ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 2695 ทำไมถึงไม่ออกกฎหมายคัดค้านความรุนแรงในครอบครัว + ตอนที่ 2696 กฎหมายมีที่ไหนที่คิดจะแก้ก็แก้ได้
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 2695 ทำไมถึงไม่ออกกฎหมายคัดค้านความรุนแรงในครอบครัว + ตอนที่ 2696 กฎหมายมีที่ไหนที่คิดจะแก้ก็แก้ได้
ตอนที่ 2695 ทำไมถึงไม่ออกกฎหมายคัดค้านความรุนแรงในครอบครัว
เหมยเหมยให้ทางโรงพยาบาลจัดห้องพักเดี่ยวให้เยวี่ยเซียง ส่วนนันนันฝากไว้ที่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนให้ช่วยเลี้ยงดูไปก่อน จะว่าไปแล้วเด็กคนนี้มีวาสนากับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนมาก ในบรรดาเธอสามคนนันนันชอบเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนมากที่สุด ขอแค่ได้ซุกตัวอยู่ในอ้อมอกของเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก็จะหัวเราะคิกคักไม่หยุด มีความสุขเป็นพิเศษ
ในที่สุดช่วงเวลาที่แสนวุ่นวายก็สิ้นสุดลง เธอกลับบ้านไปทานอาหารมื้อค่ำได้ตรงเวลาสักที
มื้อเย็นคุณย่าหยางเอ่ยถามเรื่องเยวี่ยเซียงขึ้นมา คุณย่าได้ฟังเรื่องของเยวี่ยเซียงแค่รอบเดียวแต่กลับจำได้ขึ้นใจ
“เฮ้อ…พยายามเต็มที่แล้วที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับพระเจ้าแล้วล่ะ หนูก็ไม่รู้ว่าเยวี่ยเซียงจะอดทนได้นานแค่ไหน!” เหมยเหมยลอบถอนหายใจไม่มีความอยากอาหารเลยสักนิด
ช่วงหลายวันมานี้สภาพจิตใจของเธอไม่ค่อยดีนัก เรื่องของเยวี่ยเซียงไม่ใช่เหตุผลหลักแต่เพราะเธอกับพี่หนิวคุยกันเยอะมาก จากนั้นก็ค้นพบว่าสังคมที่เธอนึกฝันว่างดงามมีอารยธรรม แท้จริงแล้วยังมีความรุนแรงซ่อนอยู่ในหลายครอบครัว
นอกจากนี้คำพูดของพี่หนิวยังทำให้สิ่งที่เธอเข้าใจเกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัวกลับตาลปัตรไปหมด
เมื่อก่อนเธอนึกว่าความรุนแรงในครอบครัวมีพื้นฐานมาจากการที่ผู้ชายไร้การศึกษา นิสัยต่ำทรามถึงได้ลงมือทุบตีผู้หญิง แต่ในความเป็นจริงแล้วผิด ความรุนแรงทางครอบครัวไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการศึกษาหรือคุณธรรมที่สูงหรือต่ำเลยสักนิดเดียว
พี่หนิวบอกว่าเธอเคยเจอผู้หญิงคนหนึ่งเป็นคุณครูสอนชั้นมัธยมปลาย หน้าตาสะสวยและเฉลียวฉลาด ส่วนผู้ชายเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ทั้งสามีและภรรยาต่างเป็นผู้มีการศึกษา ซึ่งตามหลักแล้วไม่ควรมีความรุนแรงเกิดขึ้นในบ้าน
แต่ในความเป็นจริงผู้ชายที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยไม่เคยหยุดใช้ความรุนแรงกับภรรยาของเขาในช่วงระยะเวลาแต่งงานตลอดสิบปีเลย
แต่อาจารย์มหาวิทยาลัยคนนี้ฉลาดยิ่งกว่าสามีของเยวี่ยเซียง รอยแผลที่สร้างขึ้นล้วนแต่เป็นแผลที่ปกปิดอยู่ใต้ร่มผ้าทั้งนั้น คนข้างนอกไม่มีทางเห็น อีกทั้งตัวภรรยาเองก็เลือกที่จะอดทนเพื่อลูกและศักดิ์ศรีของตัวเอง แม้กระทั่งให้ความร่วมมือกับสามีแสร้งทำเป็นคู่รักหวานแหววให้เกียรติซึ่งกันและกันต่อหน้าคนอื่นอีกต่างหาก
แม้กระทั่งจนถึงตอนนี้ลูกชายของสามีภรรยาคู่นี้ อีกทั้งเพื่อนบ้านที่อยู่ละแวกนั้นต่างยังคิดว่าเขาทั้งคู่เป็นคู่รักที่น่าอิจฉาเหมืองหงส์คู่ฟ้าด้วยซ้ำ!
