ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2683 เด็กที่ถูกทอดทิ้ง + ตอนที่ 2684 เกรงว่าจะฆ่าตัวตาย
ตอนที่ 2683 เด็กที่ถูกทอดทิ้ง
“เป็นอะไรไป?” เหมยเหมยเองก็ตกใจไม่แพ้กัน เดิมทีกำลังหลับตางีบเอาแรงก็เบิกตาโพลงมองออกไปนอกหน้าต่าง
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตะโกน “ฉีฉีเก๋อเธอจอดรถข้างทางหน่อย ตรงโค้งนั้น ใช่…ตรงนั้นแหละ!”
เธอโบกมือบอกจุดที่จะให้ฉีฉีเก๋อจอดรถแล้วรีบพรวดพราดลงจากรถวิ่งไปยังแปลงดอกไม้ข้างหน้าโดยไม่รู้ว่าไปทำอะไร
“เชี่ยนเชี่ยนปวดฉี่เหรอ?” ฉีฉีเก๋อมองด้วยความฉงน เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนในตอนนี้ทำท่าเหมือนคนปวดเบาเข้าห้องน้ำแถมยังวิ่งไปยังแปลงดอกไม้อีกด้วย…
เหมยเหมยมุมปากกระตุก จินตนาการช่างลึกล้ำนัก กลางวันแสก ๆแบบนี้ ต่อให้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนฉี่รดเบาะรถก็ไม่มีทางไปฉี่ตรงแปลงดอกไม้แน่นอน เธอคาดว่าตรงแปลงดอกไม้น่าจะมีอะไรสักอย่าง มีความเป็นไปได้ว่าจะมีเงินตกตรงนั้นเสียมากกว่าอีก!
อิงจวี้กังที่ขับนำทางอยู่ข้างหน้าก็จอดรถเดินลงมาเช่นกัน “เชี่ยนเชี่ยนเป็นอะไรเหรอ?”
เหมยเหมยส่ายหน้า อิงจวี้กังเดินไปตรงแปลงดอกไม้ เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนร้องขึ้นมาว่า “พวกเธอรีบมา…เร็วเข้า…”
เสียงดูร้อนรนมากคล้ายมีบางอย่างเกิดขึ้น อิงจวี้กังสะบัดแขนวิ่งพุ่งไปราวกับจรวดน้อย
เหมยเหมยกับฉีฉีเก๋อก็เร่งฝีเท้าตามไปเช่นกัน เพราะอยู่ห่างจากแปลงดอกไม้ไม่ไกลเท่าไรเลยมาถึงในไม่ช้า เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยืนอยู่บนขอบแปลงชี้นิ้วไปที่พื้นหญ้า ทุกคนมองไปตามต้นทางที่เธอชี้กลับพบเห็นตะกร้าไม้สานใบใหญ่ อีกทั้งยังมีผ้าห่มผืนเล็กสีชมพูยื่นออกมา ทุกคนใจเต้นตุบ ๆ พอจะคาดได้แล้วว่าในตะกร้าคืออะไร!
“ในนี้มีเด็กคนหนึ่ง…กำลังหลับสบายเลย…” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนทำตัวไม่ถูก เธอไม่กล้าอุ้มเด็กเพราะกลัวทำเด็กเจ็บ
ฉีฉีเก๋อย่อตัวลงพลางลูบหน้าผากของเด็กไปมา อุณหภูมิร่างกายปกติดีแถมเด็กยังดูสะอาดสะอ้านด้วย นอกจากตัวเล็กไปหน่อยก็ไม่เห็นสิ่งผิดปกติอะไร
“เด็กคนนี้น่าจะอายุหกเดือนแล้ว ดูสิว่าเป็นเด็กผู้ชายหรือผู้หญิง?” เหมยเหมยย่อตัวลงอีกคนพลางยื่นมือไปเปิดผ้าอ้อมเด็กดู
อิงจวี้กังกลับพูดขึ้นว่า “ต้องเป็นเด็กผู้หญิงแหง เด็กที่ถูกทิ้งส่วนมากเป็นเด็กผู้หญิงหมด”
เขาเอ่ยเช่นนี้แต่ก็ย่อตัวลงตามอีกคน ซึ่งความจริงก็เป็นไปอย่างที่เขาว่าไว้ไม่ผิด เด็กทารกเป็นเพศหญิงจริง ๆ เหมยเหมยปิดผ้าอ้อมไว้เหมือนเดิมแล้วกล่าวด้วยความโกรธเคือง “ไร้มนุษยธรรมที่สุด คลอดเด็กผู้หญิงก็ไม่ยอมเลี้ยงดู อนาคตลูกชายของคนพวกนี้จะไปแต่งงานหาเมียจากที่ไหน…สารเลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานอีก!”
