริ่มดื้อยา เลยเพิ่มไปเป็นห้าเม็ด…หกเม็ด…
“มีครั้งหนึ่งฉันกินไปสิบเม็ดต่อวัน…. แต่ยิ่งนานวันฉันก็ไม่ผอมลงสักที แต่กลายเป็นว่ายิ่งอ้วนขึ้นเรื่อย ๆ อ้วนกว่าตอนก่อนลดน้ำหนัก 5 กิโลนั่นอีก ผิวก็แย่ สิวผุดขึ้นเต็มไปหมด แถมผมก็ร่วง ประจำเดือนก็ไม่มา…”
พอพูดถึงเรื่องในอดีตที่ไม่อยากจะนึกถึงเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก็นึกเสียใจขึ้นมา ตอนนั้นเธอดื้อเกินไป คนที่ช่วยซื้อยาให้ยังเคยเตือนเธอว่าไม่ให้เธอเพิ่มโดสยาเองแต่เธอไม่ฟังแล้วยังรนหาที่เองอีก
“เธอ…ทำไมเธอถึงได้โง่แบบนี้? แหม ยังมีหน้าไปด่าฉีฉีเก๋อว่าโง่ ฉันว่าเธอโง่กว่าตั้งร้อยเท่า…เอาสุขภาพของตัวเองมาล้อเล่น ถ้าไม่ทำมันจะตายหรือไงกันนะ!”
เหมยเหมยหวังดีกับเพื่อนจากใจจริง เดิมทีเธอคิดว่าคงไม่ต้องกลุ้มใจเรื่องเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเท่าฉีฉีเก๋อ คิดไม่ถึงเลยว่าก่อนหน้านี้ยัยนี่จะเป็นผู้ป่วยโรคจูนิเบียวระยะสุดท้ายมาก่อน!
เห็นยาลดความอ้วนเป็นของหวาน รอดมาถึงทุกวันนี้ได้ก็น่าอัศจรรย์มากแล้ว!
“ประจำเดือนไม่มา ทำไมไม่ไปตรวจที่โรงพยาบาล?” เหมยเหมยถามอย่างหัวเสีย
ถ้าตอนนั้นไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล ไม่แน่ว่าอาจจะไม่หนักขนาดนี้ ตรวจเจอโรคเร็วก็น่าจะหายได้นี่นา!
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนอึกอักไม่ยอมตอบ เธอรู้ว่าเพื่อนจะต้องว่าตนเองโง่เพราะอย่างไรเสียเธอเองก็รู้สึกว่าตัวเองในตอนนั้นโง่เง่ามากจริง ๆแต่เธอไม่อยากพูดออกมาเท่านั้นเอง
ภาพลักษณ์ของเธอคือคุณหนูเหริ่นที่ฉลาดเฉลียว ทำงานเก่ง แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยทำธุรกิจขาดทุน ถ้าเรื่องโง่ ๆที่เธอเคยทำแพร่งพรายออกไป แล้วเธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน!
“ฉันรู้ว่าพวกเธอต้องล้อฉันแน่…เลยไม่พูดดีกว่า…อย่างไรเสียก็กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว ไม่มีลูกก็ไม่มีลูกสิ จะได้ช่วยประหยัดแรงไม่ต้องเจอเรื่องวุ่นวายด้วย!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพูดกระท่อนกระแท่น ไม่ยอมพูดเรื่องในอดีตอีก
เหมยเหมยโกรธจนฟาดใส่ทีหนึ่ง “จะพูดไหม? ถ้าไม่พูดฉันจะโทรหาโม่ซิวหย่วนบอกเขาหยุดรับงานโฆษณาทุกชิ้นของบริษัทเธอเดี๋ยวนี้เลย!”
……………………………………….
ตอนที่ 2670 ภาวะมีบุตรยาก
คำพูดของเหมยเหมยเป็นดั่งมีดที่ทิ่มแทงใจของเหริ่นเชี่ยนเชี่ยน เมื่อเจ้าตัวได้ยินเช่นนั้นก็ถลึงตามองอย่างหัวเสีย แล้วโวยวาย “เรื่องงานก็ส่วนเรื่องงาน เรื่องส่วนตัวก็ส่วนเรื่องส่วนตัวสิ…เธออย่าเหมารวมนะ!”
“ฉันจะเหมารวม ให้เวลาสามนาที ถ้ายังไม่พูดจะโทรแล้วนะ!”
เหมยเหมยหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าขู่อีกฝ่ายอย่างเปิดเผย สิ่งที่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนรักที่สุดก็คือเงิน ถ้าใช้ไม้นี้อีกฝ่ายต้องยอมแน่นอน!
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนจ้องอยู่หนึ่งนาทีเต็มจนสุดท้ายก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปเอ่ยอย่างหงุดหงิดว่า “เหตุที่ไม่ได้ไปโรงพยาบาลเพราะตอนนั้นฉันดีใจมากกว่า ประจำเดือนไม่มาสิดีเรื่องยุ่งยากจะได้ลดลง กระทั่งผมด้านหลังร่วงจนเกือบหัวล้านแล้วฉันถึงรู้สึกว่าทะแม่ง ๆเลยหยุดกินยา… พอหยุดไปสักพักประจำเดือนก็มา ผมก็งอกขึ้นมาใหม่ ฉันคิดว่าไม่มีอะไรเลยไม่ได้ไปโรงพยาบาล!”