ดังนั้น…ความรุนแรงในครอบครัวจึงไม่เกี่ยวกับการศึกษาและตำแหน่งทางสังคม…เลยสักนิดเดียว!
อีกทั้งผู้หญิงที่เจอความรุนแรงในครอบครัวเหล่านี้ส่วนมากจะยอมเก็บงำและอดทน!
ส่วนคนที่ลุกขึ้นสู้อย่างเยวี่ยเซียง นับว่าหาได้ยากเหลือเกิน!
คุณย่าหยางและป้าฟางต่างลอบถอนหายใจให้กับเรื่องราวที่เยวี่ยเซียงต้องประสบพบเจอ เมื่อเห็นว่าเหมยเหมยรู้สึกแย่ คุณย่าหยางจึงปลอบเธอว่า “เธอพยายามดีที่สุดแล้ว แม้ว่าเยวี่ยเซียงจะน่าสงสาร แต่ก็อย่าทำให้เขามาส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเราเลย สุขภาพจิตดีเป็นปัจจัยสำคัญของสุขภาพที่ดีเลยนะ”
“อืม…หนูทราบค่ะ แค่ช่วงหลายวันมานี้สัมผัสเรื่องราวในแง่นี้มากเกินไปเลยรู้สึกแย่ก็เท่านั้น เดี๋ยวผ่านไปสักพักก็ดีขึ้นค่ะ” เหมยเหมยยิ้ม
เหยียนหมิงซุ่นแกะกุ้งหลายตัวให้เธอพร้อมเอ่ย “แม้ว่าสามีของเยวี่ยเซียงจะไม่ตายแต่อาการก็หนักพอสมควร ไม่น่าจะใช้แรงทำงานหนักเหมือนเมื่อก่อนได้แล้วล่ะ”
“สมน้ำหน้า…ตายไปได้ยิ่งดี!” เหมยเหมยก่นด่าด้วยความเกลียดชัง
เรี่ยวแรงของเยวี่ยเซียงมีน้อยไป ถ้าเปลี่ยนเป็นเธอละก็จะต้องฟันให้คนสารเลวนี่ตายคามือเลย เพราะต่อให้ตายไปก็เป็นแค่การป้องกันตัวที่เกินเหตุผลไปหน่อยเท่านั้น!
ครั้นเห็นว่าคนในครอบครัวต่างดูเป็นห่วงเธอ เธอจึงรีบอธิบายถึงสาเหตุว่า “ฉันก็แค่โมโหกฎหมายของประเทศเราที่ไม่ตั้งข้อกฎหมายคดีใช้ความรุนแรงในครอบครัวเลยทำให้พวกผู้ชายคิดจะทำอะไรก็ทำไม่เกรงกลัวสักนิด…โกรธเป็นบ้า!”
ขณะที่พูดเหมยเหมยก็ถลึงตาใส่เหยียนหมิงซุ่น ผู้ชายก็โรคจิตเหมือนกันทั้งนั้น!
เหยียนหมิงซุ่นลูบจมูกปอย ๆ หายนะที่ไม่คาดคิดมาเยือนอีกแล้ว ทั้งหมดล้วนแต่เป็นฝีมือของสามีเยวี่ยเซียงก่อขึ้นมาทั้งนั้น เดี๋ยวจะส่งคนไปแอบสั่งสอนสักหน่อย อย่างไรเสียก็แค่คนเลวคนหนึ่งตายไปก็ช่างปะไร แถมช่วยลดภาระให้โลกได้ด้วย!
“พี่ไม่ได้เป็นคนออกกฎหมายสักหน่อย!” เหยียนหมิงซุ่นแก้ต่างให้ตัวเอง จริง ๆแล้วเขาก็ไม่ชอบพวกผู้เชี่ยวชาญอะไรพวกนั้นหรอก แต่ละคนดีแต่ทำหน้าขึงขัง ทั้งยังออกกฎหมายที่มีช่องโหว่เต็มไปหมด!