“แล้วเด็กนี่จะทำยังไงต่อดี…โทรแจ้งตำรวจดีไหม?” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนชักไม่มั่นใจแล้ว
พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายที่ต่างนั่งรออยู่บนรถหมดความอดทนเลยเดินตามมาดูด้วย ครั้นเห็นเด็กน่ารักนอนอยู่ในตะกร้าก็ตกใจ พอรู้ว่าเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเป็นคนเห็นจากบนรถก็ยิ่งรู้สึกทึ่งกว่าเดิม
“รับเลี้ยงเด็กคนนี้ไปเลยดีไหม เรามีกันตั้งมากไม่เห็นเด็กคนนี้แต่เชี่ยนเชี่ยนกลับเห็น นี่มันวาสนาสองแม่ลูกชัด ๆ!” คุณแม่อิงเป็นคนเอ่ยขึ้น
คุณแม่เหริ่นปรบมือเห็นด้วยแต่เธอคิดได้รอบคอบกว่าหน่อย “หรือว่าเราพาเด็กไปตรวจที่โรงพยาบาลก่อน ถ้าป่วยเป็นโรคอะไรเราจะเลี้ยงไม่ได้นะ เอากลับมาเลี้ยงต้องเป็นปัญหาใหญ่แน่”
“ในนี้มีจดหมายอยู่ฉบับหนึ่ง…”
เหมยเหมยพบจดหมายหนึ่งฉบับในผ้าห่มของเด็กน้อยรวมถึงเสื้อผ้าซักสะอาดไม่กี่ตัว ตัวหนังสือบนจดหมายไม่ค่อยเป็นระเบียบนัก แถมยังมีตัวหนังสือที่เขียนผิดอยู่หลายตัวซึ่งบ่งบอกว่าคนที่เขียนจดหมายต้องเป็นคนที่ไม่ค่อยมีการศึกษาแน่ ๆ
‘คนใจบุญ ฉันมีชีวิตอยู่ต่อได้ไม่นานแล้ว ได้โปรดคนใจบุญช่วยรับเลี้ยงลูกสาวฉันด้วย เด็กอายุแปดเดือนแล้ว เธอไม่มีโรคประจำตัวใด ๆ ตัวเล็กเพราะกินไม่อิ่มท้อง…ขอร้องช่วยรับเลี้ยงลูกสาวของฉันไว้เถอะ ชาติหน้าฉันยอมเป็นวัวเป็นม้าเพื่อตอบแทนบุญคุณย่อมได้…’
เหมยเหมยอ่านจดหมายจบ ทุกคนต่างทำหน้าตึงเครียดอย่างมาก ดูท่าจะเกิดเรื่องกับแม่ของเด็กคนนี้แล้ว
“พาเด็กไปสถานีตำรวจก่อนแล้วกัน ตรวจสอบดูก่อนว่าพ่อแม่ของเธอคือใคร!” อิงจวี้กังหิ้วตะกร้าขึ้นมา พวกเขาก็พากันขึ้นรถยนต์ไป เมื่อรถยนต์ขับออกไปไกลหญิงสาวตัวผอมซูบคนหนึ่งก็เดินออกมาจากหลังต้นไม้ต้นใหญ่ที่อยู่ข้างแปลงดอกไม้พร้อมกับจุดยิ้มอย่างขมขื่นใจ
“นันนัน…แม่ขอโทษ…คนกลุ่มนี้มีปัญญาขับรถ ฉะนั้นฐานะที่บ้านต้องดีแน่ ๆ แม่จะอวยพรให้ลูกอยู่บนฟ้านะ…”
หญิงสาวคุกเข่ากราบอยู่หลายทีแล้วเดินตัวเซไปจากตรงนั้น
………………………..
ตอนที่ 2684 เกรงว่าจะฆ่าตัวตาย
เด็กน้อยหลับสนิทอยู่ในอ้อมแขนเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนโดยไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำว่าถูกทอดทิ้งแล้ว ปากเล็กอมชมพูเคี้ยวแจ่บ ๆ หลายทีคล้ายจะฝันดี เผยยิ้มอ่อนหวานออกมาเป็นพัก ๆ
“เด็กน่ารักจะตาย พ่อแม่ของเธอทำใจทิ้งได้ลงคอได้อย่างไรกันนะ?” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ต้องลำเอียงเห็นความสำคัญผู้ชายผู้หญิงไม่เท่ากันแน่ ๆ ให้ตายเถอะ สิบคนที่ทิ้งลูกสาวมักมีเก้าคนที่ลำเอียงไปหาเด็กผู้ชายเสียส่วนมาก!
“ฉันว่าแม่ของเด็กก็น่าจะลำบากใจบ้างแหละ เท่าที่อ่านจากข้อความในจดหมายเธอคงมีความจำเป็นถึงต้องทิ้งลูกสาว ไม่รู้ว่าแม่ของเด็กอยู่ที่ไหนถึงทิ้งลูกไว้ข้างถนนแบบนี้ โชคดีที่เชี่ยนเชี่ยนเป็นคนเห็น ถ้าเจอพวกแก๊งลักเด็กหรือหมาจรจัดอะไรทำนองนั้น เด็กต้องแย่แน่!”
ฉีฉีเก๋อขมวดคิ้วรู้สึกไม่พอใจมากเช่นกัน ต่อให้จะทิ้งลูกจริง ๆก็ควรหาที่ปลอดภัยกว่านี้หน่อยไหม?
ทำไมถึงทิ้งตรงริมถนนแบบนี้ล่ะ!