ตอนนั้นเรื่องที่ยุ่งยากน่ารำคาญที่สุดก็คือประจำเดือน โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อน พอไม่ระวังก็เลอะเปื้อนหมด โดยเฉพาะเธอที่ประจำเดือนมามาก เวลาเรียนก็ต้องคอยระมัดระวังเพราะกลัวว่าถ้าเลอะกางเกงจะอายคนอื่นเขา!
ตอนที่ประจำเดือนไม่มาเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนดีใจมาก ถ้าผมกับผิวไม่มีปัญหา ไม่แน่ว่าเธออาจจะไม่หยุดยาก็ได้!
เหมยเหมยกับฉีฉีเก๋อโกรธจนทำหน้าไม่ถูกแต่ก็สงสารเพื่อนอยู่บ้าง ตอนนั้นน่าจะเป็นช่วงที่คุณพ่อเหริ่นทำตัวเหลวไหลที่สุด เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนจึงเริ่มเกเรตั้งแต่ตอนนั้น
ทั้งสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า ทะเลาะวิวาท ไปเที่ยวเป็นต้น…หล่อนทำแทบทุกอย่าง หนำซ้ำยังไม่กลับบ้านกลับช่อง เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไม่เหลวแหลกไปมากกว่านี้คงต้องขอบคุณดวงวิญญาณบรรพบุรุษของตระกูลแล้ว!
เด็กวัยรุ่นที่กำลังอยู่ในช่วงเกเรทำเรื่องโง่ ๆแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดามาก ตอนนี้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนอยู่ในสภาพปกติ แต่ร่องรอยที่ทิ้งไว้กลับสร้างบาดแผลที่ไม่มีวันหายไปแทน!
“แล้วทำไมเธอไม่บอกพวกเรา?” เหมยเหมยคาใจกับความลับของเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนที่เก็บงำไว้เหลือเกิน
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยู่ปากแล้วเอ่ยด้วยท่าทีหงุดหงิด “พูดไปพวกเธอก็ด่าฉันโง่ แล้วอีกอย่างพวกเธอไม่ใช่หมอ บอกไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร!”
“ก็ช่วยออกความคิดเห็นได้นี่นา…ถ้าต่อไปเธอยังเป็นแบบนี้อีก อย่าโกรธแล้วกันถ้าฉันจะบล็อกเธอ!” เหมยเหมยตบโต๊ะอย่างโมโห ถึงเธอจะไม่ใช่หมอแต่เธอมียาวิเศษนี่!
วิธีของแพทย์แผนตะวันตกบอกว่าระบบต่อมไร้ท่อมีปัญหา แต่สำหรับแพทย์แผนจีนแล้วก็แค่ร่างกายเกิดปัญหาเท่านั้น ขอแค่บำรุงดูแลให้ดีก็จบแล้ว
ต้องบอกว่าในโลกนี้ยาใดบำรุงร่างกายได้ดีที่สุด?
นอกจากยาวิเศษของเธอแล้วเกรงว่าลำดับที่สองคงจะไม่มีแล้วล่ะ!
ฉีฉีเก๋อถามอย่างห่วงใย “เธอลองไปหาหมอจีนหรือยัง?”
แล้วใบหน้าเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก็ขมขื่นขึ้นมาทันทีแล้วพยักหน้าอย่างแรง “จะไม่ไปได้อย่างไร ในเมืองหลวงมีหมอจีนกี่คนฉันก็ไปหาทุกคนแหละ ทั้งกินยาขม ๆเป็นกอง แล้วโดนฝังเข็มมาจำนวนนับไม่ถ้วนด้วยแต่ก็ไร้ประโยชน์!”
“แล้วอิงจวี้กังรู้ปัญหาสุขภาพของเธอไหม?” เหมยเหมยถาม
“รู้สิ…ก็เขาเป็นคนไปส่งฉันตรวจ เขายังบอกด้วยว่าถึงจะรักษาหายก็ไม่เอาลูกแล้ว เราสองคนมีความสุขด้วยกันก็พอ ต่อไปถ้ารู้สึกเหงาค่อยไปรับเลี้ยงเด็กเอาก็ได้ไม่ต่างอะไรกับคลอดเองหรอก!”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยิ้มน้อย ๆ ร่องรอยความสุขฉายชัดบนใบหน้า อิงจวี้กังเห็นเธอทุกข์ทรมานเพราะเรื่องลูกถึงได้สงสารเลยไม่ยอมให้เธอไปรักษาอีก แถมยังบอกว่าโลกมันหนักเกินไปแล้ว พวกเขาต้องช่วยโลกลดจำนวนประชากรบ้าง งั้นไม่มีลูกแล้วกัน!
ส่วนคนที่ต้นคิดเรื่องบอกว่าพวกเขาเป็นชาวดิ๊งส์ก็คืออิงจวี้กัง เขายังโกหกพ่อแม่บอกว่าตนมีภาวะมีบุตรยากและมีลูกไม่ได้อีกต่างหาก
พ่อแม่อิงที่อยากอุ้มหลานก็โดนปะเหลาะจนทำใจยอมรับได้ถึงได้ทำดีกับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนสารพัด ถึงขนาดรู้สึกผิดด้วยซ้ำไปเพราะรู้สึกว่าลูกชายตนทำให้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนต้องลำบากไปด้วย
…………………………………