……………………………………….
ตอนที่ 2696 กฎหมายมีที่ไหนที่คิดจะแก้ก็แก้ได้
เหมยเหมยเองก็รู้สึกว่าตัวเองเริ่มโวยวายอย่างไร้เหตุผลจึงค่อย ๆผ่อนปรับอารมณ์แล้วยิ้มอ้อนเหยียนหมิงซุ่น “ฉันรู้ว่าพี่ไม่ใช่คนออกกฎหมาย ฉันก็แค่รู้สึกรำคาญใจ พอเห็นผู้หญิงหลายคนเผชิญเรื่องความรุนแรงในครอบครัวแต่กฎหมายกลับลงโทษไม่ได้ ฉันก็เลยโมโห…”
เธอรู้สึกอยากเป็นเหมือนในเรื่องจอมโจรดอกเหมยพิทักษ์ธรรม ที่ไหนมีความรุนแรงในครอบครัวเธอก็จะปรากฏตัวที่นั่นเพื่อผดุงความยุติธรรมแทนพระเจ้า กำจัดพวกปีศาจมารร้ายไปให้หมด!
แต่ปัญหาก็คือเธอไม่ใช่ชายในเรื่องจอมโจรดอกเหมยพิทักษ์ธรรมและไม่มีความสามารถนั้นด้วย!
คุณย่าหยางเองก็นึกโมโหเช่นกันเลยก่นด่าว่า “ต้องสั่งสอนพวกสัตว์นรกนั่นบ้าง เกลียดที่สุดพวกผู้ชายที่ทุบตีทำร้ายผู้หญิง คนเลวพวกนี้ต้องจับเข้าคุกเอาไปสั่งสอนสักหน่อย ถ้าปรับปรุงตัวไม่ได้ก็ไม่ต้องปล่อยออกมาทำร้ายคนอื่น!”
“ใช่ค่ะ…ต้องจับเข้าคุกให้หมด พี่…รู้จักพวกคนในหน่วยงานชั้นศาลไม่ใช่เหรอ ไม่งั้นพี่ลองไปคุยกับพวกเขาดูว่าถ้าออกกฎหมายคุ้มครองความรุนแรงในครอบครัวขึ้นมาดีไหม?” เหมยเหมยดวงตาเป็นประกายผุดความคิดขึ้นมา
คุณย่าหยางเองก็เอ่ยเห็นพ้องด้วย “นั่นสิ หมิงซุ่น หลานช่วยพูดหน่อย จัดการไอ้พวกสัตว์เดรัจฉานพวกนั้นไปเลย!”
เหยียนหมิงซุ่นทำหน้าไม่ถูก “ทำไมคุณย่าถึงไปคล้อยตามเหมยเหมยได้ล่ะครับ? มีกฎหมายที่ไหนคิดจะแก้ก็แก้ได้เลย? กระบวนการภายในยุ่งยากวุ่นวาย แล้วยังต้องให้นายใหญ่เซ็นเห็นชอบอีก ง่ายที่ไหนกัน!”
เหมยเหมยรู้สึกท้อแท้ ทำหน้าบูดบึ้งอย่างเศร้าใจ
คุณย่าหยางเบะปาก “ประเทศเราทำอะไรก็ยุ่งยากกฎเกณฑ์เยอะไปหมด จัดการเรื่องแค่วันเดียวแต่ต้องยื่นเรื่องขออนุมัติเป็นเดือน ไม่มีประสิทธิภาพเลยสักนิด!”