มีบางอย่างแวบเข้ามาในหัวเหมยเหมยแล้ววาบหายไปอย่างไว เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก่นด่า “ลำบากใจบ้าบออะไรกัน ต้องเป็นเพราะอยากได้ลูกชายถึงได้ทิ้งลูกสาวไป พ่อแม่สารเลวแบบนี้ฉันเจอมานักต่อนักแล้ว ในใจพวกเขาลูกสาวมีค่าไม่เท่าหมาตัวหนึ่งด้วยซ้ำ…”
“น่าจะไม่ใช่อย่างนั้น เธอดูสิถึงเสื้อผ้าของเด็กคนนี้จะเก่ามากแต่กลับถูกซักสะอาดหมดจด แล้วยังสวมเสื้อไว้แน่นหนาผ้าห่มก็ม้วนไว้อย่างดี บ่งบอกว่าแม่ของเด็กคนนี้เป็นคนละเอียดและรักลูกสาวแน่ ๆ อีกอย่างในจดหมายก็บอกแล้วไม่ใช่หรือว่าเธอมีชีวิตต่อไปได้อีกไม่นานแล้ว ตอนนี้ฉันกลับเริ่มกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับแม่คนนี้หรือเปล่า?”
ฉีฉีเก๋อขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิมทำหน้ากังวลใจ
“จอดรถ…ไม่สิ…เลี้ยวกลับไป…รีบเลี้ยวกลับไป!” ในที่สุดเหมยเหมยก็คิดออกสักทีว่าเมื่อกี้มีอะไรแวบเข้ามาในหัวจึงตะโกนเสียงดังจนฉีฉีเก๋อตกใจรีบเหยียบเบรก
“เป็นอะไรไป…มีเด็กอีกคนเหรอ?” ฉีฉีเก๋อหันกลับมาตะคอกใส่
“เปล่า…เธอรีบเลี้ยวรถ เราไปตามหาแม่ของเด็กคนนี้กัน!” เหมยเหมยรีบโบกมือให้ฉีฉีเก๋อ
“ไปหาจากไหน?”
“เธอเลี้ยวกลับไปก่อน ไว้ฉันจะค่อย ๆเล่าให้ฟังระหว่างทาง เร็วหน่อย…ไปช้าเกรงว่าจะเกิดเรื่องขึ้นจริง ๆ!” เหมยเหมยนึกอยากไปขับรถแทนเสียเอง
ทักษะการขับรถของฉีฉีเก๋อไม่เลว เมื่อเห็นว่าบนถนนไม่มีรถเท่าไรเลยตีวงกว้างเลี้ยวรถกลับทำเอาเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนรีบกระชับกอดเด็กไว้ด้วยความตกใจจนหน้าซีด พอได้สติก็ตวาดเสียงใส่ “ฉันอุ้มเด็กอยู่นะ…ทำไมเธอไม่บินไปเลยล่ะ…”
“ก็เหมยเหมยเร่งไง เธอกอดไว้แน่นหน่อย ฉันจะเร่งความเร็วแล้วนะ!”
ฉีฉีเก๋อเหยียบคันเร่งจนมิดขับกลับทิศทางเดิม อิงจวี้กังที่อยู่ด้านหน้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับรถคันด้านหลังเลยโทรมาถาม พอได้ยินว่าจะไปตามหาแม่ของเด็กจึงขับตามมาด้วยอีกคัน
ไม่นานก็มาถึงแปลงดอกไม้ เหมยเหมยลงจากรถไปหาอยู่นาน ก่อนจะเจอกองเลือดหลังต้นไม้ที่ทำเอาใจเต้นรัวในฉับพลัน
“เลือดนี่มันอะไรกัน? หรือว่า…” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนอุ้มเด็กเดินตามมา พอเห็นเลือดก็ตกใจเฮือกใหญ่
เหมยเหมยชักสังหรณ์ใจไม่ดี “ฉันเดาว่าแม่ของเด็กคนนี้ยังอยู่ ก่อนที่เราจะอุ้มเด็กไปเธอเฝ้าดูอยู่ตรงนี้ตลอด พอเราอุ้มเด็กไปเธอถึงจากไป ไม่สิ…เธอต้องไปฆ่าตัวตายแน่ ๆ…รีบไปตามหาละแวกนี้กันเถอะ!”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตามความคิดของเหมยเหมยไม่ทันเลยเอาแต่ไล่ถามไม่หยุด เหมยเหมยไม่มีกะจิตกะใจจะอธิบายต่อเลยให้ฉีฉีเก๋อไปตามหาแถวสวนสาธารณะ ส่วนมากเวลาผู้หญิงจะฆ่าตัวตายมักเลือกกระโดดลงน้ำ
“ฉันจำได้แล้ว ใกล้ ๆนี้มีสวนสาธารณะที่หนึ่งน่าจะมีทะเลสาบอยู่”
ฉีฉีเก๋อก็เป็นห่วงแม่ของเด็กมากเช่นกันเลยขับรถแทบบินขึ้นท้องฟ้าอยู่แล้ว ไม่นานก็มาถึงสวนสาธารณะ
…………………