เหมยเหมยพยักหน้าเห็นด้วยอย่างมาก ใช่เลย…แม้แต่เรื่องเล็กน้อยยังต้องวิ่งประทับตราให้วุ่น จุดที่ต้องประทับตราก็คนละที่ ซึ่งกว่าจะประทับตราครบขาคงวิ่งจนล้าหมดแล้ว
“เอ๊ะ…ฉันนึกออกแล้ว เราทำตามต่างประเทศก็ได้นี่นา ไม่ต้องหวังพึ่งตำรวจแต่จัดตั้งมูลนิธิการกุศลขึ้นเองเลย ตั้งมูลนิธิต่อต้านเรื่องความรุนแรงในครอบครัว โดยให้ผู้หญิงที่เจอความรุนแรงในครอบครัวโทรหาพวกเราเพื่อขอความช่วยเหลือ แค่นี้ก็น่าจะช่วยเหลือพวกเขาได้บ้างแล้ว!” คุณย่าหยางตบขาตัวเองอย่างแรง รู้สึกตื่นเต้นเมื่อผุดความคิดดี ๆออก
คุณย่ามักชอบอ่านข่าวและหนังสือพิมพ์ต่างประเทศเป็นประจำ ช่วงสองสามเดือนก่อนเหมยเหมยยังออกเงินให้เธอและพวกเพื่อน ๆไปเที่ยวอเมริกามาอยู่เลย ถือว่าได้เปิดโลกทัศน์ไปไม่น้อย เพียงครู่เดียวก็คิดวิธีแก้ปัญหาได้
ดวงตาของเหมยเหมยลุกวาว วิธีของคุณย่าหยางถือว่าไม่เลวเลย ในต่างประเทศมีมูลนิธิการกุศลแบบนี้อยู่ไม่น้อย แต่ในประเทศเรากลับไม่มีเลยสักที่เดียว แต่เธอเป็นคนริเริ่มเป็นคนแรกได้นี่นา! ไม่ใช่เพราะชื่อเสียงแต่เพื่อช่วยเหลือผู้หญิงที่น่าสงสารอย่างเยวี่ยเซียงเหล่านั้นด้วยใจจริง!
อย่างไรก็ตามเธอมีเวลาและมีเงินด้วย ฉะนั้นเหมาะที่จะเป็นคนริเริ่มทำเรื่องพวกนี้จริง ๆ!
“คุณย่าฉลาดกว่าขงเบ้งอีก ความคิดเยี่ยมไปเลยค่ะ เดี๋ยวหนูจะไปปรึกษาพวกเชี่ยนเชี่ยนดู” เหมยเหมยยกนิ้วให้คุณย่าพร้อมชื่นชมด้วยใจจริง
คุณย่าหยางได้ใจสุด ๆ อย่างไรเสียขิงแก่ก็ร้อนแรงกว่า!
เธอผ่านอะไรในชีวิตมามากกว่าหลานหรือลูกสะใภ้ตั้งมาก จะคิดอะไรดี ๆไม่ออกได้อย่างไรกัน?
เหยียนหมิงซุ่นกระแอมเสียง จริง ๆแล้วเขาไม่อยากจะให้ภรรยาของเขาไปจัดตั้งมูลนิธิเพื่อต่อต้านเรื่องความรุนแรงในครอบครัวอะไรพวกนี้สักเท่าไหร่ แน่นอนว่าจุดเริ่มต้นของเหมยเหมยเป็นสิ่งที่ดี แต่ว่าเรื่องพวกนี้เสียแรงเหนื่อยเปล่า หากคิดจะทำให้ดีก็ไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น!
หรือกระทั่งอาจจะต้องเจอเรื่องทุกข์ทรมานใจไม่น้อยซึ่งเขาจะไม่ยอมให้เหมยเหมยไปเจอเรื่องพวกนี้แน่ ดังนั้น—
“เธอมีประสบการณ์ทางด้านนี้ยังไม่พอ ออกเงินออกได้แต่จะเป็นผู้รับผิดชอบไม่ได้ เธอต้องหาคนที่มีประสบการณ์มาเป็นผู้รับผิดชอบ เธอออกเงินส่วนเขาก็ออกแรง” เหยียนหมิงซุ่นคิดหาวิธีประนีประนอมขึ้นมาได้
เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาเพราะเยอะกว่านี้เขาก็ให้ได้ แต่เรื่องที่ต้องวิตกกังวลยกให้คนอื่นไปทำแทนจะดีกว่า!
“ฉันคิดออกนานแล้วว่าจะให้ใครเป็นผู้รับผิดชอบ ต้องเป็นพี่หนิวเท่านั้น พี่หนิวทำได้แน่นอน!”
เหมยเหมยคิดถึงพี่หนิวตั้งแต่แรกแล้ว ไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าเธอแล้ว!
………………………